เลเซอร์รอยดำ ลบจุดด่างดำเห็นผล

เลเซอร์รอยดำ ตัวช่วยลดรอยดำหรือจุดด่างดำบนใบหน้า และผิวกายอย่างเห็นผล ไม่ว่าจะเกิดจากการสะสมของเมลานิน แสงแดด หรือการเปลี่ยนแปลงตามอายุ
ปัจจุบันเทคนิคเลเซอร์ถือเป็นวิธีการรักษาที่ได้รับความนิยมสูงเนื่องจากให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและปลอดภัย ใครที่กำลังเผชิญกับปัญหาสีผิวไม่สม่ำเสมอ มีจุดด่างดำ รอยดำจากสิว หมอมีข้อมูลเกี่ยวกับแนวทางการรักษามาแนะนำครับ โดยเฉพาะการรักษารอยดำด้วยเลเซอร์ ที่กำลังได้รับความนิยมอยู่ตอนนี้ เพื่อให้สามารถตัดสินใจเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมและปลอดภัยที่สุดครับ
สารบัญ เลเซอร์รอยดำ
รอยดำคืออะไร ?
รอยดำหรือจุดด่างดำ (Dark Spots/Age Spots) คือการเปลี่ยนสีของผิวหนังที่มีสีเข้มกว่าผิวปกติ เกิดจากการสะสมของเมลานิน (Melanin) ซึ่งเป็นสารให้สีผิว การสะสมนี้เกิดจากหลายสาเหตุ ได้แก่
- การสัมผัสแสงแดดเป็นเวลานาน ทำให้เซลล์ผลิตเมลานินมากเกินไป
- การเปลี่ยนแปลงฮอร์โมน โดยเฉพาะในสตรีตั้งครรภ์หรือวัยหมดประจำเดือน
- การอักเสบของผิวหนัง เช่น จากสิว แผลเป็น หรือการขูดขีด
- การใช้ยาบางชนิด เช่น ยาคุมกำเนิด ยาฮอร์โมน
- ความชราของผิว ทำให้การทำงานของเซลล์ผิวเปลี่ยนไป
- ปัจจัยทางพันธุกรรม
ลักษณะของรอยดำ
- มีสีน้ำตาลอ่อนถึงน้ำตาลเข้ม
- ขนาดแตกต่างกันไป ตั้งแต่เล็กเหมือนหัวเข็มไปจนถึงใหญ่หลายเซนติเมตร
- พบได้บ่อยบริเวณใบหน้า แก้ม หน้าผาก จมูก และมือ
- ไม่ก่อให้เกิดอาการคัน เจ็บ หรือระคายเคือง
วิธีรักษารอยดำ
การรักษารอยดำมีหลายวิธีครับ แต่ละวิธีมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับความรุนแรง ตำแหน่ง และความต้องการของคนไข้ ที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน จะมี 2 วิธีคือ
รักษารอยดำด้วยยา/ครีมทาภายนอก
การใช้ยาหรือครีมที่มีตัวยาอย่าง Hydroquinone 2-4%, Tretinoin (Retin-A), Kojic Acid, Arbutin รวมไปถึง Vitamin C เข้มข้น สามารถช่วยเร่งการหลุดล่อนของเซลล์ผิวและลดการผลิตเมลานิน จึงสามารถช่วยลดรอยดำได้
ข้อดี-ข้อเสีย : ข้อดี คือเป็นวิธีที่นิยมและมีประสิทธิภาพ แต่ข้อเสียคือต้องใช้เวลา ซึ่งการใช้ยาหรือครีมทารอยดำมักจะเห็นผลใน 2-8 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับความเข้มข้นของสารหรือตัวยาที่ใช้, ความรุนแรงของรอยดำ และความสม่ำเสมอในการใช้ครับ
