หลังฉีดฟิลเลอร์ ห้ามกินอะไรบ้าง
หลังฉีดฟิลเลอร์ ห้ามกินอะไรบ้าง?
หลังฉีดฟิลเลอร์ ห้ามกินอะไร ? หนึ่งในข้อสงสัยที่คนไข้เข้ารับการฉีดฟิลเลอร์ อยากรู้ หมอจึงมีคำตอบมาฝากครับ พร้อมบอกเหตุผล ทำไมถึงห้าม มีผลต่อความปลอดภัยและการคงผลลัพธ์จริงหรือไม่ ? เมนูอะไรบ้างที่ต้องระมัดระวัง ? ติดตามอ่านได้ในบทความนี้ครับ
หลังฉีดฟิลเลอร์ มีข้อห้ามในการรับประทานไม่มากครับ ไม่ว่าจะฉีด ฟิลเลอร์ใต้ตา ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ฟิลเลอร์คาง ก็จะมีอาหารห้ามกินคล้าย ๆ กันครับ คือ งดการดื่มแอลกอฮอล์ เหล้า ไวน์ เบียร์ ของมึนเมาทุกชนิด อย่างน้อย 48 ชั่วโมง โดยอาจจะมีข้อควรระวังมากเป็นพิเศษ กับการฉีดฟิลเลอร์ปาก เพราะสัมผัสกับอาหารโดยตรง โดยอาหารที่ควรระวังได้แก่
1. หลังฉีดฟิลเลอร์ ห้ามกินของมึนเมา ห้ามกินเหล้ากี่วัน ?
ควรงดแอลกอฮอล์ให้ได้ประมาณ 14 วัน หรือ 2 สัปดาห์ จะดีที่สุด เพราะการดื่มแอลกอฮอล์ทำให้เลือดสูบฉีดมากขึ้น มีผลเกิดภาวะหลอดเลือดขยายตัว จนเป็นสาเหตุที่ทำให้หน้าแดงบวม หรือรู้สึกปวด บริเวณที่ฉีดจนเกิดอาการอักเสบได้ง่าย
อย่างไรก็ตาม แอลกอฮอล์ไม่มีผลต่อประสิทธิภาพของยา ไม่ใช่เพราะฟิลเลอร์จะสลาย อยู่ไม่นาน เพียงแต่อาจจะทำให้เลือดออกเยอะ บวมช้ำในบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ได้เท่านั้น
นอกจากนี้ การดื่มเหล้าจนขาดสติ ขาดความระมัดระวัง คนไข้อาจจะเผลอนวด บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ไป เผลอเท้าคางได้ โดยเฉพาะในรายที่ฉีดฟิลเลอร์เพื่อยกหน้า การเผลอนวดทำให้ผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามที่แพทย์วางแผนไว้
2. หลังฉีดฟิลเลอร์ กินอาหารจำพวกของดอง ส้มตำ ปลาร้าได้ไหม ?
ปลาร้า หรือเมนูส้มตำปลาร้า จัดอยู่ในอาหารหมักดอง ที่หมอแนะนำเลี่ยงรับประทานหลังฉีดฟิลเลอร์ครับ เนื่องจากอาหารหมักดอง อาจมีกรรมวิธีที่ไม่สะอาด ทำให้เสี่ยงต่อการปนเปื้อนเชื้อโรค ซึ่งเมื่อเข้าสู่ร่างกาย เชื้อโรคนี้อาจไปกระตุ้นให้เกิดการอักเสบของแผลรอยเข็มที่ฉีดฟิลเลอร์ได้
รวมถึงอาหารหมักดองทุกชนิด ล้วนมีส่วนทำให้เส้นเลือดขยายได้มาก อาจมีภาวะหลอดเลือดสูบฉีดที่มากกว่าเดิมเสี่ยงต่อการเกิดรอยช้ำได้ง่าย
3.หลังฉีดฟิลเลอร์ ห้ามกินอาหารเมนูยำรสจัด เผ็ดจัด เค็มจัด
อาหารที่รสเค็มจัด เผ็ดจัด มักจะดูดน้ำกลับเข้าสู่ร่างกายค่อนข้างมาก ซึ่งจะส่งผลให้หน้ารวมถึงลำตัวอาจดูบวม หรือเรียกว่าภาวะบวมน้ำได้ หมอจึงมักแนะนำให้งด หลังฉีดฟิลเลอร์ประมาณ 3-7 วัน
4.หลังฉีดฟิลเลอร์ ห้ามกินอาหารประเภทปิ้งย่าง ชาบู ของร้อน
