ไหมละลาย
ไหมละลาย หรือการร้อยไหมละลาย คือ หัตถการความงามอย่างหนึ่งที่ช่วยในการยกกระชับหน้า แก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย โดยใช้เส้นไหมที่มีลักษณะเป็นเงี่ยง (ไหมก้างปลา) ในการร้อยเข้าไปใต้ชั้นผิวหนังแล้วดึงให้ยกขึ้น ซึ่งไหมละลาย ก็มีความแตกต่างกัน ทั้งชนิด ขนาด คุณสมบัติต่าง ๆ จะแตกต่างกันอย่างไร ? อันตรายไหม ? เห็นผลแค่ไหน ? ติดตามในบทความนี้ครับ
สารบัญ ไหมละลาย
ไหมละลายเป็นแบบไหน ?
“ ไหมละลาย ” คือ ไหมที่สามารถละลายได้เองตามธรรมชาติในร่างกายมนุษย์ (Absorbable Sutures) เป็นไหมที่ใช้ในทางการแพย์ ในการเย็บแผลผ่าตัดให้ประสานกัน
ต่อมามีการนำไหมมาใช้ในวงการเสริมความงาม เพื่อยกกระชับใบหน้า ลดริ้วรอย โดยไม่ต้องผ่าตัด เช่น ร้อยไหมปรับรูปหน้า ร้อยไหมหน้าเรียว ร้อยไหมดึงหน้า ซึ่งเห็นผลได้ชัดเจนในกลุ่มคนที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยมาก ๆ ราคาไม่แพง จึงถือว่าเป็นหนึ่งในหัตถการที่คนจะนึกถึงเมื่อพูดถึงการเสริมความงาม
ไหมละลาย VS ไหมไม่ละลาย ต่างกันอย่างไร ?
ไหมเย็บแผลแบ่งเป็น 2 รูปแบบ คือ ไหมละลาย กับไหมไม่ละลาย ซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการใช้งานต่างกันครับ โดยไหมที่นำมาใช้ในคลินิกเสริมความงามเพื่อการยกกระชับ จะเป็นชนิดละลายเท่านั้น
ปัจจุบันไหมละลายได้การรับรองจาก อย.ประเทศไทย และ FDA จากอเมริกา ด้านความปลอดภัย ทำด้วยวัสดุ polydioxanone ที่ได้รับความนิยมจะเป็นไหมลักษณะที่มีเงี่ยง (barb) เหมาะสำหรับดึงผิว หรือ ที่นิยมเรียกกันว่า “ไหมก้างปลา”
ส่วนไหมไม่ละลายเป็นไหมที่ อย.ในประเทศไทยเราไม่รับรอง เป็นไหมยุคเก่า (30 ปีที่แล้ว) ก่อนที่จะมีไหมละลายครับ เป็นไหมทองคำ 99.9% (ไม่มีผลิตแล้ว) นำมาใช้ดึงหน้า แต่เกิดปัญหาตามมามากมาย เพราะตัวไหมไม่ละลาย เมื่ออยู่ไปนาน ๆ ทำให้หน้าผิดรูป และไหมเป็นโลหะจึงดูดซับความร้อน มีปัญหาเวลา x-ray
สำหรับที่ V Square Clinic จะเลือกใช้ไหมละลายก้างปลาที่ดีที่สุดเท่านั้นครับ เส้นใหญ่ที่สุด โดยมีให้เลือก 2 วัสดุคือ PDO กับ PCL
ไหมละลาย อันตรายไหม ?
ไหมละลายในปัจจุบัน จะไม่มีส่วนผสมของโลหะ สามารถละลายได้หมด 100% ตามระยะเวลา โดยไม่มีสารตกค้าง คงเหลือเพียงเส้นใย elastin ที่ร่างกายเราสร้างขึ้นมาเพื่อช่วยประคองผิว และสามารถกลับมาร้อยไหมซ้ำได้อีกโดยไม่มีผลข้างเคียง ข้อดีของการร้อยไหมคือจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าผิวมีการยกกระชับขึ้น จึงเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย
อ่านบทความเพิ่มเติม : หลังร้อยไหม กี่วันเห็นผล ? บวมกี่วัน ? อยู่ได้กี่ปี ?
ไหมละลายสีอะไร ?
ไหมละลายที่ใช้ในการร้อยไหมยกกระชับ มีทั้งสีขาวขุ่น สีใส สีน้ำเงิน ขึ้นอยู่กับวัสดุของไหม หมอจะอธิบายแยกประเภทในข้อต่อไปครับ
ไหมละลาย มีกี่แบบ ?
