เลเซอร์ขนหน้าอก
“เลเซอร์ขนหน้าอก” นวัตกรรมกำจัดขนบริเวณหน้าอก แผงอกอย่างถาวรด้วยเลเซอร์ ช่วยลดความยุ่งยากในการกำจัดขนด้วยตัวเอง สามารถเผยผิวบริเวณหน้าอกได้อย่างมั่นใจ
ปัจจุบันการทำเลเซอร์กำจัดขนได้รับความนิยมมากครับ และหนึ่งในปัญหาขนที่หลาย ๆ คนอยากแก้ไขคือ “ขนหน้าอก” ขนหน้าอกเกิดจากอะไร ? เลเซอร์ขนหน้าอกดีอย่างไร ? เจ็บไหม ? มีความเสี่ยงหรือไม่ ? ต้องทำกี่ครั้ง ? ทุกเรื่องที่อยากรู้ หมอมีข้อมูลมาฝากครับ
สารบัญ เลเซอร์ขนหน้าอก
เลเซอร์ขนหน้าอก คืออะไร ?
เลเซอร์ขนหน้าอก คือ วิธีการกำจัดขนบริเวณหน้าอกด้วยนวัตกรรมเลเซอร์ ที่ช่วยกำจัดขนได้ลงลึก ทำลายถึงรากขน ช่วยให้ขนลดลง บางลงและไม่งอกขึ้นมาใหม่ คนไข้ไม่ต้องเสียเวลาโกนหรือแวกซ์ให้เจ็บตัวบ่อย ๆ หรือทำให้ผิวเกิดการระคายเคือง ผิวอักเสบตามมา
การกำจัดขนหน้าอกด้วยเลเซอร์สามารถทำลายเส้นขนได้อย่างตรงจุด โดยที่ความร้อนของเลเซอร์จะไม่แพร่ไปยังบริเวณอื่นจึงมีความปลอดภัยสูงครับ
โดยทั่วไปการเลเซอร์ขนหน้าอก รวมถึงขนที่ท้องและหลัง จะนิยมทำให้ผู้ชายครับ แต่ก็มีผู้หญิงเข้ารับบริการเช่นกัน ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกครับ แต่ก็อาจเป็นสัญญาณบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับระดับฮอร์โมนของผู้หญิงได้ อาทิ ระดับฮอร์โมนเพศชายเพิ่มสูงขึ้น เกิดภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบ ในบางกรณีก็อาจเกิดขึ้นจากการตั้งครรภ์ได้อีกด้วย
ขนหน้าอกเกิดจากอะไร ?
ขนบริเวณหน้าอก เกิดขึ้นได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชายครับ เป็นเรื่องปกติ ขนสามารถเกิดขึ้นได้ทั่วร่างกาย แต่ในกรณีที่มีมากจนเกินไป ขนดก ทั้งขนแขน ขนขา ขนรักแร้ หรือขนหน้าอก ก็อาจสร้างปัญหาให้กับคนไข้ได้ โดยสาเหตุการเกิดขนดก ขนเยอะบริเวณหน้าอก จะแบ่งออกเป็น 2 สาเหตุหลัก ๆ ดังนี้
- พันธุกรรม
พันธุกรรม เป็นสาเหตุสำคัญ ที่ทำให้แต่ละคนเกิดขนหน้าอกที่ดก เยอะ หนา แตกต่างกัน พบมากในครอบครัวชาวยุโรป ที่ส่วนใหญ่จะมีขนหน้าอกที่ดกกว่าคนไทย ในกรณีของผู้หญิงที่มีปัญหาขนหน้าอกกวนใจมักมีสาเหตุมาจากพันธุกรรมครับ
- ฮอร์โมน
ฮอร์โมนเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดขนที่หน้าอก โดยมีฮอร์โมนแอนโดรเจน หรือ ฮอร์โมนเพศชายในระดับที่สูงทำให้เกิดขนขึ้นที่หน้าอกได้ จึงมักพบว่าผู้ชายจะมีขนหน้าอกมากว่าผู้หญิงครับ
ในขณะเดียวกันหากผู้หญิงมีระดับฮอร์โมนแอนโดรเจนสูง ก็จะทำให้มีปัญหาขนหน้าอก และขนบริเวณหัวนมได้เช่นกัน
ในกรณีนี้ นอกจากการกำจัดขนด้วยเลเซอร์แล้ว คนไข้ควรปรึกษาสูตินรีแพทย์ร่วมด้วย เพราะฮอร์โมนแอนโดรเจน จะส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของร่างกายด้านอื่น ๆ ด้วย เช่น ปัญหาผิวหน้ามัน ปัญหาสิว เสียงที่ทุ้มต่ำ ร่วมถึงขนบริเวณอื่น ๆ ก็ดกขึ้นด้วยเช่นกันครับ
เลเซอร์ขนหน้าอก อันตรายไหม ?
