XERF คืออะไร ?
ใครที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย กำลังมองหาวิธีแก้ไขเพื่อลดความหย่อนคล้อย ลดริ้วรอย หรือต้องการยกกระชับใบหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด XERF หรือ (เซิร์ฟ) เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการปรับรูปหน้า ยกกกระชับผิว
เครื่องมือยกกระชับ XERF คืออะไร ? ช่วยเรื่องอะไรบ้าง ? เหมาะกับใคร หมอมีรายละเอียดเกี่ยวกับหัตถการนี้มาแนะนำ ตั้งแต่หลักการทำงาน ข้อดี ความแตกต่างจากเทคโนโลยียกกระชับเครื่องอื่น ๆ ไปจนถึงการดูแลหลังการทำ เพื่อให้คนไข้ตัดสินใจเลือกใช้ในแบบที่เหมาะกับตัวเอง
สารบัญ XERF
XERF คืออะไร มีจุดเด่นอะไรบ้าง ?
XERF (เซิร์ฟ) คือนวัตกรรมการยกกระชับผิวหน้าที่ใช้เทคโนโลยีคลื่นความถี่วิทยุ (Radiofrequency) เพื่อกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนในชั้นผิวหนังส่วนลึก ผลิตโดย Cynosure Lutronic บริษัทผู้ผลิตเลเซอร์ระดับโลกจากสหรัฐอเมริกาและเกาหลีใต้ และได้รับการรับรองมาตรฐาน FDA ที่ยืนยันความปลอดภัยและประสิทธิผลในการใช้งาน
เครื่อง XERF ถูกออกแบบมาเพื่อส่งผ่านพลังงานความร้อนเข้าสู่ชั้นผิวหนังในระดับที่เหมาะสม โดยไม่สร้างความเสียหายต่อผิวชั้นนอก ให้ผลลัพธ์ดังนี้
- กระชับผิวหน้า ทำให้ผิวตึงกระชับขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
- ยกกรอบหน้า ปรับโครงสร้างใบหน้าให้กระชับชัดเจนขึ้น
- ลดเลือนริ้วรอย ช่วยให้ผิวเรียบเนียนดูอ่อนเยาว์
- ปรับรูปหน้า ทำให้หน้าดูเรียวสวยขึ้น
เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัดเจน เป็นอีกทางเลือกสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการพักฟื้นนานหรือมีข้อจำกัดในการใช้ชีวิตประจำวันหลังทำ
XERF ทำงานอย่างไร ทำไมถึงยกกระชับผิวได้ ?
การทำงานของ XERF จัดอยู่ในกลุ่มเครื่องยกกระชับผิวที่ทำงานด้วยเทคโนโลยี Monopolar RF (Radiofrequency) คล้ายกับ ThermageFLX และ Volnewmer
ภายใต้คลื่นวิทยุความถี่ลึก 6.78 MHz และ 2 MHz (Dual-Frequency) เพื่อส่งความร้อนลงไปในผิวชั้นต่าง ๆ พร้อมกัน ทั้งความถี่สูงและต่ำทำให้สามารถยกกระชับได้ทั้งจากชั้นผิวตื้นและชั้นลึก
ความร้อนจากคลื่นพลังงานจะทำให้คอลลาเจนเดิมหดตัวทันที ส่งผลให้ผิวตึงกระชับขึ้น และยังกระตุ้นเซลล์ให้สร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใหม่ในระยะยาว ซึ่งช่วยเสริมโครงสร้างผิวให้แข็งแรงขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
จุดเด่นของ XERF ในการยกกระชับผิว
XERF เป็นเครื่องยกกระชับผิวที่สามารถยิงพลังงานลงลึกได้ถึง 3 ระดับ (ตื้น กลาง และลึก) ทำให้สามารถแก้ไขปัญหาได้ทุกชั้นผิว
โดยมีระบบ WAVE FIT PULSE TECHNOLOGY ปรับความถี่ของคลื่นตามปริมาณพลังงานที่ส่งออก ทำให้เครื่องมีความเสถียร ความถี่สม่ำเสมอ และแม่นยำ สามารถทำงานครอบคลุมถึง 3 ระดับความลึกที่แตกต่างกัน ผลลัพธ์ที่ได้คือผิวมีความกระชับขึ้น เรียบเนียน และยืดหยุ่น
กระบวนการทำงานเครื่อง XERF สามารถส่งพลังงานสู่ชั้นผิวได้ลึกครอบคลุมถึง 3 ระดับ ดังนี้
- ชั้นตื้น (UPPER DERMAL LAYER) เพื่อเน้นการปรับสภาพผิวชั้นหนังแท้ส่วนบนให้เรียบเนียนขึ้น เช่น บริเวณหน้าผาก
- ชั้นกลาง (UPPER FAT LAYER) ช่วยกระชับผิวและปรับโครงสร้างผิวหนังแท้ เช่น บริเวณกลางใบหน้าและลำคอ
- ชั้นลึก (LOWER FAT LAYER) ปรับโครงสร้างผิวชั้นลึก ฟื้นฟูผิวอันเป็นปัญหาที่ทำให้เกิดริ้วรอยและความหย่อนคล้อย
นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีตรวจจับอุณหภูมิเรียลไทม์ (Real Time Temperature Monitoring) และมีระบบ Automatic Shut Off ทันทีที่อุณหภูมิสูงถึง 43°C เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพความปลอดภัย
XERF ช่วยแก้ปัญหาอะไรบ้าง ?
