เจาะลึก ทำ Hifu กี่ช็อต ถึงจะเห็นผล ?
ใครที่สนใจการทำ Hifu และอยากทราบรายละเอียดว่า Hifu ช่วยเรื่องอะไร ? Hifu ทำกี่ช็อต/ไลน์ ทำกี่ครั้งถึงจะเห็นผล มีข้อควรรู้ ข้อควรระวังอะไรบ้าง
หมอมีคำแนะนำเพื่อใช้เป็นแนวทางตัดสินใจ รวมถึงแนะแนวทางในการเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน เพื่อให้ได้รับการบริการที่ถูกต้อง และมีความปลอดภัยมากที่สุดครับ
สารบัญ Hifu กี่ช็อต
Hifu กี่ช็อต/ไลน์ ถึงเห็นผล ?
Hifu คือเครื่องยกกระชับผิวที่สามารถทำได้หลายบริเวณครับ ทั้งใบหน้าตลอดจนลำตัว ซึ่งหลายคนมักสงสัยว่า ทำ Hifu กี่ช็อตถึงจะเห็นผลชัดเจน ?
คำตอบคือ ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น สภาพผิวของแต่ละคน อายุ ความหย่อนคล้อย และบริเวณที่ต้องการยกกระชับครับ
โดยทั่วไป การยิง Hifu ต้องมีจำนวน “ช็อต” หรือ “ไลน์” ที่เพียงพอในแต่ละจุด เพื่อให้คลื่นเสียงลงลึกถึงชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นที่ศัลยแพทย์ใช้ในการดึงหน้า การยิงไม่ถึง หรือยิงน้อยเกินไป อาจทำให้ไม่เห็นผล หรือผลลัพธ์อยู่ได้ไม่นานครับ
แต่ละตำแหน่ง ทำ Hifu กี่ช็อตถึงจะเห็นผล ?
จำนวนช็อตหรือไลน์ในการทำ Hifu จะต่างกันไปตามตำแหน่งที่ทำ และความหย่อนคล้อยของผิวในแต่ละบุคคล โดยหมอจะประเมินสภาพผิวก่อนทุกครั้ง เพื่อกำหนดจำนวนไลน์ที่เหมาะสมที่สุด แต่คนไข้สามารถใช้ตัวเลขโดยประมาณตามตำแหน่งได้ดังนี้ครับ
| ตำแหน่งที่ทำ | จำนวน Line โดยประมาณ |
|---|---|
| ใต้ตา + ร่องแก้ม | 300 Line |
| แก้ม หรือ เหนียง | 100 Line |
| แก้ม + เหนียง | 300 Line |
| ทั่วใบหน้า หรือ ต้นแขน | 600 Line |
| ทั่วหน้า + ลำคอ หรือ ต้นขา | 1,000 Line |
แนะนำให้ทำกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ เพื่อประเมินจำนวนไลน์ได้อย่างแม่นยำ และยิงในตำแหน่งที่ถูกต้อง เพื่อผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและคุ้มค่าที่สุดครับ
วิธีการนับ Hifu เป็นช็อต/ไลน์ นับยังไง ? ควรรู้ก่อนโดนหลอก
เพื่อให้คนไข้ตัดสินใจได้อย่างมั่นใจ หมอจะอธิบายเรื่อง “การนับช็อต / ไลน์ในการทำ Hifu” เพราะหลายคนอาจยังสับสนว่าแต่ละคลินิกนับกันอย่างไร และทำไมบางแห่งถึงมีโปรโมชันแบบเหมาช็อต หรือไม่จำกัดช็อตได้ในราคาถูกมาก ๆ
ความจริงแล้ว คำว่า “ช็อต” กับ “ไลน์” ที่ใช้กันในคลินิกต่าง ๆ นั้น มีความหมายต่างกันตามลักษณะของเครื่อง Hifu ที่ใช้ครับ
เครื่อง Hifu ทั่วไปมักเป็นแบบ Single Shot หัวจะมีลักษณะคล้ายปากกา ยิงพลังงานทีละจุดลงบนผิว
- 1 ช็อต = 1 จุด ที่ยิงพลังลงไป
- หากต้องการยกกระชับทั่วหน้า อาจต้องใช้หลายพันช็อตเพื่อให้เห็นผล
เครื่อง Hifu รุ่นใหม่ เช่น Ultraformer III และ Ultraformer MPT ที่ V Square Clinic เลือกใช้ จะยิงพลังงานลงไปเป็นเส้น ซึ่ง 1 เส้น (หรือ 1 line) จะประกอบด้วยจุดเล็ก ๆ เรียงกัน
- 1 line = 15–25 จุด
- ความยาวเฉลี่ยประมาณ 2.5 cm ต่อ 1 ไลน์
- ให้พลังงานลึกและกระจายสม่ำเสมอกว่า Single Shot หลายเท่า
ทำไมต้องรู้ว่าเครื่อง Hifu ที่ทำ นับเป็นช็อต/ไลน์ ?
