CoolSculpting สลายไขมันด้วยความเย็น
CoolSculpting คืออะไร ได้ผลหรือไม่ บทความนี้มีคำตอบ
ไขมันส่วนเกินมักจะเป็นปัญหาที่อยู่ในใจของคนส่วนใหญ่เสมอ ไม่ว่าหญิงหรือชาย แม้ว่าจะพยายามควบคุมอาหารและออกกำลังกายอย่างเต็มที่แล้วก็ตาม ก็มักจะมีไขมันส่วนเกินบางจุดที่ลดไม่ลง
ในบทความนี้หมอจะอธิบาย ข้อดี-ข้อเสีย ของการสลายไขมันส่วนเกินเฉพาะจุดด้วยวิธีต่างๆ ทั้งการดูดไขมัน, Thermage, Hifu, CoolSculpting คือ อะไร? วิธีสลายไขมันด้วยความเย็นที่ดีอย่างไร และเหมาะกับใครบ้าง?
สลายไขมันด้วยความเย็น กับเครื่อง Coolsculpting
CoolSculpting คืออะไร ?
Coolsculpting คือ การสลายไขมันด้วยความเย็น โดยจะแช่แข็งเฉพาะเซลล์ในชั้นไขมันเท่านั้น เนื่องจากเซลล์ไขมันจะพิเศษคือไวต่ออุณหภูมิมากกว่าเซล์ชนิดอื่นๆ (ตัวอย่างเช่นเรานำอาหารที่มีไขมันไปแช่ตู้เย็นธรรมดาส่วนที่เป็นไขมันจะแข็งตัวและแยกชั้นไวมาก) เครื่อง Coolsculpting ใช้หัวดูดผิวเพื่อดึงชั้นไขมันเข้ามาไว้ในหัวของเครื่อง คล้ายๆ เราหยิกไขมันที่พุงขึ้นมา ซึ่งในหัวดูดจะปล่อยความเย็น -11°C แช่แข็งก้อนไขมันที่ถูกดูดขึ้นมานาน 35 นาทีในแต่ละจุด
สลายไขมันด้วยความเย็น สลายไขมัน 25 % ในครั้งแรก
หลังจากที่เซลล์ไขมันถูกแช่แข็งครบเวลา ก็จะใช้การนวดเพื่อให้เซลล์ไขมันตายและลดจำนวนลงแบบถาวร และจะถูกร่างกายกำจัดออกไปเองตามธรรมชาติ
ข้อดีของการทำ CoolSculpting
ข้อดีของ Coolsculpting คือ เป็นโดยเทคโนโลยีสลายไขมันด้วยความเย็น ที่จะไม่ทำอันตรายต่อผิวหนังชั้นนอก ไม่เคยเกิดกรณีเคสผิวไหม้จากความเย็นเลยเนื่องจาก CoolSculpting มีระบบ Freeze detect คือเครื่องจะหยุดทำงานทันทีที่ตรวจเจอความเย็นในผิวชั้นบนที่มากเกินไป ซึ่งในเครื่องเลียนแบบเกรดต่ำยี่ห้ออื่นๆ มักจะเจอผลข้างเคียงเรื่องผิวไหม้จากความเย็นได้ง่ายครับ
ภาพแสดงการแช่แข็งเซลล์ไขมันซึ่งไวต่อความเย็นมากกว่าเซลล์ชนิดอื่นๆในผิวหนัง
การสลายไขมันด้วยความเย็น ในช่วง 3-4 สัปดาห์จะเริ่มเห็นผลว่าสัดส่วนเล็กลง เห็นผลเต็มที่ใช้เวลา 3 เดือน ซึ่งในช่วง 1-2 อาทิตย์แรกหลังทำ จะบวมในจุดที่เซลล์ไขมันมันตายและค้างอยู่ เพราะร่างกายต้องใช้เวลา เพื่อค่อยๆลำเลียงเซลล์ไขมันที่ตายแล้วออกไปตามระบบเลือดและระบบน้ำเหลือง ระยะเวลาในการพักฟื้นเนื่องจากอาการปวดระบมคือ 7-10 วัน
CoolSculpting เจ็บไหม?
