ปากกาลดน้ำหนัก Mounjaro (Tirzepatide) ยาตัวใหม่จากสหรัฐอเมริกา
ปากกาลดน้ำหนัก Mounjaro คือยาฉีดลดน้ำหนักจากบริษัท Eli Lilly & Co. ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่พัฒนาโดยใช้ตัวยา Tirzepatide ซึ่งอยู่ในกลุ่ม Dual Agonist ออกฤทธิ์ทั้ง GLP-1 และ GIP Receptor ช่วยควบคุมความอยากอาหารและเพิ่มการเผาผลาญพลังงานได้พร้อมกัน
ในบทความนี้ หมอจะมาให้ความรู้เกี่ยวกับปากกาลดน้ำหนัก Mounjaro ตั้งแต่กลไกการทำงาน ไปจนถึงข้อควรระวังและวิธีใช้ที่ถูกต้อง เพื่อให้เข้าใจว่ายาฉีดกลุ่มนี้ทำงานอย่างไร เหมาะกับใครบ้าง ? และควรใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างไร ? จึงจะปลอดภัยและได้ผลครับ
คลิกอ่านหัวข้อ
ปากกาลดน้ำหนัก Mounjaro คืออะไร ?
ปากกาลดน้ำหนัก Mounjaro (มอนจาโร) หรือชื่อสามัญว่า Tirzepatide คือยาฉีดลดน้ำหนักชนิดใหม่จากบริษัท Eli Lilly & Co. ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้รับการอนุมัติจาก FDA สหรัฐฯ สำหรับใช้รักษาโรคเบาหวานชนิดที่ 2 และใช้เพื่อควบคุมน้ำหนัก ปัจจุบันมีใช้ในหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทยด้วยครับ
กลไกการออกฤทธิ์ของตัวยา Tirzepatide ในปากกาลดน้ำหนัก Mounjaro
ปากกาลดน้ำหนัก Mounjaro จะใช้ตัวยา Tirzepatide ซึ่งอยู่ในกลุ่ม Dual Agonist ที่ออกฤทธิ์เลียนแบบการทำงานของฮอร์โมนในร่างกาย 2 ชนิดพร้อมกัน คือ GLP-1 (Glucagon-like Peptide-1) และ GIP (Glucose-dependent Insulinotropic Polypeptide) เพื่อช่วยทั้งลดความอยากอาหารและการใช้พลังงานของร่างกายครับ
- GLP-1 (Glucagon-like Peptide-1) ลดความอยากอาหาร ทำให้อิ่มเร็ว อิ่มนาน ชะลอการย่อยอาหาร และช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
- GIP (Glucose-dependent Insulinotropic Polypeptide) กระตุ้นการหลั่งอินซูลินเมื่อระดับน้ำตาลสูง เพิ่มประสิทธิภาพการเผาผลาญไขมัน และลดโอกาสเกิดภาวะน้ำตาลต่ำเกินไป
ผลจากการทำงานแบบสองกลไกเสริมกันนี้ ทำให้ Tirzepatide สามารถ“คุมหิว + เผาผลาญไขมัน” ไปพร้อม ๆ กัน
ปากกาลดน้ำหนัก Mounjaro ดีไหม ? ลดได้กี่โล ?
ปากกาลดน้ำหนัก Mounjaro เป็นยาฉีดลดน้ำหนักที่มีงานวิจัยรองรับว่าช่วยลดน้ำหนักได้และปลอดภัยเมื่ออยู่ในการดูแลของแพทย์ โดยเฉพาะในผู้ที่มีภาวะอ้วน หรือผู้ที่ลดน้ำหนักด้วยวิธีทั่วไปแล้วยังไม่เห็นผลครับ
ผลลัพธ์ในการลดน้ำหนัก
- เดือนแรก : ลดได้เฉลี่ย 3-5 กิโลกรัม เมื่อฉีดสัปดาห์ละ 1 ครั้ง (ขนาดเริ่มต้น 2.5 mg)และใช้อย่างต่อเนื่อง
- ภายใน 1 ปี 6 เดือน : สามารถน้ำหนักสามารถลดลงได้ 15-22% ของน้ำหนักตัว
หมายเหตุ : ผลลัพธ์จากการใช้ปากกาลดน้ำหนัก เป็นค่าเฉลี่ยจากงานวิจัยและการใช้จริง ซึ่งอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับยี่ห้อที่ใช้ การควบคุมอาหาร การออกกำลังกาย และการตอบสนองของร่างกายร่วมด้วย
ปากกาลดน้ำหนัก Mounjaro ช่วยอะไรบ้าง ?
