วี สแควร์

9 ข้อ ที่ต้องระวัง ! และควรรู้ในการทำ Hifu | โดยทีมแพทย์ V Square Clinic

Reading Time: 5 minutes

9 ข้อ ที่ต้องระวัง ! และควรรู้ในการทำ Hifu

ปก_9-ข้อ-ที่ต้องระวังและข้อควรรู้ในการทำ-Hifu_1000x860

9 ข้อ ที่ต้องระวัง ! และข้อควรรู้ในการทำ Hifu

ตอนนี้ใคร ๆ ก็อยากทำ Hifu (ไฮฟู) เพราะเป็นการยกกระชับหน้าที่ไม่ต้องใช้เข็ม ไม่ต้องผ่าตัด เป็นคลื่นเสียงที่มีความปลอดภัยสูง ไม่มีอันตรายต่อผิว แต่เนื่องจากการทำ Hifu ราคาค่อนข้างสูงจึงแนะนำให้ศึกษาข้อมูลต่าง ๆ ให้ดีก่อนตัดสินใจ ว่าจะได้ผลในแบบที่เราต้องการจริงหรือไม่ ได้ผลตามที่โฆษณาจริงไหม ควรเลือกทำที่คลินิกไหนดี และต้องเลือกใช้เครื่องยี่ห้อไหนจึงจะได้ผลคุ้มค่ากับเงินที่จ่าย เพราะถ้าลองถามเพื่อนที่เคยทำ Hifu บางคนรู้สึกว่าทำแล้วไม่ได้ผล หรือไม่ได้ผลมากตามที่หวังไว้ก็มี เพราะไม่ได้ศึกษาข้อมูลก่อนทำ

สารบัญ 9 ข้อ ที่ต้องระวัง ! และควรรู้ในการทำ Hifu

 


1. Hifu คืออะไร อันตรายกับผิวไหม ?

Hifu คือนวัตกรรมความงามรูปแบบใหม่ที่ให้ผลทางด้านลดเลือนริ้วร้อย ความหย่อนคล้อย และเพิ่มความกระชับให้กับบริเวณผิวหน้าและร่างกาย Hifu Macrofocus มีหลักการทำงานโดยใช้คลื่นเสียงอัลตร้าซาวด์ที่พัฒนามาจากการอัลตร้าซาวด์ดูครรภ์ทางการแพทย์ ยิงเข้าไปใต้ชั้นผิวแต่ละชั้นเพื่อทำให้ผิวชั้นนั้นหดตัวเสมือนกับการเย็บที่เนื้อ ซึ่งเป็นการดึงหน้า ที่ส่งผลให้ผิวดูยกกระชับและอ่อนเยาว์มากขึ้น จึงมีความปลอดภัยสูงและไม่ทำร้ายผิวหนังบริเวณชั้นนอก (เพราะไม่ใช่ laser และไม่ใช่คลื่นแสง) อีกทั้งคลื่นเสียงนี้ไม่เป็นอันตรายต่อสายตา จึงสามารถช่วยเน้นที่บริเวณใต้ตาและรอบดวงตาได้โดยตรง

Hifu เป็นคลื่นลักษณะเดียวกับการตรวจครรภ์

Hifu เป็นคลื่นเสียงที่มีความปลอดภัยสูง เป็นคลื่นลักษณะเดียวกับการตรวจครรภ์


2. อายุไม่ถึง 25 ปีทำ Hifu จะมีผลเสียอย่างไร ?

