ข้อควรรู้เกี่ยวกับราคา Sculptra
ควรซื้อโปรแกรม Sculptra ราคาเท่าไหร่ ? หลายคนที่สนใจฉีด Sculptra มักเริ่มต้นจากคำถามนี้ครับ แม้จะเป็นหัตถการที่ขึ้นชื่อเรื่องการฟื้นฟูคอลลาเจนได้ลึกถึงโครงสร้างผิว ช่วยแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย ผิวหลวม และริ้วรอยได้อย่างมีประสิทธิภาพ เห็นผลยาวนานถึง 2 ปี แต่ราคาก็ถือว่าสูงกว่า Skin Booster ทั่วไปอยู่พอสมควร
บทความนี้หมอจะช่วยวิเคราะห์ว่า Sculptra ราคาคุ้มค่าอย่างไร เหมาะกับปัญหาผิวแบบไหน โปรแกรม Sculptra ราคาต่อขวด-แบ่งขายต่อ CC คุณภาพต่างกันไหม ควรเลือกจากอะไร ? เพื่อให้คนไข้ตัดสินใจได้อย่างมั่นใจและไม่เสียเงินเปล่าครับ
สารบัญ Sculptra ราคา
โปร Sculptra ราคาเท่าไหร่ ?
ในคลินิกความงามส่วนใหญ่ โปรโมชัน Sculptra คิดเป็นราคาต่อขวด อยู่ที่ประมาณ 20,000-30,000.- ครับ โดย 1 ขวดจะฉีดได้ 10 CC ซึ่งเป็นปริมาณที่เพียงพอต่อการฉีดกระตุ้นคอลลาเจนทั่วใบหน้าในเคสทั่วไป
ทั้งนี้ราคา Sculptra ในคลินิกแต่ละแห่งอาจแตกต่างกันเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับโปรโมชันส่งเสริมการขาย ประสบการณ์ของแพทย์ และปริมาณยาที่ใช้
ตัวอย่างโปร Sculptra ราคาพิเศษจาก V Square Clinic
Sculptra ราคาคุ้มค่าไหม ?
ผลลัพธ์หลังฉีด Sculptra ถือว่าคุ้มค่ากับราคาที่จ่ายไปครับ เพราะเป็นหัตถการที่กระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนชนิดที่ 1 ได้สูงถึง 66.5% ซึ่งเป็นคอลลาเจนประเภทที่มีมากที่สุดในชั้นผิว ช่วยฟื้นฟูให้ผิวอ่อนเยาว์ อิ่มฟู ตึงกระชับเหมือนผิวเด็กครับ เนื่องจากเป็นคอลลาเจนที่ร่างกายของเราสร้างเองทั้งหมด จึงให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ และอยู่ได้นานถึง 2 ปี
อีกจุดเด่นของ Sculptra ที่ทำให้คนไข้หลายคนสนใจ อยู่ที่สามารถฉีดได้ในหลายกลุ่มอายุ ดังนี้
- กลุ่มอายุ 25 ปีขึ้นไป ที่ต้องการดูแลผิวพรรณของตัวเองตั้งแต่เนิ่น ๆ นิยมฉีดกระตุ้นคอลลาเจน เพื่อคงความอ่อนเยาว์ ชะลอการเกิดริ้วรอย หรือผิวเสื่อมสภาพ
- กลุ่มอายุ 30 ปีขึ้นไป เริ่มมีปัญหาผิวเสื่อมสภาพตามวัย ผิวหน้าหย่อนคล้อย กรอบหน้าไม่ชัด หรือมีริ้วรอยที่สังเกตเห็นได้
- กลุ่มอายุ 40-50 ปีขึ้นไป มักมีปัญหาผิวเสื่อมสภาพจากการขาดคอลลาเจน ผิวหลวม ผิวขาดความยืดหยุ่น การฉีด Sculptra สามารถช่วยฟื้นฟูโครงสร้างผิวชั้นลึกได้ครับ
ราคา Sculptra ขึ้นอยู่กับปัจจัยใดบ้าง ?
