วี สแควร์

ร้อยไหมก้างปลาแบบไหนดีที่สุด ? ไหมแต่ละชนิดแตกต่างกันอย่างไร ?

Reading Time: 4 minutes

ร้อยไหมก้างปลา

ร้อยไหมก้างปลา

ร้อยไหมก้างปลา คือ ชื่อที่หมอส่วนใหญ่ใช้เรียกการร้อยไหมเงี่ยง (barb) เพื่อดึงหน้า เป็นไหมละลายที่ใช้ในทางการแพทย์ครับ ไหมก้างปลาเป็นชื่อที่หมอไทยตั้งขึ้นมาเองเพื่อให้ง่ายต่อการอธิบายให้คนไข้เข้าใจลักษณะของเงี่ยงไหม เพราะมีลักษณะเงี่ยงคล้าย ๆ ก้างปลา

ในทางการแพทย์เงี่ยงลักษณะนี้มีชื่อเรียกว่า bidirectional barbed thread ไม่ได้เรียกว่า fishbone (ก้างปลา)

การร้อยไหมก้างปลา จะช่วยยกกระชับผิว นิยมทำเพื่อปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น แก้ไขผิวหย่อนคล้อย กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ซึ่งเส้นไหมที่ใช้จะแบ่งออกเป็นหลายชนิด แล้วแต่ลักษณะและวัสดุ ได้แก่ PDO PLLA PCL

รีวิว ร้อยไหมก้างปลา ปรับรูปหน้า

สำหรับคนที่กำลังหาข้อมูลว่า ร้อยไหมก้างปลา ไหมเงี่ยง คืออะไร เป็นแบบไหน? ร้อยไหมแบบไหนดีที่สุด? สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ในหัวข้อต่อไปนี้ครับ


ร้อยไหมมีกี่แบบ ?

นอกจากการร้อยไหมก้างปลา ก็ยังมีชื่อเรียกอื่น ๆ เช่น ไหมก้างปลา 8d ไหมเงี่ยงกุหลาบ ไหมปิรันย่า ไหมจระเข้ ไหมมังกร ไหมปากฉลาม ไหมทับทิม ไหม double-lock ไหมทอร์นาโด คือชื่อที่คนไทยตั้งขึ้นมาเรียกเอง

ซึ่งในทางการแพทย์ไหมชื่อต่าง ๆ เหล่านี้ไม่ได้มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญครับ ล้วนเป็นไหมเงี่ยง bidirectional barbed thread ทั้งสิ้น แค่ตั้งชื่อให้แตกต่างกันด้วยเหตุผลทางการค้า

ภาพเปรียบเทียบไหมก้างปลาชนิด PDO

ลักษณะไหมแบบต่างๆ

จุดที่แตกต่างกันของเส้นไหม ที่คนไข้ควรให้ความสำคัญ คือ วัสดุที่ใช้ทำเส้นไหมที่ปลอดภัย แบ่งออกเป็น 3 ชนิด ได้แก่ PDO PLLA PCL และขนาดของเส้นไหมมีหน่วยวัดสากลคือ USP2-0, USP0, USP1, USP2 ซึ่งการแบ่งวัสดุและขนาดของเส้นไหมที่เป็นสากลนี้จึงจะสามารถบ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่า ไหมชนิดนั้น ๆ คุณภาพเป็นอย่างไร อยู่ได้นานไหม ร้อยไหมกี่วันเห็นผล และดึงหน้าได้ดีแค่ไหน

อ่านบทความเพิ่มเติม หลังร้อยไหม กี่วันเห็นผล? อยู่ได้กี่ปี? มีข้อปฏิบัติตัวหลังทำอย่างไรบ้าง?