เมื่ออายุเกิน 20 ปีใบหน้าทุกคน 90% จะเริ่มหย่อนลง Elastin เริ่มยืดออก ทำให้เริ่มมีร่องใต้ตา ร่องแก้ม และถ้าปล่อยให้ยืดออกเรื่อยๆ ผิวหน้าจะเริ่มหย่อนลงแบบทวีคูณ (เปรียบเทียบคล้ายๆการที่เราต้องใส่ยกทรงเพื่อไม่ให้หน้าอกหย่อน ก็ควรเริ่มใส่ตั้งแต่วัยรุ่น) เราควรทำให้ใบหน้าของเรากระชับอยู่ตลอดเวลา ตั้งแต่อายุน้อย ๆ

ในคนที่เริ่มทำ Hifu Macrofocus ตั้งแต่อายุน้อย จะสามารถช่วยป้องกันไม่ให้เกิดร่องใต้ตา ร่องแก้ม ร่องมุมปาก ซึ่งถ้ามีร่องพวกนี้เกิดขึ้น จะทำให้ดูโทรม ดูแก่ และมีอายุครับ โดยอายุ 20 กว่า ๆ ก็สามารถเริ่มทำได้แล้วครับ

อีกทั้งยังเหมาะกับผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้เรียวสวยโดยไม่ต้องพึ่งการผ่าตัด รวมถึงการยกกระชับใบหน้าหรือยกแนวคิ้วให้ขึ้น และผู้ที่ต้องการลดเลือนริ้วรอย ลดปัญหาผิวหน้าหมองคล้ำ รูขุมขนกว้าง ลดเหนียงใต้คางหรือลดคางสองชั้น

กลไกการหย่อนคล้อยของใบหน้า

ผิวหน้าทุกคนจะเริ่มหย่อนลงตามอายุจากทั้งการยุบของกระดูกและเนื้อ หากปล่อยไว้ไม่ทำให้กระชับก็จะหย่อนเพิ่มขึ้นแบบทวีคูณ


3. ควรเลือกทำ Hifu ที่ไหนดี คลินิกไหนดี ระวังการโฆษณา Hifu ที่เกินจริง ของคลินิกต่าง ๆ

เรามักจะเห็นจากโฆษณาหลาย ๆ ที่ว่า การทำ Hifu/Ulthera เห็นผลทันทีและไม่เจ็บ ซึ่งไม่เป็นความจริงเลย การทำ Hifu ที่ได้ประสิทธิภาพนั่น ขณะทำต้องมีความรู้สึกปวดๆตึงๆบริเวณใต้ชั้นผิวแสดงถึงการยิงคลื่นเสียงเข้าถึงชั้นเยื่อหุ้มกล้ามเนื้อ (SMAS) เพื่อความยกกระชับ และผลการทำ Hifu Macrofocus จะอยู่ได้ 5-6 เดือนเท่านั้น และสามารถมีระยะเวลาถึง 1 ปี แต่ต้องแลกมาด้วยความเจ็บที่เพิ่มขึ้นกว่าเดิม Hifu/Ulthera จึงมักมีฉายาว่า ยิ่งเจ็บ ยิ่งสวย

ที่บางคลินิกโฆษณาว่าไม่เจ็บ จะเป็นเพราะเครื่องที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือการปรับพลังงานที่ไม่สูงผล ผลที่ได้จะน้อยลง และระยะเวลาอยู่ได้สั้นลงครับ

บางคลินิก พนักงานเซลล์เมื่อเจอเคสที่ใต้ตาหรือร่องแก้มลึก ๆ ก็ยังแนะนำ Hifu / Ulthera ว่าสามารถแก้ไขร่องพวกนี้ได้อย่างชัดเจน เพราะราคาแพงกว่าฟิลเลอร์ได้ค่าคอมมิชชั่นเยอะกว่า ซึ่งในความจริงแล้ว ถ้าร่องลึกมากๆควรทำฟิลเลอร์ จะเป็นการแก้ปัญหาได้ตรงจุด เห็นผลชัดเจนทันทีและประหยัดเงินมากกว่าครับ