ไหมละลาย มี 2 ประเภท
- ไหมละลายที่ทำจากเส้นใยธรรมชาติ เช่น คอลลาเจนในลำไส้แกะหรือวัว
- ไหมละลายสังเคราะห์ ซึ่งในปัจจุบันนิยมกันเนื่องจากมีความระคายเคืองต่อเนื้อเยื่อน้อยกว่า
ส่วนไหมละลายที่ใช้ในการร้อยไหมกระชับผิว สามารถจะจำแนกตามวัสดุ และลักษณะของไหม
แบ่งตามวัสดุ
- ไหมละลาย PDO (Polydioxanone) เส้นสีน้ำเงิน ยืดหยุ่นปานกลาง นิ่ม ไม่เปราะ ขณะที่ร้อยจะไม่รู้สึกระคายเคือง เป็นไหมชนิดแรกที่ถูกนำมาใช้ในการเสริมความงาม และเป็นที่นิยมมากที่สุด
- ไหมละลาย PLLA (Polylactate) เส้นสีขาวใส ทนต่อแรงดึงได้ดีที่สุด แต่ขาดความยืดหยุ่น อาจจะพบปัญหาไหมขาด ไหมทะลุได้บ่อย ไม่เป็นที่นิยม
- ไหมละลาย PCL (Polycaprolactone) เส้นสีขาวขุ่น มีความยืดหยุ่นสูงที่สุด แข็งทนทาน ไม่เปราะหักง่าย เส้นใหญ่ที่สุด และเป็นไหมที่ดีที่สุดในปัจจุบัน
แบ่งตามลักษณะ
- ไหมเรียบ (Mono Threads) เส้นเรียบ ไม่มีเงี่ยงหรือเกลียว ใช้ร้อยเพื่อสร้างคอลลาเจน ลดริ้วรอยได้เล็กน้อย
- ไหมเงี่ยง หรือไหมก้างปลา (Barbed Threads) มีเงี่ยงเหมือนตะขอ ช่วยดึงเนื้อเยื่อได้ดี เหมาะใช้ในการยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อย
- ไหมเกลียว (Screw Threads) ใช้ไหม 1-2 เส้น พันเป็นเกลียว เพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้กับเส้นไหมในการร้อย
- ไหมกรวย (Silhouette Soft) มีลักษณะเป็นปมคล้ายกรวย ติดอยู่ที่เส้นไหมเป็นระยะ ต้องใช้เข็มใหญ่ในการร้อย และมีโอกาสบวมช้ำสูง
- ไหมมิ้นท์ (Mint Lift) เงี่ยงไหม 360 องศา 3 มิติ ยึดเกาะเนื้อเยื่อได้หลายทิศทาง เงี่ยงไหมกางชัดเจน ตัวไหมแข็งแรง เห็นผลดีในการยกกระชับหน้า ผ่าน อย.
- ไหมตาข่าย (Tesslift Soft) ไหมโครงตาข่าย 1 เส้น เทียบเท่ากับการร้อยไหม 2 เส้น ทนแรงต้านได้ดีกว่าไหมทั่วไป 80 เท่า วัสดุมีความแข็งแรง สามารถยกกะชับและพยุงผิวที่หย่อนคล้อยได้ดี ผ่านการรับรองจาก CE Approved (European Conformity)
อ่านบทความเพิ่มเติม : ร้อยไหมละลาย VS ไหมไม่ละลาย มีข้อดี-ข้อเสียต่างกันอย่างไร เลือกแบบไหนดี ?
ไหมละลาย กี่วันถึงละลาย ?
- ไหมละลาย PDO ละลายหมดภายใน 4-5 เดือน
- ไหมละลาย PDO ร้อยจมูก ละลายหมดภายใน 6-8 เดือน
- ไหมละลาย PLLA ละลายหมดภายใน 12 เดือน
- ไหมละลาย PCL ละลายหมดภายใน 12 เดือน
- ไหมละลาย PCL ร้อยจมูก ละลายหมดภายใน 1-2 ปี
- ไหมละลาย Mint Lift ละลายหมดภายใน 6-8 เดือน
- ไหมละลาย Tesslift Soft ละลายหมดภายใน 8-12 เดือน
- ไหมละลาย Tesslift Foxy Eye ละลายหมดภายใน 4-5 เดือน
ทั้งนี้อายุของไหม ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองของคนไข้ร่วมด้วยครับ โดย 3 วันแรก ไม่ควรขยับใบหน้าเยอะ ๆ และงดยิงเลเซอร์ หรือหัตถการอื่นๆ ที่ใช้ความร้อน เป็นเวลา 2 สัปดาห์ สามารถอ่านข้อแนะนำเพิ่มเติมได้ในบทความ หลังร้อยไหม มีข้อปฏิบัติ – ข้อห้าม อะไรบ้างที่ควรรู้ เพื่อช่วยให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้น
รีวิว ร้อยไหมละลาย ยกกระชับ
ก่อนทำ ในเคสนี้ มีปัญหาแก้มหย่อนไม่กระชับ มีร่องแก้มลึกและถุงใต้ตา
หลังทำทันที ร่องแก้มและถุงใต้ตาหายไป ผิวบริเวณกรอบหน้ายกกระชับขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ก่อนทำ ในเคสนี้มีปัญหาหน้าตอบ แก้มห้อยย้อย
หลังทำทันที ส่วนที่ตอบลงไปกลับมาอิ่มเอิบ แก้มยกกระชับ ใบหน้าเรียวสวยเข้ารูป
สรุป
สำหรับใครที่สนใจการร้อยไหมละลายเพื่อปรับรูปหน้า ควรศึกษาข้อมูลของไหมแต่ละแบบในเบื้องต้น และเลือกร้อยไหมกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน แพทย์มีประสบการณ์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่คุ้มค่าและปลอดภัยครับ สามารถอ่านข้อแนะนำสำหรับการเลือกคลินิกร้อยไหมได้ที่บทความ ร้อยไหมที่ไหนดี เลือกคลินิกอย่างไรให้ปลอดภัย และได้มาตรฐาน