บางคลินิกอาจใช้คำว่า 1 จุด = 1 line เพื่อให้ดูเหมือนยิงเยอะ แต่ความจริงคือคนไข้ได้รับพลังงานน้อยกว่าที่ควร เพราะจุดเดียวไม่เทียบเท่า 1 ไลน์ของเครื่องแท้เลยครับ
สิ่งที่หมออยากให้ระวัง
- Hifu ไม่จำกัดช็อต / Hifu บุฟเฟ่ต์ อาจใช้เครื่องปลอมที่ปล่อยพลังไม่เสถียร
- ยิงพลังแบบกระจายไม่ทั่ว เสี่ยง ผิวเบิร์น หน้าเบี้ยว หรือไม่เห็นผลลัพธ์
- บางคลินิกแจ้งจำนวน “ไลน์” แต่ความจริงนับแบบ “จุด” เพื่อให้ดูเยอะเกินจริง
ดังนั้นถ้าคนไข้อยากทำ Hifu แล้วเห็นผล ควรเลือกทำกับคลินิกที่ใช้ Hifu เครื่องแท้ เช่น Ultraformer III ที่นับแบบไลน์ และควรให้แพทย์ประเมินก่อนทำ เพื่อกำหนดจำนวนไลน์ที่เหมาะสมกับบริเวณที่ต้องการยกกระชับ
ทำ Hifu กี่ช็อตถึงเห็นผล ? ทำไมบางคนใช้ช็อตเยอะ แต่ไม่เห็นผล ?
หลายคนมักเข้าใจว่า “ยิ่งยิงช็อตเยอะ = ยิ่งเห็นผล” แต่ในความเป็นจริง “จำนวนช็อต” เพียงอย่างเดียวไม่สามารถการันตีผลลัพธ์ของ Hifu ได้ครับ เพราะยังมีอีกหลายปัจจัยที่มีผลต่อประสิทธิภาพในการยกกระชับ
ทำไมบางคนยิงไป 10,000 ช็อต แต่ไม่เห็นผลเลย ? สาเหตุหลัก ๆ มักมาจาก
- ใช้เครื่องคุณภาพต่ำ หรือเครื่องปลอม พลังงานไม่เสถียร ไม่ลงถึงชั้น SMAS
- ยิงแบบ Single Shot → กระจายพลังไม่ลึก ไม่ทั่วถึง
- ยิงผิดชั้นผิว หรือไม่มีการวางแผนก่อนทำ → ไม่เกิดการหดตัวของชั้นผิว
- ไม่มีแพทย์ประเมิน → ยิงแบบสุ่ม ไม่เหมาะกับสภาพผิวจริง
สรุป แม้จะยิง Hifu หลายพันช็อต แต่ถ้าใช้เครื่องไม่ได้มาตรฐาน ยิงผิดชั้นผิว หรือไม่มีการวางแผนโดยแพทย์ ผลลัพธ์อาจเทียบไม่ได้เลยกับคนที่ยิงเพียง 300-600 ไลน์ด้วยเครื่องแท้ และมีเทคนิคการยิงที่ถูกต้องครับ เพราะการทำ Hifu ให้ได้ผล ไม่ได้อยู่ที่ “ยิงเยอะ” แต่อยู่ที่ “ยิงถูกที่ ถูกจำนวน และถูกวิธี”
Hifu บุฟเฟ่ต์แบบยิงไม่จำกัดช็อต คืออะไร ?
ก่อนทำ Hifu อย่าดูแค่คำว่า “ไม่จำกัดช็อต”
ควรดูด้วยว่า ยิงด้วยเครื่องอะไร ? ใครเป็นคนยิง ? และยิงอย่างไร ?