ในทางทฤษฎี Textbook แนะนำให้ทำ Hifu ก่อนการทำฟิลเลอร์แต่ในทางปฎิบัติ การจ่ายเงิน 2-3 หมื่นบาท เพื่อทำ Hifu ก่อน และได้ผลการรักษา แค่ 10-20% จากที่วางแผนไว้ คนไข้รับไม่ได้ครับ (คือจ่ายแพงแต่ได้ผลน้อย) คนไข้ส่วนใหญ่พอใจกับการทำ ฟิลเลอร์ใต้ตา หรือ ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ก่อน เพราะได้ผลก่อน 80-90% ในจำนวนเงินที่จ่าย 2-3 หมื่นบาท เท่ากัน แล้วถ้ามีงบเหลือ ค่อยแนะนำให้ทำ Hifu เพื่อเก็บรายละเอียดครับ

Hifu สามารถใช้เก็บรายละเอียดในเคสที่เติมฟิลเลอร์แล้วได้ครับ ถ้าฉีดฟิลเลอร์ด้วยเทคนิคที่ถูกต้องในชั้นเยื่อหุ้มกระดูกและหมอมีความชำนาญในการยิง Hifu ก็จะไม่ทำให้ฟิลเลอร์ละลายครับ

แต่ในเคสที่กลัวการฉีด ก็สามารถเริ่มต้นด้วยการทำ Ultra Hifu / Ulthera ได้ครับ เมื่อทำต่อเนื่อง ก็สามารถได้ผลใกล้เคียงฟิลเลอร์แต่ต้องทำหลายครั้ง และใช้งบประมาณสูงครับ

ควรเลือกทำ Hifu ที่ไหนดี คลินิกไหนดี มีปัจจัยที่ต้องพิจารณาตามลำดับความสำคัญดังนี้

  1. ยี่ห้อเครื่อง Hifu (สำคัญที่สุด) การทำ Hifu จะได้ผลดีเห็นการเปลี่ยนแปลงชัดเจนและอยู่ได้นานนั้น ขึ้นกับคุณภาพของเครื่องที่ใช้เป็นหลักนะครับ

ข้อเสียของเครื่องเกรดต่ำ

  • พลังงานจะไม่คงที่บางไลน์แรงมาก บางไลน์เบามาก หมอจึงไม่กล้าใช้พลังงานสูง เพราะไลน์ที่แรงเกินไปอาจจะทำให้ผิวไหม้หน้าบวมและอาจโดนเส้นประสาทและทำให้หน้าเบี้ยวได้ การที่หมอใช้พลังงานต่ำลงทำให้ยิงแล้วไม่เจ็บ อาจเห็นผลบ้างแต่ก็จะอยู่ได้ไม่นาน
  • จุดของพลังงานจะไม่ Focus บางจุดร้อนตรงกลาง บางจุดไม่ร้อน ไม่มีความสม่ำเสมอ ทำให้เห็นผลน้อยลง
  • รอบประมวลผลในการปล่อยพลังงานต่ำใช้เวลาในการยิงนานขึ้น จะเจ็บมากขึ้นโดยที่ได้ผลเท่าเดิม
  • ใน 1 หัวยิง สมมุติว่ามี 20,000 line ไลน์ที่ยิงออกมาแรก ๆ จะพลังงานสูงไลน์ท้าย ๆ พลังงานจะต่ำลงทำให้ได้ผลน้อยลง
  1. ราคา จะเห็นว่าแต่ละคลินิกมีการตั้งราคา Hifu แตกต่างกัน ก็ต้องย้อนกลับไปดูยี่ห้อเครื่องที่ใช้ครับว่าเป็นเกรดไหน โดยเฉพาะกรณีไม่จำกัด line ก็ต้องถามรายละเอียดเงื่อนไขให้ดี เพราะอย่างที่อธิบายไปแล้วว่าเครื่องเกรดดีๆ ย่อมมีต้นทุนหัวยิงและต้องเปลี่ยนหัวเมื่อไลน์หมด การทำ Hifu บุฟเฟ่ อาจโดนจำกัดด้วยเงื่อนไขต่าง ๆ ดังนี้
  • จะอ้างว่าหมอจะเป็นผู้พิจารณาเท่านั้นว่าควรใช้กี่ line คนไข้ไม่มีสิทธิ์เลือก
  • หมออาจจะเกี่ยงว่าถ้ายิงเยอะกว่านี้หน้าจะบวม ผิวจะไหม้ แก้มจะตอบ หรืออาจจะบอกว่ายิงให้แค่เห็นการเปลี่ยนแปลง
  • การนับ line hifu จะยิงออกมา line ละประมาณ 15-25 จุด ซึ่งบางคลินิกจะนับ 1 จุด = 1 line อันนี้ก็ควรระวังครับ
  1. แพทย์ผู้ทำ ข้อนี้มีผลไม่มากครับ เพราะการทำ Hifu มีรูปแบบการยิงที่ชัดเจน ถึงแม้จะมีเทคนิคพิเศษบ้างในบางจุดเช่น ถุงใต้ตา แก้หนังตาตก ยกมุมปาก แต่ก็เป็นเทคนิคที่ไม่ซับซ้อนเท่าการทำ โบท็อก ฟิลเลอร์ ร้อยไหมครับ
  2. การดูแลหลังการรักษา ข้อนี้ก็สำคัญเพราะเคสส่วนมากที่ผิดหวังกับการทำ hifu เกิดจากการคาดหวังผลที่เกินจริง อาจจะเป็นเพราะคำโฆษณาจากเซลล์ หรือรูปภาพที่ผ่านการตัดต่อ ซึ่งทางที่ดีควรปรึกษาแพทย์ผู้ทำการรักษาก่อนทำ ถามให้ชัดเจนว่าจะได้ผลประมาณไหน เพราะหมอทุกคนย่อมมีจรรยาบรรณและความรับผิดชอบ

