ร้อยไหมเก็บเหนียง ลดเหนียงได้จริงไหม
วิธีการลดเหนียงมีอยู่หลายวิธี การร้อยไหมเก็บเหนียงเองก็เริ่มได้รับความสนใจมากขึ้น เพราะเทรนด์การร้อยไหมที่กำลังได้รับความนิยมสูง จึงมีคนไข้เขามาปรึกษาหมออยู่บ่อยๆ ว่าการร้อยไหมเก็บเหนียงได้หรือไม่ ดีไหม หมอจะขอธิบายไว้ในบทความนี้ครับ
สารบัญ ร้อยไหมเก็บเหนียง
ร้อยไหมเก็บเหนียง คืออะไร ?
ร้อยไหมเก็บเหนียง (Thread Lift for Double Chin) คือเทคนิคการสอดไหมละลายทางการแพทย์เข้าไปใต้ชั้นผิวบริเวณคางและลำคอ เพื่อดึงยกผิวและพยุงเนื้อส่วนที่หย่อนคล้อยให้กระชับขึ้น พร้อมกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้ผิวใต้คางแน่นและเรียบเนียนขึ้น เหนียงที่เคยเห็นชัดจะค่อย ๆ ลดลง กรอบหน้าชัดขึ้นทันทีหลังทำ
ร้อยไหมเก็บเหนียง ใช้ไหมอะไร ?
ร้อยไหมเก็บเหนียง มักใช้เป็นไหมละลายชนิด PDO, PLLA หรือ PCL ซึ่งมีความปลอดภัย ละลายได้เอง 100% ไม่มีสารตกค้างในร่างกายครับ โดยไหมแต่ละชนิดมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน แพทย์จะเลือกให้เหมาะกับสภาพผิวและระดับความหย่อนคล้อยของคนไข้แต่ละราย
ไหมที่นิยมใช้ในการร้อยไหมเก็บเหนียง มี 3 ประเภทหลัก ได้แก่
- ไหม PDO (Polydioxanone) : เป็นไหมที่นิยมมากที่สุดในปัจจุบัน เพราะยืดหยุ่นดี เห็นผลเร็ว และอยู่ได้ประมาณ 6-8 เดือน เหมาะกับผู้ที่มีเหนียงไม่มาก ต้องการให้ผิวยกกระชับทันทีหลังทำ
- ไหม PLLA (Poly-L-Lactic Acid) : มีคุณสมบัติเด่นในการ กระตุ้นคอลลาเจน ทำให้ผิวใต้คางแน่นและเรียบขึ้นเรื่อย ๆ หลังทำ อยู่ได้ประมาณ 12 เดือน เหมาะกับคนที่ต้องการให้ผิวฟื้นฟูระยะยาว
- ไหม PCL (Polycaprolactone) : เป็นไหมรุ่นใหม่ที่มีความยืดหยุ่นสูงที่สุด เหมาะกับคนที่มีผิวหย่อนคล้อยมากหรือมีไขมันใต้คางเยอะ อยู่ได้นานสุดประมาณ 18-24 เดือน และให้ผลการยกที่คงตัวชัดเจน
ร้อยไหมเก็บเหนียง เหมาะกับใคร ?
ร้อยไหมเก็บเหนียง เหมาะกับคนที่มีปัญหาเหนียงย้อย คางสองชั้น หรือกรอบหน้าไม่ชัด โดยเฉพาะผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อยเล็กน้อยถึงปานกลาง ไม่อยากผ่าตัด และต้องการเห็นผลรวดเร็วครับ
กลุ่มที่เหมาะกับการร้อยไหมเก็บเหนียง ได้แก่
- ผู้ที่มีไขมันสะสมบริเวณใต้คางและผิวหย่อนลงตามแรงโน้มถ่วง
- ผู้ที่มีกรอบหน้าไม่ชัด ต้องการให้หน้าดูเรียวและคมขึ้น
- ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ยกกระชับทันทีโดยไม่ต้องพักฟื้น
- ผู้ที่อายุ 25 ปีขึ้นไป ที่เริ่มมีสัญญาณผิวหย่อนคล้อย
ร้อยไหมเก็บเหนียง ลดเหนียงได้จริงหรือ ?
