วิธีทำให้หน้าใส
ใบหน้าเรียบเนียน หน้าใสไร้สิว หมอเชื่อว่าเป็นความต้องการของหลายคนไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงครับ ในปัจจุบันจึงมีวิธีหรือสูตรหน้าใสออกมามากมาย ในบทความนี้ หมอจะแนะนำเคล็ดลับหน้าใส บำรุงรักษาผิว กระชับรูขุมขน ใช้อะไรหน้าใส ? มีวิธีไหนบ้าง ? ถ้าอยากหน้าใสแบบเป็นธรรมชาติ ห้ามพลาดครับ
สาเหตุหน้าหมองคล้ำ
ก่อนจะไปรู้จักวิธีทำให้หน้าใส บํารุงหน้าขาวแบบต่าง ๆ มาดูสาเหตุที่ทำให้หน้าหมองคล้ำกันก่อนครับ ทั้งเรื่องของอายุที่มากขึ้น การดูแลสุขภาพผิว โดยปัจจัยที่ส่งผลให้หน้าหมองคล้ำ มีดังนี้
- แสงแดด มลภาวะ สภาพอากาศ แสงแดด ถือเป็นปัจจัยแรก ๆ ที่ทำให้หน้าหมองคล้ำครับ มีทั้งรังสี UVA, UVB นอกจากนี้ยังมีมลภาวะและสภาพอากาศที่ทำร้ายเซลล์ผิว
- คอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน การอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์และสมาร์ทโฟน ถือเป็นชีวิตประจำวันของหลายคนที่ละเลยและคิดไม่ถึงครับ แต่ UVA ที่ถูกปล่อยออกมาพร้อมกับแสงหน้าจอ จะกระทบกับผิวหน้าโดยตรงและเป็นสาเหตุที่ทำให้หน้าหมองได้
- เครื่องสำอาง หากล้างเครื่องสำอางไม่สะอาด จะทำให้เกิดการอุดตันรูขุมขน และทำให้ผิวหมองคล้ำได้ครับ
- ความเครียด ความเครียดจะกระตุ้นการเกิดเม็ดสีเมลานิน ซึ่งเป็นตัวทำให้ผิวหมองคล้ำ
- การพักผ่อนไม่เพียงพอ การพักผ่อนไม่เพียงพอเป็นศัตรูตัวฉกาจของคนที่อยากหน้าใสไร้สิวเลยครับ การนอนดึก นอนน้อย ทำให้ผิวไม่ได้รับการฟื้นฟู และเสื่อมสภาพลงเร็วขึ้น ถ้าอยากหน้าขาวใส ห้ามละเลยการพักผ่อนอย่างเพียงพอเด็ดขาดครับ
20 วิธีทำให้หน้าใส ไร้สิว ลดความหมองคล้ำ
20 วิธี ทำหน้าใสไร้สิว ที่จะแนะนำต่อไปนี้ เหมาะกับปัญหาและความต้องการของแต่ละคนครับ ว่าอยากได้ผลลัพธ์แบบไหน แก้จากสาเหตุอะไร อยากหน้าขาวใสธรรมชาติ อยากหน้าขาวเร่งด่วน อยากสิวหาย หน้าเนียน ซึ่งมีทั้งสูตรธรรมชาติและตัวช่วยทางการแพทย์ครับ
- หลีกเลี่ยงการเผชิญแสงแดด
- ทาครีมกันแดดก่อนออกจากบ้านอย่างสม่ำเสมอ
- ทาครีมบำรุง
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
- การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อผิว
- ดื่มน้ำอย่างเพียงพอในแต่ละวัน
- ออกกำลังกายเป็นประจำ
- ฉีดเมโสหน้าใส ฉีดมาเด้คอลลาเจน
- ฉีดวิตามินซี
- ฉีดรีจูรัน
- ฉีดฟิลเลอร์ Skin Booster
- Pico Laser
- เลเซอร์หน้าใส IPL
- การทำโฟโน
- การทำไอออนโต
- ทรีตเมนต์
- รับประทานอาหารเสริม
- สกินแคร์ ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า
- ขัดผิวด้วยสมุนไพรที่ช่วยให้ผิวขาวใส
- เคล็ดลับหน้าใส ไร้สิว แบบธรรมชาติ
1. หลีกเลี่ยงการเผชิญแสงแดด
การดูแลผิวหน้าให้ขาวใส อย่างแรกคือหลีกเลี่ยงแสงแดดครับ ไม่ควรให้ผิวสัมผัสกับรังสี UV โดยตรง หากต้องออกไปเจอแดดแรง ควรใส่หมวกหรือกางร่มเพื่อป้องกันแสงแดด
2. ทาครีมกันแดดก่อนออกจากบ้านอย่างสม่ำเสมอ
รังสี UV ไม่ได้มีเฉพาะในแสงแดดเท่านั้น แต่รวมไปถึงโทรทัศน์ โทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ หลอดไฟ การทาครีมกันแดด ที่มีสารป้องกันรังสีอัลตราไวโอเลตอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยปกป้องผิวหน้าไม่ให้หมองคล้ำลงได้ครับ
3. ทาครีมบำรุง
ด้วยมลภาวะและการใช้ชีวิตประจำวัน อาจทำให้ผิวหน้าหมองคล้ำโดยไม่รู้ตัวครับ การทาครีมบำรุงจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น รักษาให้ผิวสุภาพดี หากอยากหน้าใสก็มีครีมบำรุงที่มีส่วนผสมของไวท์เทนนิ่ง เพื่อให้ผิวกระจ่างใสขึ้น
4. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
การพักผ่อนให้เพียงพอ เป็นต้นทุนพื้นฐานของผิวที่ดีครับ เมื่อร่างกายได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ จะส่งผลให้เซลล์มีการซ่อมแซมตัวเอง ฟื้นฟูในส่วนที่สึกหรอ ร่างกายจะรู้สึกสดชื่น ผิวพรรณเปล่งปลั่งขึ้น
5. การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อผิว
การรับประทานอาหารที่ดีก็มีส่วนช่วยทำให้หน้าใส และทำให้สุขภาพผิวดีขึ้น ซึ่งจะเป็นการดูแลจากภายใน รับประทานอาหารที่มีวิตามินเอ วิตามินอี วิตามินซี และเบตาแคโรทีนครับ หมอมีอาหารบำรุงผิว 7 ชนิด มาแนะนำครับ
- ปลาทะเล
- ผักและผลไม้
- ผลไม้ตระกูลเบอร์รี
- โยเกิร์ต
- ชาเขียว
- เต้าหู้
- สาหร่าย
6. ดื่มน้ำอย่างเพียงพอในแต่ละวัน
การจะมีผิวหน้าใส สุขภาพดี ควรดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายครับ น้ำจะช่วยให้ผิวชุ่มชื้น ไม่แห้งกร้าน ลดปัญหาสิว หน้ามัน กำจัดของเสียออกจากร่างกาย ทำให้ผิวดูเปล่งปลั่ง มีน้ำมีนวล
7. ออกกำลังกายเป็นประจำ
การออกกำลังกายสามารถทำให้ผิวดีขึ้น ทำให้หน้าใสขึ้นได้ คนที่ออกกำลังกายเป็นประจำจะมีผิวที่ยืดหยุ่นกว่าคนที่ไม่ได้ออกกำลังกายครับ ประโยชน์ของการออกกำลังกายที่ช่วยให้ผิวสุขภาพดีขึ้น มีดังนี้
- การเต้นแอโรบิกจะทำให้หัวใจสูบฉีดเลือด และลำเลียงออกซิเจนไปยังผิวหนังมากขึ้น ช่วยทำให้ผิวกระจ่างใส
- การออกกำลังกายจะช่วยควบคุมฮอร์โมนความเครียด ซึ่งหากมีมากเกินไปจะทำให้คอลลาเจนในผิวถูกทำลายครับ
- ช่วยให้ผลิตคอลลาเจนได้มากขึ้น ทำให้ผิวกระชับและมีความยืดหยุ่น
- ช่วยเรื่องการไหลเวียนของเลือด ลดสิว ขับสารพิษและสิ่งอุดตันในรูขุมขนได้
- การออกกำลังกายอย่างเหมาะสมเป็นประจำ ช่วยให้ร่างกายสามารถผลิตสารต้านอนุมูลอิสระตามธรรมชาติได้ ซึ่งจะช่วยปกป้องผิวครับ
8. ฉีดเมโสหน้าใส ฉีดมาเด้คอลลาเจน
สำหรับคนที่อยากเห็นผลแบบเร่งด่วน หมอแนะนำการฉีดเมโสหน้าใสครับ โดยการฉีดเมโส เป็นทางลัดในการนำส่วนผสมที่อยู่ในครีมบำรุงต่างๆ ฉีดเข้าสู่ชั้นผิวโดยตรง ทำให้ออกฤทธิ์และเห็นผลไวขึ้น จากที่ต้องใช้เวลาเป็นเดือน การฉีดเมโสหน้าใสสามารถเห็นผลว่าผิวดีขึ้น กระจ่างใสขึ้น ใน 1 สัปดาห์หลังฉีด และเป็นหัตถการที่ราคาไม่แพงครับ
ส่วนการฉีดมาเด้คอลลาเจนก็เหมือนกันกับการฉีดเมโสครับ เพียงแต่มาเด้เป็นชื่อยี่ห้อยาของประเทศอิตาลี ซึ่งใช้ในการฉีดเมโสหน้าใส (คำว่าเมโส มาจากคำว่า meso แปลว่าตรงกลาง หมายถึงการฉีดลงใน “ชั้นกลางของผิว”)
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับมาเด้ คอลลาเจน : ฉีดมาเด้คอลลาเจน 16 จุด คืออะไร ? ต่างจากเมโสหน้าใสอย่างไร ? ฉีดมาเด้ที่ไหนดีที่สุด ?
ที่ V Square Clinic จะฉีดมาเด้คอลลาเจน ด้วยเทคนิคพิเศษ 16 จุดทั่วใบหน้า เป็นเทคนิคการฉีดเมโสหน้าใสที่ได้ผลดี โดยที่เจ็บน้อยลงบวมช้ำน้อยลง ซึ่งอาศัยการไหลเวียนของระบบน้ำเหลืองกระจายตัวยาไปทั่วหน้าครับ
โปรแกรม เมโสหน้าใส มาเด้คอลลาเจน
Mobile
เมโสหน้าใสช่วยเรื่องอะไรบ้าง ?
- ช่วยบำรุงหน้าขาวใสขึ้น ด้วยสูตรบำรุงหน้าขาว ที่มีส่วนผสมของวิตามินต่าง ๆ เช่น vitamin ABCE, Transamin, Glutathione
- ช่วยให้หน้าใส ด้วยส่วนผสมของคอลลาเจน และโคเอนไซม์ ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว ให้ผิวฟูขึ้น กระชับรูขุมขน
- ช่วยลดสิว แก้ผื่น ลดการอักเสบ ขับสารพิษที่สะสมออก บำรุงผิวอย่างตรงจุด สำหรับคนที่อยากสิวหายหน้าเนียนขึ้น
อ่านบทความเกี่ยวกับเมโสหน้าใสที่หมอเคยเขียนไว้เพิ่มเติมได้ที่ : ฉีดเมโสหน้าใสคืออะไร? อันตรายหรือไม่? ข้อควรรู้ก่อนทำเมโสหน้าใส
9. ฉีดวิตามินซี
สำหรับการฉีดวิตามินซี เป็นวิธีทำหน้าใสที่ได้รับความนิยมมากครับ เพราะเชื่อว่าจะทำให้ผิวขาวกระจ่างใสและดูมีออร่าขึ้น การฉีดวิตามินหน้าใสที่นิยมทำกันในปัจจุบันนั้น ตัวยาที่ออกฤทธิ์หลักคือ วิตามินซี (Vitamin C) หรือที่เรียกอีกอย่างว่า กรดแอสคอร์บิก (Ascorbic acid) เป็นหนึ่งในวิตามินที่ร่างกายมีความต้องการเป็นอย่างมาก
การฉีดวิตามินซีช่วยให้หน้าใสขึ้นได้จริงครับ ส่วนความขาวที่ได้รับหลังการฉีดวิตามินซีเข้าไปเป็นผลพลอยได้ จากหลักการทำงานของวิตามินซีที่ช่วยลดการเกิดเม็ดสีเมลานิน แก้ปัญหาจุดด่างดำ เมื่อได้รับปริมาณวิตามินอย่างต่อเนื่อง ก็จะทำให้ผิวดูขาวมากขึ้น แต่ก็ไม่ได้มากจนเลยระดับผิวหนังเดิมครับ
การฉีดวิตามินซีเพื่อให้หน้าใส จะมีส่วนประกอบหลักเป็นวิตามินที่ควรหลีกเลี่ยงในหญิงตั้งครรภ์, คนไข้ป่วยเป็นโรคตับ/โรคไต, คนไข้ที่มีภาวะพร่องเอนไซม์ (G6PD Deficiency) และคนไข้ที่มีภาวะธาตุเหล็กเกิน เพราะวิตามินซีจะเข้าไปทำให้ร่างกายเกิดการดูดซึมธาตุเหล็กได้มากขึ้นอีก ทำให้เกิดความไม่สมดุลของแร่ธาตุครับ
ดังนั้นก่อนฉีดวิตามินซี ควรเลือกคลินิกที่น่าเชื่อถือ ดูแลโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ มีมาตรฐาน และใช้ของแท้ที่ปลอดภัยเท่านั้นครับ
อ่านบทความเพิ่มเติม : ฉีดวิตามินผิวขาว อันตรายไหม? ฉีดวิตามินผิวที่ไหนดี? ทำกี่ครั้งถึงเห็นผล?
10. ฉีดรีจูรัน
อยากมีผิวสุขภาพดี เรียบเนียน ดูเป็นธรรมชาติ การฉีดรีจูรัน (Rejuran) กำลังเป็นเทรนด์ที่ได้รับความนิยมในไทย เหมาะกับผู้ที่ต้องการให้ผิวสว่างกระจ่างใส ผิวดูสุขภาพดี ฉ่ำวาวแบบผิวกระจก (Glass Skin)
รีจูรัน จัดอยู่ในกลุ่มของเมโสหน้าใสครับ ช่วยปรับสภาพผิวให้ดูสดใสแบบเร่งด่วน ลดรอยแดง ลดรอยดำ รอยคล้ำ กระชับรูขุมขนกว้าง หน้าเรียบเนียนขึ้น ฟื้นฟูผิวแข็งแรงจากภายใน และยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ผิวยืดหยุ่น ลดริ้วรอยเล็ก ๆ ให้แลดูจางลง Rejuran ต้องฉีดกี่ครั้ง เห็นผลเร็วแค่ไหน ? อ่านเพิ่มเติมได้ครับ
11. ฉีดฟิลเลอร์ Skin Booster
การฉีดฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว หรือฟิลเลอร์ Skin Booster เป็นการฟื้นบำรุงผิวล้ำลึก ปรับสภาพผิวหน้าใสเรียบเนียนขึ้น ไม่ได้เน้นแก้ไขโครงสร้างใบหน้าหรือปรับรูปหน้าครับ เนื้อฟิลเลอร์เป็นไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid) หรือ HA ที่มีความบางเบา มีขนาดโมเลกุลที่เล็ก สามารถกระจายได้ในทุกชั้นผิว หลังฉีดผิวจึงชุ่มชื้น ดูอิ่มน้ำ ฉ่ำวาว หน้าใสเด้ง และยังช่วยกระชับรูขุมขน หน้าเรียบเนียน ดูอ่อนเยาว์ครับ
12. Pico Laser
Picosecond Laser หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่า Pico Laser เป็นการทำเลเซอร์หน้าใส พลังงานมีหลายระดับครับ หลัก ๆ Pico Laser จะมีคุณสมบัติในการทำลายเม็ดสีที่ผิดปกติ ปรับสภาพผิวให้หน้าใส สีผิวสม่ำเสมอ ลดริ้วรอย จุดด่างดำ รูขุมขนกว้าง รวมไปถึงแก้ปัญหาผิวไม่เรียบเนียนที่้เกิดจากหลุมสิว
ก่อนทำต้องให้หมอประเมินปัญหาและสภาพผิวก่อน เพื่อเลือกระดับพลังงานที่เหมาะสม ทำประมาณ 1-3 ครั้งจึงจะเห็นผลลัพธ์ชัดเจน ขึ้นอยู่กับปัญหา หลังทำอาจรู้สึกร้อนผิว แสบหน้า รอยแดง ผิวลอกครับ
13. เลเซอร์หน้าใส IPL
การทำ IPL จะช่วยรักษาและจัดการสิวจากต้นเหตุ โดยพลังงานแสงจากเครื่องจะยิงลึกลงไปทำลายเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิว ลดการอักเสบของสิว และสิวเกิดขึ้นน้อยลง เหมาะกับคนที่อยากทำหน้าใส ไร้สิว และทำให้หน้าเรียบเนียนขึ้นครับ
IPL สามารถแก้ปัญหาผิวอะไรได้บ้าง ?
- ลดการเกิดสิว
- รักษารอยสิว
- ช่วยให้ผิวแพ้ง่ายแข็งแรงขึ้น
- ลดริ้วรอยเล็กน้อย
- ลดความหมองคล้ำ
- แก้ปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำ
- กระตุ้นคอลลาเจน
- ช่วยกระชับรูขุมขน
14. การทำโฟโน
การทำโฟโนโฟเรซิส (Phonophoresis) หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่าโฟโน เป็นวิธีทำหน้าใส โดยการผลักตัวยาเข้าผิวหนังอย่างรวดเร็ว ผ่านคลื่นเสียง (ultrasonic wave) เชื่อว่าจะเห็นผลมากกว่าการทาครีม แต่ในปัจจุบันยังไม่มีงานวิจัยที่ออกมายืนยันว่าการทำโฟโน จะช่วยผลักวิตามินเข้าสู่ผิวได้มากกว่าการทาครีม หรือหลังทำแล้วจะได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนครับ
การทำโฟโน จะเหมาะกับคนที่ไม่ค่อยทาครีม อยากบำรุงผิวเร่งด่วน อยากหน้าขาว อยากหน้าเรียบเนียน ผิวเรียบเนียน มีรอยด่างดำ และรอยคล้ำรอบดวงตาครับ แต่ก็มีข้อควรระวังมาก ๆ คือ หากแพทย์ไม่มีประสบการณ์มากพอ ใช้คลื่นเสียงความถี่สูงมากเกินไป วางเครื่องมือในจุดเดิมนานเกินไป จะทำให้เซลล์บริเวณนั้นเกิดความเสียหายได้ครับ
15. การทำไอออนโต
การทำไอออนโต หรือ ไอออนโตฟอเรสิส (Iontophoresis) ก็เป็นวิธีทำหน้าใสโดยการผลักวิตามินเข้าสู่ผิวเช่นเดียวกัน ต่างกันที่จะใช้กระแสไฟฟ้าพลังงานต่ำในการช่วยให้ตัวยาซึมเข้าสู่ผิวครับ การทำไอออนโตจะช่วยลดปัญหาสิว ฝ้า ช่วยให้หน้าใสขึ้นและแก้ปัญหาผิวหมองคล้ำได้ครับ
แต่จากกระบวนการทำไอออนโต หลังทำจะเห็นว่าผิวแดง หรือเป็นสีชมพูชั่วคราว และต้องทำหลายครั้ง อาจจะ 2-3 ครั้ง ต่อสัปดาห์ ต่อเนื่องกัน ในระยะยาวจะส่งผลให้ผิวเกิดอาการแพ้หรือระคายเคืองได้ง่ายครับ
16. ทรีตเมนต์
การทำทรีตเมนต์เป็นการดูแลและบำรุงผิวหน้า มีหลายวิธีทั้งการใช้เครื่องพ่นละอองน้ำ การทำความสะอาดผิวหน้า การขัดหรือขจัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ การนวดหน้าเพื่อกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต และการมาสก์หน้า ซึ่งวิธีการเหล่านี้จะช่วยให้ผิวสุขภาพดีขึ้น หน้าเนียนใสขึ้น
หมอแนะนำว่าให้ใช้การทำทรีตเมนต์เป็นตัวช่วยเสริมวิธีทำหน้าใสอื่น ๆ เช่น การฉีดเมโส มาเด้คอลลาเจนหรือวิตามิน จะช่วยเสริมให้ได้ผลลัพธ์ดีขึ้นครับ
17. รับประทานอาหารเสริม
การทานอาหารเสริมไม่ได้เป็นการแก้ปัญหาผิวโดยตรงครับ แต่จะเป็นการบำรุงผิวให้แข็งแรงมากขึ้น ช่วยป้องกัน และชะลอปัญหาผิวที่จะเกิดขึ้นในระยะยาว โดยวิตามินที่นิยมทานเพื่อบำรุงผิว จะมีส่วนผสมของ สาร Antioxidant (สารต้านอนุมูลอิสระ), วิตามินซี, วิตามินอี, ไลโคปิน, คอลลาเจน และกลูตาไธโอน
18. สกินแคร์ ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า
สกินแคร์ที่ช่วยบำรุงผิวหน้า ทำให้หน้าใส หน้าขาว ลดการเกิดสิวต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการทาครีม เซรั่ม สบู่หรือโฟมล้างหน้า โดยผลิตภัณฑ์เหล่านี้ จะเน้นไปที่การบำรุงผิวและขจัดสิ่งสกปรก ให้หน้าใสไร้สิว แต่จะไม่ได้เห็นผลเร็วหรือชัดเจนเท่ากับการฉีดเมโสหน้าใสหรือวิตามินผิวครับ
19. ขัดผิวด้วยสมุนไพรที่ช่วยให้ผิวขาวใส
การขัดผิวจะช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้วออก เผยผิวกระจ่างใส เมื่อทาครีมบำรุงก็จะช่วยให้ผิวหน้ารับสารบำรุงอย่างเต็มที่ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการบำรุงด้วยวิธีอื่น ๆ สามารถทำเป็นประจำ อาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง
20. เคล็ดลับหน้าใส ไร้สิว แบบธรรมชาติ
นอกจากการใช้ตัวยาเข้ามาช่วยแล้ว ยังมีวิธีทำหน้าใสแบบธรรมชาติ สำหรับคนที่อยากหน้าขาวใส สามารถบำรุงดูแลผิวหน้าง่าย ๆ ที่บ้านครับ
- น้ำมันมะพร้าว
เคล็ดลับหน้าใสสูตรธรรมชาติโดยใช้น้ำมันมะพร้าว หลังล้างหน้าขณะที่ผิวยังเปียกหมาด ให้ใช้น้ำมันมะพร้าวหยดลงแผ่นสำลี ทาให้ทั่วใบหน้า จากนั้นให้นวดเบา ๆ พอกทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที แล้วล้างออกครับ น้ำมันมะพร้าวมีสารต้านอนุมูลอิสระ กรดลอริกและวิตามินอี จะช่วยบำรุงผิว ทำให้หน้าชุ่มชื้นและกระจ่างใสขึ้น
- น้ำผึ้งผสมโยเกิร์ต
สำหรับคนที่มีผิวคล้ำเสียจากแดด อยากหน้าขาวขึ้น ผิวเรียบเนียน อยากหน้าใสทำไง ? ให้นำน้ำผึ้งผสมกับโยเกิร์ตสูตรธรรมชาติจนเป็นเนื้อเดียวกัน พอกหน้าไว้ประมาณ 30 นาที แล้วล้างออกครับ
- กล้วยหอมผสมนมสด
คนที่มีผิวแห้ง ใบหน้าขาดความชุ่มชื้น อยากบำรุงให้หน้าใสขึ้น สามารถใช้กล้วยบด 3 ช้อนโต๊ะ ผสมกับนมสด ½ ถ้วย ทำมาพอกหน้า 10-20 นาที แล้วล้างออก จะช่วยปลอบประโลมผิว ทำบ่อยๆ จะช่วยให้ผิวนุ่มขึ้นได้ครับ
สรุปวิธีบำรุงผิวหน้าใส
วิธีต่าง ๆ ที่กล่าวมาสามารถช่วยทำให้หน้าใส หรือผิวขาวขึ้น แต่ถ้าอยากได้ผลลัพธ์เร่งด่วน รวดเร็ว หมอแนะการฉีดเมโสหน้าใสหรือมาเด้ คอลลาเจนครับ เพราะเป็นการฉีดตัวยาเข้าไปในชั้นผิวโดยตรง เห็นผลชัดเจนและรวดเร็วกว่า
ส่วนวิธีโดยทั่ว ๆ ไป เช่น การทาครีม การสครับผิว ก็สามารถทำได้เป็นประจำ จะช่วยรักษาให้ผิวหน้าใสได้นานยิ่งขึ้นครับ
ราคาเมโสหน้าใสสูตรเฉพาะที่ V Square Clinic
โปรโมชั่น เมโส หน้าใส ราคาพิเศษ
สำหรับผู้ติดตาม Line@ และมีสติกเกอร์ “น้อง ดักกี้ V Square”
- มาเด้ คอลลาเจน
ครั้งละ 2,500.- | คอร์ส 5 ครั้ง เพียง 9,900.-
- เมโสหน้าใส Filorga (Fillmed)
ครั้งละ 9,000.- | คอร์ส 5 ครั้ง 39,000.-
- เมโสหน้าใส Revs
ครั้งละ ราคา 6,000.- | คอร์ส 5 ครั้ง 25,000.-
- เมโสหน้าใส Neo Glutanex Glow / Tensonez / Alpha arbutin
ครั้งละ ราคา 3,500.- | คอร์ส 5 ครั้ง 15,000.-
สามารถ comment สอบถามเข้ามาด้านล่างได้เลยนะครับ หมอตอบเองครับ
Ulthera vs Hifu ยี่ห้อต่าง ๆ กับ Thermage เลือกทำอะไรดี ?
Reading Time: 5 minutes - ก่อนทำต้องรู้! ulthera กับ hifu ยี่ห้อต่าง ๆ มีที่มาอย่างไร ? - การทำงานของ ulthera กับ hifu ยี่ห้อต่าง ๆ และ Thermage - เปรียบเทียบความแตกต่าง Ulthera กับ Hifu ยี่ห้อต่าง ๆ และ Thermage แบบเห็นภาพชัด - ที่มาของเทคโนโลยี macrofocus - สรุป ulthera กับ hifu ยี่ห้อต่าง ๆ และ Thermage ต่างกันยังไง
ดริปวิตามินผิว กี่ครั้งเห็นผล ? รู้ข้อมูลก่อนตัดสินใจ ซื้...
Reading Time: 3 minutes - ตอบข้อสงสัย ดริปวิตามินผิว กี่ครั้งเห็นผล ? - ดริปวิตามิน เห็นผลทันทีเลยไหม ? - ระยะเวลาที่เห็นผล หลังดริปวิตามินผิว - ปัจจัยที่ส่งผลต่อระยะเวลาที่เห็นผลหลังดริปวิตามินผิว
ดริปวิตามิน ราคาเริ่มต้น 1,500 บาท คุ้มค่าไหม ต้องฉีดกี่ค...
Reading Time: 3 minutes - ดริปวิตามินคืออะไร ? - ดริปวิตามินราคาเท่าไหร่ ? - อะไรเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาดริปวิตามินผิว - ประโยชน์ของการดริปวิตามิน - ดริปวิตามินราคาถูก ๆ บุพเฟ่ต์ ดีจริงไหม ?
ลดต้นแขนให้เรียวสวย ด้วย 10 วิธีที่ทำด้วยตัวเองและการแพทย...
Reading Time: 3 minutes - ต้นแขนใหญ่ ลดไม่ลงเกิดจากอะไร ? - รวม 10 วิธีลดต้นแขน ที่ทำด้วยตัวเอง และวิธีทางการแพทย์ - สรุปลดต้นแขนวิธีไหนเร็วที่สุด
ฟิลเลอร์ขมับยี่ห้อไหนดีที่สุดในตลาด ? เปรียบเทียบทุกด้าน ...
Reading Time: 5 minutes - ฟิลเลอร์ขมับยี่ห้อไหนดี รุ่นที่นิยมใช้มีอะไรบ้าง ? - เจาะลึก! ฉีดฟิลเลอร์ขมับ แต่ละยี่ห้อแตกต่างกันอย่างไร ? - ฉีดฟิลเลอร์ขมับยี่ห้อที่ไม่คุ้นหู ราคาถูกมาก ๆ อันตรายไหม ? - เช็กก่อนฉีดฟิลเลอร์ขมับ เพื่อผลลัพธ์ที่ดี บริการที่ปลอดภัย - ฉีดฟิลเลอร์ขมับ ราคามาตรฐานอยู่ที่เท่าไหร่ ?
Ulthera ทํากี่ช็อต (Line) ในแต่ละจุด อัลเทอร่าบุฟเฟ่ต์ไม่...
Reading Time: 3 minutes - Ulthera ทํากี่ช็อต (ไลน์) ? - ทำไมการทำ Ulthera ถึงนับเป็นช็อต (ไลน์) ? - Ulthera จำนวนช็อต(ไลน์) ต่างกันอย่างไร ? - Ulthera แต่ละตำแหน่งบนใบหน้าใช้จำนวนช็อตเท่าไหร่ ? - Ulthera ยิ่งทำหลายช็อต ยิ่งเห็นผลดีจริงไหม ?