- ควบคุมความอยากอาหาร ลดความหิว กินได้น้อยลงโดยไม่ต้องกดดันตัวเอง
- อิ่มนานขึ้น กระเพาะย่อยช้าลง ลดการกินจุกจิกระหว่างวัน และช่วยให้เลือกรับประทานอาหารได้ดีขึ้น
- ลดน้ำหนักได้จริง มีงานวิจัยยืนยันว่าสามารถลดน้ำหนักได้เฉลี่ย 15-22% ของน้ำหนักตัว
- ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยให้ร่างกายหลั่งอินซูลินเฉพาะเวลาที่จำเป็น ลดความเสี่ยงภาวะน้ำตาลต่ำ
- กระตุ้นการเผาผลาญ เพิ่มการใช้พลังงานของร่างกาย ช่วยให้ไขมันถูกสลายได้ดีขึ้น
- ลดความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด โดยเฉพาะในผู้ที่มีน้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วน
เปรียบเทียบปากกาลดน้ำหนักยี่ห้อ Mounjaro / Wegovy / Saxenda
ปัจจุบันปากกาลดน้ำหนักที่ได้รับความนิยมจะมี 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ Mounjaro (Tirzepatide), Wegovy (Semaglutide) และ Saxenda (Liraglutide) โดยแต่ละยี่ห้อใช้ตัวยาและกลไกการออกฤทธิ์ต่างกัน จึงให้ผลลัพธ์ ความถี่ในการฉีด และระดับความเหมาะสมแตกต่างกันครับ
1. ปากกาลดน้ำหนักยี่ห้อ Saxenda (Liraglutide)
Saxenda เป็นปากกาลดน้ำหนักที่ใช้ตัวยา Liraglutide ในกลุ่ม GLP-1 agonist รุ่นแรก ๆ ทำงานโดยเลียนแบบฮอร์โมน GLP-1 ที่ช่วยให้รู้สึกอิ่มเร็ว ควบคุมความอยากอาหารและลดระดับน้ำตาลในเลือด จึงเป็นทางเลือกเริ่มต้นที่ปลอดภัยและมีข้อมูลทางการแพทย์รองรับมายาวนานครับ
- ผลลัพธ์ : ลดได้เฉลี่ย 5-10% ของน้ำหนักตัว เมื่อใช้ต่อเนื่อง
- ข้อดี : ผ่านการรับรองจาก อย. ไทย และ FDA สหรัฐฯ เหมาะกับผู้เริ่มต้น ใช้มานาน ปลอดภัยสูง
- วิธีใช้ : ฉีดทุกวัน
- ข้อจำกัด : ต้องฉีดทุกวัน และผลลัพธ์การลดน้ำหนักอาจน้อยกว่ายี่ห้อรุ่นใหม่
2. ปากกาลดน้ำหนักยี่ห้อ Wegovy (Semaglutide)
Wegovy ใช้ตัวยา Semaglutide ซึ่งเป็น GLP-1 agonist รุ่นใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า Saxenda ช่วยควบคุมความอยากอาหาร ทำให้อิ่มนานขึ้น และลดระดับน้ำตาลหลังมื้ออาหาร เป็นยาที่ได้รับการอนุมัติให้ใช้เพื่อการลดน้ำหนักโดยตรง ทั้งจาก อย. ไทย และ FDA สหรัฐฯ
- ผลลัพธ์ : ลดได้เฉลี่ย 15% ของน้ำหนักตัว
- ข้อดี : ฉีดเพียงสัปดาห์ละ 1 ครั้ง สะดวก ใช้งานง่าย และมีข้อมูลยืนยันว่าช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด
- วิธีใช้ : เริ่มต้น 0.25 mg/สัปดาห์ และปรับเพิ่มได้ตามคำแนะนำของแพทย์
- ข้อจำกัด : อาจมีอาการคลื่นไส้ช่วงเริ่มต้น และราคาสูงกว่ายาฉีดรายวันเล็กน้อย
3. ปากกาลดน้ำหนักยี่ห้อ Mounjaro (Tirzepatide)
Mounjaro ใช้ตัวยา Tirzepatide ซึ่งเป็น Dual agonist ออกฤทธิ์ทั้งที่ GLP-1 และ GIP Receptor ทำให้ช่วยคุมหิว เพิ่มการเผาผลาญไปพร้อมกัน และช่วยลดความเสี่ยงเบาหวานชนิดที่ 2 ได้ในผู้มีภาวะน้ำหนักเกิน