จากประสบการณ์ที่หมอเคยลองทำ CoolSculpting ด้วยตัวเอง ตอนที่เจ็บที่สุดคือตอนที่นวดหลังจากแช่แข็งไขมัน (ซึ่งจำเป็นต้องนวดเพื่อให้เซลล์ไขมันที่ถูกแช่แข็งตาย หากไม่นวดจะได้ผลน้อยลง 60% ครับ) หลังนวดอาจมีอาการเขียวช้ำได้ในบางเคส
อาการปวดระบมในช่วง 7-10 วันหลังทำจะคล้ายๆอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อหลังจากออกกำลังกายหนักๆในจุดที่ทำ CoolSculpting ในช่วง 1-2 อาทิตย์แรกจะมีอาการบวมในจุดที่ทำ และจะมีอาการชาและคันเล็กน้อยในช่วง 1 เดือนแรก
จะเริ่มเห็นผลว่าชั้นไขมันยุบลงเมื่อเวลาผ่านไป 1 เดือน เห็นผลเต็มที่ใช้เวลา 3 เดือน สามารถทำเพิ่มได้ในจุดเดียวกันเมื่อผ่านไป 1 เดือน
Coolsculpting มีหัวที่ใช้กำจัดไขมันหลายรูปทรงและหลายขนาด สามารถออกแบบรูปทรงในการลดของไขมันได้คล้ายๆการปั้น (Sculpting) โดยผู้เชี่ยวชาญจะเป็นคนแนะนำและให้คำปรึกษาในการออกแบบสัดส่วนตามที่คนไข้ต้องการ
ภาพเปรียบเทียบขนาดจริงของหัว CoolSculpting แบบต่างๆ
ภาพเปรียบเทียบหัว Coolsculpting รุ่นเก่า(ด้านล่าง) กับหัว Coolsculpting รุ่นใหม่ที่ประสิทธิภาพดีกว่า และเจ็บน้อยกว่าเดิมมาก(ด้านบน)
CoolSculpting ไม่ได้ผล เกิดจากอะไร?
หากทำ coolsculpting แล้วไม่ได้ผล มี 2 กรณีครับ คือ ไม่เหมาะกับการทำ coolsculpting เพราะมีปริมาณไขมันมากเกินไป พอทำมาแล้วเห็นผลไม่ชัดเจน ไขมันไม่หายไปตามที่คาดหวัง (ซึ่งคลินิกที่ดีแพทย์จะต้องประเมินและแนะนำว่าคนไข้เหมาะกับ coolsculpting หรือไม่อย่างตรงไปตรงมา)
อีกกรณีคือใช้ coolsculpting ของปลอม ของเลียนแบบ ที่ไม่มาตรฐาน นอกจากจะไม่ได้ผลลัพธ์ตามที่คาดหวัง ยังอาจเกิดอันตรายกับผิวได้ด้วยครับ เช่น ผิวไหม้
ใครที่เหมาะกับการทำ CoolSculpting?
Coolsculpting เหมาะสำหรับคนที่ต้องการสลายไขมันในปริมาณปานกลาง (BMI<35) เพื่อแก้ไขสัดส่วน โดยที่ไม่อยากผ่าตัดดูดไขมัน ไม่อยากได้รับผลข้างเคียงในระยะยาวจากการดูดไขมัน และไม่อยากพักฟื้นนาน ไม่อยากมีแผล การสลายไขมันด้วยความเย็น ข้อเสียคือไม่เหมาะกับคนที่มีไขมันเยอะมากๆ (bmi>35) และสัดส่วนไม่ได้ลดลงทันทีหลังทำ ต้องรอเวลาให้ร่างกายกำจัดเซลล์ไขมันออกไปก่อนครับ 35)>
รีวิว CoolSculpting ต้นแขน หลังทำ 1 เดือน เห็นผลทันที 25% ในครั้งแรกที่ทำ
รีวิว CoolSculpting ลดห่วงยาง
ตัวอย่างผลการรักษาด้วยเครื่อง CoolSculpting
เตัวอย่างผลการรักษาด้วยเครื่อง CoolSculpting
ตัวอย่างผลการรักษาด้วยเครื่อง CoolSculpting
เลือกทำ coolsculpting ที่ไหนดี?