ราคา Sculptra อาจแตกต่างกันออกไป เพราะปัจจัยเหล่านี้
ตัวยา Sculptra ที่ใช้
หากฉีด Sculptra ด้วยตัวยาของแท้ ในคลินิกที่ได้มาตรฐาน ราคาจะไม่แตกต่างกันมากครับ แม้คนไข้จะซื้อโปรแกรมในช่วงโปรโมชันพิเศษก็ตาม เพราะ Sculptra มีเพียงรุ่นเดียว และคลินิกความงามต้องซื้อผ่าน Galderma Thailand ที่เป็นเจ้าของสิทธิบัตรและตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย ทำให้ Sculptra ราคาต้นทุนใกล้เคียงกัน และเป็นไปไม่ได้ที่จะตั้งราคาถูกกว่าท้องตลาดมาก ๆ
มาตรฐานของคลินิกความงาม
ราคาของโปรแกรม Sculptra ไม่ได้ขึ้นอยู่แค่ตัวยาเพียงอย่างเดียว แต่รวมถึงมาตรฐานของคลินิกที่คนไข้รับบริการด้วยครับ คลินิกที่เปิดถูกต้องตามกฎหมาย ต้องมีระบบดูแลความสะอาด ป้องกันการติดเชื้อ และดำเนินงานตามข้อกำหนดของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งทั้งหมดนี้มีต้นทุน และสะท้อนอยู่ในราคาทำหัตถการ
นอกจากนี้หากคลินิกตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้า หรือใกล้ระบบขนส่งสาธารณะ ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกให้คนไข้ที่เข้ามาใช้บริการ ต้นทุน และราคาทำหัตถการก็อาจสูงขึ้นตามไปด้วยครับ
ประสบการณ์ของแพทย์ที่ฉีด Sculptra
การฉีด Sculptra ไม่ใช่หัตถการที่หมอคนไหนก็ทำได้ครับ ต้องเป็นแพทย์ที่ผ่านการอบรมเทคนิคเฉพาะจาก Galderma Aesthetics และได้รับใบรับรอง (Certification) ซึ่งสามารถผสมยาตามขั้นตอนที่ถูกต้อง และฉีดในชั้นผิวที่เหมาะสมได้ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติและปลอดภัยกับคนไข้
แพทย์ที่มีประสบการณ์สูง มักวางแผนการรักษาได้แม่นยำและปลอดภัย ค่ามือจึงอาจสูงขึ้นตามไปด้วย แต่ถือเป็นต้นทุนที่คุ้มค่า เพราะช่วยลดความเสี่ยง และเพิ่มประสิทธิภาพของผลลัพธ์ในระยะยาวครับ
รีวิวผลลัพธ์หลังฉีด Sculptra กับแพทย์เก่ง ๆ ที่ V Square Clinic
(พญ.รมณ นันทธเนศ เลข ว.46283)
ปริมาณ Sculptra ที่ใช้ และตำแหน่งที่ฉีด
การฉีด Sculptra จะใช้ 1-2 ขวด/ครั้ง ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและตำแหน่งที่ฉีด แนะนำให้ฉีดต่อเนื่อง 2-3 ครั้ง ทุก 4-6 สัปดาห์ เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนอย่างเต็มที่ ผลลัพธ์อยู่ได้นานสูงสุด 2 ปี หลังจากนั้นแนะนำให้ฉีดซ้ำปีละ 1 ครั้ง เพื่อคงสภาพผิว
