วี สแควร์

ไขข้อข้องใจ Hifu กับ Botox แตกต่างกันอย่างไร ควรเริ่มทำอะไรก่อนหลัง ?

Reading Time: 3 minutes

Hifu กับ Botox ต่างกันอย่างไร

Hifu กับ Botox ต่างกันอย่างไร ลดริ้วรอย ปรับรูปหน้าเลือกวิธีไหนได้ผลดีกว่า

Hifu กับ Botox ต่างกันอย่างไร ลดริ้วรอย ปรับรูปหน้าเลือกวิธีไหนได้ผลดีกว่า

มีริ้วรอย อยากปรับรูปหน้า ระหว่าง hifu กับ botox เลือกทำแบบไหนดี ? คนไข้มักจะเข้ามาถามหมอบ่อย ๆ ครับ เนื่องจากทั้งสองหัตถการนี้ให้ผลลัพธ์เรื่องลดริ้วรอย และปรับรูปหน้าเรียวได้เหมือนกัน ในบทความนี้หมอจะมาให้คำตอบว่าระหว่างไฮฟูกับโบท็อกอันไหนดีกว่ากัน ? และแตกต่างกันอย่างไรครับ


Hifu กับ Botox มีหลักการทำงานต่างกันอย่างไร ?

ก่อนที่เราจะตัดสินใจว่าจะเลือกทำอะไรดี เราจำเป็นต้องทำความเข้าใจในคุณสมบัติของเทคโนโลยีทั้งสองตัวก่อน ว่า hifu กับ botox มีหลักการทำงานต่างกันอย่างไร

Botox

โบท็อก (Botox) คือสารจากธรรมชาติที่มีลักษณะเป็นโปรตีนบริสุทธิ์ สกัดจากแบคทีเรีย และนำมาใช้ได้อย่างปลอดภัย หลักการทำงานของโบท็อกสามารถแยกกระบวนการออกฤทธิ์ได้ 2 ส่วน คือ

  1. ส่วนที่ถูกดูดซึมเข้าไปเก็บไว้ในเซลล์ประสาท

เป็นส่วนที่โบท็อกจะออกฤทธิ์และถ้าส่วนนี้มีความเข้มข้นสูงก็จะทำให้โบท็อกอยู่ได้นานขึ้นครับ การทำงานของโบท็อกจะไปรบกวนการทำงานของระบบประสาท ส่งผลทำให้มัดกล้ามเนื้อทำงานลดลงชั่วคราว ผิวหนังก็จะตึงขึ้น ไม่เกิดรอยพับ

  1. ส่วนที่ไม่ถูกดูดซึม

ส่วนนี้จะปลิวไปตามกระแสเลือดในระยะเวลาไม่เกิน 1 ชม. หลังฉีด และถูกขับออกไปโดยไม่ส่งผลต่อเซลล์อื่นในร่างกายครับ

หลักการทำงานของโบท็อก

สารสกัดเหล่านี้สามารถนำมาฉีดบริเวณใบหน้าเพื่อแก้ปัญหาต่าง ๆ ได้หลายจุด เช่น ฉีดเพื่อลดริ้วรอย (หางตา, ระหว่างคิ้ว, หน้าผาก) กระชับผิว ปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น

Hifu

Hifu คือ นวัตกรรมความงามที่ช่วยลดเลือนริ้วรอย ความหย่อนคล้อยและเพิ่มความกระชับให้กับบริเวณผิวหน้าและร่างกาย Hifu Macrofocus มีหลักการทำงานโดยใช้คลื่นเสียงอัลตราซาวด์ที่พัฒนามาจากการอัลตราซาวด์ดูครรภ์ทางการแพทย์

