เลเซอร์รอยสิว คืออะไร ? มีกี่แบบ ? แต่ละแบบต่างกันยังไง ?ช่วยลดรอยดำ หลุมสิว ได้จริงไหม ?

Reading Time: 6 minutes
เลเซอร์รอยสิว

รอยสิวที่ทิ้งไว้แม้สิวจะหายแล้ว อาจกลายเป็นปัญหาผิวเรื้อรังไปอีกนาน

ใครที่กำลังท้อใจกับรอยดำสิว รอยแดง หรือหลุมสิวที่แก้ได้ยาก แต่งหน้าก็ไม่ปิด ใช้ครีมลดรอยสิวก็ไม่หาย หมออยากชวนให้รู้จักกับ “เลเซอร์รอยสิว” ทางลัดของคนอยากลดรอยสิวเร่งด่วนที่แพทย์ผิวหนังแนะนำครับ เพราะสามารถช่วยลดรอยได้ไว เห็นผลชัดแบบไม่ต้องรอหลายเดือน

บทความนี้หมอจะพาไปเจาะลึกแบบละเอียดว่า เลเซอร์รอยสิว คืออะไร ? มีกี่แบบ ? เหมาะกับใครบ้าง ? ทำกี่ครั้งถึงจะเห็นผล ? และต้องดูแลตัวยังไงให้ผิวฟื้นตัวสวยไว พร้อมเคลียร์ทุกคำถามที่คนอยากหน้าใส ไร้รอยสิวต้องรู้ครับ

สารบัญ เลเซอร์รอยสิว

รอยสิวคืออะไร ?

ก่อนจะเริ่มทำเลเซอร์รอยสิว หมอแนะนำให้คนไข้ทำความเข้าใจก่อนว่า รอยสิวที่คนไข้เป็นอยู่นั้นคือประเภทไหน เพื่อเลือกแนวทางการรักษาและเทคโนโลยีเลเซอร์ให้ตรงจุดที่สุดครับ

รอยสิวคืออะไร

รอยสิว (Acne scars) คือปัญหาผิวที่พบบ่อยหลังสิวหาย มักทำให้ผิวหน้าไม่เรียบเนียน หมองคล้ำ หรือมีร่องลึก โดยแบ่งออกหลายประเภทครับ ไม่ว่าจะเป็นรอยดำ รอยแดง และหลุมสิว ซึ่งสามารถอยู่บนผิวได้เป็นเดือน หรือหลายปีหากไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม

สาเหตุของรอยสิว

  • ร่างกายสร้างเม็ดสีขึ้นมาเพื่อซ่อมแซม ส่งผลให้เกิดรอยแดงหรือรอยดำตามมา
  • การบีบ แกะสิว ทำให้ผิวเกิดการบาดเจ็บ
  • ปล่อยให้สิวหายเองโดยไม่ดูแลรักษา
  • ผิวสัมผัสแสงแดดโดยไม่ป้องกัน ทำให้เม็ดสีทำงานมากขึ้น
  • ภาวะผิวบาง แพ้ง่าย หรืออายุที่มากขึ้นส่งผลต่อการสมานตัวของผิว

ทำไมต้องเข้าใจรอยสิวก่อนทำเลเซอร์ ?

เพราะการรักษารอยสิวด้วยเลเซอร์ จำเป็นต้องเลือกประเภทเลเซอร์ให้ตรงกับรอยสิวครับ ซึ่งแต่ละชนิดถูกออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาที่ต่างกัน เช่น

  • รอยแดง (Post-Inflammatory Erythema – PIE) : เกิดจากเส้นเลือดฝอยใต้ผิวหนังขยายตัวหลังสิวอักเสบ พบได้ในคนผิวขาว ผิวบาง เหมาะกับเลเซอร์ที่เน้นลดการอักเสบของเส้นเลือด เช่น Sylfirm X, Vbeam และ Bellalux
  • รอยดำ (Post-Inflammatory Hyperpigmentation – PIH) : เกิดจากเม็ดสีเมลานินที่ถูกผลิตมากขึ้นจากการอักเสบของสิว พบได้มากในคนผิวสองสีหรือผิวคล้ำ เหมาะกับเลเซอร์ที่เน้นลดเม็ดสี เช่น Pico Laser, Q-Switch
  • หลุมสิว (Acne Scar) : เกิดจากผิวหนังถูกทำลายลึกถึงชั้นหนังแท้ ทำให้เกิดรอยบุ๋ม เช่น Boxcar, Rolling, Ice Pick เหมาะกับเลเซอร์ที่ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนในชั้นหนังแท้ เช่น Fractional Laser, Sylfirm X, CO2 Laser

ดังนั้น การประเมินโดยแพทย์ก่อนทำเลเซอร์รอยสิว จึงเป็นขั้นตอนสำคัญมาก เพื่อช่วยเลือกเทคโนโลยีที่ตรงกับปัญหา ไม่ต้องลองผิดลองถูกหลายครั้งให้เสียทั้งเงินและเวลาครับ


เลเซอร์รอยสิว คืออะไร ?

เลเซอร์รอยสิว คืออะไร

เลเซอร์รอยสิว คือ การใช้พลังงานแสงเลเซอร์หรือคลื่นวิทยุ (RF) ส่งผ่านสู่ชั้นผิวที่มีรอยสิว ทั้งรอยดำ รอยแดง หรือหลุมสิว เพื่อไปทำลายเม็ดสีที่ผิดปกติและลดการสร้างเม็ดสี พร้อมกระตุ้นให้ผิวสร้างคอลลาเจนใหม่ในหลุมสิว ทำให้ผิวเรียบเนียน สีผิวสม่ำเสมอมากขึ้น ซึ่งเลเซอร์แต่ละชนิดจะมีจุดเด่นต่างกัน และเหมาะกับรอยสิวที่ไม่เหมือนกันครับ


เลเซอร์รอยสิวมีกี่ชนิด ? แต่ละแบบเหมาะกับใคร ?