แต่บางคลินิกไม่มีการเปิดโอกาสให้คนไข้ปรึกษาหมอ ให้คุยกับเซลล์เสร็จก็เข้าห้องทำเลย หมอก็ไม่มีโอกาสอธิบายคนไข้ จึงเกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน และเกิดความผิดหวังในผลการรักษาตามมา ซึ่งในกรณีนี้ หากเป็นคลินิกที่มีความรับผิดชอบ ย่อมสามารถแก้ไขให้คนไข้พึงพอใจได้ โดยสามารถดูได้จาก รีวิวตามสื่อต่าง ๆ ที่เป็นกลางครับ


4. Hifu เห็นผลทันที จริงไหม ?

หลังทำจะเห็นผลทันทีประมาณ 20% ชั้นผิวจะหดจากความร้อนที่ Focus ลงใต้ผิว 60°C-70°C โดยไม่ทำให้ผิวชั้นบนร้อน ไม่ทำให้ผิวไหม้ หลักการคล้ายกับเนื้อที่เราวางลงบนกระทะร้อน ๆ เนื้อจะหด

ผลการทำ Hifu Macrofocus จะเห็นผลเต็มที่ในระยะ 2-3 เดือน โดยทั่วไปจะอยู่ได้ 5-6 เดือนและสามารถ มีระยะเวลาถึง 1 ปีขึ้นอยู่กับคนไข้สามารถทนเจ็บได้หรือไม่

รีวิว Hifu 600 line
รีวิว Hifu 300 line

ตัวอย่างผลการรักษาไขมันใต้คางด้วยเครื่อง Ultraformer III (Macrofocus Hifu)


5. Hifu ทั่วทั้งตัว ได้ผลทุกส่วนจริงหรือไม่ ?

สามารถยิงได้ทุกบริเวณที่เราต้องการให้กระชับขึ้นครับ โดยจะมีหัวที่ยิงหลากหลายตามระดับความลึกของผิวในบริเวณนั้น ๆ