การทำงานของhifu

หัวยิงความลึก 4.5 mm ใช้กับผิวชั้น smas ที่ปกติจะใช้ผ่าตัดดึงหน้าให้กระชับ

ขั้นตอนการทำ คือ หมอจะยิงเข้าไปใต้ชั้นผิวแต่ละชั้นเพื่อทำให้ผิวชั้นนั้นหดตัวเสมือนกับการเย็บที่เนื้อ ซึ่งเป็นการดึงหน้าที่ส่งผลให้ผิวดูยกกระชับและอ่อนเยาว์มากขึ้น ไม่เป็นอันตรายต่อสายตา จึงสามารถช่วยเน้นที่บริเวณใต้ตาและรอบดวงตาได้โดยตรงครับ

ดังนั้น เป้าหมายของ Hifu จึงไปทางด้านการยกกระชับ ผิวทำให้หน้าดูเรียวและตึงขึ้น ลดเลือนริ้วรอย ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนในชั้นผิวทำให้กลับมาตึงดูอ่อนเยาว์ยิ่งขึ้น

Hifu มีหัวยิงหลายหัวครับ ให้แพทย์เลือกใช้เพื่อแก้ปัญหาริ้วรอย ความหย่อนคล้อยที่เกิดขึ้นตามระดับความลึกในแต่ละชั้นผิว

  • หัวยิงความลึก 1.5-2.0 mm ใช้กับผิวหนังชั้นบน ช่วยเรื่องริ้วรอย ร่องลึกในระดับที่ไม่ลึกมาก เช่น ริ้วรอยรอบดวงตา หว่างคิ้ว และหน้าผาก
  • หัวยิงความลึก 3.0 mm ใช้กับผิวหนังชั้นกลาง ช่วยลดไขมันและเซลลูไลท์ กระชับใบหน้า กระตุ้นคอลลาเจนบริเวณแก้ม ลดความหย่อนคล้อยของผิว
  • หัวยิงความลึก 4.5 mm ใช้กับผิวหนังชั้น SMAS ที่ปกติจะใช้ผ่าตัดดึงหน้าให้กระชับ ช่วยยกแก้ม เหนียง ลำคอ และเก็บกรอบหน้า

หัว hifu

ล่าสุด มีหัวยิงพิเศษ Cherry Pink หัวยิงความลึก 2.0 mm ที่มีการปรับรูปทรง narrow shape เล็ก เรียว บาง ทำให้สามารถแก้ปัญหาได้ตรงจุดมากขึ้น มาพร้อม Technology MF2 Macro Focus Ultrasound ช่วยกระตุ้นคอลลาเจน ลดริ้วรอยทั่วใบหน้า ยกคิ้ว ยกหนังตาตก แก้ปัญหาร่องแก้ม ให้พลังงานสะสมได้สูงถึง 8 เท่า ได้ผลลัพธ์ดียิ่งขึ้น เห็นผลเร็ว และเจ็บน้อยลง

โดยหัวยิงพิเศษ Cherry Pink จะสามารถใช้ได้กับเฉพาะเครื่อง Hifu Ultraformer III เท่านั้นครับ

จากที่กล่าวมาจะเห็นได้ว่าทั้งสองมีหลักการทำงานที่ต่างกัน แต่ให้ผลลัพธ์ที่ใกล้เคียงกัน ดังนั้นการจะเลือกทำอะไร ต้องพิจารณาที่ความต้องการของแต่ละบุคคลเป็นหลักครับ


ข้อดี-ข้อเสียของ Hifu กับ Botox มีอะไรบ้าง ?

ทั้ง Hifu กับ Botox สามารถเห็นผลลัพธ์อย่างรวดเร็ว ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้นและสามารถแต่งหน้าได้ตามปกติ แต่ก็มีข้อดีข้อเสียต่างกันอยู่บ้าง ดังนี้ครับ

ข้อดี-ข้อเสีย ของการทำ HIFU Macrofocus

ข้อดีของ Hifu คือไม่เป็นแผล ไม่มีเลือดออก ไม่ต้องใช้เข็ม แต่อาจจะมีเพียงรอยแดงที่สามารถหายได้เองภายในไม่กี่ชั่วโมง ใช้ระยะเวลาของการรักษาไม่นาน เฉลี่ยในแต่ละครั้งจะใช้เวลาประมาณ 20-60 นาที