จะเลือกทำcoolsculpting ที่ไหนดี ถึงน่าเชื่อถือและปลอดภัย? โดยทั่วไปแล้วสามารถเช็คได้เบื้องต้นจาก
- ความน่าเชื่อถือและมาตรฐานของคลินิก ต้องมีใบรับรองที่ถูกต้อง สถานที่สะอาด มีพื้นที่ไม่คับแคบ ใช้เครื่อง coolsculpting ของแท้
- ดูแลโดยแพทย์และ Specialist สำหรับทำ Coolsculpting โดยเฉพาะ
- มีReview จากผู้ใช้บริการจริง จากแหล่งที่เชื่อถือได้
- Coolsculpting Price สมเหตุสมผล หากถูกเกินไปอาจเป็นเครื่องปลอม หรือเลียนแบบได้ครับ
COOLSCULPTING ราคาเท่าไหร่?
Promotion CoolSculpting
- 1 หนีบ ขนาดประมาณ 1 ฝ่ามือ price 8,000.- (จากปกติ 9,900)
- 2 หนีบ 16,000.- (แถมฟรี 1 รายการ)
- 4 หนีบ 32,000.- (แถมฟรี 3 รายการ)
- 6 หนีบ 48,000.- (แถมฟรี 5 รายการ)
- 10 หนีบ 80,000.- (แถมฟรี 10 รายการ)
- วิตามินเสริมภูมิคุ้มกัน 1 ครั้ง
- มาเด้คอลลาเจน 1 ครั้ง
- เมโสแฟต Noble 6 CC
- โบท็อกซ์ 15 Unit (Botulax)
- Hifu Ultraformer lll 50 Line
📍ของแถมมูลค่า 2000 บาท เลือกได้ตามรายการดังนี้
การทำ CoolSculpting ที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้
CoolSculpting ถือเป็นหัตถการที่มี price ไม่สูงมาก นอกจากนี้การทำ CoolSculpting ยังมีข้อดีกว่าวิธีกำจัดไขมันชนิดอื่นๆ มาก ทั้งในด้านของความปลอดภัยและผลลัพธ์ ไม่ต้องผ่า ดูด หรือใช้เวลาพักฝื้นนาน จึงเป็นอีกทางเลือกที่แนะนำครับ
หรืออ่านข้อมูลเพิ่มเติม : CoolSculpting ที่ไหนดี สลายไขมันด้วยความเย็น ลดง่ายได้ทุกสัดส่วน
สำหรับเครื่อง CoolSculpting ของ V Square Clinic ตอนนี้มีอยู่ที่สาขาดังนี้ครับ
- สาขา Gateway Ekamai (Bangkok) โทรนัดคิว 099 005 9000
- สาขา The walk ราชพฤกษ์ (Bangkok) โทรนัดคิว 099 005 7000
- สาขา เซ็นทรัลบางนา โทรนัดคิว 099 105 9000
สลายไขมันด้วยความเย็น CoolSculpting ที่ V Square Clinic ดีอย่างไร?
