ขอบตาดำ แก้ไขได้ ถ้ารู้ต้นเหตุที่แท้จริง
ขอบตาดำ ไม่ได้เกิดจากการนอนดึกเสมอไปครับ อาจเกิดจากกรรมพันธ์ุ การเสื่อมของโครงสร้างผิว หรืออาการเจ็บป่วยจากโรคต่าง ๆ ดังนั้นการแก้ปัญหาขอบตาดำให้เห็นผลยั่งยืน ควรหาสาเหตุและแก้ไขให้ตรงจุด วิธีรักษาขอบตาดำมีตั้งแต่การทาครีม มาสก์ใต้ตา ฉีดเมโสหน้าใส การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ซึ่งแต่ละวิธีจะเหมาะใช้แก้ปัญหาที่แตกต่างกัน
สำหรับใครที่กำลังหา วิธีลดขอบตาดำ ตาลึก ตาโหล วิธีรักษาขอบตาคล้ำ ขอบตาดำมาก ๆ หมอจะแนะนำว่ามีวิธีไหนบ้าง เหมาะกับปัญหาแบบไหน สามารถทำได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชายครับ
สารบัญ ขอบตาดำมาก
ขอบตาดำ คืออะไร ?
ขอบตาดำ (Dark Circles Under The Eyes) คือ ภาวะที่ผิวบริเวณใต้ตาดูคล้ำกว่าส่วนอื่นของใบหน้า พบได้ในทุกเพศ ทักวัย มีลักษณะเป็นสีน้ำตาลเข้ม น้ำเงินอมม่วง หรือเทา โดยสามารถเกิดได้ทั้ง 2 ข้าง หรือข้างใดข้างหนึ่งก็ได้ครับ
แม้ขอบตาดำจะไม่ใช่โรค แต่ก็ส่งผลต่อบุคลิกภาพและความมั่นใจ ทำให้ใบหน้าดูอ่อนล้า เหนื่อย โทรม ซึ่งหลายคนอาจเข้าใจผิดว่าเกิดจากการนอนดึกเพียงอย่างเดียว แต่ในความเป็นจริง “ขอบตาดำ” มีหลายชนิด หลายสาเหตุ และหลายระดับความรุนแรง ซึ่งแต่ละแบบก็ต้องการแนวทางการรักษาที่แตกต่างกันครับ
ขอบตาดำมาก สาเหตุเกิดจากอะไร ?
ปัญหาขอบตาดำ สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุครับ เช่น
- กรรมพันธุ์ หากคนในครอบครัวมีขอบตาดำตั้งแต่เด็ก โอกาสที่เราจะเป็นก็สูง มักเกิดจากเม็ดสีใต้ตามาก หรือกระดูกเบ้าตาลึกผิดโครงสร้าง ทำให้เห็นเงาชัดเจน
- ภูมิแพ้ / ไซนัสเรื้อรัง จมูกบวม เลือดคั่ง เส้นเลือดใต้ตาขยาย ทำให้ผิวใต้ตาคล้ำขึ้นโดยเฉพาะเวลานอนน้อยหรือช่วงเปลี่ยนฤดู
- ขยี้ตาบ่อย กระตุ้นการสร้างเม็ดสีเมลานิน ทำให้ขอบตาดำ แม้ไม่ได้แพ้อะไรก็ตาม
- อายุเพิ่มขึ้น ผิวบางลง คอลลาเจนลด เห็นเส้นเลือดชัด ร่วมกับเบ้าตาลึก ทำให้เกิดเงาและความคล้ำใต้ตา
- ดื่มน้ำน้อย ผิวขาดความชุ่มชื้น ดูหมอง เซลล์ผิวฟื้นตัวช้า ทำให้ขอบตาดูคล้ำกว่าปกติ
- แสงแดด / รังสี UV กระตุ้นเมลานิน ทำให้เกิดจุดด่างดำ โดยเฉพาะใต้ตาที่ผิวบางมาก
- สูบบุหรี่ / ดื่มแอลกอฮอล์ ทำให้เส้นเลือดขยาย การไหลเวียนไม่ดี เกิดรอยคล้ำได้ชัดขึ้น
- ความเครียด / พักผ่อนไม่พอ ร่างกายหลั่งฮอร์โมนที่เพิ่มการสร้างเม็ดสี ทำให้ผิวคล้ำลง รวมถึงขอบตาดำ
- ตั้งครรภ์ / ฮอร์โมนเปลี่ยน เส้นเลือดใต้ผิวขยายตัวมากขึ้น ทำให้เห็นเป็นรอยคล้ำใต้ตาชัดขึ้นกว่าปกติ
ขอบตาดำรุนแรง อันตรายไหม ?