เหนียง คือ ไขมันสะสมใต้ชั้นผิวหนังระหว่างลำคอกับใบหน้าที่ไปรวมตัวอยู่บริเวณใต้คาง ทำให้เกิดคางสองชั้น (Double Chin) หรือเหนียง เป็นอีกปัญหาหนึ่งที่หลายๆ คนมีและต้องการกำจัดออกเพราะทำให้เสียความมั่นใจโดยเฉพาะเวลาก้มหน้าครับ
แต่ถ้าถามว่าร้อยไหมเก็บเหนียง ช่วยลดเหนียงได้จริงไหม ? จริงๆ หมอไม่แนะนำให้ทำครับ เพราะไม่ได้ช่วยลดไขมัน แต่จะช่วยยกพยุงผิวและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ซึ่งในกรณีของเหนียงที่มีไขมันสะสมมาก การร้อยไหมอาจทำให้บริเวณนั้นดูแน่นขึ้น แทนที่จะบางลง
ร้อยไหมเก็บเหนียง ทำไมหมอถึงไม่แนะนำ!
สาเหตุที่หมอไม่แนะนำให้ร้อยไหมเก็บเหนียง เพราะหลักการของร้อยไหมคือการยกกระชับผิว ไม่ใช่การสลายไขมัน
การกระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิวอาจทำให้เนื้อบริเวณคางดูมากขึ้น และไม่ตอบโจทย์การกำจัดไขมันส่วนเกินครับ
สำหรับผู้ที่มีเหนียงจากไขมัน แพทย์จะแนะนำให้ทำหัตถการอื่นที่เหมาะสมกว่า เช่น ฉีดเมโสแฟต เพื่อขจัดไขมันส่วนเกิน หรือใช้เครื่องยกกระชับ Ulthera/Hifu/ Thermage/Volnewmer เพื่อยกกระชับผิวหลังไขมันลด จะเห็นผลชัดและปลอดภัยกว่าครับ
เปรียบเทียบ ร้อยไหมเก็บเหนียง VS วิธีลดเหนียงอื่น ๆ
วิธีลดเหนียง นอกจากการเลือกรับประมานอาหารและการออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนักแล้ว ยังสามารถแก้ไขด้วยหัตถการทางการแพทย์ที่จะช่วยลดเหนียงได้เร็วขึ้น หมอแนะนำวิธีดังนี้ครับ
ฉีดเมโสแฟตลดใต้คาง
การฉีดเมโสแฟต คือวิธีสลายไขมันเฉพาะจุดที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีเหนียงจากไขมันสะสมระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง แพทย์จะฉีดตัวยาสลายไขมัน (ส่วนใหญ่มีส่วนผสมของ phosphatidylcholine และ deoxycholate) เข้าไปในชั้นไขมันใต้คาง เพื่อให้ไขมันแตกตัว จากนั้นร่างกายจะค่อย ๆ ขับออกทางระบบน้ำเหลืองตามธรรมชาติ
- เห็นผลหลังทำ 2-4 สัปดาห์ ผิวใต้คางค่อย ๆ เรียบและแนบขึ้น
- เหมาะกับคนที่มีไขมันสะสมมากกว่าเนื้อหย่อน
- ไม่ต้องพักฟื้น เจ็บเล็กน้อยตอนฉีด
- ทำซ้ำทุก 2-3 สัปดาห์เพื่อผลลัพธ์ต่อเนื่อง
ทำ HIFU ลดเหนียง ปรับหน้าเรียว กรอบหน้าชัด
HIFU คือวิธีลดเหนียงด้วยการใช้พลังงานคลื่นเสียงอัลตราซาวด์ส่งลงลึกถึงชั้น SMAS เพื่อกระตุ้นคอลลาเจนใหม่และยกกระชับผิว เหมาะกับผู้ที่มีผิวใต้คางหย่อนเล็กน้อยและมีไขมันไม่มาก
- เหมาะกับผู้ที่กลัวเข็ม ราคาย่อมเยา เจ็บน้อย ไม่ต้องพักฟื้น
- ช่วยยกกระชับผิวใต้คางและกรอบหน้าให้ชัดขึ้น พร้อมกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่โดยไม่ทำลายผิว
- เห็นผลหลังทำทันทีประมาณ 20% เห็นผลเต็มที่ใน 2-3 เดือน
- อยู่ได้นานประมาณ 5-6 เดือน