เลเซอร์รอยสิวมีกี่แบบ

เลเซอร์รอยสิวปัจจุบันมีตัวเลือกเยอะมากครับ โดยแต่ละเครื่องออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาผิวที่แตกต่างกัน ทั้งรอยดำ รอยแดง หลุมสิว ฝ้า กระ รูขุมขนกว้าง รวมไปจนถึงพวกปานดำ ปานแดง รอยสัก และรอยแตกลาย

เพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้น หมอขอสรุปเลเซอร์รอยสิวยอดนิยมที่ใช้กันในคลินิก พร้อมแนะนำว่าแต่ละตัวเหมาะกับใครบ้าง ดังนี้ครับ

1. Pico Laser จัดการเม็ดสีตรงจุด ยิงเร็ว เห็นผลไว เม็ดสีแตกละเอียด

Pico Laser คือเทคโนโลยีเลเซอร์ที่ปล่อยพลังงานในระดับพิโควินาที (Picosecond = 1 ในล้านล้านวินาที) ซึ่งเร็วกว่าเลเซอร์ทั่วไปหลายร้อยเท่าจนสามารถแตกเม็ดสีได้ทันที นับว่าเป็นเลเซอร์ลดรอยดำที่ดีที่สุดในปัจจุบัน โดยเครื่องที่นิยมใช้จะมี Pico Sure Pro, Pico Plus, Pico Way และ Pico Discovery

  • จุดเด่น : เห็นผลไว ทำน้อยครั้ง แต่ให้ผลลัพธ์ชัดเจน ครอบคลุมหลายปัญหาผิวในเครื่องเดียว
  • ระยะพักฟื้น : ฟื้นตัวเร็ว ไม่ต้องพักหน้า (โหมด Toning)
  • เหมาะกับ : รอยดำสิว, ฝ้า กระ จุดด่างดำ, หลุมสิว, รอยสัก, ปานดำ/แดง/โอตะ/ฮอริ, แผลเป็นนูน และแผลคีลอยด์
  • ทำกี่ครั้งถึงจะเห็นผล : เห็นผลตั้งแต่ครั้งแรก และชัดเจนขึ้นหลังทำ 3-5 ครั้งขึ้นไป

2. Sylfirm X Plus เลเซอร์เข็มแบบ Dual Wave รักษารอยแดงและหลุมสิวในครั้งเดียว

Sylfirm X คือเทคโนโลยี Microneedle RF รุ่นใหม่ล่าสุดที่ผสานพลังงานคลื่นวิทยุ 2 โหมด (Pulse Wave + Continuous Wave) ร่วมกับเข็มเล็กส่งพลังงานลงสู่ผิว โดยเน้นการฟื้นฟูผิวถึงระดับชั้น Basement Membrane ที่เป็นต้นตอของฝ้า เส้นเลือด และหลุมสิวที่รักษายาก

  • จุดเด่น : เป็นเลเซอร์หลุมสิวที่ปล่อยได้ทั้งคลื่น CW และ PW ได้ในเครื่องเดียว ใช้ได้กับทุกสีผิว ทุกตำแหน่งบนร่างกาย
  • ระยะพักฟื้น : ไม่ต้องพักหน้า ไม่มีแผล ไม่มีเลือดออก มีรอยแดงเล็กน้อยใน 4-6 ชั่วโมงแรกแล้วจางลงได้เอง
  • เหมาะกับ : เน้นผลัดผิว, ผิวแตกลาย, หลุมสิวลึก, กระชับผิว, กระชับรูขุมขน และลดริ้วรอยตื้นๆ
  • ทำกี่ครั้งถึงจะเห็นผล : ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำโดยเฉพาะรอยแดง แนะนำทำ 3-5 ครั้งขึ้นไป

3. Bellalux เลเซอร์ฉายแสง LED ฟื้นฟูผิว รักษาสิว ลดฝ้า เร่งผมใหม่ ไม่ต้องพักฟื้น

Bellalux คือเทคโนโลยีฉายแสง LED ที่หลายความยาวคลื่น โดยมีแสง LED ให้เลือก 4 ชนิด ได้แก่ สีแดง/เหลือง/ฟ้า/แสง NIR (ไร้สี) ที่ออกแบบมาเพื่อดูแลผิวครอบคลุมทั้งสิว ริ้วรอย ฝ้า จุดด่างดำ ไปจนถึงการฟื้นฟูผิวและหนังศีรษะ เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายหรือไม่สะดวกทำเลเซอร์แรง ๆ ครับ

  • จุดเด่น : กระตุ้นผิวให้แข็งแรงแบบค่อยเป็นค่อยไป มีแสงหลายช่วงคลื่นให้เลือกได้ตามปัญหาผิว
  • ระยะพักฟื้น : ไม่เจ็บ ไม่ลอกผิว ไม่ต้องพักหน้า
  • เหมาะกับ : สิวอักเสบ, สิวเรื้อรัง, ฝ้า, จุดด่างดำ, ฟื้นฟูผิวและหนังศีรษะ ลดบวมช้ำหลังเลเซอร์หรือศัลยกรรม
  • ทำกี่ครั้งถึงจะเห็นผล : แนะนำให้ทำต่อเนื่อง 5-8 ครั้งขึ้นไป

4. Fotona SP Dynamis เลเซอร์ 2 หัวที่ปรับพลังงานได้ตามปัญหาผิว

Fotona SP Dynamis คือเครื่องเลเซอร์ที่ผสมผสาน Duo Wavelength (ER : YAG 2940 และ Nd : YAG 1064) ไว้ในเครื่องเดียว ใช้พลังงานเลเซอร์แบบ Selective Absorption ที่มีความจำเพาะเจาะจงกับน้ำและชั้นผิวเท่านั้น ทำให้ไม่ทำลายเนื้อเยื่อข้างเคียง เหมาะกับทั้งผิวมัน ผิวบอบบาง และผิวแพ้ง่าย