โดยทั่วไป ขอบตาดำรุนแรง ถือว่าไม่อันตรายครับ เพราะส่วนใหญ่เกิดจากปัญหาภายนอก เช่น การนอนน้อย พฤติกรรมการใช้ชีวิต หรือกรรมพันธุ์ สามารถแก้ไขได้ด้วยการปรับพฤติกรรมหรือทำหัตถการก็สามารถดีขึ้นได้
แต่ถ้าขอบตาดำเรื้อรัง รุนแรงผิดปกติ หรือเกิดขึ้นแบบเฉียบพลัน อาจเป็น “สัญญาณเตือน” ของโรคบางอย่างได้เช่นกันครับ กรณีที่ควรระวัง ได้แก่
- ขอบตาดำร่วมกับตาบวมแดง คัน หรือคัดจมูกบ่อย → อาจเกิดจาก ภูมิแพ้ หรือไซนัสอักเสบเรื้อรัง
- ขอบตาดำจากภาวะซีด / โลหิตจาง → มักมีอาการร่วม เช่น หน้ามืด เหนื่อยง่าย
- ขอบตาดำที่เกิดเฉียบพลัน / สีเข้มผิดปกติข้างเดียว → ควรพบแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติม อาจเกี่ยวข้องกับการอักเสบ การติดเชื้อ หรือโรคทางระบบเลือด
สรุป ขอบตาดำรุนแรงส่วนใหญ่ไม่อันตรายครับ แต่หากเกิดร่วมกับอาการผิดปกติอื่น หรือเป็นแบบเฉียบพลัน ควรตรวจเช็กกับแพทย์เพื่อความมั่นใจ และหากเป็นเรื้อรังจนส่งผลต่อบุคลิกภาพ การเข้ารับคำปรึกษาจากคลินิกความงามก็เป็นทางเลือกที่ช่วยแก้ปัญหาอย่างตรงจุดและปลอดภัยครับ
วิธีเช็ก “ขอบตาดำ” ว่าเราเป็นแบบไหน ?
ก่อนที่จะรักษาขอบตาดำให้ได้ผลจริง ควรเช็กให้แน่ใจก่อนว่า “ขอบตาดำของเราเป็นแบบไหน?” เพราะแต่ละสาเหตุใช้วิธีรักษาไม่เหมือนกันเลยครับ
หมอจึงขอแนะนำ เทคนิคเช็กเบื้องต้นด้วยตัวเองตามนี้ครับ
ขอบตาดำจากเม็ดสี (Pigmented Type)
- สีคล้ำออกน้ำตาลเข้ม เห็นชัดแม้ในแสงธรรมดา
- ใช้สองนิ้วดึงผิวใต้ตาเบา ๆ สีคล้ำไม่จางลง
- ผิวดูเรียบ ไม่มีร่องหรือเงาลึก
ขอบตาดำจากเส้นเลือด/การไหลเวียน (Vascular Type)
- ขอบตาดำออกม่วง-น้ำเงินคล้ายเส้นเลือดฝอย
- เมื่อใช้นิ้วดึงผิวใต้ตา สีคล้ำจางลงบางส่วน
- มักแย่ลงเวลานอนดึก หรือหลังร้องไห้
ขอบตาดำจากโครงสร้าง/ร่องลึก (Structural Type)
- มีร่องใต้ตาชัดเจน หรือเป็นเงาแม้ในแสงปกติ
- เมื่อกด/ยิ้ม เงายังอยู่ ไม่เปลี่ยน
- ผิวอาจไม่คล้ำมาก แต่ดูโทรมเพราะเงาจากแสงตกกระทบ
ขอบตาดำแบบผสม (Mixed Type)
- มีทั้งสีคล้ำ + ร่องลึก หรือ สีม่วง + เงาลึก
- ดึงผิวแล้วยังเห็นร่อง / มีเงาแทรก / สีไม่จางทั้งหมด
- พบบ่อยในคนอายุมาก หรือคนที่ขอบตาดำเรื้อรังนานหลายปี
ทำไมควรเข้าใจ “ขอบตาดำ” แบบที่เป็น ก่อนเริ่มแก้ไข ?