ข้อควรระวัง : วิธีนี้อาจมีผลข้างเคียงเกิดขึ้น เช่น ผิวแห้งมาก ผิวไวต่อแสงแดดมากขึ้น หรือรอยดำเข้มขึ้นชั่วคราว (จากTretinoin) หรือเกิดผิวด่างขาว (จากHydroquinone ในกรณีที่ใช้นานเกินไป) เพื่อความปลอดภัยควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังก่อนใช้ยาหรือครีม โดยเฉพาะครีมที่มีสารแรง ๆ ครับ
การรักษารอยดำด้วยเลเซอร์
เลเซอร์รอยดำ เป็นวิธีรักษารอยดำที่มีประสิทธิภาพสูงและได้รับความนิยมอย่างมากขึ้น โดยเฉพาะ Pico Laser ที่ถือเป็นมาตรฐานใหม่ของการรักษาผิวในปัจจุบันครับ
ข้อดี-ข้อเสีย : ข้อดีคือ เป็นวิธีที่เห็นผลได้เร็ว สามารถลดรอยดำได้อย่างแม่นยำ โดยไม่ทำลายผิวข้างเคียง มีความปลอดภัย สามารถลดรอยดำ ทำลายเม็ดสีในชั้นผิวหนังลึก ทั้งฝ้า กระ จุดด่างดำหรือรอยสิว โดยไม่ก่อให้เกิดความร้อน ผิวเนียนกระจ่างใสได้รวดเร็ว โดยไม่เสี่ยงต่อผิวไหม้ แต่อาจต้องทำหลายครั้ง ตามระดับความรุนแรงของรอยดำแต่ประเภท และมีค่าใช้จ่ายสูงกว่า
ข้อควรระวัง : ปัจจุบันมีหลายคลินิกเปิดให้บริการทำเลเซอร์ลดรอยดำ ควรเลือกทำคลินิกที่มีความน่าเชื่อถือ ดูแลโดยแพทย์เชี่ยวชาญการทำเลเซอร์ และใช้เครื่องเลเซอร์ที่ได้มาตรฐาน เพื่อลดความเสี่ยงเกิดผลข้างเคียงไม่พึงประสงค์
เลเซอร์รอยดำ ทำงานอย่างไร ? ทำไมถึงลดรอยดำได้ดี
การทำงานของเลเซอร์ในการรักษารอยดำอาศัยหลักการ “Selective Photothermolysis” ซึ่งเป็นการใช้แสงเลเซอร์เฉพาะเจาะจงเข้าทำลายเป้าหมายที่ต้องการโดยไม่ทำลายเนื้อเยื่อรอบข้าง
กระบวนการทำงานของเลเซอร์
เลเซอร์ลดรอยดำทำงานโดยการปล่อยแสงที่มีความยาวคลื่นเฉพาะเจาะจง ซึ่งจะถูกดูดซับโดยเม็ดสีเมลานินในผิวหนังที่เป็นสาเหตุของรอยดำนั้น เมื่อเม็ดสีเมลานินดูดซับพลังงานแสงเลเซอร์ ก็จะเกิดความร้อนและถูกทำลายลง ทำให้รอยดำค่อย ๆ จางลงหรือหายไปในที่สุด
สรุปข้อดีของการเลเซอร์รอยดำ
- เลเซอร์มีความแม่นยำสูง สามารถเลือกทำลายเฉพาะเซลล์ที่มีปัญหา
- สามารถเข้าถึงเมลานินที่อยู่ในชั้นลึกของผิวได้
- หลังทำยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ในชั้นผิว ผิวจึงแข็งแรงและเรียบเนียนขึ้น
- เป็นเทคโนโลยีทันสมัยมีความปลอดภัยสูง ไม่มีแผลเป็น
- สะดวกสบาย ไม่ต้องพักการทำงาน ใช้เวลาแต่ละครั้งไม่นาน (15-30 นาที) เจ็บน้อย
- เห็นผลเร็ว ผลลัพธ์ยาวนาน รอยดำที่หายแล้วไม่ค่อยกลับมา (หากดูแลดี)
ทำเลเซอร์จุดด่างดำ กี่ครั้งถึงเห็นผล ?