การทำเลเซอร์ขนหน้าอก ถือเป็นวิธีกำจัดขนหน้าอก ที่มีความปลอดภัยสูง ช่วยกำจัดขนหน้าอกได้อย่างเรียบเนียน เกลี้ยงเกลา ไม่เป็นอันตรายต่อผิว แต่ความปลอดภัยเหล่านี้ต้องประกอบไปด้วยการใช้เครื่องเลเซอร์ที่ได้มาตรฐาน ผ่านการรับรองความปลอดภัย และควรทำโดยแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญในการทำเลเซอร์ขนเท่านั้น เพื่อป้องกันเรื่องผิวไหม้จากอาการเบิร์นครับ
เลเซอร์ขนหน้าอกช่วยอะไรได้บ้าง ?
การทำเลเซอร์กำจัดขนหน้าอก เป็นวิธีกำจัดขนหน้าอกแบบถาวรที่ได้รับความนิยม เพราะสามารถช่วยกำจัดขนในแต่ละครั้งออกไปได้ประมาณ 20% ของเส้นขนในบริเวณที่ทำ หากทำตามคอร์สที่เหมาะสมก็จะช่วยให้เส้นขนในบริเวณดังกล่าวไม่ขึ้นอีกเป็นเวลานาน
✓ ช่วยกำจัดขนหน้าอกได้อย่างถาวร
✓ ช่วยให้ผิวบริเวณที่ทำดูเนียนขึ้น
✓ ช่วยทำให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้น
✓ ช่วยลดการหมักหมม ทำให้ผิวบริเวณหน้าอกสะอาดขึ้น จึงช่วยลดกลิ่นตัวได้
✓ ช่วยทำให้คนไข้รู้สึกมั่นใจขึ้น ดูสะอาดสะอ้านมากขึ้น
✓ ช่วยลดความยุ่งยาก หากต้องกำจัดขนด้วยเองอย่างการโกน การแวกซ์
เลเซอร์ขนหน้าอก เหมาะกับใครบ้าง ?
- ผู้ที่ต้องการกำจัดขนบริเวณหน้าอกออกไปอย่างถาวร เพราะเป็นปัญหากวนใจ
- ผู้ที่ต้องการให้ผิวบริเวณหน้าอกดูขาวเรียบเนียนน่าสัมผัส ดูสะอาดเกลี้ยงเกลา
- ผู้ที่กำจัดขนหน้าอก ด้วยวิธีการอื่น ๆ เช่น การถอน โกน แวกซ์แล้วเกิดปัญหาอื่น ๆ ตามมา เช่น ขนคุด ระคายเคือง หรือเจ็บตัว
- ผู้ที่มีปัญหากลิ่นตัว การกำจัดขนหน้าอกจะช่วยลดการสะสมของเชื้อแบคทีเรียได้
เลเซอร์ขนหน้าอกใช้เลเซอร์แบบไหน ?
