วี สแควร์

เมโสหลุมสิว คืออะไร ? แก้ปัญหาหลุมสิวแบบไหนได้บ้าง กี่วันเห็นผล ต้องทำกี่ครั้ง

Reading Time: 3 minutes

เมโสหลุมสิว ตัวช่วยปรับผิวหน้า

เมโสหลุมสิว

เมโสหลุมสิว (Meso Acne) ตัวช่วยปรับผิวหน้าให้เรียบเนียน

ปัญหาหลุมสิว เป็นปัญหาที่พบได้มากในผู้ที่มีปัญหาสิวโดยเฉพาะสิวอักเสบ แม้สิวจะหายแล้ว แต่กลับทิ้งร่องรอยเอาไว้ ซึ่งปัจจุบันวิธีการรักษาหลุมสิวมีหลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับลักษณะปัญหาครับ โดย “เมโสหลุมสิว” แม้จะเป็นหนึ่งในวิธีรักษาหลุมสิว และช่วยปรับสภาพผิวให้ดูเรียบเนียนมากขึ้นได้ แต่ก็ไม่ได้เหมาะกับปัญหาหลุมสิวทุกแบบ     

เมโสหลุมสิว เหมาะกับหลุมสิวแบบใด ช่วยปรับสภาพผิวได้อย่างไร ? มีขั้นตอนการรักษา การเตรียมตัวอย่างไร ? สามารถศึกษาข้อมูลได้จากบทความนี้ครับ  

สารบัญ เมโสหลุมสิว


เมโสหลุมสิว คืออะไร ? 

เมโสหลุมสิว คือ วิธีการรักษาหลุมสิว (Atrophic Scars) ด้วยเทคโนโลยีเมโสบำบัด (Mesotherapy) ซึ่งเป็นเทคนิคการฉีดสารบำรุงผิวเข้าไปในชั้นผิวโดยตรง เพื่อช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว ทำให้ผิวหนังบริเวณที่เป็นหลุมสิวค่อย ๆ ฟื้นตัวและเต็มขึ้นจนกลับมาเรียบเนียนใกล้เคียงผิวปกติ 

ฉีดเมโสหลุมสิว

โดยตัวยาเมโสที่ใช้ฉีดแก้ปัญหาหลุมสิว มักจะประกอบไปด้วย Hyaluronic acid (HA),  Polydeoxyribonucleotide (PDRN), วิตามิน, แร่ธาตุ, กรดอะมิโน เปปไทด์ และสารสกัดจากธรรมชาติต่าง ๆ ที่ช่วยบำรุงผิว

หลุมสิว เกิดจากอะไร ?

อย่างที่หมอเกริ่นไว้ในตอนต้นว่า เมโสหลุมสิว สามารถรักษาหลุมสิวได้ แต่ไม่ใช่กับปัญหาหลุมสิวทุกชนิด เพื่อให้เข้าใจมากขึ้น หมอขออธิบายเกี่ยวกับสาเหตุการเกิดหลุมสิว และชนิดของหลุมสิวก่อนว่าแบบไหนที่เมโสหลุมสิว สามารถแก้ไขได้ 

หลุมสิวเกิดจากอะไร ?

หลุมสิวมักเกิดขึ้นหลังจากที่เป็นสิว โดยเฉพาะสิวอักเสบรุนแรง สิวหัวช้าง เป็นการอักเสบลึกใต้ผิวหนัง ทำให้เนื้อเยื่อผิวหนังถูกทำลาย เมื่อสิวยุบตัวลงจึงทิ้งร่องรอยเป็นหลุมบุ๋มลึกลงไปในผิว บางครั้งหลุมสิวอาจเกิดจากการแกะเกาสิวและติดเชื้อ หรือเกิดจากการใช้ยารักษาสิวบางชนิดที่ระคายเคืองผิวมากเกินไปก็ได้

ลักษณะหลุมสิว

หลุมสิวมีกี่ประเภท ?