ก่อนจะเลือกวิธีรักษาขอบตาดำ ไม่ว่าจะเป็นการทาครีม เลเซอร์ หรือฉีดฟิลเลอร์ สิ่งสำคัญที่สุดคือ ควรเข้าใจก่อนว่าเรามีขอบตาดำแบบไหน เพราะแต่ละสาเหตุมีวิธีดูแลต่างกันโดยสิ้นเชิงครับ ซึ่งหลายคนเลือกทาอายครีมแต่ไม่ดีขึ้น เพราะแก้ไม่ตรงกับต้นเหตุ เช่น
- ขอบตาดำเพราะร่องลึก → ต้องเติม Volume ด้วยฟิลเลอร์ ไม่ใช่แค่ทาครีม
- ขอบตาดำเพราะเส้นเลือดขยาย → เมโสหรือครีมเพื่อช่วยกระตุ้นการไหลเวียน
- ขอบตาดำจากเม็ดสี → ต้องใช้เลเซอร์หรือทรีตเมนต์ที่ช่วยลดเมลานิน
📌 สรุปสั้น ๆ หากอยากแก้ไข “ขอบตาดำ” ให้หายจริง ไม่เสียเวลา และคุ้มค่า แนะนำให้แพทย์วิเคราะห์ปัญหาก่อนเสมอครับ เพื่อวางแผนการรักษาให้ตรงจุดในครั้งแรก
7 วิธีแก้ขอบตาดำด้วยตัวเอง
วิธีทำให้ขอบตาหายดำ รักษาใต้ตาหมองคล้ำ หรือริ้วรอยใต้ตา ให้กลับมาสดใส ทำได้หลายวิธีครับ ทั้งวิธีทางธรรมชาติ และวิธีทางการแพทย์ ขึ้นอยู่กับปัจจัยที่ทำให้เกิดรอยคล้ำรอบดวงตา โดยวิธีแก้ไขในเบื้องต้นด้วยตนเอง มีดังนี้
1. หาสาเหตุของปัญหาขอบตาดำ
หากเป็นคนนอนดึก พักผ่อนไม่เพียงพอ สาเหตุที่ทำให้ใต้ตาคล้ำ ขอบตาดำ ถุงใต้ตาบวม มาจากการใช้ชีวิต ให้ลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และหลีกเลี่ยงปัจจัยที่ส่งผลให้นอนไม่หลับ เช่น ความเครียด ลดการดื่มชา กาแฟ น้ำอัดลม แอลกอฮอล์ และหาวิธีผ่อนคลายให้นอนหลับสบาย พักผ่อนอย่างเพียงพอ ก็จะช่วยลดภาวะขอบตาดำ คล้ำลงได้
2. หมั่นดูแลตัวเอง
การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เช่น ผักผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามิน เกลือแร่ สารต้านอนุมูลอิสระ หมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ ดื่มน้ำมาก ๆ หลีกเลี่ยงแสงแดด สิ่งเหล่านี้จะช่วยเพิ่มการไหลเวียนของโลหิตให้ดีขึ้น ผิวพรรณแข็งแรง ไม่ได้ช่วยเฉพาะขอบตาหายคล้ำ แต่ยังช่วยให้ ใบหน้าโดยรวมดูสดใสขึ้นได้ครับ
3. บำรุงรอบดวงตา ด้วยสูตรมาสก์ตา
วัตถุดิบจากธรรมชาติหลายชนิดมีสรรพคุณช่วยบำรุงและฟื้นฟูผิว เช่น วิธีแก้ขอบตาดำด้วยแตงกวา, วิธีแก้ขอบตาดำด้วยว่านหางจระเข้ และวิธีแก้ขอบตาดำด้วยมะเขือเทศ สามารถนำไปแช่เย็น หั่นบาง ๆ แล้วมาประคบบริเวณรอบดวงตา จะช่วยให้หลอดเลือดหดตัวลง เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวรอบดวงตา บรรเทาอาการขอบตาดำ ใต้ตาคล้ำได้
4. ทำทรีตเมนต์ ทาครีมบำรุงใต้ตา
การใช้ครีมบำรุงรอบดวงตาที่มีส่วนผสมของ Whitening ช่วยให้รอยดำคล้ำใต้ตาจางลงได้ ปัจจุบันมีให้เลือกหลายยี่ห้อครับ ขึ้นอยู่กับงบประมาณของแต่ละบุคคล
โดยควรเลือกครีมบำรุงที่ได้มาตรฐาน ผ่านการรับรองจาก อย. เท่านั้น เพราะผิวบริเวณใต้ตาค่อนข้างบอบบาง หากเลือกครีมที่ไม่มีคุณภาพ อาจก่อให้เกิดการระคายเคือง ส่งผลให้ใต้ตาคล้ำลงกว่าเดิมได้ครับ
5. เพิ่มการไหลเวียนเลือดบริเวณใต้ตา
- นวดใต้ตา หลังจากตื่นนอนให้ใช้นิ้วชี้กดเบา ๆ บริเวณใต้ตาจากซ้ายไปขวา ซ้ำไปมา 10 ครั้ง ช่วยเรื่องการไหลเวียนของเลือด ไม่ให้กระจุกอยู่บริเวณใต้ตาจนเป็นขอบตาดำ
- ประคบน้ำอุ่น โดยนำผ้านุ่ม ๆ ชุบน้ำอุ่น มาประคบบริเวณเปลือกตาทิ้งไว้ 5 นาที แล้วล้างด้วยน้ำเย็นอีกครั้ง จะทำให้รู้ลึกโล่งและสดชื่นขึ้น
- ประคบใต้ตาด้วยถุงชา นำถุงชาที่ยังอุ่น ๆ บีบน้ำให้พอหมาด นำมาประคบบนเปลือกตาทิ้งไว้ 10-15 นาที เพื่อช่วยลดรอยหมองคล้ำใต้ตา
6. ใช้แผ่นเจลเย็นปิดตา