เนื่องจากเครื่องยกกระชับ XERF มีความลึก 3 ระดับ และปรับพลังงานความร้อนได้ 10 ระดับ จากหน้าจอ จึงทำให้สามารถออกแบบการรักษาให้เหมาะกับปัญหาผิวได้ดังนี้
- ช่วยแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย สามารถเพิ่มความยืดหยุ่นของผิว ทำให้มีความกระชับขึ้น
- ช่วยแก้ปัญหากรอบหน้าไม่ชัด เริ่มมีเหนียง สามารถนำมาใช้ในการปรับรูปหน้าให้เรียวกระชับ และมีกรอบหน้าที่ชัดขึ้น
- ช่วยลดริ้วรอยเล็ก ๆ เช่น ร่องแก้ม ร่องบริเวณริมฝีปากปาก
- ช่วยลดปัญหารูขุมขนกว้าง ผิวไม่เรียบเนียน เครื่อง XERF จะช่วยกระชับรูขุมขนและปรับปรุงคุณภาพผิวให้ดูเรียบเนียนขึ้น
XERF เหมาะกับใคร ลักษณะปัญหาผิวที่ XERF ช่วยได้ ?
เทคโนโลยี XERF เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยในระดับเริ่มต้นถึงปานกลาง ต้องการลดเลือนริ้วรอย และปรับสภาพผิวให้กระชับเรียบเนียนขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่ไม่ต้องการความเจ็บปวดมากหรือไม่ต้องการใช้ยาชาในการทำหัตถการ
- เริ่มมีสัญญาณผิวหย่อนคล้อยตามวัย ต้องการให้ใบหน้ากระชับโดยไม่ต้องผ่าตัด
- ไม่สะดวกพักฟื้นนาน ต้องการทำแล้วสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ ไม่เสียเวลาพักฟื้น
- อายุ 25 ปีขึ้นไป คอลลาเจนในผิวเริ่มลดลง หรือผู้ที่มีอายุน้อยกว่า 25 แต่ต้องการดูแลผิวตั้งแต่เนิ่น ๆ
กลุ่มปัญหาผิวที่รักษาได้ด้วย XERF
- ยกกระชับบริเวณแก้มและแนวกราม เหมาะสำหรับแก้ไขปัญหาแก้มตก แนวกรามไม่ชัด หรือผิวบริเวณใบหน้าที่เริ่มหย่อนคล้อย ช่วยให้กรอบหน้ากลับมาชัดเจนและกระชับขึ้น
- ลดเลือนริ้วรอยและร่องตื้น ช่วยปรับปรุงริ้วรอยต่าง ๆ เช่น
- รอยตีนกาบริเวณขอบตา
- ร่องแก้มที่เกิดจากการหัวเราะ แสดงสีหน้า
- ริ้วรอยบนหน้าผาก
- กระชับผิวลำคอและใต้คาง แก้ไขปัญหาคางสองชั้น ผิวคอหย่อนคล้อย หรือเนื้อเยื่อส่วนเกินบริเวณใต้คางให้ดูกระชับและเรียบเนียนขึ้น
- ปรับปรุงเนื้อสัมผัสผิว ช่วยลดขนาดรูขุมขน ทำให้ผิวดูเรียบเนียน มีเนื้อสัมผัสที่ดีขึ้น และดูสุขภาพดีโดยรวม
XERF ต้องทำกี่ครั้งจึงจะเห็นผล ?