จุดที่ยิงแล้วเห็นผลชัดเจนแยกเป็น 2 ส่วนได้แก่

ใบหน้า – เหนียง คอ ร่องมุมปาก ร่องแก้ม พวงแก้ม ใต้ตา หน้าผาก เปลือกตาบน และกรอบหน้า

ร่างกาย – ต้นแขน ต้นขา เอว หน้าท้อง และสะโพก

รีวิว Hifu ใต้ตา ร่องแก้ม 300 line
รีวิว Hifu ใต้ตา ร่องแก้ม 300 line.1

ตัวอย่างผลการรักษาไขมันใต้คางด้วยเครื่อง Ultraformer III (Macrofocus Hifu)


6. Ulthera vs Ultra-Hifu vs Hifu บุฟเฟ่ ที่ราคาถูกมาก ๆ ควรเลือกทำ Hifuที่ไหนดี ?

Ulthera เป็นเครื่อง Original ซึ่งพลังงานจะสูงกว่า Hifu Macrofocus 2 เท่าครับ ทำให้อยู่ได้นานกว่า 2 เท่าครับ แต่ก็ต้องแลกมาด้วยความเจ็บ 2 เท่าเช่นกัน ถ้ายิง Ulthera แล้วไม่เจ็บ เป็นได้ 2 กรณี

คือหมอใช้พลังงานต่ำลง หรือใช้การฉีดยาชา (ยาชาเป็นน้ำซึ่งมีความหนาแน่นต่างจากชั้นผิว จึงทำให้ความแม่นยำในการยิงลดลง) ซึ่งทั้ง 2 อย่างนี้ก็จะทำให้ผลจากการทำคลื่นเสียง Ulthera ได้ผลน้อยกว่าปกติครับ (no pain no gain)

อีกจุดเด่นนึงของเครื่อง Ulthera คือ จะมีหน้าจอเพื่อระบุความลึกของการยิง เพื่อให้ยิงพลังงานลงในชั้น SMAS ได้แม่นยำมากขึ้น

แต่ในทางปฎิบัติแล้ว แพทย์ที่ใช้เครื่อง Ulthera จะต้องละสายตามามองหน้าจอในทุก Line ที่จะยิง และต้องปรับความลึกโดยการกดมือ Line ต่อ Line ซึ่งจะใช้เวลาต่อ Line ประมาณ 5-6 วินาที เพื่อให้ได้ผลตามทฤษฎี ซึ่งในความจริง แพทย์ส่วนน้อยที่จะยอมเสียเวลามองจอในทุก Line ที่จะยิง 600-1000 Line โดยที่ต้องใช้เวลา 60-90 นาที/เคส (ทั้งทรมานสายตา และเมื่อยมาก ๆ ครับ)

ทำ hifu กับแพทย์ที่มีประสบการณ์

แพทย์ส่วนมากที่ชำนาญแล้ว จะไม่มองหน้าจอ หรือมองหน้าจอแค่บางจุด และอาศัยความชำนาญในการยิง ก็จะลดเวลาในการทำลงได้เหลือ 40-60 นาที/เคส ซึ่งถ้าแพทย์ทำ Ulthera โดยไม่มองหน้าจอแล้ว ก็แทบจะไม่แตกต่างจากการทำ Hifu Macrofocus ครับ

ซึ่งถ้าเทียบความคุ้มค่าและราคา Hifu Macrofocus จะคุ้มค่าคุ้มราคากว่าเมื่อเทียบ Line ต่อ Line

Hifu บุฟเฟ่ คืออะไร ?