แผ่นเจลเย็น เป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยบรรเทาปัญหาขอบตาดำที่ใช้งานสะดวก สามารถทำได้ทุกวัน มีวิธีใช้โดยการนำแผ่นเจลแช่เย็นแล้วนำมาวางไว้บริเวณดวงตา ช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัว ถนอมหลอดเลือดรอบดวงตา และลดอาการขอบตาดำจากหลอดเลือดขยายตัวได้
7. แต่งหน้าปกปิด
การแต่งหน้าไม่ใช่วิธีรักษา แต่เป็นการปกปิดปัญหาขอบตาดำเร่งด่วน หากมีธุระต้องใช้หน้าออกงาน สามารถใช้คอนซีลเลอร์ช่วยปกปิดรอยคล้ำใต้ตาได้
โดยควรเลือกสีให้เหมาะกับสีผิวของตนเอง แล้วค่อยแต่งหน้าลงแป้งปกปิดให้เรียบเนียนซ้ำอีกครั้ง ผลลัพธ์จะออกมาสวย ดูเป็นธรรมชาติหรือไม่ ขึ้นอยู่กับเทคนิคเฉพาะของแต่ละบุคคลครับ
ทั้ง 7 วิธีรักษาขอบตาดำด้วยตัวเองข้างต้น ถือเป็นวิธีที่ช่วยบรรเทาอาการขอบตาดำได้ครับ แต่ต้องอาศัยระยะเวลา และไม่สามารถหวังผลลัพธ์ได้ชัดเจน สำหรับในปัจจุบันยังมีวิธีรักษาขอบตาดำได้แบบเร่งด่วน ด้วยวิธีทางการแพทย์ หมอจะอธิบายในข้อต่อไปครับ
3 วิธีทำให้ขอบตาหายดำ แบบเร่งด่วน
สำหรับคนที่มีปัญหาขอบตาดำ ใต้ตาคล้ำเรื้อรัง สาเหตุมาจากกรรมพันธุ์ โครงสร้างผิว หรืออายุที่มากขึ้น ใช้วิธีทั่ว ๆ ไปจะไม่ค่อยเห็นผลครับ การรักษาขอบตาดำด้วยวิธีทางการแพทย์ จะเห็นผลได้ชัดเจนและรวดเร็วมากกว่า เพราะจัดการต้นเหตุของความคล้ำได้ตรงจุด
1. ฉีดเมโส ลดขอบตาดำ (Eye Bright Meso)
ฉีดเมโส ลดขอบตาดำ จะเป็นการใช้วิตามินสูตรเข้มข้น เช่น Tranexamic acid, Vitamin C, Glutathione ฯลฯ ฉีดเข้าใต้ผิวรอบดวงตาด้วยปริมาณน้อย ๆ ช่วยให้ผิวสว่างใส ลดเม็ดสี ลดรอยคล้ำ และเพิ่มความชุ่มชื้น ควรทำประมาณ 2–3 ครั้ง ห่างกัน 1–2 สัปดาห์ จะเห็นผลชัดขึ้นเรื่อย ๆ
- เหมาะกับ : ขอบตาดำจากเม็ดสี / ภูมิแพ้ / พักผ่อนน้อย
- เห็นผล : ภายใน 1-2 สัปดาห์
- อยู่ได้นาน : 2-3 เดือน (ควรทำซ้ำ)
2. เลเซอร์ลดขอบตาดำ (Pico Laser / Nd:YAG)
เลเซอร์ลดขอบตาดำ จะเป็นการยิงแสงเลเซอร์เพื่อไปทำลายเม็ดสีเมลานินหรือเส้นเลือดฝอยที่เป็นต้นเหตุของรอยคล้ำใต้ตา เลเซอร์ที่นิยม เช่น Pico Laser ไม่ว่าจะเป็น Pico Plus, Pico Sure Pro หรือ Sylfirm X Plus และ Fotona SP Dynamis ครับ ควรทำ 3-5 ครั้ง ห่างกันประมาณ 4 สัปดาห์ หรืออาจฉายแสง LED Bellalux เพื่อเสริมผลลัพธ์ให้เร็วขึ้น
- เหมาะกับ : ขอบตาดำจากเม็ดสี / เส้นเลือด
- เห็นผล : 4-6 สัปดาห์
- อยู่ได้นาน : 6 เดือน-1 ปี
3. ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ลดขอบตาดำ (Under Eye Filler)
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นหนึ่งในวิธีลดขอบตาดำที่เห็นผลเร็วที่สุด เหมาะกับคนที่ขอบตาดำจากร่องลึก หรือกระดูกใต้ตาทรุด ซึ่งทำให้ใบหน้าดูโทรมแม้ผิวไม่คล้ำจริง
แพทย์จะใช้ฟิลเลอร์ Hyaluronic Acid (HA) ฉีดบริเวณใต้ตา เพื่อเติมเต็มร่องลึก เพิ่มความชุ่มชื้น ทำให้ขอบตาดำมาก ๆ ดูสดใส สดชื่นขึ้น ผิวใต้ตาเรียบเนียน ไม่มีริ้วรอย หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เห็นผลการเปลี่ยนแปลงทันที ไม่มีแผลและไม่ต้องพักฟื้น เป็นหัตถการที่ดาราหลายคนก็เลือกใช้กันครับ
ก่อนเลือกวิธีรักษา ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินสาเหตุที่แท้จริงของขอบตาดำ เพื่อวางแผนการรักษาที่ตรงจุดและเหมาะกับคุณที่สุดครับ
หมอแนะนำ! วิธีเลือกผลิตภัณฑ์แก้ขอบตาดำ ยังไงให้เห็นผล ?