  • จุดเด่น : ปรับได้หลายโหมด รักษาได้ทั้งหลุมสิว ผิวไม่เรียบ และรูขุมขนกว้างในครั้งเดียว
  • ระยะพักฟื้น : 3-7 วัน มีสะเก็ดเล็ก ๆ หลังทำ (เฉพาะบางโหมด)
  • เหมาะกับ : หลุมสิว, กระชับรูขุมขน, จี้ไฝ, ลดเส้นเลือดฝอย, ลดริ้วรอย และผลัดเซลล์ผิวหมองคล้ำ
  • ทำกี่ครั้งถึงจะเห็นผล : แนะนำให้ทำต่อเนื่อง 3-5 ครั้ง ห่างกัน 4-6 สัปดาห์

5. Fractional CO2 เลเซอร์หลุมสิว ผลัดเซลล์ผิวเก่า สร้างผิวใหม่ให้เรียบเนียนขึ้น

Fractional CO2 Laser เป็นเลเซอร์ที่ใช้เทคโนโลยี Fractional Photothermolysis โดยการปล่อยลำแสงเลเซอร์ไปที่ผิวในลักษณะจุดเล็ก ๆ เป็นตาราง เพื่อกระตุ้นให้ผิวสร้างคอลลาเจนใหม่ ผลัดเซลล์ผิวเก่า สร้างผิวใหม่ให้เรียบเนียนขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ

  • จุดเด่น : พลังงานสูง ยิงลึกถึงชั้นผิวหนังแท้ เห็นผลชัดโดยเฉพาะคนที่มีหลุมสิวลึกและแผลเป็น
  • ระยะพักฟื้น : หลังทำจะมีสะเก็ดบาง ๆ ทั่วหน้า ต้องพักหน้า 3-7 วัน
  • เหมาะกับ : ผู้ที่มีหลุมสิวลึก-กว้าง โดยเฉพาะหลุมแบบ Ice pick หรือ Boxcar ผิวไม่เรียบเนียนจากแผล
  • ทำกี่ครั้งถึงจะเห็นผล : แนะนำให้ทำ 3-5 ครั้ง ห่างกันทุก 4-6 สัปดาห์

6. Q-Switch Laser ตัวช่วยลดเม็ดสีเฉพาะจุด ลดรอยดำสิว จุดด่างดำแบบปลอดภัย

Q-Switch Laser เป็นเลเซอร์กลุ่ม Pigment Laser ที่ปล่อยพลังงานออกมาในช่วงเวลาสั้นระดับนาโนวินาที (Nanosecond) สามารถทำลายเม็ดสีที่ผิดปกติในผิวได้โดย ไม่ทำลายผิวชั้นบน จึงเหมาะสำหรับการลดรอยดำ รอยสิว และฝ้าตื้นได้อย่างปลอดภัย

  • จุดเด่น : ยิงพลังงานเฉพาะเจาะจงไปที่เม็ดสีโดยตรง ปลอดภัยแม้กับผิวคล้ำหรือผิวบอบบาง
  • ระยะพักฟื้น : ไม่ต้องพักฟื้น ผิวไม่ลอก อาจมีผิวแดงหรือร้อนเล็กน้อยในบางคนภายใน 1-2 ชั่วโมงแรก
  • เหมาะกับ : ผู้ที่มีรอยดำจากสิวหรือ PIH, กระ, จุดด่างดำ, ผิวหมองคล้ำจากแดดหรือฮอร์โมน
  • ทำกี่ครั้งถึงจะเห็นผล : ควรทำอย่างน้อย 4-6 ครั้ง ห่างกันทุก 1-2 สัปดาห์

7. V-Beam เลเซอร์รอยแดงสิว ลดเส้นเลือดฝอยโดยไม่ทำร้ายผิว

V-Beam คือ เลเซอร์ในกลุ่ม Pulsed Dye Laser (PDL) ที่ใช้พลังงานแสงความยาวคลื่น 595 nm ซึ่งถูกดูดซับได้ดีโดยเม็ดสีของเลือด (Hemoglobin) โดยพลังงานเฉพาะเจาะจงไปยังเส้นเลือดฝอยหรือจุดที่มีรอยแดง โดยไม่กระทบเนื้อเยื่อรอบข้าง

  • จุดเด่น : ช่วยลดรอยแดงสิวได้ดี เจ็บน้อย ไม่ต้องแปะยาชา ปลอดภัยกับทุกสีผิว
  • ระยะพักฟื้น : ไม่ต้องพักฟื้น อาจมีผิวแดงเล็กน้อยหลังทำ 1-2 ชั่วโมง
  • เหมาะกับ : รอยแดงที่เกิดจากสิวอักเสบ เส้นเลือดฝอยแตก และรอยแดงจาก Rosacea
  • ทำกี่ครั้งถึงจะเห็นผล : ประมาณ 3-5 ครั้งห่างกันทุก 2-4 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของรอยแดง

8. Dual Yellow Laser เลเซอร์ลดรอยแดง ลดผิวอักเสบ พร้อมฆ่าเชื้อสิว

Dual Yellow Laser คือเลเซอร์ที่ใช้แสงความยาวคลื่น 578 nm (Yellow) และ 511 nm (Green) ซึ่งทำงานร่วมกันอย่างแม่นยำในการลดรอยแดง รอยดำ ฝ้า กระ ฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ก่อสิวอักเสบ ฟื้นฟูสภาพผิวโดยไม่ทำลายเนื้อเยื่อข้างเคียง ปลอดภัย ไม่ต้องพักฟื้น