หลุมสิวสามารถแบ่งได้หลายประเภทตามลักษณะและความรุนแรง ได้แก่

  1. หลุมสิวตื้น (Shallow acne scars): เป็นหลุมสิวที่ไม่ลึกมาก มักเกิดจากสิวอุดตัน รอยดูตื้นและกว้าง สามารถรักษาได้ด้วยวิธีต่าง ๆ เช่น เลเซอร์ หรือ สารเคมีลอกผิว
  2. หลุมสิวลึก (Deep acne scars): มีลักษณะเป็นหลุมลึก เกิดจากสิวอักเสบรุนแรง การรักษาทำได้ยากกว่า อาจต้องใช้การผ่าตัด เช่น punch excision
  3. หลุมสิวแบบ Rolling scars: ผิวหนังมีลักษณะเป็นคลื่น ขรุขระ รอยมักกว้างและตื้น การรักษาอาจใช้เลเซอร์ชนิด fractional laser
  4. หลุมสิวแบบ Boxcar scars: มีลักษณะเป็นหลุมสี่เหลี่ยม ขอบชัดเจน ก้นหลุมค่อนข้างแบน การรักษาอาจต้องใช้การผ่าตัด punch elevation
  5. หลุมสิวแบบ ice pick scars: หลุมมีลักษณะแคบลึก คล้ายรอยแทงของก้านไอติม รักษายากที่สุด วิธีการรักษาที่ได้ผลคือ punch excision
ประเภทหลุมสิว

สำหรับ เมโสหลุมสิว จะเหมาะกับหลุมสิวที่ไม่ลึก มีรอยสิวตื้น ๆ และมีปริมาณไม่มากเท่านั้น โดยตัวยาเมโสหลุมสิวจะเข้าไปฟื้นฟู และซ่อมแซมผิวระดับเซลล์ ผิวจึงดูเรียบเนียนมากขึ้น ส่วนการรักษาหลุมสิวประเภทอื่น หมอจะอธิบายเพิ่มเติมในหัวข้อถัดไป ครับ

หลุมสิว ใช้อะไรรักษาได้บ้าง ?

การรักษาหลุมสิววิธีอื่น ๆ นอกจากเมโสหลุมสิวมีดังนี้  

1. การใช้ครีมและยาทา เหมาะกับหลุมสิวตื้น ๆ 

  • Retinoids: ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ลดการอักเสบ และลดการสะสมของเม็ดสี วิธีใช้คือ ทาบาง ๆ บนผิวที่สะอาดก่อนนอน ควรใช้ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ และค่อย ๆ เพิ่มความถี่
  • กรดวิตามินซี: ช่วยเร่งการหลุดลอกของผิว ลดรอยสิว และหลุมสิวได้ระดับหนึ่ง และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวกระจ่างใส วิธีใช้คือทาเซรั่มหรือครีมบำรุงที่มีส่วนผสมของวิตามินซีเข้มข้นอย่างน้อย 10% เช้า-เย็น
วิธีรักษาหลุมสิว

2. ทำทรีตเมนต์หลุมสิว เหมาะกับหลุมสิวที่ไม่ลึกมาก 

  • ทำพีลลิ่ง 
  • มาส์กหน้า 

จุดประสงค์เพื่อผลัดเซลล์ผิวและกระตุ้นการสร้างผิวใหม่ เพื่อทำให้ผิวเรียบเนียน

3. เลเซอร์หลุมสิว เหมาะกับหลุมสิวตื้น ๆ ไปจนถึงหลุมสิวระดับกลาง-ลึก

การทำเลเซอร์เป็นการใช้พลังงานเข้าไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและเติมเต็มหลุมสิว โดยกลุ่มเลเซอร์หลุมสิวที่นิยม เช่น Fractional Co2 Laser, Fraxel, Fine Scan, Fractional, e-matrix และ Pico Laser  ที่สามารถปรับค่าพลังงานให้เหมาะกับลักษณะหลุมสิวแต่ละประเภทได้ 

หลังทำ ช่วยให้ผิวเรียบเนียน หลุมสิวตื้นขึ้น โดยในขั้นตอนการทำส่วนใหญ่จะต้องทำหลายครั้งอย่างต่อเนื่อง เฉลี่ย 3-5 ครั้ง ขึ้นไปเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ 

4. ฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว เหมาะสำหรับรอยสิวตื้นและความลึกปานกลาง

การฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว เป็นการใช้ สารเติมเต็มไฮยาลูรอนิก แอซิด (Hyaluronic Acid) หรือ HA ฉีดลงไปใต้ผิวหนังเพื่อเติมหลุมสิวให้ตื้นขึ้น แพทย์จะใช้เข็มฉีดสารเติมเต็มเข้าไปในหลุมสิว ด้วยคุณสมบัติของฟิลเลอร์ที่ช่วยเติมเต็ม ก็จะช่วยทำผิวกลับมาเรียบเนียน

ในกรณีที่มีปัญหาหลุมสิวแบบ Box Scar และ Rolling จะต้องฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว ร่วมกับการทำ Subcision หรือ การตัดพังผืดที่ดึงรั้งผิวออกเพื่อทำให้ชั้นใต้ผิวเกิดช่องว่าง (ขั้นตอน:ฉีดยาชาเฉพาะที่ ใช้เข็มสอดเข้าไปตัดเส้นใยใต้ผิว ) ที่สามารถฉีดฟิลเลอร์ เข้าไปได้ หลังฉีดหลุมสิวจะตื้นขึ้นทันทีประมาณ 70% เห็นผลเต็มที่ใน 1-2 สัปดาห์ 

Subcision

5. การผ่าตัดรักษาหลุมสิว 

การผ่าตัดหลุมสิว จะเหมาะกับปัญหาหลุมสิว Ice Pick Scar (หลุมสิวระดับรุนแรง) ที่มีขนาดความกว้างไม่เกิน 3 มม. เป็นการผ่าตัดยกหลุมสิวให้เสมอกับผิวปกติ ที่ต้องอาศัยความชำนาญและความพิถีพิถันของแพทย์เป็นอย่างมากในการตัดหลุมสิวแล้วเย็บปิดด้วยไหมขนาดเล็ก เมื่อครบ 1 สัปดาห์คนไข้จะต้องกลับมาตัดไหมออก หลังจากผ่าตัดเย็บหลุมสิว จะมีรอยผ่าตัดเป็นเส้นตรง ต้องใช้เวลา 1-2 เดือน เพื่อรอให้ผิวหนังสมานเป็นเนื้อเดียวกัน


เมโสหลุมสิวทำงานอย่างไร ?

สำหรับการรักษาหลุมสิว ด้วยการฉีดเมโสหลุมสิว เป็นการรักษาที่อาศัยหลักการของเมโสบำบัด (Mesotherapy) หรือการนำส่งสารอาหารที่จำเป็นต่อผิวหนังไปยังชั้นผิวโดยตรง โดยใช้เข็มขนาดเล็กฉีดสารเข้าไปในชั้นหนังแท้ (dermis) รอบ ๆ บริเวณหลุมสิวในปริมาณเล็กน้อยหลายจุด ทำให้สารอาหารซึมผ่านเข้าไปหล่อเลี้ยงผิวหนังได้ลึกถึงชั้นหนังแท้ที่อยู่ใต้หลุมสิว

การทำงานเมโสหลุมสิว

โดยตัวยาที่เป็นสารสำคัญที่ช่วยฟื้นฟูผิว ได้แก่ Hyaluronic acid (HA), Polydeoxyribonucleotide (PDRN), Polynucleotide (PN) ,Growt factors , argililine,คอลลาเจน, วิตามิน แร่ธาตุ และสารสกัดจากธรรมชาติที่มีสมบัติในการกระตุ้นการสังเคราะห์คอลลาเจนและอิลาสตินชนิดใหม่ขึ้นมาแทนที่เนื้อเยื่อผิวหนังที่เสียหายไป  เช่น ตัวยาฉีดเมโสหลุมสิวในกลุ่ม 

  • Made Collagen
  • Neo-Glutanex Glow 
  • Filorga /Revs
  • Rejuran

หลังฉีดช่วยทำให้ผิวหนังสามารถฟื้นกลับมามีความแข็งแรง มีความชุ่มชื้นและความยืดหยุ่นดีดังเดิม แต่จะเหมาะกับคนที่มีหลุมสิวตื้น ๆ และมีปริมาณไม่มากเท่านั้น เมื่อทำซ้ำหลายครั้งเป็นประจำ หลุมสิวจะค่อย ๆ ตื้นขึ้นและผิวเรียบเนียนขึ้น รวมถึงช่วยลดรอยดําจากสิวได้อีกด้วย 

มาเด้หน้าใส ช่วยเรื่องอะไร เหมาะกับใคร มียี่ห้อไหนบ้าง ? 