ทำ Ulthera เพื่อผิวแน่น กระชับ เหนียงใต้คางลด
Ulthera คือเครื่องยกกระชับพลังงาน Focused Ultrasound (MFU-V) ที่มีเทคโนโลยี Visualization เห็นชั้นผิวขณะยิงพลังงานแบบเรียลไทม์ ทำให้สามารถยกผิวได้แม่นยำและปลอดภัย เหมาะกับผู้ที่มีเหนียงหรือกรอบหน้าหย่อนปานกลางถึงมาก
- ยิงพลังงานลึกถึงชั้น SMAS ได้อย่างแม่นยำ
- ยกกระชับเหนียง กรอบหน้าชัด ได้ผลใกล้เคียงการผ่าตัด
- ไม่ต้องพักฟื้น เจ็บเล็กน้อยระหว่างทำ เหมาะกับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ยกนานและปลอดภัย
- เห็นผลหลังทำทันทีประมาณ 30% เห็นผลเต็มที่ใน 2-3 เดือน
- อยู่ได้นานประมาณ 1 ปี
ทำ Thermage FLX ยกกระชับ ผิวเฟิร์ม พร้อมลดไขมันเหนียงสะสม
Thermage FLX เป็นเครื่องยกกระชับผิวที่ใช้พลังงานคลื่นวิทยุ (Radio Frequency: RF) ส่งผ่านลงสู่ผิวในระดับลึกเพื่อสร้างความร้อนในชั้นคอลลาเจน ความร้อนนี้จะทำให้เส้นใยคอลลาเจนที่หย่อนคล้อยเกิดการหดตัวทันที และกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนใหม่อย่างต่อเนื่องในระยะยาว
- ช่วยยกกระชับผิวใต้คาง กรอบหน้า และลำคอ
- เหมาะกับผู้ที่มี เหนียงจากทั้งไขมันและผิวหย่อนคล้อย
- กระตุ้นคอลลาเจนลึก ทำให้ผิวแน่นขึ้นเรื่อย ๆ
- หลังทำ ไม่มีแผล ไม่ต้องพักฟื้น
- เห็นผลทันที 20 % และค่อย ๆ ชัดเจนขึ้นใน 2-3 เดือน
- อยู่ได้นานประมาณ 1-2 ปี
ทำ Volnewmer สลายไขมัน พร้อมยกกระชับผิว
Volnewmer เป็นเทคโนโลยี Multi-Polar RF (Radio Frequency) ที่ผสานพลังงานหลายระดับลงลึกถึงชั้นไขมันและคอลลาเจนพร้อมกัน จึงช่วยทั้งสลายไขมันและยกกระชับผิวไปในคราวเดียว เหมาะกับคนที่มีเหนียงจากไขมันสะสมและผิวไม่กระชับ
- เจ็บน้อยกว่าการทำ Thermage
- ช่วยลดไขมันใต้คางพร้อมยกผิวกระชับขึ้น
- เห็นผลทันทีประมาณ 20-30% และจะค่อย ๆ เห็นผลชัดเจนใน 2-3 เดือน
- เหมาะกับคนที่ไม่อยากพักฟื้น แต่ต้องการเห็นผลทั่วกรอบหน้า
- อยู่ได้นานประมาณ 6-8 เดือน
สรุปผู้ที่มีเหนียงจากไขมัน หมอแนะนำวิธีสลายไขมันและยกกระชับผิวแทนการร้อยไหม เช่น เมโสแฟต / HIFU / Ulthera / Thermage / Volnewmer เพราะช่วยลดไขมันและยกผิวได้จริง เห็นผลชัดเจน ปลอดภัย และไม่ทำให้ผิวใต้คางหนาขึ้นครับ
ร้อยไหมเก็บเหนียง เห็นผลเมื่อไหร่ ? อยู่ได้นานแค่ไหน ?
หลังทำจะเห็นผลยกกระชับได้ทันทีประมาณ 20-30% และจะค่อย ๆ เข้าที่ภายใน 2-4 สัปดาห์ เพราะร่างกายจะเริ่มกระตุ้นคอลลาเจนใหม่รอบแนวไหม ทำให้ผิวแน่นขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผลลัพธ์ที่ได้คือผิวใต้คางยกกระชับ เหนียงลดลง กรอบหน้าคมขึ้น และดูเรียวอย่างเป็นธรรมชาติครับ
- ไหม PDO อยู่ได้ประมาณ 8 เดือน
- ไหม PLLA อยู่ได้ 12 เดือน
- ไหม PCL อยู่ได้นานสุด 18-24 เดือน
ร้อยไหมเก็บเหนียง เจ็บไหม ?