  • จุดเด่น : ลดรอยแดงพร้อมฆ่าเชื้อแบคทีเรีย P. acnes ตัวการของสิวอักเสบ ไม่ทำลายผิว ไม่ลอก ไม่เป็นสะเก็ด
  • ระยะพักฟื้น : ไม่ต้องพักฟื้น ไม่มีแผล ไม่มีสะเก็ด อาจรู้สึกผิวตึงหรือร้อนเล็กน้อยหลังทำ ใช้ชีวิตได้ตามปกติ
  • เหมาะกับ : รอยแดง ฝ้า รอยดำจากสิว สิวอักเสบเรื้อรัง ผิวบอบบาง แพ้ง่าย
  • ทำกี่ครั้งถึงจะเห็นผล : แนะนำ 4-6 ครั้ง ห่างกัน 2 สัปดาห์

เลเซอร์รอยสิวแต่ละชนิดมีจุดเด่นเฉพาะตัว ไม่มีสูตรตายตัวว่าต้องใช้แบบไหน หมอแนะนำว่าควรเข้ารับการประเมินผิวก่อนเสมอ เพื่อเลือกเครื่องที่เหมาะกับสภาพผิวและรอยสิวของแต่ละคน จะได้ผลลัพธ์ดีที่สุดครับ


เลเซอร์รอยสิวเหมาะกับใคร ? ไม่เหมาะกับใคร ?

เลเซอร์รอยสิวเหมาะกับใคร ?

  • คนที่มีรอยสิวประเภทต่าง ๆ เช่น รอยดำ รอยแดง และหลุมสิว
  • คนที่ใช้ครีมลดรอยสิวมานาน แต่ไม่ดีขึ้น
  • คนที่ต้องการผลลัพธ์ไว ไม่อยากรอหลายเดือน
  • คนที่ไม่อยากเสียเวลาแต่งหน้ากลบรอยสิว
  • คนที่ไม่อยากพักหน้า ต้องออกงาน พบปะลูกค้า หรือใช้หน้าทำงานเป็นประจำ
  • คนที่เคยลองลดรอยสิวแบบธรรมชาติแล้วไม่ได้ผล

เลเซอร์รอยสิวไม่เหมาะกับใคร ?

  • คนที่มีสิวอักเสบระยะรุนแรง ควรรักษาสิวให้หายก่อน
  • คนที่ใช้ยากลุ่มผลัดเซลล์แรง ๆ ควรเว้น 1-2 สัปดาห์ก่อนทำเลเซอร์
  • คนที่แพ้แสงง่ายหรือเป็นโรคผิวหนังเรื้อรังบางประเภท

เลเซอร์รอยสิวอันตรายไหม ? มีผลข้างเคียงอะไรบ้าง ?

เลเซอร์ลดรอยสิว ไม่อันตรายครับ หากทำโดยแพทย์ผิวหนังหรือแพทย์ที่มีประสบการณ์ และใช้เครื่องแท้ที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน เช่น อย.ไทย หรือ US FDA

ส่วนผลข้างเคียงที่อาจพบได้บ่อย (แต่ไม่รุนแรง) เช่น

  • ผิวแดง หรืออุ่นเล็กน้อยหลังทำ
  • มีสะเก็ดบาง ๆ บนผิวในบางเครื่อง เช่น CO2 หรือ Fotona
  • ผิวลอกเล็กน้อย หรือรู้สึกตึงผิวในช่วง 2-3 วันแรก
  • ผิวไวต่อแสงแดดในระยะแรก

ซึ่งผลข้างเคียงเหล่านี้ สามารถหายได้เองภายในไม่กี่วัน ควรหลีกเลี่ยงแสงแดดแรง ๆ หมั่นทาครีมบำรุง และครีมกันแดดที่แพทย์แนะนำครับ


เลเซอร์รอยสิวดีไหม ? ทำแล้วคุ้มค่าหรือเปล่า ?

การทำเลเซอร์รอยสิวถือเป็นทางเลือกที่ดีครับ โดยเฉพาะคนที่กำลังมองหาวิธีลดรอยสิวแบบเร่งด่วน หรือใช้ครีมลดรอยสิวมานานแล้วแต่รอยสิวยังไม่จางลง นอกจากนี้การทำเลเซอร์รอยสิวยังมีข้อดีอื่น ๆ อีกครับ เช่น

ข้อดีของการทำเลเซอร์รอยสิว

  • เห็นผลเร็วกว่าใช้ครีม บางเครื่องเริ่มเห็นผลตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ โดยเฉพาะรอยดำและรอยแดงจากสิว
  • แก้ปัญหาได้ลึกถึงต้นตอ โดยเฉพาะเลเซอร์ที่ช่วยกระตุ้นคอลลาเจน หรือยิงเม็ดสีใต้ผิวที่ครีมเข้าถึงไม่ได้
  • มีเครื่องให้เลือกหลายแบบตามปัญหาผิว เช่น Pico Laser, Sylfirm, Bellalux, Fotona SP Dynamis ฯลฯ
  • ช่วยให้ผิวดูเรียบเนียน กระจ่างใสขึ้น สามารถปรับ Texture และรูขุมขนไปพร้อมกันได้
  • เหมาะกับทุกวัย ทุกเพศ ไม่ว่าจะเป็นวัยรุ่นที่มีสิวฮอร์โมน หรือผู้ใหญ่วัยทำงานที่มีปัญหารอยสิวสะสม
  • ไม่ต้องใช้เวลารักษานาน เหมาะกับคนที่ต้องการผลลัพธ์ภายในไม่กี่สัปดาห์ หรือต้องการฟื้นฟูผิวเร่งด่วน
  • ลดการเกิดสิวซ้ำ หรือการเกิดหลุมสิวในอนาคต
  • สามารถทำควบคู่กับการทายา ทาครีม หรือหัตถการอื่น ๆ เช่น Meso, Skin Booster หรือวิตามินผิว เพื่อเห็นผลไวขึ้น
  • หากเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน ใช้เครื่องแท้ และมีแพทย์ประเมินอย่างเหมาะสม ความเสี่ยงจะน้อยมาก และผลลัพธ์ก็คุ้มค่าในระยะยาว

ข้อควรระวังและข้อเสียที่ควรรู้ก่อนทำเลเซอร์รอยสิว

  • ต้องทำต่อเนื่องหลายครั้งถึงจะเห็นผลชัดเจน
  • บางเครื่องอาจมีสะเก็ดหรือรอยแดงหลังทำ
  • มีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าการทาครีมทั่วไป แต่หากเปรียบเทียบกับผลลัพธ์และระยะเวลาในการฟื้นฟู ผิวก็ถือว่าคุ้มค่า
  • ต้องเลือกคลินิกที่ใช้เครื่องเลเซอร์รอยสิวแท้และแพทย์มีประสบการณ์ เพื่อป้องกันผิวเบิร์น

เลเซอร์รอยสิว ต้องทำกี่ครั้งถึงจะเห็นผล ?