- ดูแลและให้คำแนะนำโดย แพทย์และ Specialist ที่มีประสบการณ์ในการทำ CoolSculpting มานานกว่า 3 ปี
- ห้องที่ทำ CoolSculpting มีขนาดอย่างน้อย 20 ตร.ม. ไม่อึดอัด
- ใช้เก้าอี้ Lazboy รุ่นท็อปรุ่นกว้างพิเศษ เพื่อความสบายสูงสุดของลูกค้าในช่วงเวลาที่ทำหลายชั่วโมง
- เพิ่มเทคนิคพิเศษที่ช่วยให้อาการบวมหลังทำหายไวกว่าปกติ
- การันตีช่วงโปรโมชั่นถูกที่สุดในท้องตลาด โดยไม่มีโปรโมชั่นแอบแฝง
Vaser : Ultrasound Assisted Liposuction คลื่นเสียง Ultrasonic
Body tite : Radio Frequency Assisted Liposuction คลื่นวิทยุความร้อน
Body jet evo : Water-Jet Assisted Liposuction แรงดันน้ำ
Microaire : Power Assisted Liposuction แรงสั่น
เครื่องดูดไขมันทั้ง 4 เครื่องนี้ มีหลักการคือใช้พลังงานที่แตกต่างกันในการทำให้ก้อนไขมันแตกตัว และดูดออกมาจากร่างกาย ซึ่งแต่ละวิธีมี ข้อดี-ข้อเสีย แตกต่างกัน ดังนี้
การใช้คลื่นเสียงหรือคลื่นวิทยุในการดูดไขมัน จะช่วยกระตุ้นให้เนื้อเยื่อบริเวณที่ดูดไขมันหดตัวกระชับขึ้นในช่วง 2-3 เดือนหลังทำ ลดโอกาสเกิดความหย่อนคล้อยหลังจากที่ดูดไขมันออกไป
แต่ข้อเสียคือจะบวมช้ำมากขึ้นและต้องพักฟื้นนานขึ้นอาจนานจะเกิน 1 เดือน และเซลล์ไขมันที่ได้จากการดูดด้วยวิธีนี้ถ้านำไปฉีดเพื่อเติมเต็มตามส่วนอื่นๆ มักจะได้เซลล์ที่ไม่แข็งแรงและปลูกไม่ติด
อ่านเพิ่มเติม : ข้อดี-ข้อเสียของการเติมไขมัน vs ฟิลเลอร์ สามารถอ่านได้จากบทความนี้ครับ CoolSculpting ที่ไหนดี สลายไขมันด้วยความเย็น ลดง่ายได้ทุกสัดส่วน
การใช้แรงดันน้ำหรือแรงสั่นในการดูดไขมัน จะบวมช้ำน้อยกว่า ปวดระบมน้อยกว่า ใช้เวลาในการพักฟื้น 3-4 สัปดาห์ และเซลล์ไขมันที่ได้จากการดูดด้วยวิธีนี้ถ้านำไปฉีดเพื่อเติมเต็มตามส่วนอื่นๆ มักจะได้เซลล์ไขมันที่แข็งแรง และเพิ่มโอกาสในการปลูกติดได้มากขึ้น แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นกับเทคนิคอื่นๆที่ใช้ในเก็บเซลล์ไขมันและเทคนิคการฉีดด้วยที่มีผลต่อ % การปลูกติด แต่ข้อเสียของการดูดไขมันด้วยวิธีนี้คือหลังจากยุบบวมผิวบริเวณที่ดูดไขมันจะขาดความกระชับ อาจจะต้องใช้เครื่องมือที่ช่วยกระชับผิวช่วยต่ออีกที
การดูดไขมัน Price ประมาณ 50,000-100,000 .- ขึ้นกับเครื่องที่ใช้ดูดไขมันและจำนวนจุด
3. ข้อควรรู้ก่อนดูดไขมัน
ท่อที่ใช้ดูดไขมันนั้นจะต้องมีเส้นผ่านศูนย์กลางอย่างน้อย 3 mm และต้องฉีดยาชาปริมาณมากในบริเวณที่ดูดไขมัน จึงจำเป็นต้องอยู่ในความควบคุมของแพทย์ที่ชำนาญเท่านั้น (การวางยาสลบไม่เป็นที่นิยมเพราะมีความเสี่ยงสูงกว่าการฉีดยาชา)
