ภาวะเชื้อราในกระแสเลือด อันตรายแค่ไหน ? รู้แนวทางป้องกัน เพื่อลดความเสี่ยง

Reading Time: 2 minutes

เชื้อราในกระแสเลือด

เชื้อราในกระแสเลือด

เชื้อราในโลกมีมากกว่า 2 ล้านสปีชีส์ แต่ส่วนมากเป็นเชื้อราในสิ่งแวดล้อม เชื้อราส่วนน้อยเท่านั้นที่ก่อโรคในมนุษย์

สารบัญ เชื้อราในกระแสเลือด


เชื้อราในกระแสเลือดอันตรายแค่ไหน ?

ปัจจุบันพบเชื้อราติดเชื้อชนิดรุกรานมากขึ้น ซึ่งสามารถเข้าสู่กระแสเลือด และทำลายอวัยวะต่าง ๆ ได้ เนื่องจากมีวิธีการรักษาผู้ป่วยทางการแพทย์แบบใหม่ ๆ เช่น

  • การรักษาผู้ป่วยมะเร็งด้วยยาแบบใหม่
  • การปลูกถ่ายอวัยวะที่ต้องรับประทานยากดภูมิต่อเนื่อง
  • การใช้ยากกดภูมิเช่น สเตียรอยด์ในการรักษาโรคที่เกี่ยวกับภูมิผิดปกติต่างๆ
  • การใช้ยาต้านจุลชีพหลายขนานติดต่อกันเป็นเวลานานในผู้ป่วยวิกฤติ

สิ่งเหล่านี้ส่งผลให้ผู้ป่วยมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อราเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามการติดเชื้อแบคทีเรียและไวรัสยังพบได้บ่อยกว่าการติดเชื้อรา

โดยเชื้อราชนิดรุกรานที่เป็นสาเหตุของภาวะพิษเหตุติดเชื้อ(Sepsis) การติดเชื้อในกระแสเลือด และพบอุบัติการณ์สูงขึ้น ได้แก่ เชื้อรา Candida

การวินิจฉัยเชื้อราทางห้องปฏิบัติการทำได้ยาก แปลผลยาก และใช้เวลานานในการตรวจ การรักษาด้วยยาต้านเชื้อรายังมีข้อจำกัดในการเข้าถึงยาที่มักมีราคาสูงและผลข้างเคียงมาก ทำให้การดูแลรักษาผู้ป่วยที่ติดเชื้อรามีความยากและเกิดภาวะแทรกซ้อนได้สูง

การจำแนกเชื้อราที่ก่อโรคในมนุษย์

สามารถแบ่งได้หลายประเภท โดยสามารถแบ่งเป็นกลุ่มใหญ่คือ

  1. ยีสต์ ได้แก่ Candida
  2. ราสองรูป (Dimorphic Fungi)
  3. ราสาย (Filamentous Molds) ในกลุ่มนี้สามารถแบ่งเป็นกลุ่มย่อยจากการดูลักษณะสายรา (Hyphae) ได้ดังนี้
  • ราสายที่ไม่มีเม็ดสีและผนังกั้น (Non-Septate Hyaline Molds) เช่น Mucormycosis
  • ราสายที่ไม่มีเม็ดสีแต่มีผนังกั้น (Septate Hyaline Molds) เช่น Aspergillus spp., Fusarium spp. เป็นต้น
  • ราดำ (Dematiaceous Molds) เป็นราสายที่มีเม็ดสีบริเวณผนังของสายราและมีผนังกั้นด้วย เช่น Madurella Spp., Fonsecaea Spp. เป็นต้น ซึ่งโดยมากพบเป็นสาเหตุของการติดเชื้อที่เนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง มีส่วนน้อยที่เป็นเชื้อราแบบรุกรานได้

ในผู้ป่วยที่มีภาวะการติดเชื้อในกระแสเลือดและเกิดภาวะช็อกในสหรัฐอเมริกา พบว่า 5% ของคนไข้กลุ่มนี้ เกิดจากเชื้อรา Candida และการติดเชื้อราแบบรุกราน 70-90% เกิดจากเชื้อราชนิด Candida, 10-20% เกิดจากเชื้อรา Aspergillus