เลเซอร์ลดรอยสิว แม้บางเครื่องจะเห็นผลตั้งแต่ครั้งแรก แต่โดยทั่วไปต้องทำต่อเนื่อง 3-5 ครั้งขึ้นไป จึงจะเห็นผลลัพธ์ชัดเจนในระดับที่น่าพอใจครับ โดยลักษณะการเปลี่ยนแปลงจะค่อย ๆ ดีขึ้นเรื่อย ๆ ตามจำนวนครั้งที่ทำ

  • ครั้งที่ 1 : ผิวจะดูเรียบเนียนขึ้นเล็กน้อย รอยสิวบางจุดจางลง ผิวดูใสขึ้น
  • ครั้งที่ 2-3 : รอยดำ รอยแดงจะจางลงชัดเจน หลุมสิวเริ่มตื้นขึ้น สีผิวสม่ำเสมอมากขึ้น
  • ครั้งที่ 4-5 : ผิวดูเนียนละเอียดขึ้นโดยรวม รอยสิวลดลงชัดเจน อาจไม่ต้องแต่งหน้าปกปิดรอยอีกต่อไป

หากต้องการผลลัพธ์ชัดเจน ควรทำเลเซอร์ลดรอยสิวต่อเนื่องภายใต้การดูแลของแพทย์ พร้อมประเมินและปรับค่าพลังงานให้เหมาะกับแต่ละเคสครับ


รีวิวผลลัพธ์เลเซอร์รอยสิว ก่อน-หลังทำ

รีวิวผลลัพธ์หลังจากทำเลเซอร์รอยสิวไปแล้ว คนไข้ส่วนใหญ่จะเริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ครั้งแรกครับ โดยเฉพาะถ้าทำกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ เลือกเครื่องเลเซอร์ได้เหมาะกับสภาพผิว และปรับพลังงานให้ตรงจุด

เพื่อให้เห็นภาพชัดเจน หมอจะมาแชร์ Timeline รีวิวผลลัพธ์เลเซอร์รอยสิว ตั้งแต่ก่อนทำ ไปจนถึงผลลัพธ์หลังทำให้คนไข้ได้ตัดสินใจกันครับ

รีวิวปัญหาผิวก่อนทำเลเซอร์รอยสิว

  • ผิวหน้ามีรอยดำ รอยแดง หรือหลุมสิวที่ชัดเจน
  • แต่งหน้ายาก ต้องใช้รองพื้นปกปิด
  • ผิวโดยรวมดูไม่เรียบเนียน สีผิวไม่สม่ำเสมอ

รีวิวขั้นตอนการทำเลเซอร์รอยสิว

  • แพทย์จะตรวจสภาพผิว เพื่อเลือกเครื่องเลเซอร์ให้เหมาะสมกับแต่ละเคส
  • แปะยาชา 30-45 นาที เพื่อให้รู้สึกสบายขณะทำ
  • แพทย์จะใช้หัวเลเซอร์ยิงลงเฉพาะจุดที่มีปัญหา โดยใช้พลังงานอย่างเหมาะสม เพื่อให้ได้ผลลัพธ์สูงสุด โดยไม่กระทบเนื้อเยื่อข้างเคียง
  • หลังทำอาจมีรอยแดงเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับเครื่องเลเซอร์ที่ใช้ เช่น Q-Switch, Pico (บางโหมด) หรือ Sylfirm ส่วนเลเซอร์ที่ลงลึกอย่าง Fotona อาจมีสะเก็ดเล็ก ๆ ควรหลีกเลี่ยงแดด 5-7 วัน
  • แพทย์จะให้ทาครีมลดการอักเสบ และแนะนำการดูแลหลังเลเซอร์ เช่น งดแดด งดล้างหน้าด้วยสบู่รุนแรง และหมั่นทาครีมกันแดดเป็นประจำ

รีวิวผลลัพธ์หลังทำเลเซอร์รอยสิวทันที

  • ผิวจะรู้สึกอุ่น ๆ บางจุดอาจมีรอยแดงหรือบวมเล็กน้อย
  • หากทำ Pico Laser/Q-Switch/Dual Yellow/Bellalux ผิวจะดูใสขึ้นเล็กน้อย รอยแดงจะหายไปภายใน 1-2
  • หากทำ CO2, Fotona หรือ Sylfirm X อาจมีรอยแดงบาง ๆ หรือสะเก็ดเล็ก ๆ เริ่มขึ้น
  • หมอจะประคบเย็นหลังทำ พร้อมแนะนำการดูแลผิวที่เหมาะสม

รีวิวผลลัพธ์หลังทำเลเซอร์รอยสิว วันที่ 3-7

  • รอยแดงเริ่มจางลง
  • สะเก็ดบาง ๆ (ถ้ามี) เริ่มหลุดออก ผิวดูกระจ่างใสขึ้น
  • สังเกตได้ว่ารอยดำ รอยแดงสิวจางลงเล็กน้อย

รีวิวผลลัพธ์หลังทำเลเซอร์รอยสิว สัปดาห์ที่ 2-3

  • ผิวฟื้นตัวเต็มที่ เริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงชัดเจน
  • รอยสิวบางจุดหายไป ผิวเนียนเรียบมากขึ้น
  • แต่งหน้าง่ายขึ้น หน้าไม่เป็นขุย

