ต้นขาใหญ่
รวมวิธีลดต้นขาใหญ่ ออกกำลังกาย-ไม่ต้องออกกำลังกาย
ปัญหาต้นขาใหญ่ เป็นจุดที่ลดค่อนข้างยากครับ เพราะมีการสะสมของไขมันจำนวนมาก เกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ไม่ค่อยได้เคลื่อนไหวร่างกาย หรือการรับประทานอาหารมากเกินความจำเป็น การลดไขมันต้นขา สามารถทำได้ด้วยการออกกำลังกาย ควบคุมอาหาร หรือถ้าไม่อยากใช้เวลานาน ก็มีวิธีทางการแพทย์ที่ช่วยได้ครับ
ในบทความนี้หมอจะมาแนะนำวิธีลดต้นขาใหญ่ให้เล็กลง ทั้งการออกกำลังกาย ปรับพฤติกรรม และการใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์เข้ามาช่วย แต่ละวิธีทำอย่างไร ช่วยลดต้นขาได้แค่ไหน มีคำตอบครับ
สารบัญ รวมวิธีลดต้นขาใหญ่
วิธีการลดต้นขาใหญ่
การลดต้นขาใหญ่ที่ได้ผลยั่งยืนมากที่สุด คือการออกกำลังกายและปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหาร แต่ถ้าอยากเห็นผลเร็วก็สามารถใช้การฉีดเมโสแฟต หรือเทคโนโลยีทางการแพทย์ เช่น CoolSculpting เมโสแฟตต้นขา ช่วยสลายไขมัน ควบคู่กันไปได้ครับ
ต้นขาใหญ่ เป็นปัญหากวนใจของหลายคน
การออกกำลังกายเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยลดขนาดต้นขาใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการออกกำลังกายที่มุ่งเน้นไปยังกล้ามเนื้อต้นขา เช่น การเดินเร็ว การวิ่ง หรือการเล่นกีฬาที่ใช้กล้ามเนื้อต้นขา และการออกกำลังกายแบบ resistance training ซึ่งช่วยให้กล้ามเนื้อต้นขาแข็งแรงขึ้น
นอกจากนี้ การออกกำลังกายเป็นสิ่งที่ช่วยเสริมสร้างกระบวนการเผาผลาญพลังงานภายในร่างกาย ซึ่งจะช่วยลดน้ำหนัก และลดขนาดต้นขาใหญ่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับท่าออกกำลังกายและวิธีลดต้นขามีวิธีไหนบ้าง หมอรวบรวมมาให้ดังนี้
1. สควอท (Squats)
วิธีออกกำลังกายด้วยท่า Squats จะเป็นการเน้นกล้ามเนื้อส่วนล่างของร่างกายครับ ทั้งกล้ามเนื้อสะโพก กล้ามเนื้อต้นขาด้านหน้า กล้ามเนื้อต้นขาด้านหลัง ช่วยให้กระชับและแข็งแรงมากขึ้น
สามารถทำท่า Squats ด้วยการยืนตัวตรง แยกเท้ากว้างเท่าความห่างของไหล่ จากนั้นลดตัวลงโดยการย่อตัวเหยียดหลัง เอียงตัวลงไปจนต่ำสุดที่สามารถทำได้ ในขณะที่ทำท่า Squats ควรให้น้ำหนักตัวอยู่กับส้นเท้า และอย่าให้หัวเข่าเกินเท่าลำตัว
2. ลันจ์ (Lunges)
การลดต้นขาด้วยท่า Lunges จะช่วยกระชับกล้ามเนื้อต้นขาด้านหน้า และกล้ามเนื้อบริเวณสะโพก
สามารถทำท่า Lunges ด้วยการ ยืนตัวตรง พลิกตัวขึ้นออกไปข้างหน้า ยกแขนขึ้น จากนั้นเอียงตัวลงไปที่ขาซ้าย โดยให้เข่าของขาซ้ายอยู่ที่ศอก และเข่าของขาขวาอยู่บนพื้น จากนั้นเริ่มลดตัวจนต่ำสุดที่สามารถทำได้ ในขณะที่ทำท่า Lunges ควรให้น้ำหนักตัวอยู่กับส้นเท้า และอย่าให้หัวเข่าเกินเท่าลำตัว