Hifu บุฟเฟ่ต์ หรือที่เรียกกันว่า Hifu ยิงไม่จำกัดช็อต คือโปรโมชันที่หลายคลินิกใช้เพื่อดึงดูดใจ โดยมักโฆษณาว่าสามารถยิงได้ไม่อั้นในราคาถูก 999-3,999 บาท ซึ่งฟังดูคุ้มค่า แต่ต้องระวังให้ดีครับ เพราะ…
- ส่วนใหญ่ใช้เครื่อง Hifu เกรดต่ำหรือปลอม → พลังงานที่ปล่อยออกมาไม่คงที่ ไม่ลึกถึงชั้น SMAS
- ยิงจำนวนมาก แต่ไม่ได้วางแผนตามโครงสร้างใบหน้า → ไม่เกิดการยกกระชับ
- เสี่ยงเกิดผลข้างเคียง เช่น ผิวเบิร์น หน้าบวม หน้าเบี้ยว เพราะพลังงานกระจายผิดชั้น
หมอแนะนำว่า หากคนไข้ต้องการเห็นผลจริง ควรเลือกคลินิกที่ใช้เครื่อง Hifu แท้ หรือ Ulthera ที่มีการนับเป็นไลน์ (Line) พร้อมมีแพทย์ประเมินจำนวนที่เหมาะสมตามใบหน้าแต่ละคน
ทำ Hifu กี่ครั้งถึงจะเห็นผล ?
หลังทำ Hifu ครั้งแรก จะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงทันทีประมาณ 20% ครับ โดยเฉพาะความกระชับของผิว และแนวกรอบหน้าที่ดูชัดขึ้น หลังจากนั้นผิวจะค่อย ๆ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้น SMAS อย่างต่อเนื่อง
- ช่วงที่เห็นผลชัดที่สุดคือ 1-2 เดือนหลังทำ
- หลังจาก 2-3 เดือน ผลลัพธ์จะคงที่ และอยู่ได้นานประมาณ 5-6 เดือน
ควรทำ Hifu บ่อยแค่ไหน ?
หากต้องการคงผลลัพธ์ให้อยู่ไปเรื่อย ๆ สามารถทำเพิ่มได้หลังทำครั้งแรกอย่างน้อย 3 เดือนครับ
เหตุผลที่ต้องเว้นห่างกัน 3 เดือน ก็เพื่อให้เซลล์ fibroblast สร้าง collagen ได้เต็มที่เสียก่อน จากนั้นค่อยกลับไปทำซ้ำทุก ๆ 6 เดือน เพื่อคงผลลัพธ์และป้องกันความหย่อนคล้อยในอนาคตได้ครับ
ข้อปฏิบัติหลังทำ HIFU ที่ควรรู้ ?
หลังทำ Hifu คนไข้สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ ไม่ต้องพักฟื้น ไม่มีแผล แต่เพื่อให้ผลลัพธ์ของการยกกระชับชัดเจนขึ้น และคงอยู่ได้นาน หมอแนะนำให้ปฏิบัติตัวตามนี้ครับ
สิ่งที่ควรทำ (DO)
- ทาครีมบำรุงผิวได้ตามปกติ ช่วยปลอบประโลมผิวหลังรับพลังงาน
- ทาครีมกันแดด SPF สูง เป็นประจำทุกวัน เพื่อปกป้องผิวจากรังสี UV ที่อาจรบกวนการสร้างคอลลาเจน
- หากรู้สึกตึงหรือเมื่อยผิวเล็กน้อย สามารถรับประทานยาแก้ปวดพาราเซตามอลได้ (หากไม่แพ้)
สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง (DON’T)
- หลีกเลี่ยงการออกแดดจัด โดยเฉพาะในช่วง 1–2 สัปดาห์แรก เพื่อไม่ให้แสง UV รบกวนกระบวนการฟื้นฟูคอลลาเจนใต้ผิว
- งดนวดหรือถูใบหน้าแรง ๆ เพราะอาจทำให้พลังงานที่เพิ่งลงผิวเคลื่อนตัว หรือเกิดการระคายเคือง
- งดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ เนื่องจากเป็นตัวการทำลายคอลลาเจนใหม่ที่เพิ่งเริ่มสร้างได้
หลังทำ Hifu การดูแลผิวให้ดีในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก จะช่วยให้เห็นผลไวขึ้น และยืดอายุผลลัพธ์ได้นานโดยไม่ต้องทำบ่อยครับ หากไม่แน่ใจว่าควรดูแลยังไงเพิ่มเติม แนะนำปรึกษาแพทย์โดยตรงจะดีที่สุดครับ
รีวิว HIFU ก่อน-หลังทำ จากผู้ใช้บริการจริง ที่ V Square Clinic
รีวิวการทำhifu ยกกระชับต้นแขน เปรียบเทียบก่อนทำ/หลังทำ
ตัวอย่างผลการปรับรูปหน้าด้วย Hifu โดยทีมแพทย์ V Square Clinic
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Hifu กี่ช็อตถึงจะเห็นผล ?