ทั้งนี้ปริมาณ Sculptra ที่ใช้ต่อ Session ไม่ได้มีตัวเลขตายตัวครับ ขึ้นอยู่กับการประเมินของแพทย์และการตอบสนองของผิวในการสร้างคอลลาเจนของแต่ละคนร่วมด้วย
โดยทั่วไป Sculptra จะนำมาฉีดทั่วใบหน้าในตำแหน่งขมับ หน้าแก้ม และกรอบหน้า เพื่อฟื้นฟูผิวหน้าแบบองค์รวม
นอกจากนี้ยังสามารถฉีด Sculptra Body เพื่อฟื้นฟูผิวกายที่หย่อนคล้อย เช่น หลังมือ คอ หัวเข่า หน้าท้อง สะโพก แขน และต้นขา โดยใช้ตัวยาชนิดเดียวกันครับ แต่ปริมาณจะแตกต่างตามขนาดพื้นที่ เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น หมอสรุปเป็นตารางแบบนี้
| ตำแหน่งฉีด Sculptra | ปริมาณที่ใช้/ครั้ง | จำนวนขวด/ครั้ง | ราคา/ครั้ง |
|---|---|---|---|
| ใบหน้า | 10-20 CC | 1-2 ขวด | 20,000-60,000.- |
| ลำคอ | 10 CC | 1 ขวด | 20,000-30,000.- |
| แขน/ขา | 10-20 CC (5-10 CC/ข้าง) | 1-2 ขวด | 20,000-60,000.- |
| หลังมือ | 4-6 CC (2-3 CC/ข้าง) | 1 ขวด | 20,000-30,000.- |
| บริเวณหัวเข่า | 4-6 CC (2-3 CC/ข้าง) | 1 ขวด | 20,000-30,000.- |
| สะโพก/ก้น | 10-40 CC (5-20 CC/ข้าง) | 2-4 ขวด | 40,000-120,000.- |
ราคาโปรโมชันส่งเสริมการขาย Sculptra
หากซื้อโปรแกรม Sculptra ในช่วงโปรโมชันหรือเทศกาล Sculptra ราคาต่อขวดมักถูกกว่าปกติครับ บางคลินิกอาจมีส่วนลดเมื่อซื้อหลายขวดเก็บไว้ เพราะต้องฉีดต่อเนื่องอยู่แล้ว หรือแถมหัตถการอื่น เช่น เครื่องยกกระชับ หรือ Skin Booster เพื่อช่วยเสริมผลลัพธ์ให้ดียิ่งขึ้น
ทั้งนี้หมอแนะนำว่า คนไข้ควรสอบถามรายละเอียดของโปรโมชัน และพิจารณาความน่าเชื่อถือของคลินิกร่วมด้วย ไม่ควรเลือกเพียงราคาถูกอย่างเดียวครับ
การบริการที่เกี่ยวข้องกับโปรแกรม Sculptra
ราคาฉีด Sculptra บางแห่งอาจดูถูกกว่า เพราะยังไม่รวมค่าบริการอื่น เช่น ค่ายาชา ค่าประเมินใบหน้า หรือค่าติดตามผลหลังฉีด ซึ่งหากไม่ได้แจ้งล่วงหน้า อาจทำให้ค่าใช้จ่ายจริงสูงกว่าที่คิดได้ ควรสอบถามให้ชัดเจนก่อนตัดสินใจ เพื่อเปรียบเทียบราคาอย่างรอบด้านครับ
Sculptra ราคาต่างจาก Skin Booster และ Collagen Biostimulator ตัวอื่นมากไหม ?