หลังทำจะเกิดรอยบวมช้ำค่อนข้างเยอะ เกิดจากการฉีกขาดของเส้นเลือดฝอยขณะที่สอดท่อเข้าไปเพื่อดูดไขมันตามจุดต่างๆ ต้องพักฟื้นประมาณ 1 เดือนหลังทำ เพื่อให้อาการปวดระบมและอาการบวมดีขึ้น
หลังทำมักจะพบปัญหาผิวไม่เรียบในบริเวณที่ดูดไขมันได้ ซึ่งเกิดจากความบอบช้ำของเนื้อเยื่อจากการสอดท่อดูดไขมัน หรืออาจจะเกิดจากแนวในการสอดท่อดูดไขมันที่ไม่สม่ำเสมอ ซึ่งผิวไม่เรียบนี้หากเกิดขึ้นมักจะคงอยู่ถาวรไม่สามารถแก้ไขให้หาย 100% ได้
อาจมีรอยแผลสำหรับสอดท่อดูดไขมันขนาด 3 mm ตามจุดที่ดูดบริเวณละ 1-2 จุด
แม้ว่าจะดูดไขมันออกไปแล้ว แต่หากไม่ควบคุมอาหารและออกกำลังกาย ไขมันก็สามารถกลับมาสะสมได้ใหม่ หมอไม่แนะนำให้ดูดไขมันซ้ำๆหลายๆรอบ เนื่องจากจะเกิดผังผืดใต้ผิวทำให้ผิวไม่เรียบและจะยิ่งบวมช้ำมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อทำหลายๆครั้ง
การดูดไขมันเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการกำจัดไขมันปริมาณเยอะๆ (BMI > 35) เท่านั้น สำหรับผู้ที่ไขมันน้อยกว่านี้แนะนำว่าควรเลือกใช้วิธีที่ปลอดภัยและไม่ส่งผลเสียในระยะยาวดีกว่าครับ
เครื่องรุ่นใหม่ล่าสุดของ Thermage คือรุ่น FLX พัฒนาจากรุ่นเก่า CPT คือจะมีเซนเซอร์วัดความร้อนบนผิว (AccuREP) เพื่อควบคุมการปล่อยคลื่น RF(Radio-Frequency) ได้อย่าง optimize มากที่สุดในทุก shot ที่ยิง ทำให้เจ็บน้อยลงโดยที่ได้ผลการรักษาที่มากขึ้น และมีหัวใหญ่สำหรับการกระชับผิวส่วนเกินตามแขนขาหน้าท้อง เหมาะสำหรับจุดที่มีปริมาณไขมันไม่มาก แต่มีผิวหนังส่วนเกินชั้นบนเยอะ เช่น คนที่ลดน้ำหนักแล้วผิวไม่กระชับ คนที่ดูดไขมันแล้วผิวไม่กระชับ หรือคุณแม่หลังคลอด Price ในการทำ Thermage FLX for body 1 หัวมี 2,000 shot ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 4 ผ่ามือ Price อยู่ที่ 100,000-150,000 .-
หัว Thermage จะสามารถกระชับผิวได้ดีมากในผิวชั้นตื้นระดับความลึก 4.3 mm ซึ่งเหมาะกับเคสที่มีปัญหาแบบในรูปตัวอย่างด้านล่างนี้ครับ
ตัวอย่างผลการรักษาผิวหนังส่วนเกินชั้นตื้นบริเวณหน้าท้องด้วย Thermage FLX for body
ตัวอย่างผลการรักษาผิวหนังส่วนเกินชั้นตื้นบริเวณหน้าท้องด้วย Thermage FLX for body
เทคโนโลยี Macrofocus ของเครื่อง Hifu ยี่ห้อ Ultraformer III จะมีหัวยิงที่ระดับความลึก 6 mm, 9 mm, 13 mm สำหรับแก้ไขปัญหา Cellulite ที่อยู่ในผิวชั้นลึก ประมาณ 2 cm Price ในการทำ Hifu Macrofocus (Ultraformer III) for body 1,000 shot ครอบคลุมพื้นที่ 2 ผ่ามือ อยู่ที่ 25,000-40,000 .-
เหมาะกับคนที่ชั้นไขมันไม่มาก แต่มีความหย่อนคล้อยที่มีปัญหามาจากผิวชั้นลึกประมาณ 2 cm