ลักษณะของไหมก้างปลาที่ดีที่สุด

ไหมก้างปลาที่ดีที่สุดควรมีคุณสมบัติดังนี้

  • วัสดุที่ใช้ทำเส้นไหมก้างปลาที่ดีที่สุด ควรจะละลายช้าอยู่ได้นาน
วัสดุที่ใช้ทำเส้นไหมก้างปลาแต่ละชนิด

วัสดุที่ใช้ ร้อยไหมก้างปลา เป็นไหมละลายที่ใช้ในทางการแพทย์ได้อย่างปลอดภัย เช่นใช้ในการผ่าตัดเย็บหัวใจ ได้แก่ PDO PLLA และ PCL ในขณะที่ไหมละลายจะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้ผิวบริเวณที่ร้อยไหมกระชับขึ้นแข็งแรงขึ้นด้วย

ตารางเปรียบเทียบไหมแต่ละประเภท
  • PDO คือ ไหมที่มีความยืดหยุ่นปานกลาง นิ่ม ไม่เปราะ เป็นไหมชนิดแรกที่นำมาใช้ในวงการเสริมความงาม และได้รับความนิยมมาก
  • PLLA คือ ไหมที่มีจุดเด่นด้านความแข็ง แต่ข้อเสียคือเปราะหักง่าย
  • PCL คือ ไหมที่มีจุดเด่นด้านความยืดหยุ่น ซึ่ง PCL รุ่นล่าสุดจะมีส่วนผสมของ PLLA ในสัดส่วนที่เหมาะสมด้วย จึงทำให้ PCL+PLLA เป็นวัสดุเส้นไหมที่ดีที่สุดในตอนนี้

ร้อยไหมก้างปลา อยู่ได้นานแค่ไหน ?

การที่เส้นไหม PCL+PLLA อยู่ได้นาน 18-24 เดือนไม่ได้แปลว่าจะพยุงผิวได้นานขนาดนั้นนะครับ ในบางเคสที่โครงสร้างผิวขาดคอลลาเจนและขาดอีลาสติน การยกพยุงจะอยู่ได้สั้นลงเพราะผิวจะหลุดออกจากเส้นไหมก่อนที่ไหมจะละลาย แต่ก็สามารถแก้ด้วยการร้อยไหมเพิ่มเข้าไปในแนวเดิม เพราะไหมที่ร้อยไปก่อนหน้านี้จะสร้างอีลาสตินขึ้นมา ทำให้การร้อยไหมในครั้งต่อ ๆ ไป ผิวจะยึดเกาะได้ดีขึ้นและอยู่ได้นานขึ้นเรื่อย ๆ ครับ

ร้อยไหมก้างปลา แต่ละชนิดแตกต่างกันอย่างไร ?

VDO นี้เป็นการสาธิต ให้ดูว่า ร้อยไหมแต่ละชนิด มีความแตกต่างกันอย่างไร ถ้าหากว่าใครคิดจะไปทำแต่ยังไม่ได้ดูคลิปนี้ ถือว่าพลาดอย่างแน่นอน

ไหมก้างปลาเส้นใหญ่ เงี่ยงใหญ่ จะละลายช้า อยู่ได้นานขึ้น

ตารางเปรียบเทียบขนาดของเส้นไหมตามหน่วยวัดสากล USP

ตารางเปรียบเทียบขนาดของเส้นไหมตามหน่วยวัดสากล USP

วิธีดูขนาดของเส้นไหมก้างปลา

วิธีดูขนาดของเส้นไหมก้างปลา เราสามารถสังเกตได้จากสีของเข็มที่ใช้ ร้อยไหมก้างปลา ตามรูปด้านบนไล่จากซ้ายไปขวาดังนี้

  • เข็มสีเทา 27G ใช้ร้อยไหมขนาด USP 5-0
  • เข็มสีส้ม 25G ใช้ร้อยไหมขนาด USP 4-0
  • เข็มสีฟ้า 23G ใช้ร้อยไหมขนาด USP 3-0
  • เข็มสีเขียว 21G ใช้ร้อยไหมขนาด USP 2-0 (คลินิกทั่วๆไปนิยมใช้เนื่องจากเข็มเล็ก ร้อยง่าย บวมช้ำน้อย ไม่ต้องใช้ความชำนาญสูงก็ทำได้ แต่ไหมจะเส้นเล็กและอยู่ได้ไม่นาน)
  • เข็มสีเหลืองอ่อน 20G ใช้ร้อยไหมขนาด USP0
  • เข็มสีน้ำตาล 19G ใช้ร้อยไหมขนาด USP1
  • เข็มสีชมพู 18G ใช้ร้อยไหมขนาด USP2 (เป็นไหมก้างปลาเส้นใหญ่ที่สุดในปัจจุบัน)
ขนาดของไหมก้างปลาแต่ละชนิด

ไหมก้างปลาในคลินิกทั่วๆไปจะมีขนาด USP 3/0 , 2/0 สังเกตได้จากสีของเข็มที่ใช้ร้อยไหมจะเป็น สีฟ้า(23G) หรือ สีเขียว (21G)

เข็มที่ใช้ร้อยไหมแต่ละชนิด

ที่ V Square Clinic หมอจะเลือกใช้ไหมก้างปลาเส้นที่ใหญ่ที่สุดตอนนี้คือ USP2 USP1 USP0 เข็มที่ใช้ร้อยไหมจะเป็นเข็มสี สีชมพู (18G) สีน้ำตาล (19G) หรือ สีเหลืองอ่อน (20G)

ไหมก้างปลา ควรความยืดหยุ่นสูง

ตามที่อธิบายในข้อ 1 PCL จะมีความยืดหยุ่นสูงที่สุด ทนต่อการขยับได้ดี ไม่เปราะและขาดง่าย PLLA จะแข็งทนต่อแรงดึงได้ดีที่สุด แต่เปราะและขาดง่ายเมื่ออยู่ในหน้าคนที่มีการขยับตลอดเวลา

ไหมก้างปลา ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน

PLLA จะสามารถกระตุ้นการสร้าง Collagen และ elastin ได้สูงที่สุด จึงนำ PLLA มาผสมในไหม PCL รุ่นล่าสุดเพื่อช่วยให้โครงสร้างผิวแข็งแรงขึ้นหลังจากที่ร้อยไหม

ตัวอย่าง ไหมก้างปลา ชนิดต่าง ๆ

ตัวอย่างไหมก้างปลาชนิดต่างๆ

ร้อยไหมก้างปลา ตัวอย่างไหมก้างปลาชนิดต่างๆ

  • เรียงจากซ้ายไปขวา
  • A.ไหมก้างปลา PDO USP 0 รุ่นมาตรฐาน
  • B.ไหมก้างปลา PDO USP 2 (เส้นใหญ่ที่สุด)
  • C.ไหมก้างปลา PCL USP 2 (เส้นใหญ่ที่สุด ดีที่สุด)
ไหมก้างปลา PDO USP2

ส่วนของเงี่ยงไหมB ถูกหลอมมาเชื่อมกันตามรอยเส้นประ ไม่ได้หลอมมาพร้อมกัน ทำให้เมื่อไหมละลาย ส่วน A กับ B จะหลุดออกจากกันก่อน จึงไม่สามารถดึงผิวไว้ได้นานกว่าไหมก้างปลาตามที่โฆษณา และในการร้อยไหมกุหลาบต้องใช้เข็มที่ขนาดใหญ่กว่ามาก จึงบวมช้ำเยอะ และราคาแพงกว่ามาก ในปัจจุบันไหมกุหลาบจึงไม่เป็นที่นิยม

ไหมกรวย silhouette เป็นวัสดุ PLLA

ไหมกรวย silhouette เป็นวัสดุ PLLA ภาพบนคือรูปที่ใช้ในการโฆษณา ภาพล่างคือรูปของเส้นไหมจริงๆ จะเห็นได้ว่ารูปโฆษณาอาจทำให้คนไข้เข้าใจผิดว่าไหมกรวยเส้นใหญ่ น่าจะดึงผิวได้ดี แต่แท้จริงแล้วไหมกรวยเส้นค่อนข้างเล็ก (USP 0) และราคาสูงมาก จึงไม่เป็นที่นิยม

ทำไมบางคนบอกว่าร้อยไหมไม่ได้ผล

เมื่อประมาณ 4-5 ปีที่แล้ว เทคนิคการ ร้อยไหมก้างปลา ยังไม่ค่อยแพร่หลาย การร้อยไหมทั่ว ๆ ไปจะใช้ไหมเรียบ (mono) เส้นเล็ก ๆ สั้น ๆ ร้อยในผิวชั้นตื้นเติมเต็มผิวคล้าย ๆ ฟิลเลอร์ ช่วยเรื่องริ้วรอย แต่ไม่สามารถดึงยกกระชับผิว ผลที่ได้จึงเกิดจากอาการบวมในช่วง 2-3 สัปดาห์แรกเท่านั้น ผลจึงไม่เป็นที่ประทับใจตามที่คาดหวังไว้จากคำโฆษณา ทำให้จึงมีคนไข้หลายคนที่เข็ดจากการร้อยไหม เพราะเคยเสียเงินจำนวนมากลองทำแล้วไม่ได้ผล

ในปัจจุบันแทบทุกคลินิกไม่มีการร้อยไหม mono เพื่อยกกระชับหน้าแล้ว หากคนที่ต้องการผลที่คล้ายๆการร้อยไหม mono ก็จะนิยมทำ Hifu เพราะอยู่ได้นานกว่าและเห็นผลชัดเจนกว่า การร้อยไหมในปัจจุบันส่วนมากจะเป็น การร้อยไหมก้างปลา แทบทั้งสิ้น จึงทำให้การร้อยไหมเริ่มกลับมาเป็นที่นิยมมากขึ้นเพราะเป็นหัตถการที่ได้ผลดีมากเมื่อเทียบกับราคาที่ไม่แพง

ภาพเปรียบเทียบไหมเรียบกับไหมก้างปลา

ภาพเปรียบเทียบไหมเรียบ(mono)เส้นบน กับไหมก้างปลา(barb)เส้นล่าง การร้อยไหมmonoในสมัยก่อนไม่ค่อยเห็นผลเนื่องจากไหมmonoไม่มีเงี่ยงที่ช่วยในการดึงผิวที่หย่อนคล้อย

ควรร้อยไหมก้างปลา กี่เส้น?

หมอจะเป็นผู้ประเมินก่อนทำทุกเคส ว่าคนไข้เคสนั้น ๆ ควรจะใช้ไหมก้างปลาข้างละกี่เส้น โดยปกติจะร้อยไหมก้างปลาข้างละ 3 - 10 เส้นครับ โดยขึ้นอยู่กับ

  1. ขนาดเนื้อแก้มของคนไข้
  2. ความแน่นของผิว
  3. จุดไหนบ้างที่คนไข้ต้องการดึง

ซึ่งหมอจะประเมินจำนวนเส้นตามความเหมาะสม แต่ถ้าหากคนไข้ต้องการให้อยู่ได้นานขึ้นกว่าปกติ ก็สามารถใช้จำนวนเส้นที่เยอะขึ้นได้ คล้ายๆ การยกของด้วยเชือกหลายๆเส้นย่อมมั่นคงแข็งแรงขึ้น อยู่ได้นานขึ้นครับ

ที่ V Square Clinic จะเลือกใช้ ไหมก้างปลา ที่ดีที่สุด เท่านั้นครับ เส้นใหญ่ที่สุด โดยมีให้เลือก 2 วัสดุคือ PDO กับ PCL

ร้อยไหมก้างปลา PDO (4-5 เดือน)

  • 8,900.- | 6 เส้น
  • 13,000.- | 10 เส้น

ร้อยไหมก้างปลา PCL (1 ปี)

  • 14,000.- | 4 เส้น
  • 18,000.- | 6 เส้น
  • 25,000.- | 10 เส้น

Mint Lift (6-8 เดือน)

  • 15,000.- | 4 เส้น
  • 25,000.- | 8 เส้น
  • 35,000.- | 12 เส้น

Tesslift Soft (8-12 เดือน)

  • 20,000.- | 4 เส้น
  • 28,000.- | 6 เส้น
  • 35,000.- | 8 เส้น

Tesslift Foxy Eye แก้ตาตก (4-5 เดือน)

  • 25,000.- | 2 เส้น
  • 40,000.- | 4 เส้น
ร้อยไหมยกหน้า

รีวิว ร้อยไหมก้างปลา

รีวิวร้อยไหมก้างปลา10เส้น

รีวิว ร้อยไหมก้างปลา 10 เส้น

รีวิวร้อยไหมก้างปลา10เส้น

รีวิว ร้อยไหมก้างปลา 10 เส้น + ฟิลเลอร์ร่องแก้ม 1 CC

รีวิวร้อยไหมก้างปลา6เส้น

รีวิว ร้อยไหมก้างปลา 6 เส้น

รีวิวร้อยไหมก้างปลา

รีวิว ร้อยไหมก้างปลา 10 เส้น + ฟิลเลอร์ใต้ตา ร่องแก้ม 2 CC

ร้อยไหมก้างปลา-10-เส้น-+ฟิลเลอร์ใต้ตา-3-CC

รีวิว ร้อยไหมก้างปลา 10 เส้น +ฟิลเลอร์ใต้ตา 3 CC

*ผลการรักษาแตกต่างกันแต่ละบุคคล

Q&A : ร้อยไหมก้างปลา

ร้อยไหมกี่วันเห็นผล ร้อยไหมก้างปลา หน้าบวมกี่วัน ?

เงี่ยงไหมที่คล้ายตะขอจะเกี่ยวดึงผิวขึ้นหลังร้อยไหมเห็นผลได้ทันที ปกติหลังร้อยไหม ในช่วง 3-4 วันแรกจะบวมมากขึ้น และหลังจากนั้นอาการบวมจะเริ่มยุบลงจนเข้าที่ใน 14 วัน แต่ถ้าหลังจาก 4 วันแล้วยังมีการบวมแดงมากขึ้น ปวดมากขึ้น ต้องรีบกลับมาพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินและรับยากินเพิ่มครับ

ด้วยเทคนิคการร้อยไหมก้างปลา ที่พัฒนามากขึ้นในปัจจุบัน ทั้งการฉีดยาชา และการใช้เข็มทู่ รวมถึงข้อปฎิบัติตัวก่อน-หลังร้อยไหมที่ถูกต้อง ทำให้เคสส่วนมากที่ร้อยไหมหน้าจะบวมไม่มาก และดีขึ้น 80% ในระยะเวลา 7-14 วัน ในภาพรีวิวในบทความนี้ ก็เป็นรูปหลังร้อยไหมทันทีเกือบทุกเคส จะเห็นว่าบวมช้ำไม่มากครับ

ร้อยไหมก้างปลาเจ็บไหม ?

ก่อนร้อยไหมก้างปลา หมอจะมีการฉีดยาชาให้ก่อนครับ เมื่อยาออกฤทธิ์แล้วจึงเริ่มทำการร้อยไหม ระหว่างร้อยก็จะไม่เจ็บ แต่จะรู้สึกถึงเส้นไหมตอนกำลังร้อยเข้าไปเป็นปกติ

ร้อยไหมก้างปลา ร้อยซ้ำได้ไหม ?

การร้อยไหมก้างปลา สามารถร้อยซ้ำได้ครับเมื่อรู้สีกว่าผิวเริ่มหย่อนคล้อยลง โดยส่วนใหญ่ก็จะอยู่ในช่วง 4-5 เดือน สำหรับไหม PDO และ 12 เดือน สำหรับไหม PCL สามารถปรึกษาหมอให้ช่วยประเมินการร้อยไหมได้ตามความเหมาะสมครับ


ร้อยไหมก้างปลาดีไหม ?

การร้อยไหมก้างปลา ดีหรือไม่ดีนั้น ขึ้นอยู่กับการเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานและแพทย์ที่มีประสบการณ์ ในการร้อยไหม สามารถวิเคราะห์ปัญหา แนะนำแนวทางในการแก้ไขได้อย่างเหมาะสม เพื่อให้คนไข้แต่ละเคสได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัย

สำหรับใครที่สนใจการร้อยไหมก้างปลา แต่ยังไม่แน่ใจว่าจะเลือกไหมแบบไหนดี ร้อยไหมอะไรดีที่สุด ต้องร้อยไหมกี่เส้น สามารถปรึกษาหมอก่อนได้ ไม่มีค่าใช้จ่ายครับ


เอกสารอ้างอิง
1. A.C. Vieira, J.C. Vieira, R.M. Guedes, A.T. Marques. EXPERIMENTAL DEGRADATION CHARACTERIZATION OF PLA-PCL, PGA-PCL, PDO AND PGA FIBRES. แหล่งข้อมูล:http://iccm-central.org/Proceedings/ICCM17proceedings/Themes/Behaviour/SUSTAIN%20GREEN%20COMP/F23.9%20Vieira.pdf 2. Silhouette Soft. thread lift. แหล่งข้อมูล:https://silhouette-soft.com/the-procedure/
3. Jake Yoon. MINT (Minimal Invasive Non-Surgical Thread). แหล่งข้อมูล:https://youtu.be/hhgQcIERo5w


สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

สามารถ comment สอบถามเข้ามาด้านล่างได้เลยนะครับ หมอตอบเองครับ

บทความแนะนำ

เลเซอร์ขนขาครั้งแรกควรรู้อะไรบ้าง ข้อดี-ข้อควรระวัง เครื่องไหนดีที่สุด ต่างจากวิธีอื่นอย่างไร ?

Reading Time: 4 minutes - วิธีการกำจัดขนขา - หลักการทำงานของ Laser ขนขา - ข้อดี - ข้อควรระวังของการ Laser ขนขา - เลเซอร์ขนขาครั้งแรกควรเตรียมตัวอย่างไร ? - ข้อควรรู้ก่อนเลเซอร์ขนขา

เลเซอร์บิกินี่ คืออะไร ? มีกี่แบบ ? ทำกี่ครั้งถึงจะเห็นผล...

Reading Time: 4 minutes - เลเซอร์บิกินี่ คืออะไร ? - เลเซอร์บิกินี่ กับ บราซิลเลี่ยน ต่างกันยังไง ? - เลเซอร์บิกินี่อันตรายไหม ? - ความเสี่ยง และผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น- หลังทำเลเซอร์บิกินี่

เลเซอร์ขนจิมิ กำจัดขนน้องสาวครั้งแรก เตรียมตัวอย่างไร ? เ...

Reading Time: 3 minutes - เลเซอร์ขนจิมิ คืออะไร ? - เลเซอร์ขนจิมิมีกี่แบบ ? แบบไหนเหมาะกับเรา ? - เลเซอร์ขนจิมิอันตรายไหม ? - เลเซอร์ขนจิมิช่วยอะไรได้บ้าง ? - ข้อดี ข้อเสียเลเซอร์ขนจิมิ มีอะไรบ้าง ?

collagen คืออะไร ? มีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างไร ?

Reading Time: 4 minutes - collagen คือ - คุณสมบัติของ collagen - ประโยชน์ของ collagen ช่วยอะไรได้บ้าง ? - collagen นำไปใช้ทำอะไรบ้าง ? - collagen มีกี่ประเภท ?

Skin Booster คืออะไร ? ดีอย่างไร ? ช่วยเรื่องอะไรบ้าง ? เ...

Reading Time: 5 minutes Skin Booster คืออะไร มีความอันตรายหรือไม่ และเหมาะสำหรับใครบ้าง ? บทความนี้หมอจะพาไปค้นหาคำตอบของคำถามเหล่านี้ ว่าสกินบูสเตอร์แต่ละตัวช่วยอะไรได้บ้าง สามารถฉีดได้ที่ตำแหน่งใดบ้าง ราคาเท่าไหร่ ฉีดอย่างไรให้คุ้มค่า ?

เลเซอร์ขนกี่ครั้งเห็นผล ? ต้องทำกี่ครั้ง ? ทำแล้วขนหายถาว...

Reading Time: 2 minutes - เลเซอร์ขนกี่ครั้งเห็นผล ? - เลเซอร์ขนทำแล้วขนหายถาวรไหม ? - เลเซอร์ขนต้องทำกี่ครั้ง ? - เลเซอร์ขนแล้วขนไม่หลุดเกิดจากอะไร ?

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ สามารถศึกษานโยบายความเป็นส่วนตัวและจัดการความเป็นส่วนตัว ได้ที่ปุ่มตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ

บันทึกการตั้งค่า