ในบทความนี้จะขอกล่าวถึงเชื้อรา Candida ซึ่งเป็นเชื้อราที่พบเป็นสาเหตุของการติดเชื้อในกระแสเลือดได้บ่อยและรุนแรงเมื่อเทียบกับเชื้อราประเภทอื่น


ทำความรู้จัก เชื้อรา Candida ให้มากขึ้น

เชื้อรา Candida

เชื้อรา Candida มีหลายสปีชีส์ ที่พบก่อโรคได้บ่อย ได้แก่

  • Candida Albican
  • Candida Glabrata
  • Candida Parapsilosis
  • Candida Tropicalis

ส่วนใดของร่างกายที่เป็นแหล่งรับเชื้อ Candida ?

การติดเชื้อ Candida สามารถพบได้ทุกส่วนของร่างกาย แต่ที่พบได้บ่อยคือ บริเวณเยื่อบุ เช่น เยื่อบุในช่องปาก เยื่อบุบริเวณอวัยวะเพศ และสามารถติดเชื้อเข้าสู่กระแสเลือดได้ด้วย เมื่อเชื้อCandida เข้าสู่กระแสเลือด จะสามารถแพร่กระจายไปยังส่วนต่างๆของร่างกายได้ เช่น ตา ไต ตับ และสมอง

ผู้ป่วยกลุ่มใดที่มีความเสี่ยงสูงต่อการติดเชื้อ Candida ?

โดยปกติแล้ว ผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงจะไม่พบภาวะการติดเชื้อ Candida ในกระแสเลือด แต่สามารถพบการติดเชื้อ Candida ในช่องปากได้ หากได้รับยาพ่นกลุ่มสเตียรอยด์ทางปากและไม่ได้ทำความสะอาดช่องปากหลังพ่นยา

ผู้ที่มีความเสี่ยงสูงในการติดเชื้อ Candida เข้าสู่กระแสเลือด

  • ผู้ป่วยวิกฤติที่ได้รับการรักษาในไอซียูเป็นเวลาหลายวัน
  • ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง เช่น มีการเจ็บป่วยหนักวิกฤติ ผู้ที่ได้รับเคมีบำบัด ผู้ที่ได้รับยากดภูมิ เช่นผู้ป่วยที่ได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะ ผู้ป่วยที่เป็นโรคภูมิต่อต้านตัวเอง
  • ผู้ป่วยเบาหวาน
  • ผู้ที่ได้รับยาสเตียรอยด์
  • ผู้ที่ได้รับการใส่สายทางเส้นเลือดดำใหญ่
  • ผู้ที่ได้รับการผ่าตัดช่องท้อง
  • ผู้ป่วยที่โดนไฟไหม้ น้ำร้อนลวกรุนแรง
  • ผู้ป่วยโรคไตที่ได้รับการล้างไต
  • ผู้ที่ได้รับยาต้านจุลชีพรักษาการติดเชื้อแบคทีเรียเป็นระยะเวลานาน
  • ทารกที่มีน้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์มาก
  • ผู้ที่ติดยาเสพติดโดยการฉีดเข้าเลือด

อาการและอาการแสดงของผู้ที่มีการติดเชื้อ Candida ในกระแสเลือด

อาการติดเชื้อราในกระแสเลือด

อาการแสดงขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ติดเชื้อเริ่มต้น ร่วมกับมีอาการร่วม ดังต่อไปนี้

  • มีไข้ หนาวสั่น
  • ผื่น
  • อ่อนเพลีย ไม่มีแรง
  • ความดันต่ำ
  • การมองเห็นที่ผิดปกติ ซึ่งเป็นสัญญาณของการติดเชื้อที่ลามมาที่ตา
  • ปวดหัว มีอาการทางระบบประสาท
  • ปวดท้อง