ทำไมถึงราคาแตกต่างกันมาก บางที่ถูกมาก บางที่แพงมาก ในปัจจุบันจะเห็นโปรโมชั่น hifu แบบถูกมาก ๆ ตามสื่อต่างๆ เช่น 3,999 บาทไม่จำกัด line แต่ข้อเท็จจริงคือหัวที่ยิง Hifu นั้นมีต้นทุนราคาตามจำนวน line ที่ใช้ (เช่นเมื่อยิงครบ 20,000 line ก็ต้องทิ้งแล้วซื้อหัวใหม่) จึงเป็นไปไม่ได้เลยที่ราคาถูก ๆ แล้วจะได้หัวยิงที่คุณภาพดี ๆ

การที่ราคาต่ำมาก ๆ นั่นหมายถึง เกรดของเครื่องที่ด้อยลงตามราคา และหัวยิงที่พลังงานไม่คงที่ จึงเป็นสาเหตุที่ว่าทำไมหลาย ๆ คนไปทำ Hifu มาแล้วไม่เห็นผลหรือเกิดผลข้างเคียงหรืออยู่ได้ไม่นาน และเครื่อง Hifu ก็มีหลายเกรดไล่ตามลำดับ ยี่ห้อที่ดีที่สุดคือ Ulthera รองลงมาคือ Ultraformer 3 (Ultraformer เป็น Hifu ที่ดีที่สุดรองจาก Ulthera เนื่องจาก พลังงานเป็น Macrofocus และมีรอบพลังงานไวที่สุดจึงเจ็บน้อยลง ใช้พลังงานได้สูง และหัวยิงให้พลังงานคงที่), exilis, smazlift, …

ไปจนถึง Hifu เกรดต่ำลงไปอีกหลายยี่ห้อ ดังนั้นจึงควรจะหาข้อมูลก่อนทำว่าโปรโมชั่นนั้น ๆ ของคลินิกใช้เครื่องยี่ห้ออะไร คุณภาพดีไหม ที่บอกว่าไม่จำกัด line มีเงื่อนไขอย่างไร เพื่อให้ได้ผลคุ้มค่าตามราคาที่จ่าย และไม่ผิดหวัง

ตารางเปรียบเทียบราคา
Ulthera Hifu Macrofocus
300 line ราคา 29,999.- แก้ม และ เหนียง 300 line ราคา 9,900.-
500 line ราคา 49,999.- ทั่วหน้า หรือ ต้นแขน 600 line ราคา 18,000.-
1000 line ราคา 99,999.- ทั่วหน้า+คอ /ต้นขา 1,000 line ราคา 25,000.-

ราคา Hifu Buffet เครื่องยี่ห้ออื่น ๆ ที่เกรดรองลงไป ควรสอบถามยี่ห้อเครื่อง ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับยี่ห้อเครื่อง และศึกษาเงื่อนไขก่อนตัดสินใจทำ

  • ไม่จำกัด Shot 15,999.-
  • ไม่จำกัด Shot 9,900.-
  • ไม่จำกัด Shot 3,999.-
เครื่อง Hifu Ultraformer III

Ultraformer III เป็นเครื่อง Hifu ที่ดีที่สุดรองจาก Ulthera เนื่องจาก เป็นระบบ Macrofocus รอบพลังงานไวที่สุดเมื่อเทียบกับยี่ห้ออื่น ๆ ทำให้เจ็บน้อยลง สามารถใช้พลังงานได้สูงเต็มที่ และระหว่างที่ยิงพลังงานจะคงที่ ได้ผ่านการรับรองมาตรฐานจากยุโรป (ที่ V Square Clinic จะใช้เครื่องยี่ห้อนี้เป็นหลักครับ)

เครื่อง hifu ยี่ห้อ Ultraformer III ดีอย่างไร

7. สรุป ข้อดี-ข้อเสีย ของการทำ HIFU Macrofocus

Ultra Hifu เป็นวิธีที่เหมาะกับผู้ที่มีริ้วรอยน้อย ๆ ร่องใต้ตาร่องแก้มไม่ลึกมาก และไม่ต้องการฉีดฟิลเลอร์ อีกทั้งราคายังไม่แพงมาก ทำได้บ่อยครั้งและหลังการทำ Hifu ยังสามารถทำการรักษาอย่างอื่นอีกได้ ผู้ที่ทำ HIFU Macrofocus จะรู้สึกอุ่น ๆ ปวด ๆ ใต้ผิว บริเวณผิวขณะทำ ผิวจะไม่แสบร้อน