3. Calf raises
การทำ Standing Calf Raises จะช่วยเรื่องความแข็งแรงของกล้ามเนื้อน่อง ทำให้รูปขาโดยรวมกระชับขึ้นได้ครับ
วิธีการทำ Standing Calf Raises คือ ยืนตัวตรง จัดส้นเท้าและหัวเข่าให้อยู่ตรงกัน จากนั้นเขย่งปลายเท้าขึ้นให้ได้สูงที่สุดเท่าที่ทำได้ จะเห็นกล้ามเนื้อน่องและส่วนหน้าของต้นขาจะถูกใช้งาน จากนั้นปล่อยส้นเท้าลงเพื่อให้กล้ามเนื้อยืดออก ควรทำท่า Calf raises จำนวน 3-4 เซ็ตต่อวัน โดยแต่ละเซ็ตทำ 15-20 ครั้ง
4. Leg curls
ท่านี้จะเน้นกล้ามเนื้อบริเวณต้นขาด้านหลัง (Hamstrings) แต่จำเป็นต้องใช้เครื่องออกกำลังกายเพื่อให้ได้ผลมากที่สุดครับ
วิธีการทำ Leg curls คือ นั่งบนเครื่อง Leg curls แล้วหุบเข่าไว้ในเครื่อง จากนั้นค่อย ๆ ยกขาขึ้นจนกระทั่งเท้าติดกับเก้าอี้เครื่อง จะเห็นการทำงานของกล้ามเนื้อส่วนหลังต้นขาครับ ควรทำท่า Leg curls จำนวน 3-4 เซ็ตต่อวัน โดยแต่ละเซ็ตทำ 15-20 ครั้ง
การเปลี่ยนพฤติกรรมตนเอง
การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเป็นปัจจัยสำคัญในการลดต้นขาครับ หลายคนอาจจะได้ยินว่าการนั่งนาน ๆ ทำให้ต้นขาใหญ่ ซึ่งเกี่ยวกับการกดทับและไหลเวียนเลือด แต่จริง ๆ แล้วไม่ใช่ปัจจัยหลักครับ ที่บอกว่านั่งนาน ๆ แล้วขาใหญ่ เป็นเพราะร่างกายมีการขยับน้อย ไม่เกิดการเผาผลาญ ทำให้เกิดไขมันสะสม
ดังนั้นในระหว่างวัน หากต้องนั่งทำงานเป็นเวลานาน ควรลุกขึ้นเดิน เหยียดตัว ให้ร่างกายได้ขยับบ้าง นอกจากจะช่วยเรื่องต้นขา ยังส่งผลต่อการใช้พลังงานโดยรวมของร่างกาย ลดโอกาสอ้วนลงพุงได้ด้วยครับ
การรับประทานอาหาร
ลดปริมาณอาหารโดยเฉพาะอาหารที่มีปริมาณไขมันสูง เช่น อาหารที่แช่น้ำมัน ขนมหวาน และอาหารจานใหญ่ อาหารหวานและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง เพราะจะทำให้เกิดการสะสมไขมันตามต้นขาได้
อาหารที่ควรรับประทานคืออาหารที่มีโปรตีนสูง เพราะโปรตีนจะช่วยสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรงและช่วยลดการสะสมไขมันในต้นขา บวกกับการออกกำลังกายก็จะช่วยลดขนาดต้นขาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
หรือหากใครต้องการปรับพฤติกรรมการกิน ก็สามารถทำ Intermittent Fasting (IF) ได้ตามความเหมาะสมครับ อ่านเพิ่มเติมได้ในบทความ วิธีลดน้ำหนักแบบ IF คืออะไร? ลดได้จริงหรือไม่ เหมาะกับใคร ทำไมถึงได้รับความนิยม
การดื่มน้ำ
การดื่มน้ำอย่างเพียงพอจะช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดในร่างกาย การขับถ่าย ระบบไหลเวียนเลือด ช่วยลดการสะสมไขมันในต้นขาและไขมันโดยรวมของร่างกายได้