โดยทั่วไป Sculptra และหัตถการกลุ่มฉีดสารกระตุ้นคอลลาเจน (Collagen Biostimulator) เช่น Radiesse, Juvelook, Gouri และ Profhilo มักมีราคาต่อครั้งสูงกว่ากลุ่ม Skin Booster เช่น Rejuran, เมโสหน้าใส และฟิลเลอร์งานผิวอยู่แล้วครับ
เนื่องจาก Collagen Biostimulator สามารถฟื้นฟูผิวที่เสื่อมสภาพตามวัย ยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อย เพิ่มความยืดหยุ่น อิ่มฟู และลดริ้วรอยได้ รวมถึงยังให้ผลลัพธ์ที่ยาวนาน 1-2 ปี แตกต่างจาก Skin Booster ที่จะเน้นฟื้นฟูผิวให้กระจ่างใส อิ่มน้ำ ดูสุขภาพดี และเห็นการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วกว่า
Skin Booster และ Collagen Biostimulator แต่ละตัวเหมาะกับใคร และราคาแตกต่างจาก Sculptra อย่างไรบ้าง ? หมอสรุปแบบนี้ครับ
| ชื่อผลิตภัณฑ์ | สารออกฤทธิ์หลัก | ผลลัพธ์อยู่ได้นาน | จุดเด่น | เหมาะกับใคร | ราคา (ประมาณ) |
|---|---|---|---|---|---|
| Sculptra | PLLA (Poly-L-Lactic Acid) | 2 ปี | กระตุ้น Collagen Type I ฟื้นฟูได้ลึกถึงโครงสร้างผิว | ผู้ที่มีปัญหาผิวหลวม ผิวย้วย ขาดความกระชับ | 20,000-30,000.-/ขวด (10 CC) |
| Radiesse | CaHA (Calcium Hydroxylapatite) | 2 ปี | กระตุ้นการสร้างเส้นใยตาข่ายผิว 5 ประการ | ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอย รอยเหี่ยวย่น และผิวแห้ง | 33,000.-/Syringe (1.5 CC) |
| Juvelook | PDLLA (Poly-D, L-Lactic Acid) + HA (Hyaluronic Acid) | 1 ปี 6 เดือน | เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวทันทีหลังฉีด และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในระยะยาว | ผู้ที่ผิวหมองคล้ำ มีหลุมสิว ริ้วรอยตื้น ๆ หรือรอยแผลเป็น | 15,000.-/ขวด (6 CC) |
| Gouri | PCL (Polycaprolactone) | 1 ปี | กระจายตัวได้ดี ใช้จุดฉีดน้อย สามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว | ผู้ที่เริ่มมีริ้วรอย ผิวหมองคล้ำ แห้งกร้าน | 16,000.-/Syringe (1 CC) |
| Profhilo | Non-Crosslinked HA ในรูปแบบ Hybrid Cooperative Complex (HCC) | 6-12 เดือน | ฟื้นฟูและกระตุ้นการทำงานของเซลล์ต่าง ๆ ในชั้นผิว เช่น Keratinocytes, Fibroblast และ Adipocyte | ผู้ที่ผิวหย่อนคล้อย ผิวแห้ง กักเก็บความชุ่มชื้นได้น้อย | 20,000-25,000.-/Syringe (2 CC) |
| Rejuran | Polynucleotide (PN) | 4-6 เดือน | เร่งกระบวนการซ่อมแซมและฟื้นฟูเซลล์ผิว | ผู้ที่มีปัญหาผิวแพ้ง่าย ผิวโทรมจากแสงแดด และสารเคมี | 9,900.-/Syringe (2.7 CC) |
| เมโสหน้าใส | วิตามิน สารอาหาร และสารต้านอนุมูลอิสระ | 1-2 เดือน | เติมสารอาหารที่จำเป็นเข้าไปในผิวชั้นหนังแท้ เห็นผลเร็วกว่าการทาครีม | ผู้ที่ต้องการบำรุงผิวแบบเร่งด่วน แก้ปัญหาผิวโทรม ไม่กระจ่างใส | 2,500-9,000.-/ครั้ง |
| ฟิลเลอร์งานผิว | Cross-Linked HA | 6-12 เดือน | เติมน้ำให้ผิวชุ่มชื้น เติมหลุมสิว และริ้วรอยตื้น ๆ | ผู้ที่มีปัญหาผิวแห้งกร้าน ต้องการผิวฉ่ำวาว งานผิวกระจก | 14,000.-/Syringe (1 CC) |
Sculptra สามารถทำร่วมกับ Skin Booster หรือ Collagen Biostimulator ตัวอื่น ๆ ได้ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้นครับ แต่จะเลือกฉีดตัวไหน ควรได้รับการประเมินและวางแผนโดยแพทย์ก่อนเสมอ
แพทย์มากประสบการณ์จะสามารถวางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับคนไข้มากที่สุดได้
Sculptra มีราคาแบ่งขายเป็น CC ไหม ?
