Ulthera vs Hifu ยี่ห้อต่างๆ vs Thermage เลือกทำอะไรดี
SPECTRUM OF OPTIONS FOR THE AGING FACE
Hifu ธรรมดา, Hifu Macrofocus, Ulthera, Thermage ล้วนเป็นการใช้พลังงานส่งในไปใต้ผิวเพื่อให้เกิดความร้อน 45-70°C ในช่วงระยะเวลาหนึ่งทั้งหมดโดยแตกต่างกันที่ขนาดของจุดที่ focus ในบทความนี้ หมอจะสรุปข้อแตกต่างของทั้ง 3 เครื่อง ว่าต่างกันอย่างไร และเหมาะกับใครบ้างครับ
สารบัญ Ulthera vs Hifu ยี่ห้อต่างๆ vs Thermage เลือกทำอะไรดี
Hifu ธรรมดา Hight intensity focus ultrasound
- Hifu ธรรมดา จะ focus จุดขนาดเล็ก 0.3-0.5 mm สาเหตุนึงที่ Hifu ธรรมดาไม่สามารถทำก้อนพลังงานขนาดใหญ่ได้เพราะ ประสิทธิภาพของเครื่องต่ำ เมื่อทำ focusใหญ่ การส่งค่าพลังงานจะไม่คงที่และมีความเสี่ยงที่จะทำให้ผิวไหม้ได้
Hifu Macrofocus Hight intensity focus ultrasound Macrofocus
- Hifu macrofocus เป็นจุดขนาด 0.5-1 mm จะสามารถทำจุดใหญ่ขึ้นกว่า Hifu ธรรมดาได้ โดยที่พลังงานคงที่ ตัวอย่างยี่ห้อเครื่องที่เป็น macrofocus คือ ยี่ห้อ Ultraformer III
Ulthera SPT Hight intensity focus Ultrasound
- Ulthera focus เป็นจุดขนาด 1 mm และมีหน้าจอในการดูระดับความลึกของจุดที่ยิงลงไป
Thermage Monopolar RF(Radio frequency)
- Thermage เป็นก้อนความร้อนขนาด 3-4 cm2 พลังงานจะครอบคลุมพื้นที่ได้ดีกว่าแบบจุด
ซึ่งถ้าเลือกจุดพลังงานขนาดใหญ่แล้วคนไข้ไม่สามารถทนเจ็บมาก ๆ ได้ไหว หมอก็ต้องปรับลดพลังงานลง เพื่อให้สามารถทนไหว ก็จะทำให้เนื้อเยื่อบริเวณนั้นได้รับความร้อนในระยะเวลาที่สั้นลง จึงทำให้เกิดการกระตุ้นน้อยลง และทำให้ได้ผลเรื่องการหดกระชับน้อยลง
Ulthera SPT กับ Thermage
Ulthera SPT กับ Thermage ใช้พลังงานคนละรูปแบบกันครับ อัลเทอร่า เอสพีทีจะใช้คลื่นเสียงความถี่สูง (Hight intensity focus Ultrasound) ส่วนเทอร์มาร์จจะใช้คลื่นวิทยุความถี่สูง (Monopolar RF) ทั้งสองเหมาะใช้แก้ปัญหาที่ต่างกัน โดย
- Ulthera SPT เหมาะกับผู้ที่ต้องการยกกระชับผิวหน้าให้เต่งตึงขึ้น มีไขมันน้อย สามารถช่วยแก้ปัญหาหนังตาตก ยกคิ้ว และกระชับกรอบหน้าได้ดี
- Thermage เหมาะกับผู้ที่มีไขมันเยอะ ผิวย้วย ไม่กระชับ ช่วยเกลียวเส้นใยคอลลาเจนให้แข็งแรงและทำให้ผิวแน่นขึ้น ผิวเรียบเนียนขึ้น
Ulthera SPT กับ Hifu
Ulthera SPT กับ Hifu ใช้พลังงานและกลไกในการยกกระชับผิวเหมือนกัน (คลื่นเสียงอัลตราซาวด์) ซึ่งจะช่วยในการยกกระชับผิว กระตุ้นคอลลาเจน และส่งพลังงานลงลึกได้ถึงผิวชั้น smas (ชั้นเดียวกับที่ใช้ผ่าตัดดึงหน้า)
แต่เครื่องทั้งสองจะแตกต่างกันที่ขนาดจุดโฟกัส ซึ่งส่งผลให้ประสิทธิภาพที่ได้แตกต่างกันครับ ทั้งในเรื่องของผลลัพธ์และระยะเวลา
Ulthera SPT กับ Hifu macrofocus ทำแล้วอยู่ได้นานแค่ไหน ?