- ผลลัพธ์ : ลดน้ำหนักได้เฉลี่ย 15-22% ของน้ำหนักตัว
- ข้อดี : ควบคุมความอยากอาหารได้ดีกว่า ลดไขมันช่องท้อง (Visceral fat) และลดโอกาสดื้อยา
- วิธีใช้ : ฉีดสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เริ่มต้น 2.5 mg และปรับเพิ่มได้ตามแผนแพทย์
- ความปลอดภัย : ผ่านการรับรองจาก FDA สำหรับรักษาเบาหวาน และอยู่ระหว่างขยายข้อบ่งใช้ด้านลดน้ำหนัก
- เหมาะกับ : ผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักจริงจัง เห็นผลชัดเจน ปลอดภัย และอยู่ในความดูแลของแพทย์
สรุปตารางเปรียบเทียบปากกาลดน้ำหนักแต่ละตัว
| ยี่ห้อ | ตัวยาสำคัญ | กลุ่มยา | ความถี่ในการฉีด | จุดเด่น | ผลลดน้ำหนัก |
|---|---|---|---|---|---|
| Saxenda® | Liraglutide | GLP-1 receptor agonist | ฉีดทุกวัน | ควบคุมความหิวและน้ำตาลในเลือด เหมาะกับผู้ที่เริ่มต้น | ประมาณ 5-10% ของน้ำหนักตัว |
| Wegovy® | Semaglutide | GLP-1 receptor agonist | 1 ครั้ง/สัปดาห์ | อิ่มนาน ใช้งานสะดวก มีงานวิจัยรองรับมาก | ประมาณ 15% ของน้ำหนักตัว |
| Mounjaro® | Tirzepatide | Dual agonist (GLP-1 + GIP) | 1 ครั้ง/สัปดาห์ | คุมหิวได้ดี กระตุ้นการเผาผลาญมากขึ้น ลดเบาหวานชนิดที่ 2 ได้ | ประมาณ 15-22% ของน้ำหนักตัว |
การเลือกยี่ห้อปากกาคุมหิว ควรปรึกษาแพทย์ เพื่อให้ได้สูตรที่เหมาะกับสุขภาพและเป้าหมายของแต่ละคนมากที่สุดครับ
ปากกาลดน้ำหนัก Mounjaro เหมาะกับใคร ?
✅ กลุ่มที่เหมาะกับการใช้ Mounjaro (Tirzepatide)
- ผู้ที่มีค่า BMI ≥ 30 kg/m² เข้าข่ายโรคอ้วน ต้องการลดน้ำหนักเพื่อป้องกันโรคแทรกซ้อน เช่น เบาหวาน ความดันสูง ไขมันในเลือดผิดปกติ
- ผู้ที่มีค่า BMI ≥ 27 kg/m² ร่วมกับโรคประจำตัว เช่น เบาหวานชนิดที่ 2 (Type 2 Diabetes), ความดันโลหิตสูง, ไขมันในเลือดสูง, ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Sleep Apnea) เป็นต้น
- ผู้ที่ลดน้ำหนักด้วยวิธีอื่นแล้วยังไม่สำเร็จ เช่น ควบคุมอาหาร ออกกำลังกาย หรือใช้ยาลดความอ้วนชนิดรับประทานแล้วไม่ได้ผล
- ผู้ที่ต้องการคุมความอยากอาหาร และลดไขมันสะสม เพราะ Mounjaro มีฤทธิ์ทั้ง “คุมหิว + เพิ่มการเผาผลาญ” จากการกระตุ้นฮอร์โมน GLP-1 และ GIP พร้อมกัน
- ผู้ที่มีภาวะก่อนเบาหวาน (Prediabetes) มีข้อมูลวิจัยชัดเจนว่า Tirzepatide สามารถช่วยลดความเสี่ยงต่อการเปลี่ยนเป็นเบาหวานชนิดที่ 2 ได้ถึง 94% ภายใน 3 ปี เมื่อใช้ต่อเนื่องร่วมกับการปรับพฤติกรรมการกินและออกกำลังกาย
การใช้ปากกาคุมหิว Mounjaro ควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์เท่านั้น เพื่อประเมินความเหมาะสม ปรับขนาดยา และติดตามอาการข้างเคียงอย่างใกล้ชิดครับ
ข้อดีของปากกาลดน้ำหนัก Mounjaro