ทำ Hifu 300 Line พอไหม ?
ขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ทำครับ เช่นถ้าทำแก้ม + เหนียง 300 Line อาจพอ แต่หากต้องการทำทั่วหน้า อาจต้อง เริ่มทำที่ 600-1,000 Line ถึงจะเห็นผลชัดเจน
ทำ Hifu ครั้งแรกจะเห็นผลเลยไหม ?
หลังทำ Hifu ครั้งแรก คนไข้จะเห็นผลทันทีประมาณ 20% ครับ โดยเฉพาะบริเวณแนวกรอบหน้าและความกระชับผิว
จากนั้นผลลัพธ์จะค่อย ๆ ดีขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติในช่วง 1-2 เดือน เพราะร่างกายต้องใช้เวลาในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ในชั้นผิวลึก (SMAS) และหากทำกับเครื่องแท้ และยิงครบจำนวนไลน์ที่เหมาะสม จะเห็นผลชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ โดยไม่ต้องผ่าตัดครับ
ทำไมบางคลินิกบอกยิง 10,000 ช็อต แต่ไม่เห็นผล ?
เพราะเป็นการยิงแบบ “ช็อต” ไม่ใช่ “ไลน์” ครับ ซึ่งหากคลินิกใช้เครื่อง Hifu เลียนแบบ พลังงานก็จะลงตื้นกว่า ไม่กระจายทั่ว และอาจไม่ถึงชั้น SMAS ที่ช่วยยกกระชับ ทำให้แม้จำนวนจะดูเยอะ แต่ผลลัพธ์น้อยกว่าการยิงแบบไลน์ของเครื่องแท้ครับ
Hifu บุฟเฟ่ต์แบบยิงไม่จำกัดช็อต ดีไหม ?
Hifu บุฟเฟ่ต์ อาจดูคุ้มค่าในแง่จำนวนช็อตที่ได้ แต่ถ้าใช้เครื่องปลอม เครื่องเลียนแบบ หรือยิงแบบไม่วางแผน พลังงานอาจไม่ถึงชั้นผิวที่ต้องการ ทำให้ไม่เห็นผล เสี่ยงผิวเบิร์น หรือหน้าเบี้ยว ควรเลือกคลินิกที่ใช้เครื่องแท้และมีการประเมินโดยแพทย์จะปลอดภัยกว่าครับ
สรุป Hifu กี่ช็อตถึงจะเห็นผล ? ทำแล้วคุ้มค่าไหม ?
การทำ Hifu ให้ได้ผล ไม่ได้วัดกันที่จำนวนช็อตเยอะที่สุด แต่วัดกันที่ว่ายิงครบจำนวนที่เหมาะสมกับใบหน้าด้วยเครื่องแท้ และยิงโดยแพทย์ที่วางแผนอย่างแม่นยำต่างหากครับ
โดยทั่วไปการยิงประมาณ 300-1,000 line จะเพียงพอสำหรับยกกระชับในแต่ละตำแหน่ง และเห็นผลได้จริงภายใน 1-2 เดือน ซึ่งถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า
V Square Clinic มีบริการประเมินใบหน้าฟรี โดยแพทย์เทรนนิ่งตรง พร้อมใช้เครื่องแท้ Ultraformer III ทุกเคส เพื่อให้คนไข้มั่นใจว่าทุกช็อตที่ยิง คุ้มค่า และได้ผลจริง