การเลือกอายครีมลดขอบตาดำหรือผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ไม่ควรดูแค่รีวิวหรือราคาเพียงอย่างเดียว แต่ควรดูส่วนผสมที่มีงานวิจัยรองรับว่าช่วยลดรอยคล้ำใต้ตาได้จริง เพราะแต่ละสูตรจะเน้นการแก้ปัญหาต่างกัน เช่น บางตัวช่วยลดเม็ดสี บางตัวช่วยบำรุงผิว บางตัวช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น
6 ส่วนผสมเด่นที่หมอแนะนำ
- Niacinamide (Vitamin B3) ช่วยลดการสร้างเม็ดสี ปรับผิวกระจ่างใส เสริมเกราะผิว เหมาะกับขอบตาดำแบบคล้ำจากเม็ดสี / ภูมิแพ้ / ผิวอ่อนแอ
- Vitamin C (THD Ascorbate, MAP) ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ลดความหมองคล้ำ เพิ่มความสว่าง เหมาะกับขอบตาดำแบบคล้ำจากแดด / ผิวหมอง / สีผิวไม่สม่ำเสมอ
- Caffeine ช่วยกระตุ้นการไหลเวียน หดหลอดเลือด ลดบวมใต้ตา เหมาะกับขอบตาดำแบบคล้ำจากเส้นเลือด / พักผ่อนน้อย / ตาบวม
- Peptide (เช่น Matrixyl, Argireline) ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ลดริ้วรอย ฟื้นฟูคุณภาพผิว เหมาะกับขอบตาดำแบบคล้ำจากอายุ / ผิวเสื่อม / มีริ้วรอยเล็ก ๆ จากผิวแห้งกร้าน
- Retinol (สูตรอ่อนโยน เช่น Encapsulated Retinol, Bakuchiol) ช่วยลดความหมอง กระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวเหมาะกับขอบตาดำแบบคล้ำจากผิวแห้งเสีย / ผิวบาง / สีผิวไม่สม่ำเสมอ
- Ceramide / Panthenol / Hyaluronic Acid ช่วยเติมความชุ่มชื้น เสริมชั้นผิว ลดการระคายเคือง เหมาะกับขอบตาดำแบบผิวรอบตาแห้ง / แพ้ง่าย / หลังทำเลเซอร์
📌 คำแนะนำเพิ่มเติม
- เลือกบรรจุภัณฑ์แบบสุญญากาศ / ทึบแสง เพื่อป้องกันสารเสื่อมสภาพ โดยเฉพาะวิตามิน C และเรตินอล
- ไม่มีน้ำหอม / แอลกอฮอล์ / พาราเบน เพื่อหลีกเลี่ยงการระคายเคือง โดยเฉพาะในคนผิวแพ้ง่าย
- ควรทดสอบ (Patch Test) หลังใบหูหรือท้องแขน 48 ชม.ก่อนใช้จริง เพื่อความปลอดภัย
การใช้ผลิตภัณฑ์ลดขอบตาดำที่ดี ควรใช้เป็นประจำเช้า-เย็น ร่วมกับการพักผ่อนให้เพียงพอ และทาครีมกันแดดรอบดวงตาทุกวัน ถึงจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนในระยะยาวครับ
วิธีป้องกันไม่ให้ขอบตาดำ ร่องใต้ตาลึก
การดูแลผิวรอบดวงตาให้ดูสดใสอยู่เสมอ ไม่เพียงช่วยลดความโทรมบนใบหน้า แต่ยังช่วยชะลอปัญหาขอบตาดำ และ ร่องใต้ตาลึกได้ในระยะยาว โดยเฉพาะในคนที่เริ่มมีแนวโน้มจากกรรมพันธุ์ หรืออายุที่เพิ่มขึ้นครับ
8 วิธีป้องกันขอบตาดำและร่องลึกที่ทำได้ทุกวัน
- พักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อยวันละ 7-8 ชม. และไม่ควรนอนดึกเกินไปเป็นประจำ
- ประคบด้วยถุงชา น้ำอุ่น หรือนวดเบา ๆ เพิ่มการไหลเวียนเลือดบริเวณใต้ตา
- หลีกเลี่ยงการขยี้ตาแรง ๆ เพราะทำให้เส้นเลือดฝอยแตกและกระตุ้นเม็ดสีใต้ตาให้เพิ่มขึ้น
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ (วันละ 6–8 แก้ว) เพื่อให้ผิวรอบดวงตาชุ่มชื้น ไม่แห้งเหี่ยวหรือหมองคล้ำ
- ทาครีมบำรุงรอบดวงตาเป็นประจำ เลือกครีมที่มีส่วนผสมอย่าง Niacinamide, Vitamin C, Caffeine หรือ Peptide
- หลีกเลี่ยงบุหรี่และแอลกอฮอล์ เพราะทำให้เส้นเลือดขยาย ผิวบาง และเกิดการคั่งเลือดที่ใต้ตา
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนเลือดทั่วใบหน้า ช่วยลดรอยคล้ำจากเส้นเลือดได้ดี
- ฉีดฟิลเลอร์เติมเต็มร่องลึก ผิวชุ่มชื้น หลังฉีดใต้ตาสดใสขึ้นชัดเจน
หากป้องกันอย่างเต็มที่แล้วยังมีปัญหาขอบตาดำหรือร่องลึกเด่นชัด อาจจำเป็นต้องปรึกษาแพทย์เพื่อดูว่าเป็นโครงสร้างหรือกรรมพันธุ์ และพิจารณารักษาด้วยหัตถการเพิ่มเติม เช่น ฟิลเลอร์ เมโส หรือเลเซอร์ครับ
รักษาขอบตาดำ ราคาเท่าไหร่ ? แพงไหม ?