เทียบระหว่าง Ulthera SPT กับ Hifu การจะยิง Ulthera SPT ให้ได้ผลลัพธ์อยู่ได้ 1 ปีนั้น สามารถทำได้ แต่ต้องแลกมาด้วยความเจ็บมาก ๆ ซึ่งถ้าถามคนไข้ที่เคยทำ Ulthera SPT ส่วนมากจะบอกว่าเจ็บมากจนต้องขอให้หมอปรับลดพลังงานลง จึงทำให้ผลอยู่ได้สั้นลง มีคนไข้จำนวนน้อยเท่านั้นที่สามารถทนเจ็บไหวเพื่อให้ผลอยู่ได้ 1 ปี
ระดับความลึกในการยิง ของหัว Ulthera SPT
- ลึก 1.5 mm สำหรับริ้วรอยผิวชั้นบน
- ลึก 3 mm สำหรับกระชับชั้นไขมัน
- ลึก 4.5 mm สำหรับยิงชั้น smas
ล่าสุด เครื่อง Hifu Ultraformer III รุ่น Topได้พัฒนาหัวยิงพิเศษ Cherry Pink ขึ้นมา เป็นหัวยิงความลึก 2.0 mm และมีการปรับลักษณะรูปทรง ให้เป็น narrow shape ที่ เล็ก เรียว บาง ทำให้สามารถแก้ปัญหาได้ตรงจุดมากขึ้น และยังมาพร้อม Technology MF2 Macro Focus Ultrasound ที่ช่วยกระตุ้นคอลลาเจน ลดริ้วรอยทั่วใบหน้า ยกคิ้ว ยกหนังตาตก แก้ปัญหาร่องแก้ม ให้พลังงานสะสมได้สูงถึง 8 เท่า ได้ผลลัพธ์ดียิ่งขึ้น เห็นผลเร็ว และเจ็บน้อยลง
ทั้งนี้ หน้าจอที่สามารถดูระดับความลึกในการยิงของ Ulthera SPT นั้นจำเป็นสำหรับการยิงหัว 4.5 mm ที่ต้องการความแม่นยำในการยิงชั้น smas เท่านั้น
ยกตัวอย่าง เช่น
Ulthera SPT 600 line ประกอบด้วย (4.5 mm = 200 line, 3 mm = 200 line, 1.5 mm = 200 line)
จะมีเพียง 200 line เท่านั้น ที่หมอจำเป็นต้องใช้หน้าจอในการดูระดับความลึก (ที่คุ้มค่าในการใช้ Ulthera ยิง) ส่วนอีก 400 line นั้น สามารถใช้ Hifu macrofocus ยิงโดยไม่ต้องมีหน้าจอดูความลึกก็ได้ผลไม่ต่างกัน
ซึ่งเมื่อเทียบกับราคา Ulthera SPT กับ Hifu
Ulthera SPT 600 line 70,000 .- กับ Hifu macrofocus 600 line 18,000 .-
จะเห็นว่า ทำ Hifu macrofocus คุ้มค่ากว่ามาก
และหมอที่มีประสบการณ์ส่วนมาก ก็จะสามารถปรับระดับความแรงในการดึงผิวและการกดมือ ร่วมกับคอยสังเกตความรู้สึกของคนไข้ระหว่างยิงหัว 4.5 mm จะปวด ๆ หน่วง ๆ ที่ชั้นกล้ามเนื้อใต้ผิว เพื่อให้หัว 4.5 mm ตรงกับชั้น smas ของคนไข้โดยที่ไม่ต้องใช้จอเพื่อดูระดับความลึก
สามารถศึกษารายละเอียดของอัลเทอร่า เอสพีทีและราคาเพิ่มเติมได้ในบทความ Ulthera ราคาเท่าไหร่? ยกกระชับใบหน้า ราคา Promotion 2024
สามารถเปรียบเทียบความแตกต่าง Ulthera SPT vs Hifu ยี่ห้อต่าง ๆ กับ Thermage ง่าย ๆ ให้เห็นภาพได้ดังนี้