เลเซอร์ขนหน้าอก สามารถใช้เครื่องเลเซอร์กำจัดขนได้หลายแบบ ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของสภาพเส้นขน รวมถึงงบประมาณของคนไข้ครับ โดยเลเซอร์ขนหน้าอกที่ได้รับความนิยมมีดังนี้
- Long-pulsed Alexandrite laser
เป็นเลเซอร์กำจัดขนที่มีช่วงความยาวคลื่นอยู่ที่ 755 nm เป็นคลื่นเลเซอร์ที่ใช้ผลึกอเล็กแซนไดร์เป็นตัวกลางในการผลิตแสงครับ เหมาะสำหรับการเลเซอร์ในบริเวณกว้าง เช่น หน้าอก ขาหรือแขน
ข้อดีของเลเซอร์รุ่นนี้คือสามารถยิงลงได้ลึกถึงรากขน และยังสามารถจับเม็ดสีได้ดี จึงสามารถกำจัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะกับคนที่มีผิวขาว ไปจนถึงสีผิวน้ำผึ้งครับ จึงเป็นที่นิยมมากในยุโรป
- YAG Laser
เป็นเลเซอร์กำจัดขนที่มีช่วงความยาวของคลื่นอยู่ที่ 1064 nm ซึ่งช่วงความยาวคลื่นที่สูง ๆ จะยิงลงลึกไปในผิวหนังชั้น ซึ่ง YAG สามารถยิงลงลึกได้ถึง 7 มิลลิเมตร ครับ ปัจจุบันได้รับความนิยมมากในประเทศไทย
ข้อดีของเลเซอร์รุ่นนี้ คือสามารถจับกับเม็ดสีของเส้นขนได้ดีมาก สามารถกำจัดเส้นขนได้อย่างเฉพาะเจาะจง เป็นเลเซอร์ที่เหมาะสำหรับคนที่มีขนสีเข้ม ๆ อย่างคนไทยครับ
- Diode Laser
เป็นเลเซอร์กำจัดขนที่มีช่วงความยาวของคลื่นค่อนข้างหลากหลายครับ สามารถปรับได้ โดยมีช่วงคลื่นความยาวอยู่ที่ 800-810, 940, 1064-1350 nm จึงสามารถกำจัดขนได้หลายตำแหน่งในร่างกาย
ข้อดีของเลเซอร์ Diode คือสามารถดูดซับเม็ดสีได้ค่อนข้างมาก และยิงได้ลงลึกถึงผิวหนังชั้นใน จึงทำให้มีความสามารถในการกำจัดขนได้ดี เหมาะสำหรับคนผิวขาว ไปจนถึงผิวสีกลาง ๆ
เลเซอร์ขนทั้ง 3 แบบที่หมอแนะนำ เป็นเลเซอร์ขนที่ได้รับความนิยมในประเทศไทยครับ สามารถเลือกใช้ได้ตามสภาพเส้นขน และสีผิวของคนไข้ได้ครับ
การเตรียมตัวก่อนเลเซอร์ขนหน้าอก
ใครที่สนใจทำเลเซอร์ขนหน้าอก ก่อนทำควรเตรียมตัวดังนี้
1. งดทาโลชั่น ในวันที่นัดหมาย
2.หลีกเลี่ยงแสงแดดโดยตรงเป็นเวลาอย่างน้อย 3 วันก่อนการนัดหมาย
3.หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 24 ชั่วโมง
4. หลีกเลี่ยงการแวกซ์ การดึงด้วยด้ายหรือแหนบอย่างน้อย 4 สัปดาห์ สามารถโกนได้ครับ
ในส่วนของการโกนขนหน้าอก ก่อนเข้ารับบริการเลเซอร์ขนหน้าอกควรโกนขนเบา ๆ ด้วยมีดโกน เพราะการทำเลเซอร์ขนจะต้องใช้ตอขนเป็นสื่อในการส่งผ่านพลังงาน ที่ไปเซลล์รากขน สามารถโกนเองหรือให้เจ้าหน้าที่ทำให้ก่อนเลเซอร์ได้ครับ
ขั้นตอนการเลเซอร์ขนหน้าอก
ขั้นตอนการทำเลเซอร์ขนหน้าอก ไม่ยุ่งยาก และใช้เวลาทำไม่นานครับประมาณ 20-30 นาที โดยมีขั้นตอนดังนี้
- ก่อนยิงเลเซอร์จะมีการโกนขน หากคนไข้จะทำเอง สามารถโกนได้ 1-2 วันก่อนเข้ารับบริการได้ครับ
- จะมีเจ้าหน้าที่ช่วยทำความสะอาดผิวบริเวณจะเลเซอร์ขน สามารถแปะยาชาได้
- ในช่วงเวลาที่ยิงเลเซอร์จะมีการใช้เจลเย็น การพ่นลมเย็น เพื่อบรรเทาอาการเจ็บ และลดการระคายเคืองผิวหนังจากการเลเซอร์ขนครับ
- ในขณะยิงเลเซอร์ขนหน้าอก คนไข้อาจรู้สึกเจ็บได้บ้าง สามารถแจ้งแพทย์หรือพนักงานให้ปรับลดค่าพลังงานลงได้ครับ
- เมื่อเลเซอร์หน้าอกเรียบร้อยแล้ว จะมีการทาเจลหรือครีมบำรุงเพื่อลดการอักเสบและการระคายเคืองจากแสงครับ
หลังเลเซอร์ขนหน้าอกดูแลตัวเองอย่างไร ?