โดยทั่วไปจะเห็นผลลัพธ์หลังทันทีประมาณ 20-30 % และจะเห็นผลชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ ในช่วง 1-3 เดือน และจะเห็นผลเต็มที่ในช่วง 2-3 เดือนหลังทำ
ผลลัพธ์หลังทำ XERF อยู่นานแค่ไหน เมื่อไรควรทำซ้ำ ?
ผลลัพธ์หลังทำ XERF อยู่ได้ประมาณ 6-12 เดือน ทั้งนี้ระยะเวลาอาจแตกต่างกันไปตามปัจจัยของแต่ละบุคคล เช่น อายุ สภาพผิว และการดูแลตัวเอง แนะนำให้ทำเครื่อง XERF ซ้ำทุก 6 เดือน ถึง 1 ปี เพื่อคงผลลัพธ์อย่างต่อเนื่อง
XERF ปลอดภัยแค่ไหน มีผลข้างเคียงหรือไม่ ?
XERF ถือเป็นเทคโนโลยียกกระชับที่ปลอดภัยครับ ผ่านการรับรองจาก U.S. FDA มีระบบImpedance Feedback และ Cooling ที่ช่วยปรับพลังงานให้เหมาะกับแต่ละจุด สามารถควบคุมอุณหภูมิแบบเรียลไทม์ จึงลดความเสี่ยงการไหม้ได้
ในส่วนผลข้างเคียงหลังทำที่สามารถเกิดขึ้น เช่น ผิวอาจมีอาการแดงเล็กน้อยหลังทำ หรืออาจรู้สึกตึง ๆ ผิว เป็นอาการปกติครับ เนื่องเป็นหัตถการที่ใช้พลังงานความร้อน แต่อาการเหล่านี้สามารถหายได้เองตามธรรมชาติ ในช่วง1-2 วัน
หลังทำ XERF ดูแลตัวเองอย่างไร ?
การดูแลตัวเองหลังทำเครื่องยกกระชับ XERF ไม่ยุ่งยากครับ
- หลังทำสามารถแต่งหน้าและใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
- หลีกเลี่ยงการออกแดด และควรทาครีมกันแดดเป็นประจำ
- งดซาวน่า อบไอน้ำ หรือการทำทรีตเมนต์ความร้อนบนผิว 1-2 วัน
- ดื่มน้ำในปริมาณที่พอเหมาะ พร้อมบำรุงผิวด้วยมอยส์เจอร์ไรเซอร์เพื่อช่วยฟื้นฟูผิว
- ดูแลสุขภาพ เช่นการออกกำลังกายเป็นประจำ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์
XERF ต่างจากเครื่องมือยกกระชับผิวอื่น ๆ อย่างไร ?
เครื่องมือยกกระชับผิวในปัจจุบันมีหลายประเภทครับ แต่ละประเภทจะใช้เทคโนโลยีต่างกันไป เช่น การใช้พลังงานคลื่นวิทยุ(RF) อย่าง Thermage, Oligio, Volnewmer,Emface และ XERF ที่ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนและสลายไขมัน
นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีคลื่นอัลตราซาวด์อย่าง Ulthera ในทุกรุ่น เช่น Ulthera Prime และ Ulthera SPT รวมถึง เครื่อง HIFU Ultraformer III และ Ultraformer MPTซึ่งจะลงลึกถึงชั้น SMAS ให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนกว่า ส่วนเทคโนโลยีอื่น ๆ เช่น Morpheus8 ใช้การผสมผสานระหว่างคลื่น RF และไมโครนีดเดิล โดยการเลือกเครื่องมือที่เหมาะสมจะขึ้นอยู่กับปัญหาผิวของแต่ละบุคคล และควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสมที่สุด
XERF กับ Thermage แตกต่างกันตรงไหน ?