- Mounjaro (Tirzepatide) เป็นปากกาชนิด Dual Agonist ตัวแรกของโลก ที่มีการทำงานของทั้ง GLP-1 และ GIP receptor พร้อมกัน ส่งผลให้สามารถคุมหิวและลดน้ำหนักได้ดี
- ผลการศึกษาพบว่า ผู้ที่ใช้ Mounjaro ต่อเนื่องร่วมกับการปรับพฤติกรรม สามารถลดน้ำหนักได้เฉลี่ย 15-22% ภายใน 1 ปี 6 เดือน
- ในกลุ่มผู้ที่มีภาวะ Prediabetes (ก่อนเบาหวาน) การใช้ Mounjaro ช่วยลดโอกาสเปลี่ยนเป็นเบาหวานชนิดที่ 2 ได้สูงถึง 94% ภายใน 3 ปี
- หลังฉีดจะช่วยชะลอการย่อยอาหารในกระเพาะ ทำให้รู้สึกอิ่มง่ายและอิ่มนานขึ้น ลดการกินจุกจิกระหว่างวัน
- ช่วยลดไขมันสะสม (Visceral fat) ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของโรคหัวใจและหลอดเลือด
- ฉีดเพียงสัปดาห์ละครั้ง ใช้งานง่าย ไม่ยุ่งยาก เหมาะกับคนที่ไม่สะดวกฉีดยาทุกวัน
- ผลข้างเคียงน้อย เพราะ GIP จะช่วยควบคุมไม่ให้ระดับน้ำตาลต่ำเกินไป ลดอาการหน้ามืด เหนื่อย เพลีย ที่มักเกิดกับยาฉีดกลุ่ม GLP-1 อย่างเดียว
ข้อควรระวังและข้อห้ามใช้ปากกาลดน้ำหนัก Mounjaro
แม้ว่า Mounjaro (Tirzepatide) จะได้รับการรับรองจาก FDA สหรัฐฯ ว่ามีความปลอดภัยในการรักษาโรคเบาหวานชนิดที่ 2 แต่ก็ยังมีข้อจำกัดและข้อควรระวังบางประการที่ควรรู้ก่อนเริ่มใช้ เพื่อป้องกันผลข้างเคียงและให้การลดน้ำหนักเป็นไปอย่างปลอดภัยที่สุดครับ
ข้อห้ามใช้ปากกาลดน้ำหนัก Mounjaro
- ผู้ที่มีประวัติหรือคนในครอบครัวเป็น มะเร็งไทรอยด์ชนิด Medullary Thyroid Cancer (MTC)
- ผู้ที่เป็นโรค Multiple Endocrine Neoplasia Type 2 (MEN 2)
- ผู้ที่อยู่ระหว่าง ตั้งครรภ์ ให้นมบุตร หรือวางแผนมีบุตรในระยะใกล้
- ผู้ที่มีภาวะตับอ่อนอักเสบ หรือเคยมีประวัติการอักเสบของตับอ่อน
- ผู้ที่มีโรคไตเรื้อรัง หรือภาวะไตเสื่อมขั้นรุนแรง
- เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี ไม่ควรใช้ยากลุ่มนี้
- ผู้ที่แพ้ตัวยา Tirzepatide หรือส่วนประกอบของยาในปากกา
ข้อควรระวังในการใช้ปากกาลดน้ำหนัก Mounjaro
- ไม่ควรปรับขนาดยาเร็วเกินไป เพราะอาจเกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียนรุนแรง หรือเวียนหัวได้
- ควรดื่มน้ำให้เพียงพอ เนื่องจากตัวยามีฤทธิ์ชะลอการย่อยอาหาร ทำให้อาจเกิดภาวะขาดน้ำได้ง่าย
- ระวังอาการน้ำตาลในเลือดต่ำ (Hypoglycemia) โดยเฉพาะในผู้ที่ใช้ยาลดน้ำตาลชนิดอื่นร่วมด้วย
- ห้ามฉีดเกินขนาด หรือฉีดสองครั้งภายใน 1 สัปดาห์ เพราะอาจเกิดภาวะน้ำตาลต่ำรุนแรง และคลื่นไส้อาเจียน
- หากหยุดยาโดยไม่ควบคุมอาหาร อาจกลับมาอ้วนได้
การใช้ปากกาลดน้ำหนัก ต้องใช้ด้วยความระมัดระวัง โดยเฉพาะในผู้ที่มีโรคประจำตัวควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อประเมินความเหมาะสมของขนาดยาและติดตามผลข้างเคียงอย่างใกล้ชิดครับ
ก่อนฉีด Mounjaro เตรียมตัวยังไงบ้าง ?