หลังจากทำเลเซอร์ขนหน้าอก คนไข้สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่ผิวหนังบริเวณที่ทำเลเซอร์ไม่ควรโดนแดด หรืออับร้อน
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดด
- ควรทาครีมกันแดดที่มี SPF 30 PA +++ ขึ้นไป และควรใช้ต่อเนื่องในทุกวัน
- งดใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองในบริเวณที่ยิงเลเซอร์ เช่นกรดวิตามินเอ, AHA, BHA ในช่วงสัปดาห์แรกหลังทำเลเซอร์
- งดการทำสครับผิวหรือขัดผิวแรง ๆ
- ในครั้งแรก ยังมีขนขึ้นอยู่บ้าง แต่บางลง ไม่ควรโกนขนหรือแวกซ์ขนที่งอกใหม่ จนกว่าจะถึงนัดทำเลเซอร์ในครั้งถัดไปครับ
ข้อควรระวังทำเลเซอร์ขนหน้าอก
แม้ว่าการทำเลเซอร์ขนหน้าอกจะมีความปลอดภัยสูง แต่ก็มีข้อควรระวังเช่นกัน โดยเฉพาะผู้ทำการยิงเลเซอร์ให้ ควรเป็นแพทย์ หรือผู้ชำนาญเท่านั้น เพื่อให้สามารถประเมินปัญหา แนะนำเลเซอร์ที่เหมาะสม และใช้ค่าพลังงานที่เหมาะกับเส้นขนและผิวของคนไข้ เพื่อลดโอกาสเสี่ยงเกิดปัญหาผิวไหม้ตามาครับ
เลเซอร์ขนหน้าอก ราคาเท่าไหร่ ?
การทำเลเซอร์ขนหน้าอก ราคาจะขึ้นอยู่กับเครื่องเลเซอร์ที่เลือกใช้ และจำนวนครั้งในการทำเลเซอร์ ซึ่งแต่ละบุคคลอาจมีจำนวนครั้งการทำที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับลักษณะเส้นขนครับ
โปรโมชันการทำเลเซอร์ขน ที่ v square clinic
คำถามที่พบบ่อย
เลเซอร์ขนหน้าอกกี่ครั้งเห็นผล ?
การเลเซอร์ขนหน้าอก ควรทำอย่างต่อเนื่อง 1 เดือนต่อ 1 ครั้ง แนะนำ ประมาณ 4-6 ครั้งขึ้นไปเพื่อผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด หรือทำไปแล้วขนหน้าอกเหลือน้อย หรือไม่ขึ้นมา สามารถเว้นระยะในการทำเป็น 2 เดือน ต่อ 1 ครั้ง ได้ครับ
เลเซอร์ขนหน้าอกขนจะกลับขึ้นมาอีกไหม ?
การทำเลเซอร์ขนจะทำให้ขนที่ขึ้นใหม่ช้าลง เส้นขนบางลง แต่ไม่สามารถกำจัดรูขุมขนได้อย่างถาวรครับ หากทำอย่างต่อเนื่อง ระยะการเกิดขนใหม่ก็จะใช้เวลานานมากขึ้น รวมถึงเส้นขนก็จะบางลง จนแทบมองไม่เห็นครับ
เลเซอร์ขนหน้าอกเจ็บไหม ?
เจ็บเล็กน้อย เจ็บทนได้ครับ เพราะเป็นการยิงพลังงานความร้อนลงลึกเข้าไปในรากขน ขณะทำก็จะรู้สึกเจ็บจี๊ด ๆ ได้บ้าง ซึ่งในระหว่างทำจะมีการประคบเย็น การใช้เจลเย็น หรือการเป่าลมเย็นเข้าช่วย ก็จะช่วย ลดอุณหภูมิบนชั้นผิวลง ทำให้รู้สึกสบายมาก
สรุป
ใครที่มีปัญหาขนบริเวณหน้าอก การทำเลเซอร์ขนหน้าอก เป็นวิธีที่หมอแนะนำครับ เพราะช่วยให้ผลบางลง เล็กลง และขึ้นใหม่ได้ช้า จนแทบจะถาวร ที่สำคัญมีความปลอดภัยสูง หากทำโดยแพทย์ หรือผู้เชี่ยวชาญด้านการเลเซอร์ขน รวมถึงตัวเครื่องได้มาตรฐาน ก็จะช่วยให้ผลลัพธ์ออกมาดี มีประสิทธิภาพคุ้มค่ากับราคาที่จ่ายไปครับ
สามารถ comment สอบถามเข้ามาด้านล่างได้เลยนะครับ หมอตอบเองครับ