XERF และ Thermage จะใช้ คลื่นวิทยุ (Radiofrequency – RF)เป็นเทคโนโลยีหลัก แต่ก็มีจุดความแตกต่างที่สำคัญมีดังนี้
- เทคโนโลยีคลื่นความถี่
- XERF ใช้คลื่นความถี่ 2 ชนิด (6.78 MHz และ 2.0 MHz) พร้อมกันในหนึ่งช็อต ทำให้พลังงานลงไปได้หลายระดับความลึกในคราวเดียว
- Thermage ใช้คลื่นความถี่เดียว (6.78 MHz) ซึ่งเน้นการทำงานที่ชั้นหนังแท้เป็นหลัก
- ระดับความสบายขณะทำ
- XERF ถูกออกแบบมาให้เจ็บน้อยมากหรือแทบไม่เจ็บเลย เนื่องจากมีระบบให้ความเย็นที่ทำงานตลอดเวลาพร้อมกับการปล่อยพลังงาน ทำให้ส่วนใหญ่ไม่ต้องใช้ยาชา
- Thermage อาจทำให้รู้สึกเจ็บแบบ ดีด ๆ หรือร้อนลึก ๆ และมักใช้ยาชาร่วมด้วยเพื่อลดความรู้สึกไม่สบายผิว
- ความลึกในการรักษา
- XERF สามารถส่งพลังงานลงไปได้ลึกถึงชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นพังผืดที่ใช้ในการผ่าตัดดึงหน้า
- Thermage จะทำงานหลัก ๆ ที่ชั้นหนังแท้และชั้นไขมันใต้ผิวหนังส่วนบน
ในภาพรวม Thermage จะเหมาะสำหรับผู้ที่มีไขมันใต้ผิวมากต้องการปรับรูปหน้า ทำหน้าวีเชฟแก้ปัญหาคาง 2 ชั้น พร้อมกับปรับสภาพผิว ส่วน XERF จะเหมาะกับยกกระชับได้หลายชั้นผิวพร้อมกัน
XERF กับ Ulthera ต่างกันอย่างไร ?
XERF และ Ulthera ต่างกันที่ประเภทพลังงาน การทำงาน และผลลัพธ์ โดย XERF ใช้ คลื่นวิทยุ (RF) ในขณะที่ Ulthera ใช้ คลื่นอัลตราซาวด์ความเข้มข้นสูง (HIFU) ซึ่งทำให้ XERF เหมาะสำหรับกระชับผิวโดยรวมและปรับคุณภาพผิวให้เรียบเนียน ในขณะที่ Ulthera จะโดดเด่นเรื่องการยกกระชับผิวชั้นลึกเป็นพิเศษครับ
ตัวอย่างตารางเปรียบเทียบ XERF VS Ulthera
| คุณสมบัติ | XERF | Ulthera |
|---|---|---|
| ประเภทพลังงาน | คลื่นวิทยุ (Radio Frequency – RF) แบบ Dual-Frequency | คลื่นอัลตราซาวด์ความเข้มข้นสูง (High-Intensity Focused Ultrasound – HIFU) |
| หลักการทำงาน | ส่งพลังงานความร้อนเป็นวงกว้างในหลายระดับความลึก (ตื้น, กลาง, ลึก) เพื่อกระตุ้นคอลลาเจนและสลายไขมัน | ส่งพลังงานเป็นจุดเล็ก ๆ ลงไปที่ชั้นผิวลึก (SMAS) อย่างแม่นยำ เพื่อการยกกระชับโครงสร้างผิวโดยตรง |
| ความรู้สึกขณะทำ | รู้สึกอุ่นสบาย อาจเจ็บน้อย เนื่องจากมีระบบทำความเย็นช่วย | อาจรู้สึกเจ็บแปลบ ๆ หรือปวดหน่วง ๆ บริเวณที่พลังงานลงไปอย่างแม่นยำ |
| ผลลัพธ์ที่เด่นชัด | ผิวกระชับโดยรวม ลดริ้วรอยเล็ก ๆ ลดลง, ผิวเรียบเนียนและดูมีมิติขึ้น | ยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อยอย่างตรงจุด, ปรับกรอบหน้าให้คมชัด, เหมาะกับผู้ที่มีความหย่อนคล้อยปานกลางถึงมาก |
| เหมาะสำหรับ | ผู้ที่ต้องการปรับปรุงคุณภาพผิวโดยรวมให้แน่นกระชับ หรือมีปัญหาผิวหย่อนคล้อยเล็กน้อยถึงปานกลาง | ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์การยกกระชับที่ชัดเจนและลึกถึงโครงสร้างผิว |
อยากยกระชับผิวหน้าเลือก ทำเครื่องไหนดี ?