ตัวอย่างผลการรักษา cellulite บริเวณหน้าท้องด้วยเครื่อง Ultraformer III
ตัวอย่างผลการรักษา cellulite บริเวณหน้าท้องด้วยเครื่อง Ultraformer III
6. การฉีดเมโสแฟตเพื่อลดสัดส่วน
เป็นการใช้สารต่างๆที่มีงานวิจัยรองรับว่าสามารถออกฤทธิ์ในการ สลายเซลล์ไขมัน ฉีดเข้าตามจุดต่างๆที่ต้องการลดไขมันเฉพาะจุด ซึ่งมักจะหวังผลได้ไม่แน่นอน และอาจจะเห็นผลไม่ชัดเจน เนื่องจากการออกฤทธิ์ของตัวยานั้นขึ้นกับปัจจัยของร่างกายแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนฉีดเมโสแฟตแล้วเห็นผลดีมาก บางคนไม่เห็นผล
Price ประมาณ 5000 .- / เมโสแฟต 40 cc ครอบคลุมพื้นที่ 1 ฝ่ามือ ซึ่งการฉีดเมโสแฟตค่อนข้างถูกกว่าวิธีอื่น สำหรับคนที่มีงบประมาณจำกัดอาจจะทดลองใช้วิธีนี้ก่อน หากเห็นผลดีก็จะช่วยประหยัดเงินได้
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการฉีดเมโสแฟตสลายไขมัน สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้จากบทความนี้ เมโสแฟต คืออะไร? อันตรายไหม? ต่างจากโบท็อกอย่างไร? อันไหนดีกว่า? ครับ
7. เครื่องนวดยกกระชับของสถาบันลดสัดส่วน,ลดน้ำหนัก
เครื่องมือในการลดสัดส่วนที่ได้ผลนั้น จะต้องผ่านงานวิจัยทางการแพทย์และจัดเป็นเครื่องมือแพทย์ที่มีการควบคุมพิเศษ แต่สถาบันลดสัดส่วนเหล่านี้ส่วนมากมักจะไม่มีแพทย์ประจำ และไม่ได้จดทะเบียนเป็นคลินิกเวชกรรม จึงไม่สามารถใช้เครื่องมือแพทย์ได้ เครื่องมือต่างๆที่สถาบันเหล่านี้ใช้จึงมักเป็นแค่การนวดร้อน-เย็น, RF(Radio-Frequency) อ่อนๆ ซึ่งไม่ได้เกิดผลในระยะยาว มีเพียงความกระชับที่เกิดจากการบวมของเนื้อเยื่อหรือการรีดน้ำออกเพียงชั่วคราวในระยะ 3-7 วันเท่านั้น สังเกตว่าการทำเครื่องมือกระชับ
สัดส่วนของสถาบันเหล่านี้พนักงานมักจะต้องนัดให้ไปทำบ่อยๆทุกสัปดาห์จึงจะเห็นผล และพอหยุดทำก็จะคืนสภาพเดิม แทบจะไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงหากน้ำหนักไม่ลดลง
ตัวอย่างเครื่องนวดยกกระชับที่ใช้คลื่น Ultrasonic และ RF(Radio-Frequency) อ่อนๆ ที่มักจะพบตามสถานบันลดสัดส่วนที่ไม่ใช่คลินิก
ซึ่งสถาบันเหล่านี้ส่วนมากมักจะเน้นไปที่จิตวิทยาการแนะนำการควบคุมอาหารควบคู่กันมากกว่า ซึ่งหากคนไข้มีวินัยและปฏิบัติตามคำแนะนำควบคุมอาหารได้ดี จึงจะเห็นผลดีในการลดสัดส่วน เหมาะสำหรับคนที่อยากได้คำแนะนำในการควบคุมอาหารลดน้ำหนัก
เป็นวิธีการที่ดีที่สุดในการลดสัดส่วน และช่วยให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงขึ้นด้วย หลักการคือเสริมสร้างกล้ามเนื้อเพื่อช่วยให้เราสามารถเผาผลาญ metabolism ในแต่ละวันได้มากขึ้น ร่วมกับการควบคุมอาหาร ร่างกายก็จะไปดึงไขมันที่เก็บสะสมตามส่วนต่างๆมาใช้ ทำให้ไขมัน