การทำเลเซอร์รอยดำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี ควรต้องทำอย่างต่อเนื่องครับ ส่วนใหญ่เป็นคอร์ส 3-5 ครั้ง ขึ้นอยู่กับประเภทรอยดำ สภาพผิว และชนิดของเลเซอร์ที่ใช้ กรณีใช้ Pico Laser จำนวนครั้งโดยเฉลี่ย
- รอยดำแบบผิวเผิน (Superficial Pigmentation) : ปัญหาผิวไม่มากเน้นปรับให้ผิวใส ลดจุดด่างดำตามวัย สีผิวไม่สม่ำเสมอ หรือรอยดำจากสิวเล็ก ๆ จะเห็นผลเมื่อทำประมาณ 1-3 ครั้ง โดยควรเว้นห่าง 2-6 สัปดาห์/ครั้ง
- รอยดำชั้นลึก (Deep Pigmentation/Hori Nevus) : จากพันธุกรรม รอยดำจากแสงแดดสะสม (ฝ้าตื้น ๆ) อาจจำเป็นต้องใช้จำนวนครั้งมากขึ้น เริ่มต้นที่ 3-5 ครั้ง สังเกตได้ว่าปัญหาฝ้าจะดีขึ้นประมาณ 50%
- รอยดำจากฮอร์โมน (Melasma/ฝ้าลึก) : อาจจะต้องทำมากกว่า 5 ครั้ง เพราะเป็นปัญหาผิว รอยดำที่ซับซ้อน นิยมทำซ้ำทุก 2-4 สัปดาห์
หมายเหตุ : จำนวนครั้งที่เห็นผลของแต่ละบุคคลจะแตกต่างกันครับ ขึ้นอยู่กับปัจจัยเหล่านี้
- ความลึกของเมลานิน
- ขนาดและความเข้มของรอยดำ
- สีผิวของผู้เข้ารับการรักษา
- อายุและสุขภาพโดยรวม
- การป้องกันแสงแดด
- การดูแลรักษาด้วยเลเซอร์ที่เหมาะสมในแต่ละบุคคล
ทำเลเซอร์รอยดำ ที่ V Square Clinic ดูแลโดยแพทย์มากประสบการณ์
ที่ V Square Clinic ใช้เครื่องได้มาตรฐาน และตรวจสอบแหล่งที่มาได้ครับ ออกแบบการรักษาโดยแพทย์มากประสบการณ์ด้านการทำเลเซอร์ผิวใส

(นพ.สุรนาถ ดีสุวรรณ์ เลข ว.46313)
ปัจจุบันมีเครื่องเลเซอร์ให้เลือกใช้ตามความเหมาะสมแต่ละปัญหา เช่น โปรแกรม Picosure Pro, Pico Plus, Fotona SP Dynamis, Bellalux Lite และ Sylfirm X Plus สามารถดูแลผิวได้อย่างครอบคลุมทุกปัญหาที่คนไข้กังวลใจ เช่น ฝ้า กระ จุดด่างดำ รอยดำสิว เส้นเลือด และผิวหมองคล้ำไม่สม่ำเสมอ
สำหรับคนไข้ที่ยังไม่เคยทำโปรแกรมเลเซอร์หน้าใสมาก่อน ที่ VSQ Laser Center จะมีการถ่ายรูปกับเครื่องสแกนใบหน้าอย่างละเอียด ก่อนประเมินกับแพทย์โดยตรงครับ หลังทำเลเซอร์มีนัดหมายติดตามผล ทุก 2 สัปดาห์ เพื่อปรับแผนการรักษาให้ได้ผลลัพธ์ดีที่สุดในแต่ละบุคคล

เลเซอร์รอยดำ ราคาเท่าไหร่ ?
การทำเลเซอร์รอยดำด้วยเครื่อง Pico Laser ราคา ขึ้นอยู่กับโปรโมชันของแต่ละคลินิก มีให้เลือกทั้งแบบรายครั้ง และคอร์สหลายครั้ง สำหรับโปรโมชัน ที่ V Square Clinic มีดังนี้
เตรียมพร้อมก่อนทำเลเซอร์รอยดำ
การเตรียมตัวก่อนรับการรักษาเลเซอร์มีความสำคัญมากต่อความสำเร็จของการรักษาและการลดความเสี่ยงจากอาการข้างเคียง
- เลี่ยงแสงแดดจัดเป็นเวลา 14 วัน ก่อนทำเลเซอร์
- ทามอยส์เจอไรเซอร์ และทาครีมกันแดด SPF 50+++
- งดใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารผลัดเซลล์ผิว เช่น เรตินอล กรดวิตามินเอ AHA BHA
- งดสครับผิว ขัดผิว ทำทรีตเมนต์ อย่างน้อย 3-5 วันก่อนทำเลเซอร์
- งดรับประทานยาหรืออาหารเสริมที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด
- แจ้งแพทย์หากมีโรคประจำตัวหรืออยู่ในระหว่างการใช้ยาบางประเภท
การดูแลตัวเองหลังเลเซอร์รอยดำ
การดูแลตัวเองหลังการรักษาเลเซอร์มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความสำเร็จของการรักษาและการป้องกันอาการข้างเคียง การปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดจะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดครับ
การดูแลแบ่งออกเป็น 2 แบบครับ คือ การทำเลเซอร์รอยดำแบบตกสะเก็ด และแบบไม่ตกสะเก็ด
การดูแลหลังทำเลเซอร์รอยดำแบบตกสะเก็ด
- ประคบเย็น 10-15 นาทีทันที
- ทา Antibiotic Ointment หลังการทำ
- ควรงดโดนน้ำ 24 ชม. และงดแต่งหน้า 3 วัน
- ทามอยส์เจอไรเซอร์ และทาครีมกันแดด SPF 50+++ ขึ้นไป
- เลี่ยงแสงแดดจัดอย่างน้อย 2 สัปดาห์
- งดการแกะ เกา สะเก็ด โดยควรรอให้สะเก็ดหลุดไปเอง
การดูแลหลังทำเลเซอร์แบบไม่ตกสะเก็ด
- สามารถแต่งหน้าได้ทันที
- ทามอยส์เจอไรเซอร์ และทาครีมกันแดด SPF 50+++ ขึ้นไป
- เลี่ยงแสงแดดจัดอย่างน้อย 2 สัปดาห์
อาการข้างเคียงที่อาจเกิดหลังเลเซอร์รอยดำ
แม้ว่าการรักษาด้วยเลเซอร์จะมีความปลอดภัยสูง แต่ยังมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดอาการข้างเคียง เช่น
- ผิวแดงหรือผิวอมชมพูขึ้น : ผลข้างเคียงทั่วไป ไม่เป็นอันตรายครับ หายได้ภายใน 24 ชั่วโมงครับ ทั้งนี้ในคนไข้ที่มีผิวบอบบางมาก ๆ อาจใช้เวลา 48 ชั่วโมง สามารถประคบเย็น เพื่อบรรเทาอาการได้
- การเปลี่ยนสีของรอยดำชั่วคราว : เป็นผลข้างเคียงทั่วไปเกิดจากพลังงานของเครื่องเลเซอร์ ในการตีเม็ดสีให้แตกกระจายเป็นชิ้นเล็ก ๆ ครับ รอยเหล่านั้นจะค่อย ๆ จางลงใน 24 ชั่วโมง
3 แนวทางป้องกันดูแลผิว ไม่ให้เกิดรอยดำซ้ำ
การป้องกันรอยดำใหม่มีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าการรักษา การดูแลที่ถูกต้องจะช่วยให้ผลการรักษาคงอยู่ยาวนานและป้องกันปัญหาใหม่
1.การป้องกันแสงแดด
การป้องกันแสงแดดเป็นสิ่งสำคัญที่สุด แนะนำเลือกใช้ครีมกันแดด SPF 30 ขึ้นไป สำหรับใช้ประจำวัน และเลือกครีมกันแดด SPF 50+ สำหรับออกแดดนาน โดยควรทาทุกวัน แม้อยู่ในที่ร่มหรือวันฟ้าครึ้ม และทาใหม่ทุก 2-3 ชั่วโมง หรือหลังเหงื่อออกครับ
นอกจากนี้ยังควรปกป้องผิวในแต่ละวันด้วย สวมแว่นตากันแดดที่มี UV Protection ใช้ร่มกันแดดเมื่อจำเป็นครับ
2.การดูแลผิวประจำวัน
การดูแลสุขภาพผิวอย่างเหมาะสมในแต่ละวัน เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ผิวสุขภาพดี และมีความสดใส โดยเฉพาะเรื่องการทำความสะอาดและการบำรุงผิว
- การทำความสะอาด แนะนำล้างหน้าวันละ 2 ครั้ง ด้วยผลิตภัณฑ์อ่อนโยน หลีกเลี่ยงการถูขัดแรงเกินไป ไม่ใช้น้ำร้อนจัด เช็ดหน้าด้วยผ้าสะอาดนุ่ม ๆ
- การบำรุงผิว ควรใช้ครีมมอยส์เจอไรเซอร์ที่เหมาะกับสภาพผิว เลือกผลิตภัณฑ์ที่มี Hyaluronic Acid เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น
3.การพักผ่อน
ควรนอนหลับให้เพียงพอ 7-8 ชั่วโมงต่อคืน หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป เพราะเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ผิวโทรม ผิวเสื่อม เกิดรอยดำ ผิวหมองคล้ำได้ง่าย
สรุปเลเซอร์รอยดำ ตัวช่วยลดรอยดำเห็นผลเร็ว
เลเซอร์รอยดำเป็นวิธีรักษารอยดำที่มีประสิทธิภาพครับ สามารถช่วยลดรอยดำได้อย่างเห็นได้ชัดภายในระยะเวลาไม่นาน เมื่อเทียบกับการรักษาด้วยวิธีอื่น เช่น การทายาหรือการใช้ครีมบำรุงผิว ซึ่งอาจต้องใช้เวลานานหลายเดือนหรือหลายปี เลเซอร์ลดรอยดำจึงเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมสำหรับผู้ที่มีปัญหารอยดำครับ