นอกจากนี้ยังสามารถทำร่วมกับตัวยาในกลุ่มที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน อย่าง exosome ที่มีสมบัติช่วยซ่อมแซมและฟื้นฟูเซล์ผิวให้เรียบเนียน  ซึ่งมีงานวิจัยจาก Lab ที่ประเทศเกาหลี พบว่าการใช้ exsosome ร่วมกับการทำเลเซอร์ ช่วยให้หลุมสิวตื้นขึ้น ผิวเรียบเนียนขึ้น ใช้ได้กับหลุมสิวทุกประเภท ทั้ง Ice pick scar, Box scar และ Rolling scar แต่ที่ชัดเจนที่สุด คือ หลุมสิวแบบ Rolling scar (หลุมสิวระดับทั่วไป)

 Exosome คือ ? งานผิวล่าสุดจากเกาหลี ช่วยเรื่องอะไรบ้าง ?


เมโสหลุมสิวช่วยอะไรได้บ้าง ?

เมโสหลุมสิวสามารถช่วยฟื้นฟูผิวที่มีปัญหาหลุมสิวได้หลายประการ ดังนี้

  • ช่วยเติมเต็มร่องหลุมสิวให้ตื้นขึ้น ทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้น
  • ช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและอิลาสตินในผิว ทำให้ผิวแข็งแรงและมีความยืดหยุ่นมากขึ้น
  • เพิ่มการไหลเวียนของเลือดมาเลี้ยงผิวบริเวณหลุมสิว ช่วยให้ผิวฟื้นตัวได้ดีขึ้น
  • ลดการอักเสบและการติดเชื้อที่อาจเกิดตามมาหลังจากเป็นสิว
  • ช่วยปรับสมดุลให้ผิว ทำให้ผิวชุ่มชื้น เนียนนุ่ม สีผิวสม่ำเสมอ ดูมีออร่า
  • ช่วยให้รอยแผลเป็นจากสิวจางลง ด้วยการกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวเก่าและสร้างเซลล์ผิวใหม่
ผลลัพธ์เมโสหลุมสิว

การเตรียมตัวก่อนทำเมโสหลุมสิว

ก่อนทำเมโสหลุมสิว ควรปฏิบัติดังนี้เพื่อให้ได้ผลดีที่สุด

  1. ปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินสภาพผิวและความเหมาะสมในการทำ
  2. หยุดใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารเคมีแรง ๆ เช่น กรดวิตามินเอ, เรตินอล ก่อนทำอย่างน้อย 3-7 วัน
  3. งดแสงแดด งดออกกำลังกายหนัก และงดดื่มแอลกอฮอล์ ก่อนทำ 1 สัปดาห์
  4. คนไข้สามารถแต่งหน้ามาได้ เพราะทางคลินิกจะมีการทำความสะอาดผิวก่อนฉีดทุกครั้ง
  5. แจ้งแพทย์ให้ทราบหากมีโรคประจำตัวหรือแพ้ยาชนิดใด
  6. นอนพักผ่อนให้เพียงพอ ทานอาหารและดื่มน้ำให้ครบ เพื่อให้ร่างกายพร้อมสำหรับการฟื้นฟูผิว

ขั้นตอนการทำเมโสหลุมสิว

การทำเมโสหลุมสิว ใช้เวลาประมาณ 30-45 นาที โดยมีขั้นตอนดังนี้

  1. ทำความสะอาดผิวหน้า
  2. ฉีดตัวยาเมโสยี่ห้อที่เหมาะกับสภาพผิว
  3. ระหว่างฉีด อาจรู้สึกเจ็บเล็กน้อย แต่จะมีการประคบเย็นรวมถึงแปะยาชาก่อนฉีด