รักษาขอบตาดำ ราคาจะต่างกันไปตามแต่ละหัตถการครับ ขึ้นอยู่กับวิธีที่เลือกและความเหมาะสมในแต่ละเคส
รักษาขอบตาดำ ราคาโปรโมชั่น ที่ V Square Clinic
โปรโมชัน Pico Plus ที่ V Square Clinic
โปรโมชัน PicoSure Pro ที่ V Square Clinic
แก้ไขขอบตาดำ ใต้ตาคล้ำ ที่ V Square Clinic มีแบบไหนบ้าง ?
ที่ V Square Clinic เรามีบริการรักษาขอบตาดำและใต้ตาคล้ำหลากหลายแบบ ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้ประเมินลักษณะปัญหาและแนะนำแนวทางที่เหมาะกับสภาพผิวแต่ละคน เพราะขอบตาดำเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น เม็ดสี ร่องลึก เส้นเลือด หรือโครงสร้างผิว การใช้วิธีที่ตรงจุดจึงสำคัญที่สุดครับ
- ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา (Under Eye Filler) เติมเต็มร่องลึก ลดเงาใต้ตา เหมาะกับขอบตาดำจากโครงสร้างหรือกระดูกใต้ตาทรุด เห็นผลทันที อยู่ได้นาน 6-24 เดือน
- เมโสใต้ตา (Eye Bright Meso) ฉีดวิตามินเข้มข้นใต้ตา เช่น Vitamin C, Tranexamic acid ช่วยลดเม็ดสี เพิ่มความสว่าง เหมาะกับคล้ำจากเม็ดสี ภูมิแพ้ หรือพักผ่อนน้อย
- เลเซอร์ลดขอบตาดำ (Pico Laser, Nd:YAG) ช่วยลดเม็ดสีเมลานินและเส้นเลือดฝอยใต้ตาอย่างปลอดภัย เห็นผลชัดใน 3-5 ครั้ง อยู่ได้นาน 6 เดือน -1 ปี
รักษาขอบตาดำ ที่ V Square Clinic ดียังไง ?
หากคนไข้กำลังมองหาคลินิกที่เข้าใจปัญหาใต้ตาอย่างแท้จริง และไม่เน้นขายคอร์ส แต่เน้นผลลัพธ์และความพึงพอใจเป็นหลัก V Square Clinic คือหนึ่งในตัวเลือกที่หลายคนไว้วางใจ เน้นการดูแลแบบ “เฉพาะบุคคล” โดยแพทย์จะเป็นผู้วินิจฉัยและเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมที่สุดในแต่ละเคส
8 เหตุผลที่หลายคนเลือกดูแลใต้ตากับ V Square Clinic
- ไม่มีเซลล์ ไม่ขายคอร์ส ทุกเคสปรึกษาแพทย์โดยตรง ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย
- ใช้ตัวยาแท้ เครื่องเลเซอร์ ได้มาตรฐาน ผ่าน อย. สามารถตรวจสอบได้
- ดูแลโดยแพทย์ประสบการณ์สูงเฉพาะทาง ผ่านการอบรมอัปเดตความรู้ทั้งในไทยและต่างประเทศ
- วิเคราะห์ปัญหาแบบเฉพาะบุคคล เลือกวิธีรักษาตรงจุด เห็นผลชัดเจน
- ใส่ใจในรายละเอียดทุกขั้นตอน ตั้งแต่การประเมิน ไปจนถึงการติดตามผลหลังทำ เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาสวย ดูเป็นธรรมชาติ
- เลือกหัตถการตามปัญหาจริง ไม่เกินจำเป็น มีครบทั้งฟิลเลอร์, เลเซอร์, เมโส
- รีวิวแน่น เคสจริงเยอะ เห็นผลชัดเจน พร้อมให้ข้อมูลอย่างโปร่งใส
สนใจปรึกษาฟรี สามารถจองคิวประเมินได้ทุกวัน โดยไม่มีค่าใช้จ่าย พร้อมดูแลอย่างใกล้ชิดโดยทีมแพทย์ประสบการณ์สูง
อ่านบทความเพิ่มเติม : ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ที่ไหนดี ? เลือกอย่างไรให้ปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ดีที่สุด
คำถามที่พบบ่อย เกี่ยวกับขอบตาดำ
ใต้ตาดำจากภูมิแพ้ แก้ยังไง ?