แต่เพื่อได้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น อาจจะต้องทำการรักษาอย่างน้อย 1–2 ครั้งต่อปี เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยที่ไม่มากนัก ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มคนที่มีอายุ 25-35 ปี โดยขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคลด้วย

Hifu คืออะไร อันตรายกับผิวไหม

Hifu Macrofocus เป็นวิธีที่เหมาะกับผู้ที่มีริ้วรอยน้อย ๆ ร่องใต้ตาร่องแก้มไม่ลึกมาก และไม่ต้องการฉีดฟิลเลอร์หรือโบท็อก ทำได้บ่อยครั้งและหลังการทำ Hifu ยังสามารถทำการรักษาร่วมกับหัตถการอย่างอื่นได้

แม้ว่าจะมีราคาสูงกว่าการฉีดโบท็อก แต่หลังทำ Hifu จะเห็นผลทันทีประมาณ 20% ชั้นผิวจะหดจากความร้อนที่ Focus ลงใต้ผิว 60°C-70°C โดยไม่ทำให้ผิวชั้นบนร้อน ไม่ทำให้ผิวไหม้ ผลการทำ Hifu Macrofocus จะเห็นผลเต็มที่ในระยะ 2-3 เดือน โดยทั่วไปจะอยู่ได้ 5-6 เดือนและสามารถ มีระยะเวลาถึง 1 ปีขึ้นอยู่กับคนไข้สามารถทนเจ็บได้หรือไม่ครับ

hifu ใต้ตาร่องแก้ม-300-Line+ฟิลเลอร์ใต้ตา-2-CC+ร่องแก้ม-1-CC

ข้อดี-ข้อเสีย ของการฉีด Botox

ข้อดีของการฉีด Botox คือ สามารถแก้ไขปัญหาผิวได้หลากหลาย สามารถฉีดเพื่อคลายกล้ามเนื้อให้ริ้วรอยหายไป ไม่ว่าจะเป็นการลดขนาดกรามเพื่อทำให้หน้าเรียว ลดริ้วรอยตีนกา เส้นรอยยิ้ม ร่องแก้ม เส้นที่หน้าผากหรือริ้วรอยตรงหว่างคิ้ว ทำให้ผิวและใบหน้าดูอ่อนวัยกว่าเดิม ปรับรูปหน้าให้เล็ก เรียว และกระชับกรอบหน้าให้หน้า V-Shape

แม้ว่า Botox จะเป็นสารที่ฉีดเข้าไปในร่างกาย แต่ข้อดีของสารชนิดนี้คือสามารถสลายได้เองภายในระยะเวลา 6–12 เดือน โดยไม่มีสารตกค้างจึงไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย

รีวิวโบท็อกลดกรามและฟิลเลอร์คาง หลังทำ4สัปดาห์
โบท็อกลดกรามและฟิลเลอร์คาง หลังทำ4สัปดาห์

สำหรับข้อเสียในการฉีด Botox แตกต่างจากการทำ Hifu อยู่บ้างเพราะหลังฉีดโบท็อกอาจมีผลข้างเคียงได้ เช่น อาการปวดบวม มีรอยช้ำบริเวณที่ฉีด และแม้จะมีราคาถูกกว่าการทำ Hifu แต่ผลลัพธ์อยู่ได้ไม่นาน ต้องกลับมาทำซ้ำบ่อย ๆ ครับ

ก่อนฉีดโบท็อกควรเตรียมศึกษา วิธีสังเกตโบท็อกแท้ยี่ห้อต่าง ๆ และควรให้หมอแกะกล่องเปิดขวด ผสมโบท็อกให้ดูต่อหน้า หลังฉีดควรขอกล่องและขวดกลับบ้าน หรือถ่ายรูปเก็บไว้ตรวจสอบ เพื่อให้มั่นใจว่าฉีดโบท็อกของแท้จริง ๆ


ฉีด botox ทํา hifu ได้ไหม ?