ก่อนเริ่มใช้ ปากกาลดน้ำหนัก Mounjaro ควรเตรียมร่างกายและวางแผนร่วมกับแพทย์อย่างรอบคอบ เพื่อให้ปลอดภัย เห็นผล และลดโอกาสเกิดผลข้างเคียงจากการใช้ยาครับ โดยมีแนวทางหลัก ๆ ดังนี้
✅ สิ่งที่ควรทำก่อนเริ่มฉีด
- ปรึกษาแพทย์เฉพาะทาง เพื่อประเมินสุขภาพโดยรวม น้ำหนักตัว และโรคประจำตัวที่อาจมีผลต่อการใช้ยา
- ตรวจร่างกายพื้นฐาน เช่น ความดันโลหิต น้ำตาลในเลือด ไขมัน และการทำงานของตับ/ไต เพื่อใช้กำหนดขนาดยาเริ่มต้นได้อย่างเหมาะสม
- แจ้งยาที่ใช้ประจำทั้งหมด รวมถึงอาหารเสริม หรือยาคุมกำเนิด เพราะ Mounjaro อาจส่งผลต่อการดูดซึมของยาบางชนิด เช่น ยาคุมชนิดรับประทาน
- หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์เกินจำเป็น เพราะอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อตับหรือระบบน้ำตาลในเลือด
- จัดเวลาฉีดให้สม่ำเสมอ โดยแพทย์จะแนะนำให้ฉีดสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ในช่วงเวลาเดียวกันของแต่ละสัปดาห์
⚠️ สิ่งที่ควรแจ้งแพทย์ก่อนเริ่มใช้
- มีประวัติ แพ้ยาในกลุ่ม GLP-1 หรือ GIP agonist
- เคยมีภาวะตับอ่อนอักเสบ หรือ โรคไทรอยด์ชนิดก้อนเนื้อ
- อยู่ในภาวะตั้งครรภ์ ให้นมบุตร หรือวางแผนมีบุตรในเร็ว ๆ นี้
หลังฉีดปากกาลดน้ำหนัก Mounjaro ต้องดูแลตัวเองยังไงบ้าง ?