- Hifu ธรรมดา เป็น เส้นหมี่ขาว ไม่เจ็บ อยู่ได้ไม่นาน
- Hifu macrofocus เป็นเส้นเล็ก เจ็บพอดีๆ ราคาคุ้มค่า
- Ulthera SPT เป็น เส้นใหญ่ ถ้าทนไหวจะอยู่ได้ 1 ปี แต่เคสส่วนมากทนเจ็บไม่ไหว พอปรับลดพลังงานก็กลายเป็นเส้นเล็ก
- Thermage เป็นลูกชิ้น เจ็บมาก ครอบคลุมทุกอณู แต่ไร้ทิศทาง ลดไขมันได้ดี ผิวเนียนนุ่ม
Ulthera SPT หรือ Hifu จะยิงความร้อน focus เป็นจุดไข่ปลาเล็กๆเรียงกันเป็นเส้นตรงใต้ผิว ซึ่งจะทำให้เกิดการหดของเนื้อเยื่อตามทิศทางของเส้นนี้ ทำให้หมอสามารถออกแบบ Vector ในการยิงได้ว่าต้องการให้เนื้อแก้มยกกระชับขึ้นในแนวไหน
สำหรับ Thermage จะยิงความร้อนเป็นก้อนขนาดใหญ่ลงใต้ผิว ทำให้เกิดการหดตัวในทุกทิศทาง ซึ่งหากต้องการให้ได้ผลเรื่องการยกกระชับด้วย ก็สามารถทำได้โดยการยิงเรียงก้อนเหล่านี้ให้เป็นเส้นตามทิศทางที่หมอต้องการจะดึง แต่ถ้าจะให้ยกกระชับเท่า Ulthera SPT หรือ Hifu นั้น พลังงานที่ใช้จะต้องสูงมาก (ปกติ Hifu/ Ulthera SPT ใช้พลังงาน 60-70°C thermage ใช้พลังงาน 40-50°C) ซึ่งไม่มีใครสามารถทนความเจ็บระดับนั้นได้ หมอจึงต้องปรับลดพลังงานในการยิง Thermage ลงในระดับที่คนไข้ทนไหว จึงไม่สามารถทำ Thermage ให้ยกกระชับได้เหมือน Ulthera SPT หรือ Hifu
ผลในการทำ Thermage ที่ได้ออกมา จึงเด่นในเรื่องของการลดเนื้อไขมันและเพิ่ม skin quality ริ้วรอย รูขุมขน มากกว่าการยกกระชับ
เมื่อผิวชั้นลึกได้รับความร้อนในอุณหภูมิที่เหมาะสม 60-70°C จะเกิดการหดกระชับรอบทิศทางตามที่แสดงในรูป ซึ่งมีงานวิจัยรับรองว่า ที่อุณหภูมิและระยะเวลาที่เหมาะสมจะสามารถกระตุ้นให้เกิดการเรียงตัวของเนื้อเยื่อและ Collagen ขึ้นมาใหม่และได้ผิวที่ยกกระชับขึ้นกว่าของเดิม
เมื่อหมอยิงจุดดังกล่าวให้เป็นเส้น จะเกิดผลรวมของการหดในแนวเส้นนั้นๆ เช่นตามรูปด้านบนหากยิงจุดเรียงในแนวนอน เนื้อเยื่อก็จะหดกระชับในแนวนอนมากกว่าแนวตั้ง ทำให้ Hifu/Ulthera SPT สามารถยกกระชับผิวในทิศทางของเส้นที่ยิงได้
Hifu Macrofocus Hight intensity focus ultrasound Macrofocus
Hifu macrofocus จะสามารถยิงเรียงเป็นเส้นเพื่อยกกระชับผิวตามแนวที่ต้องการได้
Thermage Monopolar RF (Radio frequency)
ในขณะที่ Thermage พลังงานจะอยู่ที่ 40-50°C เป็นวงกว้าง ครอบคลุมทั้งชั้นผิว ช่วยในเรื่องลดไขมัน และช่วยให้ผิวเนียนนุ่ม แต่ไม่สามารถยิงให้ผิวยกกระชับได้ดีเท่า Hifu/Ulthera SPT (ทั่วถึงแต่ทิศทางไม่ชัดเจน)