ความร้อนหน้าเตาของเมนูปิ้งย่าง หมูกระทะ ชาบู ทำให้ผิวหน้าอยู่ใกล้ความร้อนมากขึ้น อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงได้ ดังนั้นหมอจึงมักจะให้คนไข้หลีกเลี่ยงครับ เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์เสียทรง
โดยเฉพาะการฉีดฟิลเลอร์ปาก ต้องระวังมากขึ้นเพราะสัมผัสของร้อนจากอาหารโดยตรง อาจทำให้ปากเกิดอาการบวม หรืออักเสบได้ง่ายด้วย ดังนั้นควรรอให้ฟิลเลอร์เซตตัวก่อน อย่างน้อย 3 วัน จากนั้นสามารถรับประทานได้ตามปกติครับ
5.หลังฉีดฟิลเลอร์ ห้ามกินอาหารที่มีรสหวานมากเกินไป
ของหวานจะไปกระตุ้นการอักเสบบนผิวหน้าได้ง่าย ทำให้แผลบริเวณที่ทำหัตถการอาจเกิดการหายช้า
6.หลังฉีดฟิลเลอร์ ห้ามกินอาหารที่ไม่สด อาหารดิบ
อาหารที่ไม่ได้ผ่านการปรุงสุก เพราะมีพยาธิบางตัวที่สามารถไปเพิ่มการอักเสบหลังจากการฉีดฟิลเลอร์
ในกรณีที่เผลอกินเหล้า ดื่มแอลกอฮอล์ หรือเลี่ยงไม่ได้ต้องออกงานสังคม ร่วมงานปาร์ตี้ การดื่มเพียงเล็กน้อยไม่ได้ส่งผลอันตรายใด ๆ ครับ
ดังนั้นเมื่อเผลอดื่มไปแล้ว อาจดื่มน้ำเปล่าตามเข้าไปมาก ๆ อย่างวันละ 3-4.5 ลิตร หรือวันละ 12 แก้ว ในช่วงวันแรก ๆ เพื่อให้ฟิลเลอร์ของเราอุ้มน้ำมากยิ่งขึ้น ช่วยเสริมให้ฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าไป ทำให้ได้รูปหน้าที่สวยอย่างเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น
- อย่าบีบ นวด แกะ เกาบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์
- อยู่แต่ในที่อากาศเย็น หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิดและกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดงอย่างน้อย 48 ชม. หลังทำ
- ให้งดเลเซอร์ร้อนที่ลงผิวชั้นลึกทุกชนิดเช่น RF Thermage ควรเว้นอย่างน้อย 1 เดือนหลังทำ
- เลี่ยงการเข้าซาวน่า ออกกำลังกายหนัก ๆ ตากแดด
- ควรดื่มน้ำอย่างสม่ำเสมอตามปกติคือวันละ 1.5-2 ลิตร เป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่จะทำให้ฟิลเลอร์อยู่ได้ เพราะฟิลเลอร์เป็นสารที่อุ้มน้ำ การดื่มน้ำมาก ๆ จะช่วยให้ฟิลเลอร์ฟูได้รูป
อ่านบทความเพิ่มเติม : ข้อปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ ที่ควรรู้ เพื่อคงผลลัพธ์ให้อยู่นานขึ้น แต่ละจุดดูแลอย่างไร ?
สรุป
การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมากครับ ซึ่งหลังฉีดฟิลเลอร์ห้ามกินอะไรบ้าง ตามที่หมอแนะนำข้างต้น คนไข้ควรจะต้องปฏิบัติตัวให้ถูกต้องที่สุด เพื่อให้ผลลัพธ์มีประสิทธิภาพ และคุ้มค่ามากที่สุด
สามารถ comment สอบถามเข้ามาด้านล่างได้เลยนะครับ หมอตอบเองครับ
ฟิลเลอร์ (Filler) กับโบท็อกซ์ (Botox) ต่างกันอย่างไร ? ทำพร้อมกันได้ไหม ?