รีวิวผลลัพธ์หลังทำเลเซอร์รอยสิว ต่อเนื่อง 3-5 ครั้ง

  • รอยสิว รอยแดง รอยดำลดลงได้มากถึง 70-90%
  • หลุมสิวดูตื้นขึ้น ผิวหน้าเนียนละเอียดขึ้น
  • สีผิวสม่ำเสมอขึ้น เห็นผลชัดเจนยิ่งขึ้นโดยไม่ต้องแต่งหน้าปกปิด

การทำเลเซอร์รอยสิว ไม่ได้แค่ลดรอยต่าง ๆ บนผิวหน้า แต่ยังช่วยให้ผิวดูเรียบเนียน สีผิวสม่ำเสมอ แต่งหน้าง่ายขึ้นและหากวางแผนการรักษาที่ดี ก็สามารถเห็นผลลัพธ์ที่คุ้มค่าตั้งแต่ครั้งแรก และยิ่งชัดเจนเมื่อทำต่อเนื่องครบคอร์สครับ


การเตรียมตัวก่อนทำเลเซอร์รอยสิว

การเตรียมตัวก่อนทำเลเซอร์รอยสิว จะช่วยให้ผิวตอบสนองต่อการรักษาดีขึ้น และลดโอกาสเกิดผลข้างเคียง หมอแนะนำดังนี้ครับ

  • งดใช้ครีมที่มีกรดผลไม้ (AHA, BHA), เรตินอล และยาทาสิวแรง ๆ อย่างน้อย 3-5 วัน ก่อนทำเลเซอร์ เพื่อป้องกันผิวบางและไวต่อแสง
  • หลีกเลี่ยงแสงแดดแรง ๆ และการทำกิจกรรมกลางแจ้ง อย่างน้อย 7 วัน เพื่อให้ผิวอยู่ในสภาพแข็งแรงที่สุดก่อนยิงเลเซอร์
  • งดการแวกซ์หน้า, กดสิว, หรือขัดหน้า อย่างน้อย 3-5 วันก่อนทำ เพื่อป้องกันการระคายเคือง
  • แจ้งประวัติโรคประจำตัวหรือทานยาบางชนิด เช่น ยากลุ่มกรดวิตามิน A, ยาฆ่าเชื้อบางตัว, หรือยากดภูมิคุ้มกัน
  • พักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อให้ร่างกายพร้อมซ่อมแซมผิวหลังทำเลเซอร์

วิธีดูแลตัวเองหลังทำเลเซอร์รอยสิว เพื่อให้เห็นผลดีที่สุด

  • หลีกเลี่ยงแสงแดดโดยตรง 7-14 วันแรก และทาครีมกันแดดทุกวัน (ค่า SPF 50+ PA++++)
  • งดใช้เครื่องสำอางแต่งหน้าหนัก ๆ อย่างน้อย 24-48 ชม. เพื่อป้องกันผิวอุดตันและอักเสบ
  • งดใช้ครีมที่มีกรดผลไม้ (AHA, BHA), เรตินอล และยาทาสิวแรง ๆ อย่างน้อย 3-5 วัน
  • ล้างหน้าด้วยผลิตภัณฑ์อ่อนโยน ที่ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์หรือกรดแรง ๆ
  • งดการขัดหน้า สครับหรือทำทรีตเมนต์แรง ๆ จนกว่าสะเก็ดจะหลุดและผิวฟื้นตัวเต็มที่ (ประมาณ 5-7 วัน)
  • งดแกะหรือเกาสะเก็ด ที่อาจเกิดขึ้นหลังเลเซอร์ เพราะอาจทำให้เกิดรอยแผลเป็นหรือรอยดำได้
  • ทาครีมบำรุงและยาที่แพทย์สั่ง อย่างสม่ำเสมอ เพื่อช่วยลดการอักเสบและเร่งการฟื้นฟูของผิว

เลเซอร์รอยสิวราคาเท่าไหร่ ?

เลเซอร์รอยสิวราคา โดยทั่วไปจะอยู่ในช่วง 3,000-10,000 บาท/ครั้งครับ ราคาแต่ละคลินิกอาจแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อเครื่อง Laser รอยสิวที่ใช้ ตำแหน่งที่ทำ (ทั่วหน้า/เฉพาะจุด) ประสบการณ์ของแพทย์ และโปรโมชันของคลินิกในช่วงเวลานั้น ๆ

โปรโมชัน Pico Plus ที่ V Square Clinic

Pico Plus ราคา

โปรโมชัน PicoSure Pro ที่ V Square Clinic

PicoSure Pro ราคา

ทำเลเซอร์รอยสิวที่ไหนดี ? 5 เช็กลิสต์ก่อนตัดสินใจทำ

การเลือกคลินิกทำเลเซอร์รอยสิวถือว่าเป็นสิ่งสำคัญมากครับ เพราะถ้าเลือกผิด อาจทำให้เกิดผลข้างเคียง หรือไม่ได้ผลลัพธ์ที่คุ้มค่า แม้ว่าเครื่องจะดีแค่ไหน แต่ถ้าคนยิงไม่ใช่แพทย์ หรือไม่ได้วิเคราะห์ผิวอย่างละเอียด ก็อาจทำให้ผิวอักเสบ แดง ลอก หรือทิ้งรอยเพิ่มได้

5 เช็กลิสต์ก่อนตัดสินใจทำเลเซอร์ลดรอยสิว

  • มีแพทย์ประเมินก่อนทุกเคส ควรเป็นแพทย์ผิวหนัง หรือแพทย์ความงามที่มีประสบการณ์โดยตรงกับเครื่องเลเซอร์
  • ใช้เครื่องแท้ ผ่าน อย. มีใบรับรองมาตรฐาน และสามารถตรวจสอบรุ่นได้จริง
  • เลือกเครื่องให้เหมาะกับสภาพผิว เพราะไม่ใช่ทุกเครื่องจะเหมาะกับทุกคน เช่น บางเครื่องเหมาะกับผิวคล้ำ บางเครื่องเหมาะกับหลุมสิวเท่านั้น
  • มีการติดตามผลหลังทำจริง เพื่อดูผลลัพธ์และปรับพลังงานในครั้งถัดไปหากจำเป็น
  • มีรีวิวผู้ใช้จริงชัดเจน และสามารถสอบถามได้ว่าเป็นผลลัพธ์จากเครื่องใด

ทำไมต้องเลเซอร์รอยสิวที่ V Square Clinic ?

ทำเลเซอร์ที่ V Square Clinic ดีอย่างไร(1)
ทำเลเซอร์ที่ V Square Clinic ดีอย่างไร

ปรึกษาหมอ ประเมินปัญหาผิว ที่ V Square Clinic
(นพ. สุรนาถ ดีสุวรรณ์ เลข ว.46313)

  • มีเครื่องเลเซอร์ลดรอยสิวให้เลือกหลากหลายชนิด เพื่อตอบโจทย์ทุกปัญหาผิว ทั้ง PicoSure Pro, Pico Plus, Sylfirm X Plus, Fotona SP Dynamis และ Bellalux
  • แพทย์ดูแลเองทุกเคส ทุกขั้นตอน เพื่อความแม่นยำ ปลอดภัย และควบคุมพลังงานได้ตามสภาพผิวของแต่ละคนจริง ๆ
  • ประเมินผิวฟรีทุกเคส ปรับแผนการรักษาให้เหมาะกับปัญหาของแต่ละคน
  • ไม่ยัดเยียดคอร์ส ไม่ใช้การตลาดกดดัน ให้ข้อมูลตรงไปตรงมา
  • มีการติดตามผลหลังทำทุกเคส ให้คำแนะนำเฉพาะบุคคลหากมีอาการ เช่น รอยแดง สะเก็ด หรืออาการตอบสนองเฉพาะราย
  • ไม่มีเซลล์ ไม่ขายฝัน ไม่มีพนักงานขายแบบ Aggressive Marketing มีเพียงแพทย์และทีมดูแลที่เน้นความถูกต้อง ปลอดภัย และผลลัพธ์จริงเท่านั้น
  • รีวิวจากผู้ใช้จริง ไม่รีทัช ไม่โฆษณาเกินจริง ไม่ดัดแปลง เพื่อให้คนไข้ตัดสินใจจากผลลัพธ์จริง
  • ราคาคุ้มค่า สมเหตุสมผล มีหลายแพ็กเกจให้เลือกตามปัญหาและงบประมาณ

หากคนไข้กำลังไม่แน่ใจว่าตัวเองเหมาะกับเลเซอร์รอยสิวแบบไหน สามารถเข้ามาปรึกษาหมอฟรีทุกเคส ประเมินผิว วิเคราะห์ด้วยเครื่องมือก่อนทำจริง ได้ที่ V Square Clinic ทุกสาขา ไม่มีค่าใช้จ่ายครับ


คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับเลเซอร์รอยสิว

เลเซอร์ลดรอยสิว กี่วันเห็นผล ?

โดยทั่วไปแล้ว ผลลัพธ์หลังเลเซอร์รอยสิวจะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงใน 2-3 สัปดาห์ครับ ซึ่งเป็นช่วงที่ผิวเริ่มฟื้นฟูอย่างเต็มที่ และควรทำอย่างต่อเนื่องตามแพทย์แนะนำเพื่อให้เห็นผลดีที่สุด

ทั้งนี้ผลลัพธ์จะขึ้นอยู่กับชนิดของเลเซอร์และปัญหาผิวของแต่ละคนด้วยครับ หากต้องการลดรอยสิวเร่งด่วน อาจทำควบคู่กับฉีดเมโสหน้าใส หรือทรีตเมนต์ผลักวิตามินก็ช่วยเสริมประสิทธิภาพได้ครับ

เลเซอร์ลดรอยสิว เจ็บไหม ?

ส่วนใหญ่จะไม่เจ็บครับ เพราะก่อนทำจะมีการแปะยาชา 30-45 นาที โดยเฉพาะเครื่องรุ่นใหม่อย่าง PicoSure Pro หรือ Sylfirm X จะยิงเบาและแม่นยำ ไม่ทำลายผิวรอบข้าง ทำให้เจ็บน้อยหรือแทบไม่รู้สึกเลยครับ

เลเซอร์รอยสิว รักษาหลุมสิวได้จริงไหม ?

ได้ครับ โดยเฉพาะเครื่องที่ลงลึกถึงชั้นผิว เช่น Fotona, Sylfirm X และ Pico Plus จะช่วยกระตุ้นคอลลาเจน ทำให้หลุมสิวตื้นขึ้น ผิวดูเรียบเนียนมากขึ้น

หลังทำเลเซอร์รอยสิว หน้าแห้งหรือหน้าลอกไหม ?

ขึ้นอยู่กับประเภทเลเซอร์ครับ ถ้าเป็นกลุ่ม Pico Laser, Bellalux และ Q-Switch มักไม่มีการลอกหรือแห้ง แต่ถ้าใช้เลเซอร์ลงลึกอย่าง CO2 หรือ Fotona อาจมีสะเก็ดบาง ๆ และหน้าแห้งช่วง 5-7 วันแรก ควรใช้มอยส์เจอไรเซอร์และงดแดดครับ

เลเซอร์ลดรอยสิว ทำให้หน้าบางไหม ?

เลเซอร์รอยสิวไม่ได้ทำให้หน้าบางครับ ถ้าใช้เครื่องที่ได้มาตรฐาน และทำโดยแพทย์ เลเซอร์จะกระตุ้นผิวให้แข็งแรงขึ้น ไม่ได้ทำลายชั้นผิว แต่หากทำถี่เกินไป หรือใช้พลังงานสูงโดยไม่มีการประเมิน อาจทำให้ผิวไวต่อแสงชั่วคราว

เป็นสิวอยู่ ทำเลเซอร์ลดรอยสิวได้ไหม ?