มีบางคลินิกที่จัดโปร Sculptra ราคาแบ่งขายเป็น CC ครับ แต่หมอแนะนำให้พิจารณาเงื่อนไขของโปรโมชันให้ถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจฉีด
การฉีด Sculptra ควรเริ่มจาก 1 ขวดครับ เพราะมีงานวิจัยแนะนำปริมาณ Sculptra ที่เหมาะสม คือ 1 ขวด (10 CC) ต่อช่วงอายุ 10 ปี เช่น หากคนไข้อายุ 40 ปี จะเหมาะกับการใช้ 4 ขวด (40 CC) เพื่อให้เห็นผลการฟื้นฟูคอลลาเจนที่ชัดเจนครับ
ทั้งนี้ในคลินิกบางแห่งอาจมีการจัดโปรโมชัน Sculptra แบบแบ่งขายเป็น CC เพื่อให้ราคาดูถูกลง เช่น 2 CC, 5 CC ซึ่งฟังดูคุ้มค่าในตอนแรก แต่อาจมีเงื่อนไขที่ซ่อนอยู่ เช่น ต้องซื้อขั้นต่ำ 10 CC อยู่ดี หรือไม่เปิดขวดใหม่ให้จริง ซึ่งอาจเสี่ยงต่อการปนเปื้อนได้
ดังนั้นหมอแนะนำให้เลือกฉีด Sculptra แบบยกขวดจะคุ้มค่าและปลอดภัยกว่า ทั้งในแง่ของปริมาณตัวยา ความสะอาด และง่ายต่อการตรวจสอบยาของแท้จากบริษัทยาที่ได้รับอนุญาต
Sculptra ราคาถูก ราคาส่ง ดีไหม ?
หากเจอ Sculptra ราคาถูกมาก ๆ หรือโฆษณาว่าราคาส่งแบบที่หาได้ทั่วไปในอินเทอร์เน็ต ต้องระวังให้ดีครับ เพราะตามที่หมอเคยอธิบายไป Sculptra ของแท้ต้องนำเข้าโดยบริษัทที่ขึ้นทะเบียนกับ อย. เท่านั้น จึงเป็นไปไม่ได้ที่คนไข้จะสั่งซื้อ Sculptra เอง
ส่วนกรณีที่เจอโปร Sculptra ราคาถูกเกินจริง อาจมีความเสี่ยงเป็นตัวยาปลอม หรือนำเข้าแบบผิดกฎหมาย ซึ่งไม่เพียงแต่ให้ผลลัพธ์ไม่ดี แต่ยังเสี่ยงต่ออาการข้างเคียงที่รุนแรง เช่น อักเสบ ติดเชื้อ หรือผิวเป็นก้อน
ฉีด Sculptra ราคาเท่าไหร่ ก็อย่าลืมเช็กตัวยาให้มั่นใจ
ไม่ว่าจะเจอ Sculptra ราคาถูกหรือราคาเต็ม สิ่งสำคัญ คือ ต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าเป็นตัวยาแท้ครับ เพราะ Sculptra มีเพียงรุ่นเดียวเท่านั้น และต้องนำเข้าโดยบริษัทบริษัท กัลเดอร์มา (ประเทศไทย)
โดยทั่วไป คลินิกที่ใช้ของแท้และโปร่งใส มักแสดงกล่องยา เลข Lot. และเอกสารกำกับยาให้คนไข้ตรวจสอบได้อยู่แล้ว เพื่อให้มั่นใจว่าได้รับตัวยาที่ถูกต้องตามมาตรฐาน ซึ่งจุดสังเกตตัวยา Sculptra ของแท้ที่นำเข้าอย่างถูกต้อง มีดังนี้
จุดสังเกต Sculptra ของแท้ และนำเข้ามาอย่างถูกต้อง
- มีสติกเกอร์โมโนแกรมพร้อมชื่อแบรนด์อยู่บนกล่อง ที่กล่องไม่มีรอยฉีกขาด ไม่ผ่านการใช้งานมาก่อน
- สัญลักษณ์ลายน้ำ S หน้ากล่อง มองเห็นด้วยตาเปล่า เมื่อสัมผัสแล้วจะรู้สึกว่าตัวอักษรมีความนูนได้ชัดเจน
- มีเลขทะเบียน อย. และเอกสารกำกับภาษาไทยติดอยู่ข้างกล่อง มีระบุเลข Lot. วัน/เดือน/ปีที่ผลิต ที่ตรงกับฉลากหน้ากล่อง
- ขวดสุญญากาศ ด้านในเป็น PLLA Powder ไม่มีของเหลวผสม และฝาขวดด้านบนจะมีลักษณะเป็นจุกยาง ไม่มีรอยแกะ รอยขาด หรือรอยเจาะที่บ่งบอกถึงการใช้งานมาก่อน
- สแกน QR Code ผ่านแอป eZTRacker เพื่อตรวจสอบได้ เมื่อสแกนแล้วระบบจะขึ้นข้อมูลของสินค้า ทั้งหมายเลขสินค้า วันผลิต และวันหมดอายุ ซึ่งจะต้องตรงกันกับเอกสารข้างกล่อง
ฉีด Sculptra ราคาคุ้มค่า ที่ไหนดี ?