หากขอบตาดำมาจากภูมิแพ้ เช่น แพ้อากาศ ฝุ่น หรือละอองเกสร ควรรักษาที่ต้นเหตุของภูมิแพ้ควบคู่กันไป เช่น การล้างจมูก ใช้ยาต้านฮิสตามีน หลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้น และลดการขยี้ตา เพราะจะยิ่งทำให้ผิวใต้ตาสร้างเม็ดสีมากขึ้น อาจทำร่วมกับเลเซอร์ใต้ตาลดเม็ดสี ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาหรือฉีดเมโสใต้ตา เพื่อเห็นผลไวและชัดเจนขึ้น
มีวิธีแก้ขอบตาดำแบบธรรมชาติไหม ?
สำหรับวิธีธรรมชาติสามารถทำได้ เช่น ประคบเย็น, ดื่มน้ำมากขึ้น, นอนหลับเพียงพอ, ทาอายครีมที่มี Niacinamide หรือ Vitamin C แม้จะช่วยได้ในระดับหนึ่ง แต่อาจไม่เห็นผลชัดในกรณีที่มีร่องลึก หรือปัญหาโครงสร้างผิวครับ
ขอบตาดำ เกิดจากโรคอะไรได้บ้าง ?
โดยทั่วไปขอบตาดำไม่ได้เป็นโรคครับ แต่สามารถสะท้อนปัญหาสุขภาพบางอย่างได้ เช่น ภูมิแพ้เรื้อรัง, ไซนัสอักเสบ, ภาวะซีด, โลหิตจาง หรือโรคตับ (ในบางราย)
หากขอบตาดำเฉียบพลัน ร่วมกับอาการผิดปกติอื่น เช่น เหนื่อยง่าย ตาบวม ปวดหัว ควรพบแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติมครับ
ทำไมนอนน้อยแล้วขอบตาดำ ?
เพราะการนอนน้อยทำให้เส้นเลือดใต้ตาขยายตัว การไหลเวียนเลือดช้าลงและผิวซีดลง จึงเห็นรอยคล้ำชัดเจนขึ้น
นอกจากนี้ฮอร์โมน Cortisol ยังเพิ่มขึ้นเมื่ออดนอน ส่งผลให้เกิดความเครียดทางผิวหนัง ซึ่งกระตุ้นการสร้างเม็ดสีบริเวณใต้ตาได้ครับ
ขอบตาดำเป็นกรรมพันธุ์ไหม ?
ใช่ครับ บางคนมีพันธุกรรมเรื่องสีผิวใต้ตา หรือมีโครงสร้างเบ้าตาลึกตั้งแต่เด็ก ซึ่งทำให้เห็นรอยคล้ำได้ง่าย แม้พักผ่อนเพียงพอ
ขอบตาดำจากกรรมพันธุ์สามารถดีขึ้นได้ ด้วยการรักษาที่ปรับตามโครงสร้าง เช่น ฟิลเลอร์ใต้ตา หรือเลเซอร์ลดเม็ดสี โดยควรให้แพทย์ประเมินก่อนเลือกวิธีที่เหมาะสม
สรุป ขอบตาดำหายได้ ถ้ารักษาตรงจุด
“ขอบตาดำ” ไม่ใช่แค่ปัญหาด้านความงาม แต่ยังสะท้อนถึงสุขภาพผิวและโครงสร้างใบหน้าบางส่วนด้วยครับ หลายคนจึงพยายามใช้วิธีทั่วไป เช่น ทาครีม พักผ่อน หรือประคบเย็น แต่กลับไม่เห็นผล เพราะไม่ได้รักษาที่ต้นเหตุที่แท้จริง
หากรู้สึกว่า ขอบตาดำเรื้อรัง แก้เองแล้วไม่ดีขึ้น แนะนำให้ปรึกษาแพทย์เพื่อวิเคราะห์ว่าเกิดจากอะไร เม็ดสี เส้นเลือด หรือร่องลึก จากนั้นจึงเลือกแนวทางรักษาให้ตรงจุด เช่น เมโส เลเซอร์ หรือฟิลเลอร์ใต้ตา ซึ่งจะให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนกว่าและปลอดภัยกว่าในระยะยาวครับ
อ้างอิง :
- Dark Circles under the Eyes; Treatment Suggestions and Combining Procedures https://www.mdpi.com/2079-9284/8/2/26/htm
- Infraorbital Dark Circles: Definition, Causes, and Treatment Options https://onlinelibrary.wiley.com/doi/full/10.1111/j.1524-4725.2009.01213.x
- Treatments of Infra-Orbital Dark Circles https://synapse.koreamed.org/articles/1100332
กระ มีกี่ชนิด ? เกิดจากอะไร ? รักษาด้วยวิธีไหนได้บ้าง ?