เป็นสิวอยู่ สามารถทำเลเซอร์ลดรอยสิวได้ครับ แต่ควรเลือกเครื่องที่เหมาะสม และอยู่ภายใต้การประเมินของแพทย์ ในกรณีที่ยังมีสิวอักเสบหรือสิวผด แพทย์อาจแนะนำให้ทำเลเซอร์ที่ช่วยทั้งลดการอักเสบและรอยสิวไปพร้อมกัน เช่น

  • Bellalux ฉายแสง LED ฆ่าเชื้อแบคทีเรียต้นเหตุสิว + ลดรอยแดง
  • Sylfirm X ช่วยลดสิวอักเสบเรื้อรัง + ลดรอยแดง + ลดหลุมสิว
  • Pico Laser ช่วยลดรอยดำโดยไม่กระทบสิวอักเสบ

หรือในบางเคส แพทย์อาจให้ทำเลเซอร์ลดรอยสิวควบคู่กับหัตถการอื่น เช่น ฉีดสิว ทายาลดการอักเสบ หรือฉีดเมโสสิว เพื่อควบคุมสิวให้ดีขึ้นก่อน แล้วจึงค่อยปรับแผนการยิงรอยสิวให้แม่นยำยิ่งขึ้น


สรุป ทำไมเลเซอร์รอยสิว ถึงเป็นทางออกที่คุ้มค่าที่สุด ?

รอยดำสิว รอยแดง หรือหลุมสิว อาจไม่เจ็บ…แต่ทิ้งรอยไว้ในใจหลายคน และนั่นคือเหตุผลที่ “เลเซอร์รอยสิว” กลายเป็นคำตอบสำหรับคนที่อยากฟื้นฟูผิวให้กลับมาเรียบเนียนอย่างเป็นธรรมชาติครับ

ไม่ว่าจะเป็นรอยดำสิว รอยแดง หรือหลุมสิว ถ้าได้รับการรักษาด้วยเลเซอร์ที่ตรงกับปัญหา โดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ ผลลัพธ์ที่ได้จะชัดเจน รวดเร็ว และปลอดภัยกว่าการรักษาแบบเดิม ๆ

หากคนไข้ไม่แน่ใจว่าจะเลือกเลเซอร์รอยสิวแบบไหนดี ? สามารถเข้ามาปรึกษา พร้อมประเมินปัญหาผิวฟรีได้ที่ V Square Clinic ทุกสาขา ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายครับ


สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ
ปรึกษาหมอ
บทความแนะนำ

หัวใจเต้นเร็ว ใจสั่น อาการแบบไหนอันตราย ? ฟื้นฟูร่างกายและหัวใจ ให้แข็งแรง ด้วยการดูแลสุขภาพเชิง ...

Reading Time: 5 minutes- หัวใจเต้นเร็ว ใจสั่น คืออะไร ? ทำไมต้องใส่ใจอาการนี้ ? - หัวใจของเราทำงานอย่างไร ? อัตราการเต้นของหัวใจ โดยทั่วไปเป็นแบบไหน ? - สาเหตุของอาการหัวใจเต้นเร็ว ใจสั่น - หัวใจเต้นเร็ว ใจสั่น มีอาการอะไรบ้าง? - อาการหัวใจเต้นเร็ว ใจสั่น แบบไหนที่ควรพบแพทย์ ?

มือสั่น บ่อย ๆ ขาดวิตามินอะไร เกิดจากสาเหตุใด แก้ไขอย่างไ...

Reading Time: 3 minutes- รู้จักภาวะอาการ “มือสั่น” - สาเหตุของภาวะมือสั่น เกิดจากอะไรได้บ้าง ? - มือสั่น เพราะขาดวิตามินจริงไหม วิตามินอะไร ? - มือสั่น เสริมวิตามินดีไหม ? - มือสั่น เพราะเครียด ทำงานหนัก พักผ่อนน้อย เสริมวิตามินสูตรไหนดี ?

เทคนิค แก้แฮงค์ ลดอาการเมาค้าง ช่วยให้ร่างกายกลับมาสดชื่น...

Reading Time: 3 minutes- รับมืออาการเมาค้าง รู้สาเหตุ และวิธีแก้แฮงค์แบบเร่งด่วน - 5 วิธีแก้แฮงค์ ลดอาการเมาค้าง แบบเห็นผล - รู้จักสูตร ดริปวิตามิน เพื่อลดอาการเมาค้าง แก้แฮ้งค์ - โปรโมชันดริปวิตามิน สูตร Hang over ที่ V Square Wellness - คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ วิธีแก้แฮงค์ ลดอาการ ปวดหัว คลื่นไส้

ดอลลี่อาย (dolly eye) คืออะไร ฉีดเติมชั้นใต้ตา เพิ่มเสน่ห...

Reading Time: 3 minutes- ดอลลี่อาย คืออะไร? - ถุงใต้ตา กับ ดอลลี่อาย? - ดอลลี่อาย เหมาะกับใคร? - การฉีดดอลลี่อาย มีวิธีไหนบ้าง? - ข้อควรระวังในการฉีดดอลลี่อาย

ลมพิษตอนกลางคืน เกิดจากอะไร ? วิธีป้องกันผื่นแดง แบบไหนเห...

Reading Time: 3 minutes- อาการของลมพิษกลางคืน - สาเหตุของลมพิษกลางคืน - ทำไมอาการลมพิษมักแย่ลงตอนกลางคืน ? - วิธีบรรเทาอาการลมพิษกลางคืน - วิธีป้องกันลมพิษกลางคืน - ฉีดวิตามินเสริมภูมิ ป้องกันลมพิษกลางคืน

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ สามารถศึกษานโยบายความเป็นส่วนตัวและจัดการความเป็นส่วนตัว ได้ที่ปุ่มตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ

บันทึกการตั้งค่า