การดูแลหลังเมโสหลุมสิว

หลังทำเมโสหลุมสิวเสร็จ ให้ปฏิบัติตามนี้เพื่อช่วยให้ผิวหายเร็วและไม่เกิดผลข้างเคียง

  1. ไม่ควรนวดผิวบริเวณที่ทำทันที เพื่อป้องกันการระคายเคืองผิว
  2. งดทาครีมบริเวณรอยเข็ม 1 คืน เพื่อหลีกเลี่ยงการอักเสบของผิว
  3. หลีกเลี่ยงแสงแดดอย่างน้อย 1 สัปดาห์ และทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน เมื่อต้องออกแดด
  4. ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวสูตรอ่อนโยนระหว่างวัน และทาครีมบำรุงเข้มข้นทิ้งไว้ข้ามคืน
  5. หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีแอลกอฮอล์หรือสารเคมีที่ระคายผิว
  6. ดื่มน้ำมาก ๆ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารมีประโยชน์ เพื่อช่วยให้ผิวฟื้นตัวเร็วขึ้น
  7. งดอาหารหมักดอง ของทอด ของมัน อาหารรสจัด อาหารที่มีไขมันหรือน้ำตาลสูง เนื่องจากอาหารเหล่านี้ทำให้เกิดการอักเสบของผิว เป็นต้นเหตุของการเกิดสิวและหลุมสิว 
  8. ควรล้างหน้าให้สะอาดอย่างถูกวิธี เพื่อชำระล้างสิ่งสกปรกและขจัดความมันส่วนเกินบนใบหน้า ปรับสมดุลผิว ช่วยลดสิวอุดตัน และสิวอักเสบที่ทำให้เกิดหลุมสิวครับ
  9. กลับไปพบแพทย์ตามนัดเพื่อประเมินผล และทำซ้ำในรอบต่อไป

เมโสหลุมสิว กี่วันเห็นผล ?

ในช่วงประมาณ 3 วันหลังฉีดเมโสหลุมสิว จะรู้สึกว่าใบหน้าอิ่มฟู รูขุมขนกระชับ ผิวหน้าเรียบเนียนดีขึ้น และจะเห็นผลมากขึ้น ใน 7-14 วัน โดยสังเกตได้จากหลุมสิวที่ตื้นขึ้น ผิวเนียนขึ้น และสีผิวสม่ำเสมอมากขึ้น แต่ผลลัพธ์ที่ชัดเจนมักเกิดหลังทำไปแล้วประมาณ 2-3 เดือน 

อย่างไรก็ตาม ผลที่ได้รับอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น อายุ สภาพผิว ความลึกของหลุมสิว การปฏิบัติตัวและดูแลผิวอย่างถูกวิธี เป็นต้น สิ่งสำคัญคือต้องทำอย่างสม่ำเสมอ อดทน และให้เวลาผิวค่อย ๆ ฟื้นฟูตัวเอง ไม่ควรหวังผลเร็วจนเกินไปครับ


เมโสหลุมสิวต้องทำกี่ครั้ง ?

จำนวนครั้งในการทำเมโสหลุมสิวที่แนะนำ คือประมาณ 5-8 ครั้ง โดยทำห่างกันครั้งละ 1-2 สัปดาห์ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของหลุมสิว สภาพผิว และการตอบสนองของผิวต่อการรักษา

  • กรณีเป็นหลุมสิวตื้นและไม่มาก อาจทำ 5-6 ครั้ง
  • หากเป็นหลุมสิวลึก มีจำนวนมาก หรือมีผิวค่อนข้างบอบบาง ที่ต้องค่อย ๆ ทำทีละน้อย หรือทำร่วมกับหัตถการอื่น  ตามคำแนะนำของแพทย์ 

สรุปเมโสหลุมสิวดีไหม ? 

เมโสหลุมสิวเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการรักษาปัญหาหลุมสิว ข้อดีคือ ทำได้ง่าย ไม่เจ็บ ใช้เวลาไม่นาน ไม่ต้องพักฟื้น และมีความปลอดภัยสูง เมื่อทำโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ ใช้ตัวยาเมโสหลุมสิวที่ได้มาตรฐาน ก็จะสามารถช่วยฟื้นบำรุงผิว ปรับสมดุล และลดเลือนหลุมสิวจากสาเหตุต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

อีกข้อดีของการทำเมโสหลุมสิว คือ สามารถทำร่วมกับหัตถการอื่น ๆ ได้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพส่งผลให้ผลลัพธ์ในการรักษาหลุมสิวดียิ่งขึ้น ทั้งนี้การรักษาหลุมสิว ด้วยเมโสหลุมสิว รวมถึงหัตถการอื่น ๆ ผลลัพธ์จะเกิดขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป และให้ผลดีที่สุดเมื่อทำอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ ร่วมกับการดูแลผิวที่ถูกวิธีครับ


สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ
Banner_Web_หมอให้คำปรึกษา_หมอ39คน
บทความแนะนำ

ฉีดโบท็อกลดกรามที่ไหนดีที่สุด ! เลือกคลินิกปรับรูปหน้าอย่างปลอดภัยต้องระวังอะไรบ้าง

Reading Time: 3 minutes - ร้อยไหมหน้าเรียว ในกรุงเทพฯ ที่ไหนดี ? - ร้อยไหมหน้าเรียว ที่ไหนดี ? ก่อนร้อยไหมควรพิจารณาอะไรบ้าง ? - คลินิกร้อยไหมหน้าเรียวที่ได้มาตรฐาน สังเกตได้จากอะไร ? - วิธีการเลือกการร้อยไหมกับคลินิกร้อยไหม - ร้อยไหมหน้าเรียวกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ดีอย่างไร ?

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ปัญหาที่เจอได้ ทำไมบางคนถึงเป็นก้อน หลัง...

Reading Time: 8 minutes - ร้อยไหมหน้าเรียว ในกรุงเทพฯ ที่ไหนดี ? - ร้อยไหมหน้าเรียว ที่ไหนดี ? ก่อนร้อยไหมควรพิจารณาอะไรบ้าง ? - คลินิกร้อยไหมหน้าเรียวที่ได้มาตรฐาน สังเกตได้จากอะไร ? - วิธีการเลือกการร้อยไหมกับคลินิกร้อยไหม - ร้อยไหมหน้าเรียวกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ดีอย่างไร ?

รวมคลินิกเสริมความงาม ปรับรูปหน้า ชั้นนำในกรุงเทพ ดูแลโดย...

Reading Time: 12 minutes - บริการของคลินิกเสริมความงาม - วิธีเลือกคลินิกเสริมความงาม - รีวิวคลินิกเสริมความงามชั้นนำในกรุงเทพ

coolsculpting ได้ผลไหม ? ทำไมถึงไม่ได้ผล สาเหตุเกิดจากอะไ...

Reading Time: 3 minutes - สาเหตุที่ทำ coolsculpting ไม่ได้ผลคืออะไร? - รีวิว coolsculpting - วิธีดูเครื่องcoolsculpting ของแท้ - แนะนำวิธีเลือกคลินิก ทำcoolsculpting ที่ได้มาตรฐาน - การทำ CoolSculpting ได้ผลไหม? ชัดเจนแค่ไหน

รีวิว CoolSculpting คืออะไร ? VS การดูดไขมัน VS การสลายไข...

Reading Time: 6 minutes - CoolSculpting สลายไขมันด้วยความเย็น - การดูดไขมันแต่ละวิธีมีข้อดี-ข้อเสีย อย่างไร ? - ข้อควรรู้เกี่ยวกับการดูดไขมัน - Thermage FLX for body

ทำhifuดีไหม ทำกี่ครั้งเห็นผล ช่วยให้หน้าเรียวจริงหรือไม่ท...

Reading Time: 3 minutes - ทำ hifu ดีจริงไหม ทำกี่ครั้งถึงเห็นผล? - ทำไมบางคนทำ hifu แล้วไม่เห็นผล เกิดจากอะไร?

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ สามารถศึกษานโยบายความเป็นส่วนตัวและจัดการความเป็นส่วนตัว ได้ที่ปุ่มตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ

บันทึกการตั้งค่า