“ ข้อควรรู้ : หากต้องการลดต้นขาใหญ่ ควรปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหารและเลือกการออกกำลังกายที่เหมาะสม ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการลดน้ำหนักและลดขนาดต้นขาใหญ่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ”
วิธีการลดต้นขา ขาใหญ่ เร่งด่วน
วิธีลดต้นขา ด้วย CoolSculpting
สำหรับผู้ที่ต้องการลดต้นขาใหญ่แบบเร่งด่วน เห็นผลชัดเจน เครื่องมือที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันคือ CoolSculpting ครับ เป็นเครื่องช่วยสลายไขมันด้วยความเย็น ทำงานโดยปล่อยความเย็น -11°C แช่แข็งก้อนไขมันที่ถูกดูดขึ้นมา (ใช้เวลาประมาณ 35 นาที) เมื่อเซลล์ไขมันได้รับความเย็นจัด จะหยุดทำงานและตายลงไปอย่างถาวร ต้นขาเล็กลง กระชับขึ้น
รีวิว ลดไขมันต้นขาด้วย CoolSculpting
ไขมันจะถูกกำจัดออกจากร่างกายใน 3-4 สัปดาห์ จะเริ่มเห็นว่าสัดส่วนเล็กลง กระชับขึ้น โดยจะใช้เวลา 3 เดือน จึงเห็นผลเต็มที่ครับ สามารถลดไขมันได้ประมาณ 20-30% ต่อการทำ 1 ครั้ง หากต้องการเห็นผลมากขึ้น ก็สามารถกลับมาทำในจุดเดิมได้ครับ
CoolSculpting เหมาะกับผู้ที่ต้องการลดสัดส่วนเฉพาะจุด เช่น หน้าท้อง ห่วงยาง ต้นแขน ต้นขา
การทำ CoolSculpting ให้ได้ผลดี ต้องใช้เครื่องแท้ที่มีคุณภาพ มีระบบป้องกันความเย็น พลังงานสม่ำเสมอ ถ้าใช้เครื่องปลอม เครื่องเลียนแบบ อาจเกิดปัญหาผิวไหม้ ผิวไม่เรียบเนียน หรือสัดส่วนไม่สมมาตรได้ ดังนั้นก่อนเลือกทำ CoolSculpting ที่ไหนดี ต้องพิจารณาให้ละเอียด เพื่อความปลอดภัยครับ
อ่านบทความเพิ่มเติม : โปรแกรม Coolsculpting สลายไขมันต้นขา ลดขาใหญ่ เห็นผลเร็ว ไม่ต้องเจ็บตัว
วิธีลดต้นขา ด้วย เมโสแฟต
เมโสแฟตต้นขาไม่ใช่วิธีการลดน้ำหนัก แต่เป็นวิธีเพื่อลดไขมันและกระชับสัดส่วนบริเวณต้นขาโดยเฉพาะครับ ใช้ตัวยาเมโสแฟตที่มีส่วนประกอบของสารสกัดจากธรรมชาติ เช่น ถั่วเหลือง ไข่แดง และวิตามินอีกหลายชนิด โดยมีสารที่ออกฤทธิ์หลัก ๆ เช่น Artichoke extract, Mesostabyl รวมถึง L-carnitine
เมโสแฟตจะช่วยให้ร่างกายดึงไขมันมาใช้เป็นพลังงานมากขึ้น (fat burn) กระตุ้นระบบการทำงานของ metabolism เมื่อฉีดบริเวณต้นขา ไขมันจะแตกตัว สลาย และถูกขับออกจากร่างกายตามกลไกธรรมชาติ
อ่านบทความเพิ่มเติม : ฉีดเมโสแฟตต้นขา วิธีลดต้นขาใหญ่ สลายไขมันส่วนเกิน-เซลลูไลท์ กระชับสัดส่วน
คำถามที่พบบ่อย
วิธีลดต้นขาภายใน 3 วัน
การลดต้นขาใหญ่โดยใช้เวลาอันสั้นนั้นเป็นไปได้ยากครับ ทางที่ดีคือควรดูแลตัวเองตั้งแต่ต้นขายังไม่ใหญ่มาก
วิธีลดต้นขาให้เล็กลงภายใน 1 อาทิตย์