การฉีดยาชา ช่วยให้สามารถใช้พลังงานได้สูงขึ้น แต่ก็มีข้อเสียคือทำให้ความแม่นยำในการยิงลดลง เพราะยาชาที่เป็นน้ำไปรบกวนคุณสมบัติของเนื้อเยื่อ ทำให้เครื่อง Ultrasound และคลื่น RF(Radio Frequency) ขาดความแม่นยำ จึงทำให้ได้ผลน้อยกว่าปกติ
การวางยาสลบ ในการกำหนด Limit ในการใช้พลังงานหมอจะต้องดูตามความรู้สึกของคนไข้เป็นหลัก เพื่อป้องกันการเกิดความร้อนสะสมและการไหม้ของผิว ซึ่งหากคนไข้ไม่รู้สึกตัว ก็มีความเสี่ยงที่จะเกิดความร้อนสะสมมากเกินไปจนผิวไหม้ขึ้นมาได้ ตามที่เคยเป็นข่าวจากประเทศสิงคโปร์ที่ใช้การวางยาสลบในการทำ Ulthera SPT+Thermage พร้อมกัน แล้วเกิดการไหม้พองของผิวทั่วใบหน้า
ที่มาของเทคโนโลยี macrofocus
ขนาดจุดของ Ulthera SPT focus ใหญ่เกินไป เจ็บเกินไป ถ้าคนไข้ทนไม่ไหวก็จะได้ผลน้อยลง และราคาแพง
Hifu ธรรมดา ก็พลังงานไม่คงที่ เสี่ยงผิวไหม้ผิวบวม จุดเล็กเกินไป ไม่เจ็บ ได้ผลน้อยมาก อยู่ได้แค่ 2-3 เดือน
จึงเกิดการพัฒนาเป็น Hifu macrofocus ที่ขนาดจุดปานกลาง เจ็บแบบคนไข้ทนไหว พลังงานคงที่ ได้ผลเทียบเท่า Ulthera SPT แม้จะอยู่ได้ 6 เดือน แต่ก็คุ้มค่ากว่าเมื่อเทียบราคาที่ถูกกว่า Ulthera SPT หลายเท่าตัว และคนไข้จะรู้สึกสบายในการทำมากกว่า ปีนึงทำ 2 ครั้ง แต่เจ็บน้อยกว่ามาก
อ่านเพิ่มเติม : 9 ข้อ ที่ต้องระวัง ! และควรรู้ในการทำ Hifu | โดยทีมแพทย์ V Square Clinic
สรุป
- Thermage เป็นก้อนพลังงานขนาดใหญ่ ไม่มีทิศทาง เด่นในการลดชั้นไขมันที่ใบหน้า และเพิ่ม Skin Quality(ผิวเด็ก) เหมาะสำหรับคนที่ทนความเจ็บได้ในระดับสูงจึงจะคุ้มค่าการทำ
- Ulthera SPT จุด focusใหญ่เกินไป ถ้าทนเจ็บไหวจะอยู่ได้นาน 1 ปี แต่คนส่วนใหญ่ทนเจ็บไม่ไหว และราคาแพง ไม่ค่อยคุ้มค่า
- Hifu ธรรมดา จุด focus เล็ก ไม่เจ็บ เครื่องมักจะคุณภาพไม่ดี พลังงานไม่คงที่ อยู่ได้ไม่นาน ราคาถูกมาก มักจะใช้ในโปร Hifu บุฟเฟ่ห์ เนื่องจากต้นทุนต่อ line ราคาถูกมาก
- Hifu macrofocus(Ultraformer III) พัฒนาล่าสุด จุด focus ขนาดกลาง เจ็บแบบทนไหว ราคาปานกลาง เมื่อเทียบประสิทธิภาพกับราคาแล้ว Hifu macrofocus คุ้มค่าที่สุด
สามารถ comment สอบถามเข้ามาด้านล่างได้เลยนะครับ หมอตอบเองครับ
ฟิลเลอร์ (Filler) กับโบท็อกซ์ (Botox) ต่างกันอย่างไร ? ทำพร้อมกันได้ไหม ?