สามารถใช้ยาชาทาจะช่วยลดความเจ็บลงได้ ทำให้ผู้ที่เข้ารับการบริการสามารถดำเนินกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติหลังจากทำ เนื่องจากไม่มีบาดแผลและไม่ต้องพักฟื้นนั่นเอง

หลังการทำ HIFU Macrofocus อาจมีรอยแดงบ้างหลังการทำ และจะหายไปได้เองภายใน 1 – 2 ชั่วโมงครับ

รีวิว Hifu ย้อนวัยให้หล่อ ดูดี มีเสน่ห์แบบพี่ชาคริต ที่ V Square Clinic

รีวิว Hifu กับนิโคลเทริโอ ทำไม? จึงไว้ใจ V Square Clinic

รีวิว Hifu คุณตุ้ย ธีรภัทร์ แก้ปัญหาริ้วรอยลึก ที่ V Square Clinic


8. หัตถการที่ไม่สามารถทำร่วมกับ Hifu มีอะไรบ้าง ?

การยกกระชับใบหน้า ในแต่ละครั้งเราไม่จำเป็นต้องเลือกทำได้อย่างใดอย่างหนึ่งหรือทำแค่ Hifu อย่างเดียว แต่เราสามารถทำ Hifu ควบคู่ไปกับการฉีดโบท็อกซ์ ร้อยไหม ฟิลเลอร์ เมโสแฟต เพื่อผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น แต่ต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์ เพื่อประเมินและเรียงลำดับการทำได้อย่างถูกต้อง เห็นผลมากที่สุด และปลอดภัยมากที่สุด ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ทีมแพทย์ V Square Clinic ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง


9. วิธีการดูแลตัวเองก่อน-หลัง การทำ Hifu

วิธีการดูแลตัวเองก่อน-หลัง การทำ Hifu

ก่อนการทำ Hifu

  • ควรนอนพักผ่อนให้เพียงพอ
  • งดสูบบุหรี่หรือดื่มแอลกอฮอล์
  • รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เพราะจะช่วยในการสร้างคอลลาเจนให้กับเซลล์ใหม่ให้เป็นไปได้ด้วยดียิ่งขึ้น

หลังการทำ Hifu

  • สามารถทาครีมบำรุงผิวหน้าได้ตามปกติ แต่แนะนำให้ทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูง ๆ เสริมจากเดิมเพื่อป้องกันแสงแดด
  • หลีกเลี่ยงการออกแดดกลางแจ้งสัก 1-2 สัปดาห์ เพื่อส่งเสริมการฟื้นฟูของคอลลาเจนใต้ผิว
  • หากมีอาการเมื่อยหรือตึงผิวก็สามารถรับประทานยาแก้ปวดได้
  • ไม่ควรนวดหรือถูใบหน้าแรง ๆ
  • ไม่สูบบุหรี่หรือดื่มแอลกอฮอล์ เพราะเป็นการทำลายการสร้างคอลลาเจนที่ชั้นใต้ผิวหนัง

สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

สามารถ comment สอบถามเข้ามาด้านล่างได้เลยนะครับ หมอตอบเองครับ

บทความแนะนำ

ฟิลเลอร์ (Filler) กับโบท็อกซ์ (Botox) ต่างกันอย่างไร ? ทำพร้อมกันได้ไหม ?

Reading Time: 4 minutes - ฟิลเลอร์ คืออะไร ? - โบท็อกซ์ คืออะไร ? - ฟิลเลอร์ (Filler) กับ โบท็อกซ์ (Botox) ต่างกันอย่างไร ? - เปรียบเทียบข้อดี ข้อจำกัดของฟิลเลอร์ กับโบท็อกซ์ - เลือกฉีดฟิลเลอร์หรือโบท็อกซ์ดี แบบไหนเหมาะกับใครบ้าง ?