ถึงจะเป็นการดูดไขมันก็ยังต้องใช้ระยะเวลาพักฟื้นมากกว่า 1 สัปดาห์ ถึงจะกลับมาใช้ชีวิตประจำวันตามปกติได้ มีอาการเจ็บ ระบม และบวม ต้องรอ 4-6 สัปดาห์ จึงจะสามารถกลับมาออกกำลังกาย หรือใช้แรงเยอะ ๆได้ครับ
สรุป
สำหรับวิธีลดต้นขาที่เห็นผลและดีที่สุด หมอก็ยังแนะนำเป็นการคุมอาหารและออกกำลังกายครับ นอกจากจะช่วยให้ต้นขาเล็ก ยังช่วยเรื่องการยกกระชับและเพิ่มความแข็งแรง ไม่ว่าจะใช้เครื่องมือทางการแพทย์ เมโสแฟต CoolSculpting ดูดไขมัน ก็ยังต้องปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต เพื่อไม่ให้ไขมันกลับมาสะสม และทำให้ต้นขาใหญ่ขึ้นอีก
สามารถ comment สอบถามเข้ามาด้านล่างได้เลยนะครับ หมอตอบเองครับ
เลเซอร์ขนขาครั้งแรกควรรู้อะไรบ้าง ข้อดี-ข้อควรระวัง เครื่องไหนดีที่สุด ต่างจากวิธีอื่นอย่างไร ?
Reading Time: 4 minutes - วิธีการกำจัดขนขา - หลักการทำงานของ Laser ขนขา - ข้อดี - ข้อควรระวังของการ Laser ขนขา - เลเซอร์ขนขาครั้งแรกควรเตรียมตัวอย่างไร ? - ข้อควรรู้ก่อนเลเซอร์ขนขา
เลเซอร์บิกินี่ คืออะไร ? มีกี่แบบ ? ทำกี่ครั้งถึงจะเห็นผล...
Reading Time: 4 minutes - เลเซอร์บิกินี่ คืออะไร ? - เลเซอร์บิกินี่ กับ บราซิลเลี่ยน ต่างกันยังไง ? - เลเซอร์บิกินี่อันตรายไหม ? - ความเสี่ยง และผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น- หลังทำเลเซอร์บิกินี่
เลเซอร์ขนจิมิ กำจัดขนน้องสาวครั้งแรก เตรียมตัวอย่างไร ? เ...
Reading Time: 3 minutes - เลเซอร์ขนจิมิ คืออะไร ? - เลเซอร์ขนจิมิมีกี่แบบ ? แบบไหนเหมาะกับเรา ? - เลเซอร์ขนจิมิอันตรายไหม ? - เลเซอร์ขนจิมิช่วยอะไรได้บ้าง ? - ข้อดี ข้อเสียเลเซอร์ขนจิมิ มีอะไรบ้าง ?
collagen คืออะไร ? มีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างไร ?
Reading Time: 4 minutes - collagen คือ - คุณสมบัติของ collagen - ประโยชน์ของ collagen ช่วยอะไรได้บ้าง ? - collagen นำไปใช้ทำอะไรบ้าง ? - collagen มีกี่ประเภท ?
Skin Booster คืออะไร ? ดีอย่างไร ? ช่วยเรื่องอะไรบ้าง ? เ...
Reading Time: 5 minutes Skin Booster คืออะไร มีความอันตรายหรือไม่ และเหมาะสำหรับใครบ้าง ? บทความนี้หมอจะพาไปค้นหาคำตอบของคำถามเหล่านี้ ว่าสกินบูสเตอร์แต่ละตัวช่วยอะไรได้บ้าง สามารถฉีดได้ที่ตำแหน่งใดบ้าง ราคาเท่าไหร่ ฉีดอย่างไรให้คุ้มค่า ?
เลเซอร์ขนกี่ครั้งเห็นผล ? ต้องทำกี่ครั้ง ? ทำแล้วขนหายถาว...
Reading Time: 2 minutes - เลเซอร์ขนกี่ครั้งเห็นผล ? - เลเซอร์ขนทำแล้วขนหายถาวรไหม ? - เลเซอร์ขนต้องทำกี่ครั้ง ? - เลเซอร์ขนแล้วขนไม่หลุดเกิดจากอะไร ?