เมื่อเคยฉีดโบท็อกมาแล้วอยากทำ Hifu ด้วยสามารถทำได้ แต่แนะนำให้รอโบท็อกออกฤทธิ์อย่างเต็มที่เสียก่อน (ประมาณ 14 วัน) เพื่อดูผลลัพธ์ และจึงค่อยตัดสินใจว่าควรทำ Hifu เสริมอีกหรือไม่ เพื่อเก็บรายละเอียดจุดบกพร่องบนใบหน้าครับ


Q&A : hifu กับ botox ต่างกันอย่างไร ?

Q : hifu กับ botox ควรทำอันไหนก่อน ?

A : เนื่องจาก hifu กับ botox จะเหมาะกับปัญหาที่แตกต่างกันครับ

การเรียงลำดับหัตถการนั้นอยู่ที่ดุลยพินิจของแพทย์ครับ เช่น คนที่ต้องการลดกราม แก้ปัญหากรามใหญ่ หมอก็จะแนะนำให้ฉีดโบท็อกลดกรามก่อน แล้วค่อยใช้ Hifu ในการยกกระชับกรอบหน้า เก็บริ้วรอยเล็ก ๆ เสริมผลลัพธ์ให้ดียิ่งขึ้น

Q : hifu กับ botox ทําพร้อมกันได้ไหม ?

A : ในเคสที่ต้องการลดกราม หน้าเรียว หมอแนะนำให้ทำโบท็อกก่อนครับ

จากนั้นเว้นช่วง 14 วัน เพื่อให้โบท็อกออกฤทธิ์ แล้วกลับมาทำ Hifu เพื่อช่วยยกกระชับได้ แต่ถ้าคนไข้ต้องการจะทำพร้อมกันทั้ง 2 หัตถการก็สามารถทำได้เช่นกันครับ

Q : hifu กับ botox ต่างกันอย่างไร ?

A : hifu กับ botox เป็นหัตถการเพื่อลดริ้วรอยและปรับรูปหน้า

ที่ใช้เทคนิคต่างกันครับ โบท็อกจะเป็นตัวยาที่รบกวนการทำงานของระบบประสาท ส่งผลให้กล้ามเนื้อทำงานลดลง ลดริ้วรอยที่เกิดจากการขยับกล้ามเนื้อได้ ส่วน Hifu เป็นการใช้คลื่นอัลตราซาวด์ยิงลงไปในชั้นผิว ช่วยให้ผิวยกกระชับขึ้นครับ

Q : hifu กับ botox อันไหนดีกว่า ?

A : ถ้าถามว่า hifu กับ botox อันไหนดีกว่ากัน คำตอบคือดีทั้งคู่ครับ

แต่จะเหมาะกับการแก้ปัญหาที่ต่างกัน ขึ้นอยู่กับว่าคนไข้ต้องการแก้ปัญหาอะไร จริง ๆ แล้วพวกริ้วรอยที่ไม่ลึกมากบริเวณหน้าผาก หางตา การฉีดโบท็อกอย่างเดียวก็เพียงพอครับ แต่ในเคสที่ดื้อโบท็อก ก็สามารถใช้ Hifu ช่วยในการลดริ้วรอยได้

รวมไปถึงความคุ้มค่าอื่น ๆ ที่ต้องพิจารณา เช่น ราคา จำนวนครั้งที่ต้องทำ ระยะเวลาผลลัพธ์จะอยู่ได้ ซึ่งต้องวิเคราะห์เป็นรายบุคคลครับ