การเลือกระหว่างเครื่องยกกระชับผิวหน้านั้นขึ้นอยู่กับปัญหาและความต้องการของแต่ละบุคคลครับ ในทุก ๆ เครื่องหมอเอ่ยถึงในข้างต้น ล้วนมีข้อดีต่างกัน ซึ่งเหมาะกับปัญหาที่แตกต่างกันออกไป แนะนำควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินปัญหาผิวและรับคำแนะนำที่เหมาะสมกับคนไข้โดยเฉพาะ
ยกกระชับผิวหน้าที่ V Square Clinic ดูแลโดยแพทย์มืออาชีพ
หากต้องการยกกระชับผิวห้าให้ได้ผลที่ดี ต้องเลือกใช้เครื่องที่เหมาะกับปัญหาในแต่ละบุคคลครับ และอาจต้องทำหลายเครื่องประกอบกัน เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด แพทย์ที่มีประสบการณ์จะช่วยประเมิน และแนะนำเครื่องมือที่เหมาะสมตามลำดับได้
4 เหตุผลที่ควรเลือกทำเครื่องยกกระชับที่ V Square Clinic
- ออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคล ประเมินผิวและเลือกเทคโนโลยีที่เหมาะกับสภาพผิวของแต่ละคน ไม่ต้องกังวลว่าจะเลือกเครื่องผิด
- มั่นใจด้วยประสบการณ์กว่า 50,000 เคส แพทย์ทุกท่านตั้งค่าพลังงานและยิงในชั้นผิวได้อย่างแม่นยำ เห็นผลจริง ปลอดภัยทุกขั้นตอน
- ประเมินช็อตตามความจำเป็น เน้นผลลัพธ์ที่ตอบโจทย์ ไม่ขายคอร์สเกินความต้องการของผิว
- ติดตามผลหลังทำทุกเคส ดูแลต่อเนื่อง เพื่อให้คุณได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในทุกครั้งที่ทำ
เพราะผิวของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ที่ V Square Clinic เราจึงให้ความสำคัญกับการออกแบบการรักษาอย่างละเอียด เพื่อให้ผลยกกระชับสวยเป็นธรรมชาติ และคุ้มค่าทุกพลังงานที่ยิงครับ
FAQ คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ XERF
ทำ XERF ไม่เจ็บจริงไหม ?
XERF จะมี ระบบทำความเย็น Integrated Cryogen Delivery (ICD) ที่ช่วยลดความเจ็บปวด, และหัวทิป Spider Web Pattern Tip ที่กระจายพลังงานได้ทั่วถึงกว่า ทำให้รักษาได้เร็วขึ้น เจ็บน้อยลง และปลอดภัยกว่า โดยไม่ต้องพักฟื้น
XERF ร่วมกับหัตถการอื่น โบท็อก ฟิลเลอร์ได้ไหม ?
สามารถทำ XERF ร่วมกับหัตถการอื่น เช่น โบท็อกและฟิลเลอร์ได้ครับ แต่จำเป็นต้องมีการวางแผนและเว้นระยะเวลาที่เหมาะสมเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและความปลอดภัย
หลังทำ XERF กินวิตามินได้ไหม ?
หลังทำ XERF สามารถรับประทานวิตามิน หรือดริปวิตามินได้ครับ แต่ควรหลีกเลี่ยงวิตามินบางชนิด โดยเฉพาะวิตามินอีและอาหารเสริมที่มีส่วนประกอบของวิตามินอี หรือยาแอสไพริน ก่อนและหลังทำ เพื่อป้องกันเลือดแข็งตัวและทำให้แผลหายช้าลง ส่วนวิตามินอื่น ๆ ที่ช่วยในการบำรุงและฟื้นฟูผิว เช่น วิตามินซี สามารถรับประทานได้ครับ เพราะวิตามินซีเป็นสารอาหารจำเป็นในกระบวนการสร้างคอลลาเจน
สรุป XERF ดีไหม คุ้มไหมถ้าจะทำ ?
XERF เป็นเทคโนโลยียกกระชับผิวที่ทันสมัย คล้ายกับ Thermage และ Ulthera ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่ต้องการยกกระชับผิวแบบเจ็บน้อยและไม่พักฟื้น ช่วยแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย ริ้วรอย และกรอบหน้าไม่ชัด
ดังนั้น การจะเลือกทำ XERF ดีไหม หรือทำเครื่องอื่น ๆ จะขึ้นอยู่กับปัญหาผิวของแต่ละบุคคล ความต้องการด้านความเจ็บปวด และผลลัพธ์ที่คาดหวังครับ การตัดสินใจที่ดีที่สุดควรมาจากการปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินสภาพผิวเสียก่อน จากนั้นจึงค่อยเลือกเครื่องมือที่เหมาะสมและคุ้มค่าที่สุดสำหรับคนไข้ สามารถรับคำปรึกษาฟรีได้ที่ V Square Clinic โดยทีมแพทย์ยินดีให้คำปรึกษาโดยไม่มีค่าใช้จ่ายครับ
อ้างอิง
- https://www.cornforthgyn.com/storage/app/media/CUS-1988-CL-XERF-Sell-Sheet.pdf
- https://www.cynosure.com/xerf/
- https://www.cynosure.com/xerf-treatment/
รอยย่นระหว่างคิ้ว แก้ยังไง ? ถ้าปล่อยไว้นานจะเกิดอะไรขึ้น ? ป้องกันยังไง ไม่ให้รอยลึกกว่าเดิม ?