ส่วนเกินลดลง แต่บางคนก็อาจพบปัญหาว่าหลังจากลดสัดส่วนด้วยการฟิตเนสแล้ว ผิวยังไม่กระชับ หรืออาจจะมีไขมันส่วนเกินในบางจุดที่สลายออกยากมากๆ ก็สามารถใช้ตัวช่วยวิธีต่างๆได้ ตามที่จะอธิบายในข้อต่อๆไปครับ
สำหรับคนที่กำลังหาข้อมูลเกี่ยวกับตัวช่วยในการลดสัดส่วนด้วยวิธีต่างๆ และการสลายไขมัน แบบไหนดี สามารถปรึกษาแพทย์ได้ฟรีครับ หมอจะเป็นผู้ประเมินและให้คำแนะนำอย่างตรงจุด coolsculpting in bangkok
สามารถ comment สอบถามเข้ามาด้านล่างได้เลยนะครับ หมอตอบเองครับ
CoolSculpting สลายไขมัน ไม่ฉีด ไม่ผ่าตัด กำจัดเซลล์ไขมันถาวรด้วยความเย็น
Reading Time: 4 minutes -สาเหตุการเกิดของเซลล์ไขมัน -สลายไขมันด้วยวิธีไหนได้บ้าง? -Coolsculpting สลายไขมันจุดไหนได้บ้าง? -สลายไขมันด้วยความเย็น Coolsculpting คือ? -ขั้นตอนสลายไขมันด้วยความเย็น -รีวิว สลายไขมันด้วยความเย็น -ข้อดีการสลายไขมันด้วยความเย็น -ใครบ้างที่เหมาะกับการสลายไขมัน -การเตรียมตัวก่อนการสลายไขมัน ด้วย Coolsculpting -สลายไขมันด้วยความเย็น ต้องทำกี่ครั้ง? -สลายไขมันด้วยความเย็น อยู่ได้นานไหม? -หลังสลายไขมัน ดูแลตนเองอย่างไร? -ราคาสลายไขมันด้วยความเย็น Coolsculpting
ข้อดี-ข้อเสีย ของการสลายไขมันด้วยความเย็นด้วยเครื่อง Cool...
Reading Time: < 1 minute - CoolSculpting คิดค้นและพัฒนาจากที่ไหน ? - ใครที่ควรทำ CoolSculpting - ราคาในการทำ CoolSculpting - 1 หนีบกำจัดไขมันได้เท่าไหร่ ?
แนะนำวิธีลดพุงแบบเร่งด่วน สลายไขมันหน้าท้องส่วนเกินอย่างไ...
Reading Time: 2 minutes - ใครเหมาะสำหรับการสลายไขมันหน้าท้อง - สลายไขมันหน้าท้อง มีวิธีใดบ้าง
12 วิธีลดพุง ลดหน้าท้อง เลือกทำวิธีไหนเห็นผลจริง เห็นผลเร...
Reading Time: 4 minutes -กำจัดเซลล์ไขมันถาวรด้วยเครื่อง CoolSculpting - ดูดไขมันด้วยเครื่อง Vaser : Ultrasound Assisted Liposuction คลื่นเสียง Ultrasonic - ดูดไขมันด้วย Body tite : Radio Frequency Assisted Liposuction คลื่นวิทยุความร้อน - ดูดไขมันด้วย Body jet evo : Water-Jet Assisted Liposuction แรงดันน้ำ - ดูดไขมันด้วย Microaire : Power Assisted Liposuction แรงสั่น
ลดหน้าท้อง ไม่ลงเพราะอะไร? รวมวิธีลดหน้าท้องเร่งด่วน ปลอด...
Reading Time: 3 minutes - ลดหน้าท้องไม่ลง ออกกำลังกายแล้วแต่ยังมีไขมันสะสม เกิดจากอะไร? - วิธีลดหน้าท้องส่วนล่างเร่งด่วน สลายไขมัน ผู้ชาย-ผู้หญิง ต่างกันหรือไม่? - สลายไขมันส่วนเกิน ลดหน้าท้อง วิธีไหนปลอดภัยและเห็นผลมากที่สุด?