สรุป

สำหรับคนที่ต้องการลดปัญหาริ้วรอย หรือต้องการปรับรูปหน้า ยกกระชับใบหน้า ที่ยังเลือกไม่ได้ว่า Hifu vs Botox อย่างไหนคุ้มค่าและเห็นผลดีกว่ากัน ความจริงแล้วเราไม่จำเป็นต้องเลือกทำได้อย่างใดอย่างหนึ่งหรือทำแค่ Hifu อย่างเดียว Botox อย่างเดียว แต่สามารถทำ Hifu ควบคู่ไปกับการฉีดโบท็อกได้ครับ เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น

ที่สำคัญคือต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์เท่านั้น เพื่อประเมินและเรียงลำดับการทำได้อย่างถูกต้อง เห็นผลมากที่สุด ปลอดภัยและคุ้มค่ามากที่สุด ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ทีมแพทย์ V Square Clinic ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งครับ


สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

สามารถ comment สอบถามเข้ามาด้านล่างได้เลยนะครับ หมอตอบเองครับ

บทความแนะนำ

เรตินอล คืออะไร อันตรายไหม ช่วยเรื่องอะไรได้บ้าง

Reading Time: 2 minutes - เรตินอล คืออะไร มีกี่แบบ - เรตินอล ทำงานอย่างไร - การใช้เรตินอลช่วยอะไรได้บ้าง - ข้อควรระวังการใช้เรตินอล - ถ้าไม่ใช้เรตินอล มีวิธีไหนบ้างที่จะช่วยบำรุงผิว

เลเซอร์ขนขาครั้งแรกควรรู้อะไรบ้าง ข้อดี-ข้อควรระวัง เครื่...

Reading Time: 4 minutes - วิธีการกำจัดขนขา - หลักการทำงานของ Laser ขนขา - ข้อดี - ข้อควรระวังของการ Laser ขนขา - เลเซอร์ขนขาครั้งแรกควรเตรียมตัวอย่างไร ? - ข้อควรรู้ก่อนเลเซอร์ขนขา

เลเซอร์บิกินี่ คืออะไร ? มีกี่แบบ ? ทำกี่ครั้งถึงจะเห็นผล...

Reading Time: 4 minutes - เลเซอร์บิกินี่ คืออะไร ? - เลเซอร์บิกินี่ กับ บราซิลเลี่ยน ต่างกันยังไง ? - เลเซอร์บิกินี่อันตรายไหม ? - ความเสี่ยง และผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น- หลังทำเลเซอร์บิกินี่

เลเซอร์ขนจิมิ กำจัดขนน้องสาวครั้งแรก เตรียมตัวอย่างไร ? เ...

Reading Time: 3 minutes - เลเซอร์ขนจิมิ คืออะไร ? - เลเซอร์ขนจิมิมีกี่แบบ ? แบบไหนเหมาะกับเรา ? - เลเซอร์ขนจิมิอันตรายไหม ? - เลเซอร์ขนจิมิช่วยอะไรได้บ้าง ? - ข้อดี ข้อเสียเลเซอร์ขนจิมิ มีอะไรบ้าง ?

collagen คืออะไร ? มีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างไร ?

Reading Time: 4 minutes - collagen คือ - คุณสมบัติของ collagen - ประโยชน์ของ collagen ช่วยอะไรได้บ้าง ? - collagen นำไปใช้ทำอะไรบ้าง ? - collagen มีกี่ประเภท ?

Skin Booster คืออะไร ? ดีอย่างไร ? ช่วยเรื่องอะไรบ้าง ? เ...

Reading Time: 5 minutes Skin Booster คืออะไร มีความอันตรายหรือไม่ และเหมาะสำหรับใครบ้าง ? บทความนี้หมอจะพาไปค้นหาคำตอบของคำถามเหล่านี้ ว่าสกินบูสเตอร์แต่ละตัวช่วยอะไรได้บ้าง สามารถฉีดได้ที่ตำแหน่งใดบ้าง ราคาเท่าไหร่ ฉีดอย่างไรให้คุ้มค่า ?

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ สามารถศึกษานโยบายความเป็นส่วนตัวและจัดการความเป็นส่วนตัว ได้ที่ปุ่มตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ

บันทึกการตั้งค่า