Reading Time: 4 minutes - ฟิลเลอร์ คืออะไร ? - โบท็อกซ์ คืออะไร ? - ฟิลเลอร์ (Filler) กับ โบท็อกซ์ (Botox) ต่างกันอย่างไร ? - เปรียบเทียบข้อดี ข้อจำกัดของฟิลเลอร์ กับโบท็อกซ์ - เลือกฉีดฟิลเลอร์หรือโบท็อกซ์ดี แบบไหนเหมาะกับใครบ้าง ?
15 วิธี กำจัดไขมันส่วนเกิน ดูแลตัวเองเพื่อสุขภาพและรูปร่า...
Reading Time: 4 minutes - ไขมันส่วนเกิน คืออะไร? - สาเหตุการเกิดไขมันส่วนเกิน - ไขมันส่วนเกิน อันตรายไหม? - 15 วิธีกำจัดไขมันส่วนเกินแบบต่าง ๆ
โบท็อกเยอรมัน Xeomin ช่วยปรับหน้าเรียวดีไหม? มีข้อดีต่างจ...
Reading Time: 3 minutes - โบท็อกเยอรมัน Xeomin คืออะไร? - ฉีดโบท็อกเยอรมัน Xeomin ตำแหน่งไหนได้บ้าง? - ข้อดีของโบท็อกเยอรมัน Xeomin - โบท็อกเยอรมัน Xeomin แตกต่างจากยี่ห้ออื่นอย่างไร? - ขั้นตอนการฉีดโบท็อกเยอรมัน Xeomin
รีวิว CoolSculpting วิธีการสลายไขมันด้วยความเย็นเพื่อหุ่น...
Reading Time: 4 minutes มีคนอ่านบทความนี้แล้ว : 1,583 วันที่อัพเดตล่าสุด : 26 April 2024 CoolSculpting รีวิว รีวิว CoolSclupting วิธีการสลายไขมันด้วยความเย็นด้วยเครื่อง Coolsclupting เพื่อหุ่นสวย หุ่นเฟิร์ม กระชับเข้ารูป สำหรับใครที่ต้องการปรับรูปร่างและลดสัดส่วนเฉพาะจุด แบบไม่อยากผ่าตัด ไม่อยากดูดไขมัน Coolsculpting ช่วยได้ครับ แม้ไม่มีเวลาออกกำลังกาย ก็สามารถสลายไขมันสะสมได้โดยไม่ต้องเจ็บตัว Coolsculpting ช่วยลดและกระชับสัดส่วน ได้ทั้งหน้าท้องและไขมันส่วนเกินตามจุดต่างๆ เช่น ต้นแขน,ต้นขา, สะโพก,น่อง,ปีกหลังใต้วงแขน ,เหนียง รวมถึงคุณแม่หลังคลอดที่ต้องการลดและกระชับสัดส่วนก็ทำได้เช่นกันครับ สารบัญ CoolSculpting ทำไมต้องต้องเลือก Coolsculpting? Coolsculpting ทำตรงไหนได้บ้าง ผลลัพธ์หลังจากทำ Coolsculpting รีวิว Coolsculpting ลดไขมันต้นแขน | นิโคล เทริโอ รีวิว Coolsculpting ลดไขมันหน้าท้อง | แอนดี้ เขมพิมุก รีวิว Coolsculpting | […]
รวมวิธีลดแก้ม ลดเหนียง ปรับหน้าเรียวแบบเร่งด่วน แต่ละวิธี...
Reading Time: 6 minutes - วิธีลดแก้ม แบบเร่งด่วน เห็นผลตั้งแต่สัปดาห์แรก มีอะไรบ้าง? - วิธีลดแก้มแบบ ธรรมชาติ
รวมข้อมูลก่อนตัดสินใจทำ Thermage FLX คืออะไร ราคาเท่าไหร่...
Reading Time: 7 minutes - Thermage คืออะไร? - การทำงานของ Thermage - Thermage ทำตำแหน่งไหนได้บ้าง? - ความแตกต่างระหว่าง Thermage กับ RF ทั่วไป - เครื่อง Thermage มีกี่รุ่น?