หลังจากฉีด Mounjaro ร่างกายจะเริ่มปรับสมดุลกับตัวยา ซึ่งในช่วงแรกอาจมีอาการข้างเคียงเล็กน้อย เช่น คลื่นไส้ แน่นท้อง หรือท้องผูกได้บ้าง สำหรับแนวทางการดูแลหลังฉีด Mounjaro หมอแนะนำดังนี้
- รับประทานอาหารมื้อเล็กแต่บ่อยขึ้น เพื่อไม่ให้กระเพาะทำงานหนักเกินไป และช่วยลดอาการคลื่นไส้
- หยุดทานทันทีเมื่อรู้สึกอิ่ม เพราะตัวยาจะช่วยให้รู้สึกอิ่มเร็ว หากฝืนกินต่ออาจเกิดอาการแน่นท้องได้
- หลีกเลี่ยงอาหารมันจัด รสจัด หรือของทอด เนื่องจากอาจกระตุ้นให้คลื่นไส้มากขึ้น
- เพิ่มผักและผลไม้ที่มีกากใยสูง เพื่อป้องกันอาการท้องผูกที่พบได้บ่อยในช่วงเริ่มต้น
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 1.5-2 ลิตร เพื่อช่วยให้ระบบขับถ่ายดีขึ้นและลดอาการข้างเคียง
- งดแอลกอฮอล์ เพราะอาจทำให้เกิดอาการคลื่นไส้มากขึ้น และส่งผลต่อการเผาผลาญของยา
- พักผ่อนให้เพียงพอ และออกกำลังกายเบา ๆ เช่น เดินเร็วหรือโยคะ เพื่อช่วยให้ร่างกายเผาผลาญได้ดีขึ้น
ผลข้างเคียงหลังฉีด Mounjaro
โดยทั่วไปอาการข้างเคียงของ Mounjaro มักเกิดในช่วงเริ่มต้น และจะดีขึ้นเมื่อร่างกายปรับตัวได้ภายใน 2-4 สัปดาห์
- คลื่นไส้ อาเจียน
- ท้องผูก หรือท้องเสียเล็กน้อย
- จุกแน่น อิ่มง่าย
- เวียนหัว หน้ามืด อ่อนเพลีย
- ระคายเคืองบริเวณที่ฉีด
หากมีอาการรุนแรง เช่น อาเจียนไม่หยุด หรือปวดท้องมาก ควรหยุดใช้และรีบพบแพทย์ทันที
วิธีฉีดปากกาลดน้ำหนัก Mounjaro ที่ถูกต้อง
เพื่อให้การใช้ปากกาลดน้ำหนัก Mounjaro ได้ผลลัพธ์เต็มประสิทธิภาพ ทั้งในด้านการลดน้ำหนักและความปลอดภัย ควรทำตามขั้นตอนที่ถูกต้องและคำแนะนำจากแพทย์อย่างเคร่งครัดดังนี้ครับ
วิธีฉีดปากกาลดน้ำหนัก Mounjaro ที่ถูกต้อง
- ฉีดสัปดาห์ละ 1 ครั้ง วันเดียวกันทุกสัปดาห์ เพื่อคงระดับยาในร่างกาย
- จุดฉีดแนะนำ หน้าท้อง / ต้นขา / ต้นแขนด้านหลัง (ควรสลับตำแหน่งทุกครั้ง)
- ขนาดยาเริ่มต้น 2.5 mg ต่อสัปดาห์ ใช้ 4 สัปดาห์แรก จากนั้นให้แพทย์ปรับเพิ่มตามผลลัพธ์
- หากลืมฉีดภายใน 4 วันให้ฉีดทันที หากเกิน 4 วัน ให้ข้ามเข็มนั้นและฉีดรอบต่อไปตามกำหนด
- ก่อนฉีดเช็ดด้วยแอลกอฮอล์ โดยกดช้า ๆ จนยาหมด และรอ 5-10 วินาทีก่อนดึงเข็มออก
- ห้ามแชร์ปากกากับผู้อื่น แม้จะเปลี่ยนเข็มใหม่
- ห้ามฉีดเข้าเส้นเลือด ต้องฉีดเฉพาะใต้ผิวหนัง (Subcutaneous)
- หากเกิดอาการบวม แดง หรือคันบริเวณที่ฉีด ให้พักการฉีดบริเวณนั้น 1-2 สัปดาห์
ใช้ปากกาลดน้ำหนัก Mounjaro ยังไงให้ได้ผล
การใช้ปากกาลดน้ำหนักให้เห็นผลจริงและปลอดภัย ควรใช้ให้ถูกวิธี ควบคู่กับการปรับพฤติกรรมการกินและออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องครับ
- ฉีดให้สม่ำเสมอสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เพื่อให้ระดับยาในร่างกายคงที่และออกฤทธิ์ได้ต่อเนื่อง
- เลือกตำแหน่งฉีดให้ถูกต้องและควรสลับตำแหน่งฉีดทุกครั้ง เพื่อป้องกันรอยช้ำและระคายเคือง
- ใช้โดสตามคำแนะนำแพทย์ โดยขึ้นอยู่กับการตอบสนองของร่างกายและแผนการรักษา
- ควบคุมอาหารควบคู่ เน้นโปรตีนดี เช่น อกไก่ ไข่ต้ม ปลา รวมถึงผักผลไม้ที่มีกากใยสูง
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อช่วยลดอาการคลื่นไส้และขับของเสียออกจากร่างกาย
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เพื่อช่วยเร่งการเผาผลาญและคงผลลัพธ์ได้นานขึ้น
- จดบันทึกน้ำหนักและพฤติกรรมการกิน เพื่อให้แพทย์สามารถปรับแผนการฉีดและโดสได้อย่างเหมาะสม
ปากกาลดน้ำหนัก Mounjaro ราคาเท่าไหร่ ?