หากกำลังมองหาคลินิกฉีด Sculptra ที่ทั้งคุ้มค่าและปลอดภัย หมอแนะนำให้เริ่มจากการดูจากราคาที่สมเหตุสมผลครับ โดยทั่วไป Sculptra ราคาอยู่ที่ประมาณ 20,000-30,000 บาท/ขวด (10 CC) รวมถึงพิจารณาปัจจัยเหล่านี้
- คลินิกความงามถูกกฎหมาย : มักแสดงเลขที่ใบอนุญาต 11 หลัก และป้ายชื่อสถานพยาบาลไว้ชัดเจน
- ตัวยา Sculptra : ต้องเป็นตัวยาของแท้ และแกะกล่องใหม่ สามารถตรวจสอบแหล่งที่มาได้
- แพทย์ผู้ฉีดมีประสบการณ์ : ต้องเป็นแพทย์ที่ผ่านการอบรมและมีใบรับรองจากบริษัทผู้ผลิต Galderma Aesthetics
- บริการก่อน-หลังการรักษา : เช่น มีการประเมินใบหน้ากับแพทย์โดยตรง ไม่ผ่านเซลส์ รวมถึงมีการนัดหมายติดตามผลลัพธ์
- รีวิวและผลลัพธ์จริง : คลินิกที่น่าเชื่อถือจะมีรีวิวจากเคสจริงให้ดูประกอบการตัดสินใจ และมีตัวอย่างผลลัพธ์ชัดเจน
สรุป Sculptra ราคา ที่ควรจ่าย เมื่อเทียบกับมาตรฐานและผลลัพธ์
โดยทั่วไป Sculptra ราคามาตรฐานจะอยู่ที่ประมาณ 20,000-30,000.-/ขวด (10 CC) ซึ่งถือว่าคุ้มค่าเมื่อเทียบกับผลลัพธ์ที่ได้ ทั้งในแง่ของการกระตุ้นคอลลาเจนชนิดที่ 1 ที่มีบทบาทสำคัญต่อความอ่อนเยาว์ของผิว และผลลัพธ์ที่อยู่ได้นานถึง 2 ปี
แต่ก่อนตัดสินใจเลือกฉีด Sculptra ไม่ควรดูแค่ราคาเพียงอย่างเดียว ควรพิจารณาร่วมกับปัจจัยอื่น ๆ เช่น ตัวยาแท้จากบริษัทนำเข้าที่ได้รับอนุญาต ประสบการณ์ของแพทย์ผู้ฉีด เทคนิคการผสมยา และมาตรฐานของคลินิก เพื่อให้การลงทุนดูแลผิวครั้งนี้ปลอดภัยและให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดครับ
สามารถ comment สอบถามเข้ามาด้านล่างได้เลยนะครับ หมอตอบเองครับ
Gentle YAG Laser คืออะไร ? ทำงานอย่างไร ? เหมาะกับใครบ้าง ?