การวินิจฉัยภาวะติดเชื้อ Candida ในกระแสเลือด

ภาวะติดเชื้อ Candida

การวินิจฉัยเพื่อภาวะติดเชื้อ Candida ในกระแสเลือด ทำได้โดย

  1. การนำเลือดไปเพาะเชื้อรา
  2. การตรวจหา Antigen (ชิ้นส่วนของเชื้อ) ในเลือด

การรักษาภาวะติดเชื้อ Candida ในกระแสเลือด

เนื่องจากภาวะติดเชื้อ Candida ในกระแสเลือดเป็นภาวะที่อันตรายถึงแก่ชีวิตได้ การรักษาโดยการเริ่มยาต้านเชื้อราจึงควรเริ่มทันทีเมื่ออาการผู้ป่วยเข้าได้และมีความเสี่ยงที่ทำให้สงสัยภาวะการติดเชื้อราชนิดนี้

จากนั้นจะต้องหาสาเหตุและตำแหน่งของการติดเชื้อ และกำจัดแหล่งติดเชื้อนั้น เช่น เอาสายสวนที่ใส่ทางหลอดเลือดดำใหญ่ออกหากสงสัยว่าเป็นตำแหน่งของการติดเชื้อ และรีบเริ่มให้การรักษาด้วยยาต้านเชื้อรา


สรุปแนวทางการป้องกันการติดเชื้อ Candida ในกระแสเลือด

แนวทางป้องกันที่ทุกคนทำได้คือ การล้างมือบ่อย ๆ เพราะไม่เพียงแต่ป้องกันการติดเชื้อและแพร่กระจายของเชื้อรา แต่ยังเพื่อป้องกันการติดเชื้อประเภทอื่นด้วย

ข้อมูลโดย : พญ.วีราภรณ์ พุฒิวงศ์รักษ์

พญ.วีราภรณ์ พุฒิวงศ์รักษ์

อ้างอิง

  • American Thoracic Society
  • National Organization for Rare Disorders
  • Centers for Disease Control (CDC)

สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ
ปรึกษาหมอ
บทความแนะนำ

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ปัญหาที่เจอได้ ทำไมบางคนถึงเป็นก้อน หลังฉีดเต็มแค่ไหน 2025

Reading Time: 8 minutes- ร้อยไหมหน้าเรียว ในกรุงเทพฯ ที่ไหนดี ? - ร้อยไหมหน้าเรียว ที่ไหนดี ? ก่อนร้อยไหมควรพิจารณาอะไรบ้าง ? - คลินิกร้อยไหมหน้าเรียวที่ได้มาตรฐาน สังเกตได้จากอะไร ? - วิธีการเลือกการร้อยไหมกับคลินิกร้อยไหม - ร้อยไหมหน้าเรียวกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ดีอย่างไร ?

โรคไขสันหลังอักเสบ ภัยเงียบที่ต้องระวัง รู้สาเหตุและแนวทา...

Reading Time: 2 minutes- โรคประสาทไขสันหลังอักเสบ คืออะไร ? - อาการแสดง โรคประสาทไขสันหลังอักเสบ - สาเหตุของโรคไขสันหลังอักเสบ - การตรวจวินิจฉัย โรคไขสันหลังอักเสบ - การรักษาโรคไขสันหลังอักเสบ

โรคติดเชื้อโนโรไวรัส (Norovirus Infection) ตัวการอาการท้อ...

Reading Time: 2 minutes- รู้จักเชื้อโนโรไวรัส Norovirus - สาเหตุที่ทำให้เชื้อโนโรไวรัส (Norovirus Infection) ระบาด - เช็กอาการต้องสงสัยติดเชื้อ Norovirus - การตรวจวินิจฉัยโรค - แนวทางการรักษา-ป้องกัน โรคติดเชื้อโนโรไวรัส

ทำ IF ลดไขมันส่วนเกินในร่างกายได้อย่างไร ยั่งยืนไหม เหมาะ...

Reading Time: 2 minutes- ทำ IF อย่างไร ลดปริมาณไขมันส่วนเกินได้แถมสุขภาพดี - รู้หลักการกำจัดแคลอรี ในการทำ IF - 6 ประโยชน์การกำจัดแคลอรี แบบ IF - การทำ IF แบบได้ผลดี ต้องทำอย่างถูกต้องเหมาะสม

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ สามารถศึกษานโยบายความเป็นส่วนตัวและจัดการความเป็นส่วนตัว ได้ที่ปุ่มตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ

บันทึกการตั้งค่า