ปากกาลดน้ำหนัก Mounjaro ราคาเริ่มต้น 2,900.-/โดสครับ ทั้งนี้ราคาอาจแตกต่างกันไปตามปริมาณยาที่ใช้ บริการของคลินิก และเงื่อนไขสุขภาพของคนไข้
โปรแกรมควบคุมน้ำหนักที่ V Square Clinic ราคาเริ่มต้นที่ ราคา 999.- บาท ทั้งนี้จำนวนครั้งและโดสปริมาณที่ใช้ แพทย์จะเป็นผู้พิจารณาตามความเหมาะสมในแต่ละเคสครับ
ซื้อปากกาลดน้ำหนัก Mounjaro ที่ไหนดี ? ฉีดที่ไหนถึงปลอดภัยที่สุด ?
ปัจจุบันมีหลายช่องทางให้เลือกซื้อ ปากกาลดน้ำหนัก ทั้งคลินิก โรงพยาบาล เพื่อความปลอดภัยและเห็นผลจริง ควรเลือกอย่างรอบคอบครับ โดยมีแนวทางสำคัญที่ควรพิจารณาดังนี้
- ควรซื้อและฉีดในคลินิกหรือโรงพยาบาลที่มีใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาล จากกระทรวงสาธารณสุข
- ต้องมีแพทย์ดูแลทุกขั้นตอน ตั้งแต่การประเมินสุขภาพจนถึงการติดตามผลหลังฉีด
- มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เป็นผู้ประเมินและสั่งยา ไม่ใช่บุคลากรที่ไม่มีใบประกอบวิชาชีพ
- ยาที่ใช้ต้องมีสติกเกอร์ อย. ไทย และเป็นผลิตภัณฑ์จากบริษัทที่ได้รับรองมาตรฐาน
- หลีกเลี่ยงการซื้อจากช่องทางออนไลน์ เพราะเสี่ยงเจอยาปลอม / ยาเก็บรักษาไม่ถูกวิธี ซึ่งอาจเกิดอันตรายต่อร่างกายได้
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ ปากกาลดน้ำหนัก Mounjaro (FAQ)
ปากกาลดน้ำหนัก Mounjaro ปลอดภัยไหม ?
Mounjaro เป็นยาที่ผ่านการรับรองจาก องค์การอาหารและยาสหรัฐฯ (FDA) สำหรับการรักษาโรคเบาหวานชนิดที่ 2 และมีข้อมูลทางคลินิกยืนยันว่าช่วยลดน้ำหนักได้จริงอย่างปลอดภัย หากใช้อยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
ใช้ปากกาลดน้ำหนัก Mounjaro แล้วน้ำหนักไม่ลง เกิดจากอะไร ?
สาเหตุหลักมักเกิดจาก
- ยังไม่ถึงระยะเวลาที่ร่างกายตอบสนองต่อยา (โดยทั่วไปต้องใช้ต่อเนื่อง 4-8 สัปดาห์ขึ้นไป)
- รับประทานอาหารเกินความจำเป็น หรือไม่ปรับพฤติกรรมการกินควบคู่
ปากกาลดน้ำหนัก Mounjaro 1 แท่งใช้ได้กี่วัน ?
โดยทั่วไปปากกาลดน้ำหนัก Mounjaro 1 แท่ง สามารถแบ่งฉีดได้ 4 ครั้ง ใช้ได้ 1 เดือน เมื่อฉีดสัปดาห์ละ 1 ครั้งครับ
ใช้ Mounjaro ไปนาน ๆ จะดื้อยาหรือเปล่า ?