Reading Time: 4 minutesรอยย่นระหว่างคิ้วที่เกิดจากการขมวดคิ้วบ่อย ๆ หรือการสูญเสียคอลลาเจนตามวัย แม้ไม่ได้เป็นปัญหาร้ายแรง แต่หากปล่อยไว้ นานเข้าจะกลายเป็นร่องลึกถาวรที่ยากต่อการแก้ไขได้ครับ ทำไมรอยย่นระหว่างคิ้ว ถึงเกิดขึ้นง่ายกว่าบริเวณอื่น มีสาเหตุจากอะไร ? หายเองได้ไหม ? รอยย่นระหว่างคิ้ว มีกี่แบบ ? ในบทความนี้หมอจะมาให้คำตอบ
ฉีดโบท็อก คืออะไร ? Botox เห็นผลคุ้มค่าหรือไม่ ? มีข้อควร...
Reading Time: 6 minutes- ฉีดโบท็อกดีไหม ? - ตัวยาโบท็อกมีกระบวนการออกฤทธิ์อย่างไร ? - ฉีดโบท็อกซ์ อันตรายไหม ? อยากฉีดโบท็อกอย่างปลอดภัยต้องรู้อะไรบ้าง ? - อันตรายจากโบท็อกปลอม - รวมจุดฉีดโบท็อก ฉีดตรงไหน ? ช่วยอะไรได้บ้าง ?
ดฟิลเลอร์ยกมุมปาก คืออะไร ? อันตราย ? เปลี่ยนหน้าบึ้งให้ส...
Reading Time: 3 minutesฉีดฟิลเลอร์ยกมุมปาก ให้ใบหน้าดูสดใส และอ่อนเยาว์ขึ้น เป็นหนึ่งในวิธียกมุมปากที่ได้รับความนิยมมากในตอนนี้ครับ เหมาะกับผู้ที่มีปัญหามุมปากตก ทำให้ใบหน้าเศร้า ดูบึ้งตึง ทั้งยังเป็นหนึ่งในสัญญาณของวัยที่มากขึ้น สำหรับใครที่กำลังมองหาวิธียกมุมปากและสนใจการฉีดฟิลเลอร์ยกมุมปาก บทความนี้หมอได้รวมข้อมูลที่ควรรู้ก่อนฉีดฟิลเลอร์
ข้อปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ ที่ควรรู้ เพื่อคงผลลัพธ์ให้อยู่...
Reading Time: 5 minutesเพื่อให้ผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์มีประสิทธิภาพ เห็นผลได้อย่างเต็มที่ การดูแลตัวเองหลังฉีด Filler นับว่ามีส่วนสำคัญมาก ๆ ครับ อะไรที่ต้องระวัง ? หลังฉีดฟิลเลอร์มีข้อปฏิบัติอะไรบ้าง ? หลังฉีดฟิลเลอร์ห้ามกินอะไร ? หลังฉีดเสร็จทันทีเป็นอย่างไร ? ใน 1 สัปดาห์ หรือ 1 เดือน หลังฉีดฟิลเลอร์ ควรดูแลตัวเองอย่างไร ?
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อไหนดี ? สวีเดน อเมริกา ต่างกันอย่าง...
Reading Time: 4 minutesปัญหาใต้ตาหลาย ๆ แบบสามารถแก้ไขได้ด้วยการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาครับ เช่น ร่องน้ำตา ตาลึก ตาโหล ใต้ตาคล้ำ มีถุงใต้ตา แต่จะเลือกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อไหนดี ? ที่จะแก้ปัญหาใต้ตาได้ตรงจุด หมอมีแนวทางการเลือกยี่ห้อฟิลเลอร์ที่เหมาะกับบริเวณใต้ตามาแนะนำครับ