15 วิธี กำจัดไขมันส่วนเกิน ดูแลตัวเองเพื่อสุขภาพและรูปร่า...

Reading Time: 4 minutes - ไขมันส่วนเกิน คืออะไร? - สาเหตุการเกิดไขมันส่วนเกิน - ไขมันส่วนเกิน อันตรายไหม? - 15 วิธีกำจัดไขมันส่วนเกินแบบต่าง ๆ

โบท็อกเยอรมัน Xeomin ช่วยปรับหน้าเรียวดีไหม? มีข้อดีต่างจ...

Reading Time: 3 minutes - โบท็อกเยอรมัน Xeomin คืออะไร? - ฉีดโบท็อกเยอรมัน Xeomin ตำแหน่งไหนได้บ้าง? - ข้อดีของโบท็อกเยอรมัน Xeomin - โบท็อกเยอรมัน Xeomin แตกต่างจากยี่ห้ออื่นอย่างไร? - ขั้นตอนการฉีดโบท็อกเยอรมัน Xeomin

รีวิว CoolSculpting วิธีการสลายไขมันด้วยความเย็นเพื่อหุ่น...

Reading Time: 4 minutes มีคนอ่านบทความนี้แล้ว : 1,587 วันที่อัพเดตล่าสุด : 26 April 2024 CoolSculpting รีวิว รีวิว CoolSclupting วิธีการสลายไขมันด้วยความเย็นด้วยเครื่อง Coolsclupting เพื่อหุ่นสวย หุ่นเฟิร์ม กระชับเข้ารูป สำหรับใครที่ต้องการปรับรูปร่างและลดสัดส่วนเฉพาะจุด แบบไม่อยากผ่าตัด ไม่อยากดูดไขมัน Coolsculpting ช่วยได้ครับ แม้ไม่มีเวลาออกกำลังกาย ก็สามารถสลายไขมันสะสมได้โดยไม่ต้องเจ็บตัว Coolsculpting ช่วยลดและกระชับสัดส่วน ได้ทั้งหน้าท้องและไขมันส่วนเกินตามจุดต่างๆ เช่น ต้นแขน,ต้นขา, สะโพก,น่อง,ปีกหลังใต้วงแขน ,เหนียง รวมถึงคุณแม่หลังคลอดที่ต้องการลดและกระชับสัดส่วนก็ทำได้เช่นกันครับ สารบัญ CoolSculpting ทำไมต้องต้องเลือก Coolsculpting? Coolsculpting ทำตรงไหนได้บ้าง ผลลัพธ์หลังจากทำ Coolsculpting รีวิว Coolsculpting ลดไขมันต้นแขน | นิโคล เทริโอ รีวิว Coolsculpting ลดไขมันหน้าท้อง | แอนดี้ เขมพิมุก รีวิว Coolsculpting | […]

รวมวิธีลดแก้ม ลดเหนียง ปรับหน้าเรียวแบบเร่งด่วน แต่ละวิธี...

Reading Time: 6 minutes - วิธีลดแก้ม แบบเร่งด่วน เห็นผลตั้งแต่สัปดาห์แรก มีอะไรบ้าง? - วิธีลดแก้มแบบ ธรรมชาติ

รวมข้อมูลก่อนตัดสินใจทำ Thermage FLX คืออะไร ราคาเท่าไหร่...

Reading Time: 7 minutes - Thermage คืออะไร? - การทำงานของ Thermage - Thermage ทำตำแหน่งไหนได้บ้าง? - ความแตกต่างระหว่าง Thermage กับ RF ทั่วไป - เครื่อง Thermage มีกี่รุ่น?

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ สามารถศึกษานโยบายความเป็นส่วนตัวและจัดการความเป็นส่วนตัว ได้ที่ปุ่มตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ

บันทึกการตั้งค่า