Reading Time: 4 minutesกระ คือหนึ่งในปัญหาจุดด่างดำบนใบหน้าที่สร้างความกังวลให้ใครหลายคน ส่งผลต่อความมั่นใจ ทำให้ผิวดูหมองคล้ำและสีผิวไม่สม่ำเสมอ ในบทความนี้หมอจะพาไปทำความเข้าใจว่า กระตื้น กระลึกเกิดจากอะไร ? กระมีกี่ชนิด ? บริเวณที่พบบ่อย ไปจนถึงแนวทางการป้องกันและรักษากระอย่างถูกต้อง ตรงจุด
ปากลดน้ำหนัก คืออะไร ช่วยลดน้ำหนักได้อย่างไร เลือกใช้แบบไ...
Reading Time: 4 minutes - ปากกาลดน้ำหนักคืออะไร ? - GLP-1 และ GIP คืออะไร ? - ลักษณะของปากกาลดน้ำหนัก - วิธีการฉีดปากกาลดน้ำหนักทําอย่างไร ? - เจาะลึกกลไกการทำงานของปากกาลดน้ำหนัก
ร้อยไหมคอลลาเจน คืออะไร ? ช่วยยกกระชับผิว ทำให้หน้าเด็กลง...
Reading Time: 3 minutesความนิยมในการร้อยไหมยังมีมากขึ้นเรื่อย ๆ ครับ หนึ่งในชนิดไหมที่คนให้ความสนใจ คือ การร้อยไหมคอลลาเจน สาเหตุที่ถูกถามถึงบ่อย ๆ นั้นมาจากมีการโฆษณาว่าร้อยไหมคอลลาเจนแล้วช่วยให้ผิวกระชับเต่งตึง หน้าเด็กลงได้ในทันที ร้อยไหมคอลลาเจนคืออะไร ? จะช่วยหน้าเด็กลงจริงไหม ? หมอรวบรวมข้อมูลอธิบายไว้ในบทความนี้ครับ
ร้อยไหมก้างปลาแบบไหนดีที่สุด ? ไหมแต่ละชนิดแตกต่างกันอย่า...
Reading Time: 5 minutesร้อยไหมก้างปลา คือ ชื่อที่หมอส่วนใหญ่ใช้เรียกการร้อยไหมเงี่ยง (ฺBarb) เพื่อดึงหน้า เป็นไหมละลายที่ใช้ในทางการแพทย์ครับ ไหมก้างปลาเป็นชื่อที่หมอไทยตั้งขึ้นมาเองเพื่อให้ง่ายต่อการอธิบายให้คนไข้เข้าใจลักษณะของเงี่ยงไหม เพราะมีลักษณะเงี่ยงคล้าย ๆ ก้างปลา
ร้อยไหมใต้ตา อันตรายไหม ? มีปัญหารอยคล้ำใต้ตา แก้ไขวิธีไหนดี
Reading Time: 3 minutesการร้อยไหมใต้ตา อันตรายไหม ? ใครที่กำลังมองหาวิธีแก้ไขปัญหาใต้ตาหมองคล้ำ ไม่สดใส และเจอข้อมูลการร้อยไหมใต้ตา แต่มีข้อสงสัย ทั้งด้านวิธีการทำ ผลลัพธ์และความปลอดภัย ในบทความนี้หมอจะมาคลายข้อสงสัยให้ทั้งหมดครับ ร้อยไหมใต้ตา ควรทำไหม ? มีปัญหาใต้ตาเลือกทำวิธีไหนดี ถึงแก้ปัญหาได้ตรงจุด
ร้อยไหมยกมุมปาก แก้ปัญหามุมปากตก หน้าบึ้ง ให้ดูสดใสขึ้นได...
Reading Time: 3 minutesร้อยไหมยกมุมปาก ช่วยได้จริงไหม? คำถามนี้มีคนไข้ถามเข้ามาเยอะครับ โดยเฉพาะคนที่เริ่มมีปัญหาความหย่อนคล้อย เนื้อแก้มเริ่มหย่อนมองเห็นเป็นริ้วรอย รวมถึงทำให้ดูหน้าบึ้ง มุมปากคว่ำ การร้อยไหมยกมุมปากช่วยได้หรือไม่ ต้องการยกมุมปากควรทำวิธีไหนดี? บทความนี้หมอมีข้อมูลมาแนะนำครับ