Reading Time: 4 minutesGentle YAG คือเลเซอร์ Nd:YAG 1064 nm ที่ถูกออกแบบมาเพื่อกำจัดขนอย่างอ่อนโยน โดยเฉพาะผิวแทน-ผิวคล้ำ เพราะมีระบบทำความเย็น Dynamic Cooling Device (DCD) ที่ช่วยลดการระคายเคืองและลดความเสี่ยงผิวไหม้ บทความนี้หมอจะอธิบายข้อดี ข้อจำกัด กลไกทางการแพทย์ และเปรียบเทียบกับ Nd:YAG รุ่นใหม่ ๆ
Diode Laser VS YAG เลือกแบบไหนดี ? กำจัดขนเห็นผลชัด ปลอดภ...
Reading Time: 4 minutesDiode Laser VS YAG ต่างกันอย่างไร ? เครื่องเลเซอร์แบบไหนดีกว่ากัน ? แม้ว่าจะสามารถกำจัดขนได้เหมือนกันทั้งคู่ แต่ในแง่ของพลังงาน ความยาวคลื่น ตำแหน่งกำจัดขนที่เหมาะสม รวมถึงสีขน สีผิว มีความแตกต่างกันครับ มาดูความแตกต่างระหว่าง Diode Laser VS YAG คืออะไร ? ข้อดี ข้อจำกัด ทำอันไหนเจ็บน้อยกว่า ?
Rejuvenation Laser ตัวช่วยฟื้นฟูผิว ลดจุดด่างดำ ปรับผิวใส
Reading Time: 4 minutesปัจจุบันผู้คนให้ความสำคัญกับการดูแลผิวให้ดูอ่อนเยาว์ กระจ่างใส และเรียบเนียนมากขึ้น โดยเฉพาะผิวหน้า ใครที่กำลังมองหาวิธีทำให้หน้าใส ฟื้นฟูผิวหน้าที่มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้นนาน Rejuvenation Laser เป็นคำตอบที่ตอบโจทย์ครับ เพราะด้วยนวัตกรรมเลเซอร์ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวลึก
ฉีดฟิลเลอร์หว่างคิ้ว คืออะไร ? ปลอดภัยจริงหรือ ? ข้อควรรู...
Reading Time: 4 minutesฉีดฟิลเลอร์หว่างคิ้ว เพื่อลดเลือนริ้วรอยร่องลึก อาจเป็นหนึ่งในหัตถการเพื่อความงามที่หลายคนให้ความสนใจ แต่รู้หรือไม่ว่า การฉีดฟิลเลอร์ในบริเวณนี้เป็นจุดที่มีความเสี่ยง จึงไม่ค่อยได้รับความนิยมมากเท่ากับการฉีดในตำแหน่งอื่น ๆ ครับ สำหรับใครที่มีร่องลึก รอยย่น รอยขมวดคิ้ว อยากลดริ้วรอยให้หน้าเด็ก แบบปลอดภัย
ฉีดวัคซีน HPV มีกี่ชนิด กี่แบบ เลือกแบบไหนป้องกันมะเร็งปา...
Reading Time: 4 minutes- รู้จักวัคซีน HPV คืออะไร ทำไมถึงสำคัญ ? - วัคซีน HPV เหมาะกับใคร ? - ข้อดีของวัคซีน HPV ช่วยป้องกันอะไรได้บ้าง ? - วัคซีน HPV ต้องฉีดกี่ครั้ง กี่เข็ม ? - วัคซีน HPV ต้องฉีดกระตุ้นหรือไม่ ?
แฟตนมน้อย คืออะไร ? ฉีดตำแหน่งไหน ? ไขมันลดกี่เปอร์เซ็นต์...
Reading Time: 4 minutesแฟตนมน้อย หรือ Meso Fat นมน้อย เป็นวิธีที่ช่วยสลายไขมันเฉพาะจุดโดยไม่ต้องผ่าตัด แก้ปัญหานมน้อยหรือเนื้อด้านข้างรักแร้ที่ปลิ้นออกมาระหว่างเต้านมกับรักแร้ ซึ่งเป็นตำแหน่งที่หลายคนกังวลครับ แม้ในคนที่มีน้ำหนักปกติ ก็มีนมน้อยได้บทความนี้หมอจะอธิบายเกี่ยวกับแฟตนมน้อย คืออะไร ? ฉีดแฟตนมน้อย ดีไหม ?