โดยทั่วไปไม่เกิดภาวะดื้อยาครับ เพราะ Mounjaro (Tirzepatide) เป็นยาที่เลียนแบบฮอร์โมนธรรมชาติในร่างกาย (GLP-1 + GIP) แต่หากหยุดใช้ทันทีโดยไม่ปรับพฤติกรรมการกินและการออกกำลังกาย อาจทำให้น้ำหนักกลับมาได้
หลังหยุดใช้ Mounjaro น้ำหนักจะกลับมาหรือไม่ ?
มีโอกาสกลับมาได้หากยังคงพฤติกรรมการกินแบบเดิมหรือไม่ออกกำลังกายต่อเนื่อง แนะนำให้ค่อย ๆ ลดยาตามคำแนะนำแพทย์ พร้อมปรับวิถีชีวิตควบคู่เพื่อป้องกันโยโย่เอฟเฟกต์
ฉีดปากกาลดน้ำหนัก Mounjaro ตอนไหนดีที่สุด ?
สามารถฉีดได้ทุกช่วงเวลา แต่ควรเลือกเวลาที่สะดวกและคงที่ในแต่ละสัปดาห์ เพื่อให้ระดับยาในร่างกายคงตัว แนะนำให้ฉีดวันเดียวกันของทุกสัปดาห์ เช่น ทุกวันจันทร์ หรือทุกวันศุกร์
ใช้ปากกาลดน้ำหนัก Mounjaro แล้วมีผลข้างเคียงไหม ?
ผลข้างเคียงส่วนใหญ่เกิดในช่วงเริ่มต้น ได้แก่ คลื่นไส้ แน่นท้อง ท้องผูก หรือเวียนหัว ซึ่งมักจะดีขึ้นภายใน 2–4 สัปดาห์ เมื่อร่างกายเริ่มปรับตัวได้ครับ
สรุป ปากกาลดน้ำหนัก Mounjaro ดีไหม ? ควรใช้ไหม ?
ปากกาลดน้ำหนัก Mounjaro (Tirzepatide) ถือเป็นนวัตกรรมที่ได้รับความนิยม ทั้งช่วย คุมหิว อิ่มนาน เผาผลาญดี และลดน้ำหนักได้จริงในระดับ 15-22% ของน้ำหนักตัว เมื่อใช้ต่อเนื่องควบคู่กับการปรับพฤติกรรมการกินและการออกกำลังกายครับ
แม้จะเป็นยาที่มีความปลอดภัยสูง แต่ควรใช้ภายใต้การดูแลของแพทย์เท่านั้น เพราะการปรับขนาดยาและการติดตามผลเป็นสิ่งสำคัญ หากใช้ผิดขนาดหรือไม่อยู่ในความดูแลของแพทย์ อาจทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่น คลื่นไส้ เวียนหัว หรือภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำได้
อ้างอิง
- Mounjaro. Prescribing Information. Eli Lilly Asia, Inc.; 2023. Eli Lilly and Company (U.S.); Zuellig Pharma (Thailand), Authorized Distributor. https://www.zuelligpharma.com/news-insights/Zuellig-Pharma-Launches-Lillys-Innovative-Obesity-and-Diabetes-Medicine-in-Thailand
- Garvey, W. T., Batterham, R. L., Bhatta, M., Buscemi, S., Christensen, L. N., Frias, J. P., Jódar, E., Kandler, K., Rigas, G., Wadden, T. A., Wharton, S., & STEP 5 Study Group. (2022). Two-year effects of semaglutide in adults with overweight or obesity: The STEP 5 trial. Nature Medicine, 28(10), 2083–2091. https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/36216945/
- Fornes, A., et al. (2022). Once-Weekly Semaglutide for Weight Management: A Review of Efficacy and Safety. Drug Design, Development and Therapy. https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/35832567/
- Rodriguez, P. J., Goodwin Cartwright, B. M., Gratzl, S., Brar, R., Baker, C., Gluckman, T. J., & Stucky, N. L. (2024). Semaglutide vs Tirzepatide for weight loss in adults with overweight or obesity. JAMA Internal Medicine, 184(9), 1056–1064. https://pubmed.ncbi.nlm.nih.gov/38976257/