Reading Time: 4 minutes - ฟิลเลอร์ คืออะไร ? - โบท็อกซ์ คืออะไร ? - ฟิลเลอร์ (Filler) กับ โบท็อกซ์ (Botox) ต่างกันอย่างไร ? - เปรียบเทียบข้อดี ข้อจำกัดของฟิลเลอร์ กับโบท็อกซ์ - เลือกฉีดฟิลเลอร์หรือโบท็อกซ์ดี แบบไหนเหมาะกับใครบ้าง ?
15 วิธี กำจัดไขมันส่วนเกิน ดูแลตัวเองเพื่อสุขภาพและรูปร่า...
Reading Time: 4 minutes - ไขมันส่วนเกิน คืออะไร? - สาเหตุการเกิดไขมันส่วนเกิน - ไขมันส่วนเกิน อันตรายไหม? - 15 วิธีกำจัดไขมันส่วนเกินแบบต่าง ๆ
โบท็อกเยอรมัน Xeomin ช่วยปรับหน้าเรียวดีไหม? มีข้อดีต่างจ...
Reading Time: 3 minutes - โบท็อกเยอรมัน Xeomin คืออะไร? - ฉีดโบท็อกเยอรมัน Xeomin ตำแหน่งไหนได้บ้าง? - ข้อดีของโบท็อกเยอรมัน Xeomin - โบท็อกเยอรมัน Xeomin แตกต่างจากยี่ห้ออื่นอย่างไร? - ขั้นตอนการฉีดโบท็อกเยอรมัน Xeomin
รีวิว CoolSculpting วิธีการสลายไขมันด้วยความเย็นเพื่อหุ่น...
Reading Time: 4 minutes มีคนอ่านบทความนี้แล้ว : 1,587 วันที่อัพเดตล่าสุด : 26 April 2024 CoolSculpting รีวิว รีวิว CoolSclupting วิธีการสลายไขมันด้วยความเย็นด้วยเครื่อง Coolsclupting เพื่อหุ่นสวย หุ่นเฟิร์ม กระชับเข้ารูป สำหรับใครที่ต้องการปรับรูปร่างและลดสัดส่วนเฉพาะจุด แบบไม่อยากผ่าตัด ไม่อยากดูดไขมัน Coolsculpting ช่วยได้ครับ แม้ไม่มีเวลาออกกำลังกาย ก็สามารถสลายไขมันสะสมได้โดยไม่ต้องเจ็บตัว Coolsculpting ช่วยลดและกระชับสัดส่วน ได้ทั้งหน้าท้องและไขมันส่วนเกินตามจุดต่างๆ เช่น ต้นแขน,ต้นขา, สะโพก,น่อง,ปีกหลังใต้วงแขน ,เหนียง รวมถึงคุณแม่หลังคลอดที่ต้องการลดและกระชับสัดส่วนก็ทำได้เช่นกันครับ สารบัญ CoolSculpting ทำไมต้องต้องเลือก Coolsculpting? Coolsculpting ทำตรงไหนได้บ้าง ผลลัพธ์หลังจากทำ Coolsculpting รีวิว Coolsculpting ลดไขมันต้นแขน | นิโคล เทริโอ รีวิว Coolsculpting ลดไขมันหน้าท้อง | แอนดี้ เขมพิมุก รีวิว Coolsculpting | […]
รวมวิธีลดแก้ม ลดเหนียง ปรับหน้าเรียวแบบเร่งด่วน แต่ละวิธี...
Reading Time: 6 minutes - วิธีลดแก้ม แบบเร่งด่วน เห็นผลตั้งแต่สัปดาห์แรก มีอะไรบ้าง? - วิธีลดแก้มแบบ ธรรมชาติ
รวมข้อมูลก่อนตัดสินใจทำ Thermage FLX คืออะไร ราคาเท่าไหร่...
Reading Time: 7 minutes - Thermage คืออะไร? - การทำงานของ Thermage - Thermage ทำตำแหน่งไหนได้บ้าง? - ความแตกต่างระหว่าง Thermage กับ RF ทั่วไป - เครื่อง Thermage มีกี่รุ่น?