ระหว่างทำจะมีเพียงความรู้สึกตึง ๆ เล็กน้อย เพราะแพทย์จะฉีดยาชาเฉพาะจุดก่อนเริ่มทำ หลังทำอาจมีอาการบวมเล็กน้อย 2-3 วันแรก ซึ่งเป็นอาการปกติและจะค่อย ๆ ยุบลงได้เอง สามารถกลับไปทำงานได้ตามปกติ ไม่ต้องพักฟื้นครับ
หลังร้อยไหมเก็บเหนียง ต้องดูแลอย่างไร ?
- หลีกเลี่ยงการแตะ แกะ เกาและกดนวดบริเวณที่ร้อยไหม
- รับประทานยาแก้อักเสบและยาฆ่าเชื้อตามแพทย์สั่ง เพื่อลดอาการบวมแดงและป้องกันการติดเชื้อ
- ช่วง 3 วันแรก ไม่ควรขยับใบหน้าเยอะ อาจทำให้ไหมเคลื่อนที่ผิดตำแหน่งได้
- หลังร้อยเสร็จทันที อาจมีอาการบวมแดง เขียวช้ำ โดยสามารถหายไปเองใน 2-3 วัน ห้ามแกะ เกา หรือกดนวด
- เลี่ยงความร้อนทุกชนิด หรือทำกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดงอย่างน้อย 48 ชม. เช่น ซาวน่า ออกกำลังกายหนัก ตากแดด
- งดยิงเลเซอร์ร้อน และหัตถการอื่น ๆ ที่ใช้ความร้อน เป็นเวลา 2 เดือน
- เลี่ยงการทานอาหารบางอย่างที่ส่งผลต่อการอักเสบ เช่น เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อาหารหมักดอง อาหารรสจัด อาหารดิบ
- หลังทำ 14 วัน อาการบวมจะหายไปเกือบ 100% สามารถออกกำลังกายได้ตามปกติ กินอาหารได้ปกติ และพยายามหลีกเลี่ยงความร้อน
- หากพบอาการผิดปกติ เช่น บวมแดงมากขึ้นเรื่อย ๆ ปวดร้อน มีหนอง หรือผิวบุ๋มผิดรูป ควรรีบกลับมาพบแพทย์ทันที เพื่อประเมินและรักษาอย่างเหมาะสม
มีหลายงานวิจัยที่ระบุว่าสารชื่อ bromelain ที่อยู่ในแกนสับปะรดสามารถกินเพื่อช่วยให้อาการปวดบวมช้ำหลังจากร้อยไหมหายได้ไวขึ้นอย่างชัดเจน
อ่านบทความเพิ่มเติม : หลังร้อยไหม มีข้อปฏิบัติ – ข้อห้าม อะไรบ้างที่ควรรู้ เพื่อช่วยให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้น
ร้อยไหมเก็บเหนียง ที่ไหนดี ?
- คลินิกต้องได้รับใบอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย มีใบอนุญาตประกอบกิจการจากกระทรวงสาธารณสุขชัดเจน
- แพทย์ต้องมีประสบการณ์จริงในการร้อยไหม สามารถประเมินจุดดึงและแนวเส้นไหมให้เหมาะกับแต่ละเคส
- ใช้ไหมแท้คุณภาพดี ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยา (FDA)
- มีรีวิวผลลัพธ์จากผู้รับบริการจริง โดยเฉพาะวิดีโอรีวิวหรือภาพก่อน-หลังที่ไม่ผ่านการตกแต่ง
- มีทีมแพทย์ให้คำปรึกษาก่อนทำและดูแลหลังทำอย่างต่อเนื่อง
สรุป ร้อยไหมเก็บเหนียง ดีไหม ? เหมาะกับใคร ?
โดยสรุปแล้ว หมอไม่แนะนำให้ร้อยไหมเก็บเหนียงครับ เพราะไม่ได้ช่วยลดไขมันใต้คางโดยตรง แต่เป็นหัตถการที่เน้นยกกระชับผิวมากกว่า หากทำในเคสที่มีไขมันสะสมมาก อาจทำให้บริเวณนั้นดูแน่นหรือหนาขึ้นได้แทนที่จะบางลง
สำหรับคนที่มีเหนียงจากไขมันหรือผิวใต้คางหย่อน แนะนำให้ใช้ วิธีสลายไขมันหรือเครื่องยกกระชับ เช่น เมโสแฟต / HIFU / Ulthera / Thermage / Volnewmer จะให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนกว่า ปลอดภัยกว่า และช่วยให้กรอบหน้าดูเรียวขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติครับ


