ข้อควรปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์

เพื่อให้ผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์มีประสิทธิภาพ เห็นผลได้อย่างเต็มที่ การดูแลตัวเองหลังฉีด Filler นับว่ามีส่วนสำคัญมาก ๆ ครับ อะไรที่ต้องระวัง ? หลังฉีดฟิลเลอร์มีข้อปฏิบัติอะไรบ้าง ? หลังฉีดฟิลเลอร์ห้ามกินอะไร ? หลังฉีดเสร็จทันทีเป็นอย่างไร ? ใน 1 สัปดาห์ หรือ 1 เดือน หลังฉีดฟิลเลอร์ ควรดูแลตัวเองอย่างไร ?
รวมถึงในแต่ละบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ ไม่ว่าจะเป็น ฟิลเลอร์คาง ฟิลเลอร์ปาก ฟิลเลอร์ขมับ ฟิลเลอร์ใต้ตา ฟิลเลอร์ร่องแก้ม การแก้ปัญหาริ้วรอยร่องลึกต่าง ๆ ดูแลต่างกันหรือไม่ เพื่อคงผลลัพธ์อยู่ได้ยาวนานขึ้น ในบทความนี้ หมอได้อธิบายวิธีการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ในแต่ละช่วงเวลา แต่ละจุดที่ฉีด และข้อควรระวังต่าง ๆ ไว้ให้แล้ว สามารถศึกษาข้อมูล และนำไปปฏิบัติได้เลยครับ
สารบัญ หลังฉีดฟิลเลอร์
ข้อปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์สำคัญแค่ไหน ?
หลังฉีดฟิลเลอร์การดูแลตัวเองอย่างเหมาะสมมีความสำคัญมาก ๆ ครับ เพราะช่วยป้องกันภาวะแทรกซ้อน เช่น การติดเชื้อ บวม ช้ำ หรือฟิลเลอร์เคลื่อนที่ และช่วยให้ฟิลเลอร์คงสภาพสวยงามและอยู่ได้นานขึ้น
ดังนั้นข้อปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ ที่หมอจะแนะนำในบทความนี้ คนไข้สามารถนำไปใช้ดูแลตัวเองได้เลย
ข้อควรปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ แต่ละช่วงเวลา
ข้อควรปฏิบัติหลังการฉีดฟิลเลอร์ ที่หมอจะแนะนำต่อไปนี้ ล้วนแต่เป็นเรื่องปฏิบัติได้ง่าย ๆ ครับ หากอยากให้การฉีดฟิลเลอร์ได้ผลลัพธ์ที่ดี ดูเป็นธรรมชาติ แนะนำให้ปฏิบัติดังนี้
ข้อปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ทันที
หลังฉีดฟิลเลอร์เสร็จทันที อาจจะมีอาการบวมแดง เขียวช้ำ หรือคันได้ในจุดที่ทำเป็นปกติ ให้หลีกเลี่ยงการแตะ การเกา การกดนวดในจุดนั้น ๆ อาการต่าง ๆ จะค่อย ๆ ดีขึ้นภายใน 2-3 วัน แต่หากหลังจาก 3 วัน อาการดังกล่าวยังเป็นมากขึ้น ให้ติดต่อกลับมาที่คลินิกเพื่อรับยากินเพิ่ม
หลังฉีดฟิลเลอร์ 1 ชม. สามารถแกะพลาสเตอร์ออกได้ หากต้องการแต่งหน้าควรเว้นบริเวณรูเข็มที่ฉีด ส่วนใครที่ก่อนฉีดฟิลเลอร์ไม่ได้กินยาฆ่าเชื้อ หลังทำควรรีบกินยาฆ่าเชื้อทันที และทางคลินิกจะมียาแก้ปวด, ลดบวมให้กินด้วยครับ

ข้อควรปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ 3-48 ชั่วโมง
- หลังฉีดฟิลเลอร์ 3 ชั่วโมง รอยเข็มฟิลเลอร์สามารถโดนน้ำได้ไม่เกิน 15 นาที สามารถล้างหน้าด้วยสบู่อ่อน ๆ ได้ และใครที่ต้องการประคบเย็น แนะนำปรึกษาแพทย์ก่อน ห้ามประคบเองและทำผิดวิธีอาจทำให้ฟิลเลอร์ที่ฉีดเกิดการเคลื่อนและไม่เกาะผิวได้ ควรประคบเย็นตามคำแนะนำของแพทย์ในบางกรณีเท่านั้น
- หลังฉีดฟิลเลอร์ 6 ชั่วโมง ยาชาจะเริ่มหายบวม ถ้ามีจุดไหนที่ยังบวมมาก ประคบเย็นได้ โดยควรประคบเบา ๆ ไม่ควรกดแรง
- หลังฉีดฟิลเลอร์ 24 ชั่วโมง จะเริ่มมีอาการบวมเข็มมากขึ้น สำหรับฟิลเลอร์คนไข้บางคนอาจจะเข้าใจผิดว่าฟิลเลอร์ฟูขึ้นและชอบแบบที่ฟู ๆ นี้ แต่เมื่อผ่านไป 7-14 วัน อาการบวมเข็มยุบลงก็เข้าใจผิดว่าฟิลเลอร์สลายหายไป
การดูผลฟิลเลอร์ควรจะดูหลังฉีดเสร็จทันทีและควรดูผลอีกทีหลังจาก 14 วันนะครับ ระหว่างนั้นไม่สามารถประเมินได้เต็มที่เนื่องจากอาจมีอาการบวมอยู่ ช่วงเวลานี้คนไข้สามารถทาครีมทับบริเวณรอยเข็มได้ หรือโดนน้ำได้ปกติ ไม่เป็นปัญหาหลังฉีดฟิลเลอร์ครับ - หลังฉีดฟิลเลอร์ 48 ชั่วโมงแรก แนะนำให้อยู่แต่ในที่อากาศเย็น และหลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิดและกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดง เช่น เข้าซาวน่า ออกกำลังกายหนัก ๆ ตากแดด การดื่มแอลกอฮอล์ เป็นต้น
กลางคืนหลังฉีดฟิลเลอร์ มีวิธีการดูแลตัวเองอย่างไร ห้ามทำอะไรบ้าง ?
- ในคืนแรกหลังจากฉีดฟิลเลอร์ ยาชาที่ฉีดไว้หมดฤทธิ์ใน 3 ชม.หลังทำ จะเริ่มปวดระบมมากขึ้น หากหลังจากกินยาแก้ปวด Paracetamol ที่ทางคลินิกให้ไปทุก ๆ 4 ชม. แล้วยังปวดมากอยู่ก็สามารถกินยาแก้ปวดในกลุ่มอื่น ๆ ช่วยเสริมได้เช่น Ibruprofen, Arcoxia, Diclofenac แต่ถ้าไม่เคยกินยาเหล่านี้มาก่อนควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยาครับ
- ควรนอนในห้องแอร์ที่อุณหภูมิ 18-23 °C นอนหัวสูงกว่าหน้าอก โดยการหนุนหมอนที่ศีรษะอย่างน้อย 2 ใบ ไม่ควรนอนตะแคง ควรหาหมอนข้างมากันไว้ทั้งซ้ายและขวาใน 2-3 คืนแรกหลังทำเพื่อป้องกันการกดทับหน้า
การปฏิบัติตัวหลังฉีดฟิลเลอร์ 3-14 วัน
- หลังฉีดฟิลเลอร์ 3 วัน อาการปวดบวมแดง ช้ำ จะเริ่มดีขึ้น หากอาการมีแนวโน้มแย่ลงให้ติดต่อคลินิกเพื่อขอรับยากินเพิ่ม โดยในช่วง 3 วันหลังฉีดฟิลเลอร์ สามารถขยับใบหน้าได้เกือบปกติ แต่อย่าขยับใบหน้าเยอะโดย จะทำให้ฟิลเลอร์ที่ทำไว้เคลื่อนผิดตำแหน่งได้ ฟิลเลอร์จะเข้าที่แล้วประมาณ 90% แต่ยังไม่ควรกดนวดแรง ๆ
- หลังฉีดฟิลเลอร์ 7-10 วัน รอยเขียวช้ำอาจจะยังมีอยู่จะค่อย ๆ จางลงเองใน 14 วัน และไม่ควรประคบร้อนครับ ในบางเคสจะยังคลำเจอฟิลเลอร์เป็นก้อนได้ปกติ เป็นอาการบวมเข็ม จะค่อย ๆนิ่มลงเองภายใน 2-3 สัปดาห์
- หลังฉีดฟิลเลอร์14 วัน อาการบวมจะหายไปเกือบ 100% สำหรับฟิลเลอร์จะเริ่มนิ่มลงและกลืนไปกับผิว ยกเว้นฟิลเลอร์ในรุ่นที่ฉีดในผิวชั้นลึกเพื่อยกพยุงหน้า เช่น Restylane Perlane Lyft หรือ Juvederm Voluma จะคลำได้เนื้อฟิลเลอร์ในผิวชั้นลึก แต่จะมองไม่เห็นจากภายนอกเป็นปกติครับไม่ต้องกังวล
ทั้งนี้สามารถออกกำลังกาย หรือรับประทานอาหารได้ตามปกติ แต่พยายามหลีกเลี่ยงความร้อนครับ
การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ 1 เดือน
สิ่งที่ควรทำ
- ดื่มน้ำมาก ๆ : น้ำ คือปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่ทำให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นาน เนื่องจากการดื่มน้ำมีความสัมพันธ์กับการฉีดฟิลเลอร์และไฮยาลูรอนโดยตรง เพราะไฮยาลูรอน (Hyaluronic Acid) เป็นสารที่อุ้มน้ำได้ดี การดื่มน้ำอย่างเพียงพอจะช่วยให้ฟิลเลอร์ฟูสวย อิ่มน้ำ และคงสภาพได้นานขึ้น
นอกจากนี้ ใน Particle ของฟิลเลอร์โมเลกุลของฟิลเลอร์จะค่อย ๆ สลายไปและถูกแทนที่ด้วยโมเลกุลของน้ำ เป็นการสลายแบบ Isovolumetric Degradation
สามารถสลายกลายเป็นน้ำได้ 100% เมื่อเวลาผ่านไป 1-2 ปี
นั่นหมายความว่าแม้ฟิลเลอร์จะสลายไปบางส่วนแต่ก็จะยังมีปริมาตรเท่าเดิมได้อยู่จากน้ำที่เรากิน ซึ่งถ้าขาดน้ำขนาด Particle ก็จะเล็กลง และเพิ่มอัตราการสลายแบบทวีคูณ
ดังนั้นควรดื่มน้ำอย่างสม่ำเสมอตามปกติคือวันละ 1.5-2 ลิตร เป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่จะทำให้ฟิลเลอร์อยู่ได้ เพราะฟิลเลอร์เป็นสารที่อุ้มน้ำ การดื่มน้ำมาก ๆ จะช่วยให้ฟิลเลอร์ฟูได้รูปครับ
สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง
- ความร้อนทุกชนิด : งดทรีตเมนต์ความร้อนทุกชนิด เช่น เลเซอร์ร้อน, RF, Thermage, อบซาวน่า, อบไอน้ำ ควรเว้นอย่างน้อย 1 เดือนหลังทำ
หลังฉีดฟิลเลอร์แต่ละตำแหน่งดูแลเหมือนหรือต่างกันอย่างไร ?
หลังฉีดฟิลเลอร์แต่ละตำแหน่งมีอาการบวมช้ำได้เหมือนกัน แต่จะมีวิธีดูแลและข้อควรระวังที่ต่างกันไปตามตำแหน่ง เช่น ปาก ห้ามบีบ นวด หรือดื่มน้ำด้วยหลอด และ คาง ห้ามเท้าคางหรือนอนตะแคง เป็นต้น
1.ข้อควรระวังหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา หนึ่งในหัตถการที่ได้รับความนิยม ช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยใต้ตา ใต้ตาคล้ำ ใต้ตาดูโทรม อ่อนล้า ให้กลับมาสดใสได้เป็นอย่างดี
ข้อปฏิบัติ
หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเสร็จทันที หมอจะติดพลาสเตอร์ให้ตามรอยเข็ม เมื่อครบ 1 ชม. จึงสามารถแกะออกได้ อาจจะมีอาการบวมแดง เขียวช้ำ หรือคันได้ในจุดที่ทำครับ อาการเหล่านี้จะค่อย ๆ ดีขึ้นเองในช่วง 2-3 วันครับ
แต่หากเลย 3 วันไปแล้ว อาการบวมแดงยังไม่ดีขึ้น แนะนำให้กลับมาที่คลินิกเพื่อให้หมอตรวจเช็กหรือรับยากินเพิ่มครับ

ในบางเคสอาจปวดระบมตามรอยเข็มในคืนแรกหลังทำ สามารถกินยาแก้ปวด ที่ทางคลินิกให้ไปทุก ๆ 4 ชม. ครับ หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาสามารถแต่งหน้าได้ตามปกติครับ
นอกจากนี้ควรปฏิบัติ ดังนี้
- นอนหัวสูงกว่าหน้าอกโดยการหนุนหมอนที่ศีรษะอย่างน้อย 2 ใบ ไม่ควรนอนตะแคง
- ควรหาหมอนข้างมากันไว้ทั้งซ้ายและขวาใน 2-3 คืนแรกหลังทำ เพื่อป้องกันการกดทับใบหน้า
- ควรทานยาที่แพทย์จ่ายให้หลังทำต่อเนื่องจนครบ เพื่อช่วยลดอาการบวม และป้องกันการติดเชื้อ
อ่านบทความเพิ่มเติม : ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาคืออะไร ? ช่วยเรื่องอะไรบ้าง เหมาะกับใครบ้าง ?
ข้อควรระวัง
หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ระวังอย่าขยี้ตา เกา กดหรือนวดในจุดที่ฉีดครับ เพราะอาจทำให้เกิดการติดเชื้อ อักเสบจากมือที่สกปรก ร่วมถึงมีผลต่อการเคลื่อนที่ของฟิลเลอร์ครับ
2.ข้อควรระวังหลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม
หลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มจะช่วยให้ใบหน้ากลับมาดูอ่อนกว่าวัย และสดใสขึ้นครับ เพราะการมีร่องแก้มชัดเจนทำให้ใบหน้าดูมีอายุ
เมื่อฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม สามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ทันที ในบางเคสหลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม อาจมีอาการบวมแดง หรือคันได้ในจุดที่ทำเป็นปกติ ควรดูแลตัวเองดังนี้
ข้อปฏิบัติ
- หากมีอาการปวดจุดที่ฉีด คนไข้สามารถทานยาแก้ปวดได้ตามอาการครับ แต่หากหลังจาก 3 วัน ยังมีอาการปวดและบวมมากอยู่ สามารถติดต่อคลินิกเพื่อรับยาทานเพิ่มได้เช่นกัน
- ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ในแต่ละเคสครับ เช่น การประคบเย็น ทำในบางกรณีเท่านั้น หากต้องประคบเย็นไม่ควรกดแรง

ข้อควรระวัง
- อย่าบีบ กด หรือ นวด แกะเกาบริเวณร่องแก้ม อาการต่าง ๆ จะค่อย ๆ ดีขึ้นภายใน 2-3 วัน
- อย่าขยับใบหน้าเยอะโดยเฉพาะในช่วง 3 วันหลังทำ อาจจะทำให้ฟิลเลอร์ร่องแก้มเคลื่อนที่ได้ครับ
- หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดงอย่างน้อย 48 ชม. หลังทำ เช่น การออกกำลังกายหนัก ๆ ตากแดด
อ่านบทความเพิ่มเติม : ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม หลังฉีดช่วยหน้าเด็ก เหมาะกับใคร ต้องใช้กี่ cc ?
3.ข้อควรระวังหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก
หากต้องการปรับรูปทรงปากให้ดูอวบอิ่ม ปากกระจับ โดยไม่ต้องผ่าตัด การฉีดฟิลเลอร์ปากช่วยได้ครับ นอกจากได้ทรงปากที่ได้สัดส่วนแล้ว ยังช่วยทำให้ปากชุ่มชื้นขึ้นได้ โดยมีวิธีดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก ดังนี้
ข้อปฏิบัติ
- ควรดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อเพิ่มการอุ้มน้ำของฟิลเลอร์ และช่วยให้ฟิลเลอร์ฟู อยู่ได้นานขึ้น
- ควรรับประทานและเครื่องดื่มอุณหภูมิปกติ เลี่ยงของร้อน ๆ เพราะอาจทำให้ปากเกิดอาการบวม
- ใน 12 ชั่วโมงแรกควรงดใช้หลอดดูดน้ำ งดทาลิปสติกและงดสูบบุหรี่
ข้อควรระวัง
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสบริเวณที่ฉีด ไม่จับ บีบ นวดบริเวณริมฝีปาก
- ไม่ควรดึงหรือลอกหนังริมฝีปาก เพราะจะเป็นการทำลายผิวริมฝีปาก ทำให้ผิวเก็บกักน้ำและความชุ่มชื้นไว้ได้น้อยลง
- หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด เผ็ด เพราะอาจทำให้ปากเกิดอาการอักเสบได้ง่าย
อ่านบทความเพิ่มเติม : ฉีดฟิลเลอร์ปาก เซ็กซี่แบบธรรมชาติ ทรงปากที่เหมาะกับคนไทยมากที่สุด
4.ข้อควรระวังหลังฉีดฟิลเลอร์ขมับ
ใครที่เนื้อขมับยุบหายไปมาก ๆ จะทำให้โหนกแก้มเด่น สามารถใช้ฟิลเลอร์ช่วยได้ครับ จะทำให้โหนกแก้มเด่นน้อยลง และใบหน้าจะเรียวเข้ารูปมากขึ้น
การฉีดฟิลเลอร์ขมับ เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาขมับยุบ ขยับตอบ ขมับบุ๋ม ช่วยปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วนมากขึ้น
ข้อปฏิบัติ
หลังฉีดฟิลเลอร์ขมับ คนไข้อาจรู้สึกปวดศีรษะเล็กน้อย เพราะเป็นจุดรวมเส้นประสาท จึงไวต่อความรู้สึกได้ง่าย โดยอาการปวดศีรษะสามารถหายได้เองในช่วง 1-2 วันครับ ในระหว่างนี้คนไข้สามารถรับประทานยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการได้ครับ
ข้อควรระวัง
- ไม่ควรกดนวด บริเวณขมับที่ฉีดฟิลเลอร์
- เลี่ยงการนอนให้กดทับบริเวณขมับ เพราะจะทำให้รู้สึกเจ็บ หรือปวดศีรษะครับ (การนอนตะแคงไม่ได้ทำให้ฟิลเลอร์เสียทรง เพราะมีความคงตัวมากขึ้น ไม่เปลี่ยนรูป ไม่เสียทรง)
อ่านบทความเพิ่มเติม : ฉีดฟิลเลอร์ขมับ อันตรายไหม ? ข้อควรรู้ก่อนทำฟิลเลอร์ขมับ
5.ข้อควรระวังหลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก
ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก เป็นการปรับรูปหน้าโดยรวมให้ได้สัดส่วนมากขึ้น นิยมฉีดในคนที่ต้องการเสริมโหงวเฮ้ง แก้ปัญหาหน้าผากยุบ แบน สามารถปรับเพิ่มลดความโหนกนูนได้ตามต้องการโดยไม่ต้องผ่าตัด
ข้อปฏิบัติ
หลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ในบางเคส อาจรู้สึกปวดศีรษะเล็กน้อย แต่อาการจะค่อย ๆ หายไปครับ หากรู้สึกปวดมากสามารถรับประทานยาแก้ปวดได้ครับ ไม่เสียเวลาพักฟื้น หลังฉีดควรอยู่ในที่เย็น ๆ สามารถเดินเล่น ช้อปปิ้งได้โดยไม่ต้องกังวล คนไข้สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติทันทีหลังฉีดฟิลเลอร์ครับ
ข้อควรระวัง
- ไม่ควรจับ กดนวดบริเวณหน้าผาก หลังฉีดฟิลเลอร์เสร็จทันที ห้ามนอนราบหลังฉีดฟิลเลอร์ 3-4 ชั่วโมง
- ไม่ควรนอนคว่ำ หรือมีการรัด กดบริเวณหน้าผาก
- เลี่ยงการสัมผัสความร้อน
- ห้ามถูหน้าแรง ๆ หรือกด บีบสิวบริเวณหน้าผาก
อ่านบทความเพิ่มเติม : ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก vs การผ่าตัดเสริมหน้าผาก เสริมโหงวเฮ้งรับทรัพย์ และข้อที่ควรรู้ก่อนทำ
6.ข้อควรระวังหลังฉีดฟิลเลอร์คาง
การฉีดฟิลเลอร์คาง ช่วยปรับรูปหน้าให้ดูเรียวขึ้น คางยาวขึ้นได้อย่างรวดเร็ว หลังฉีดฟิลเลอร์คาง 24 ชม.จะเริ่มมีอาการบวมเข็มมากขึ้น ประมาณ 14 วันถึงจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน ซึ่งในระหว่างนี้ควรดูแลตัวเองอย่างดี
ข้อปฏิบัติ
การฉีดฟิลเลอร์คางมีข้อปฏิบัติเหมือนกับการฉีดฟิลเลอร์จุดอื่น ๆ ครับ เช่น ควรดื่มน้ำมาก ๆ หลังฉีด ควรอยู่ในอากาศเย็น ๆ ไม่แกะ เกา นวด จับ บริเวณที่ฉีด เป็นต้น แม้จะมีวิธีปฏิบัติ ดูแลไม่ยุ่งยาก แต่ก็มีข้อควรระวังเฉพาะเจาะจงอยู่ครับ
ข้อควรระวัง
- หลังฉีดฟิลเลอร์คางห้ามนวด กด ปั้นทรงเองโดยเด็ดขาดครับ โดยเฉพาะในช่วง 2 สัปดาห์แรก ที่ฟิลเลอร์ยังไม่เข้าที่ดี เพราะจะทำให้คางเสียทรงครับ
- หลีกเลี่ยงการเท้าคาง
- เลี่ยงการใส่หมวกกันน็อคที่รัดแน่น ๆ
- ไม่ควรนอนคว่ำ เพราะอาจทำให้เกิดการกดทับตรงบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์คางครับ
อ่านบทความเพิ่มเติม : ฉีดฟิลเลอร์คาง vs ผ่าตัดคาง แต่ละวิธี มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร ?
หลังฉีดฟิลเลอร์เมื่อไหร่ควรรีบพบแพทย์ หากรู้สึกผิดปกติ
หากคนไข้รู้สึกมีอาการผิดปกติ เช่น ปวด บวมแดงมากผิดปกติ หรือผิวหนังเปลี่ยนเป็นสีซีดหรือคล้ำขึ้นอย่างมาก หรือมีความผิดปกติเกี่ยวกับการมองเห็น ควรแจ้งให้ทราบโดยเร็ว
ทั้งนี้หัตถการฉีดฟิลเลอร์มีความปลอดภัยสูง และการดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์ก็ไม่ยุ่งยาก จึงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มีหลาย ๆ คลินิกเปิดให้บริการมากขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของคน แต่จะฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี ปลอดภัย ไม่ต้องกังวลผลข้างเคียง หรือความปกติตามหลัง
สามารถศึกษาข้อมูลแนวทางการเลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์จากที่หมอเคยเขียนอธิบายไว้ได้ครับ ฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี เลือกอย่างไรให้ปลอดภัย และผลออกมาดูเป็นธรรมชาติ
มั่นใจฉีดฟิลเลอร์ที่ V Square Clinic ปลอดภัย แพทย์ดูแลใกล้ชิด
FAQ : คำถามที่พบบ่อยหลังฉีดฟิลเลอร์
หลังฉีดฟิลเลอร์เป็นก้อน ปกติไหมกี่วันหาย ?
การที่ฟิลเลอร์เป็นก้อนหลังฉีดเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ครับ และมักจะค่อย ๆ ดีขึ้นเองภายใน 1-2 เดือน อย่างไรก็ตาม อาการบวมจากรอยเข็มหรือการกระจายตัวของฟิลเลอร์ในช่วงแรกอาจจะยุบลงใน 3-7 วัน หากหลังจาก 2 สัปดาห์ไปแล้วก้อนยังไม่หายไป อาจเกิดจากฟิลเลอร์การกระจายตัวไม่ดี ใช้ฟิลเลอร์ไม่เหมาะกับตำแหน่ง หรือแพทย์ขาดประสบการณ์ฉีดผิดชั้นผิว ทำให้เห็นฟิลเลอร์เป็นก้อน หรือฟิลเลอร์ลอยเห็นเด่นชัด
กรณีนี้ควรปรึกษาแพทย์ สามารถฉีดสลายออกได้ครับ สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม ฉีดฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อนบวม มีวิธีแก้ไขอย่างไร ที่หมออธิบายไว้ก่อนหน้าได้
ฉีดฟิลเลอร์ กี่วันเห็นผล บวมกี่วัน ?
โดยปกติหลังฉีดฟิลเลอร์จะสามารถเห็นการเปลี่ยนได้ทันที และค่อย ๆ หายบวมประมาณ 4-5 วัน และเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนเข้าที่ ประมาณ 2-3 สัปดาห์ครับ
อาจมีผลข้างเคียงจากการฉีดได้ เช่น ผื่นหรือจุดแดงบริเวณรอยเข็ม ซึ่งสามารถหายไปเอง นอกจากนี้อาจมีอาการบวมหลังฉีดเป็นเรื่องปกติ หากมีอาการปวด คนไข้สามารถทานยาแก้ปวดได้ตามอาการ ไม่อันตรายครับ จึงไม่ต้องเป็นกังวล
อ่านบทความเพิ่มเติม : ฉีดฟิลเลอร์อันตรายไหม? คำถามที่ทำให้หลายคนยังลังเลจะฉีดฟิลเลอร์
หลังฉีดฟิลเลอร์ ล้างหน้าน้ำอุ่นได้ไหม ?
ตามหลักการแล้วสามารถอาบน้ำหรือล้างหน้าด้วยน้ำอุ่นได้ครับ เพราะไม่ได้ทำให้ฟิลเลอร์สลายอย่างที่หลายคนเข้าใจ โดยส่วนตัวหมอแนะนำล้างหน้าด้วยน้ำอุณหภูมิปกติจะดีกว่าครับ เพราะคำว่าน้ำอุ่นของแต่ละคนต่างกัน บางคนอุ่นจนร้อนครับ ซึ่งมีผลทำร้ายผิวหน้าให้แห้ง ขาดความชุ่มชื้นได้ครับ
หลังฉีดฟิลเลอร์ห้ามกินอะไรบ้าง ?

หลังฉีดฟิลเลอร์ห้ามกินอะไรบ้าง ? ข้อนี้คนไข้ถามหมอบ่อย ๆ หลังฉีดฟิลเลอร์เสร็จ จริง ๆ เรื่องอาหารการกินไม่ได้ยุ่งยากมากครับ แต่ขอให้งดทานอาหารบางอย่างที่ส่งผลต่อการอักเสบ บวมและทำให้ฟิลเลอร์เข้าที่ช้าในระยะ 14 วันหลังทำ (ถ้าทำไม่ได้จริง ๆ ก็ควรงดอย่างน้อย 48 ชม.) ดังนี้ครับ
- ควรงดรับประทานอาหารเหล่านี้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด เหล้า เบียร์ ไวน์ น้ำหมัก
- เลี่ยงมื้ออาหารที่อยู่หน้าเตานาน ๆ เช่น หมูกระทะ ปิ้งย่าง ชาบู ที่ต้องนั่งหน้าเตาร้อน ๆ ครับ
- อาหารรสจัดที่เผ็ดมาก ๆ แสบร้อนจนหน้าแดง
- อาหารรสเค็มจัด อาหารหมักดอง เพราะมีสารที่ทำให้เส้นเลือดขยายตัว เช่น ปลาร้า หน่อไม้ดอง มะม่วงดอง
- งดอาหารรสหวานจัด เช่น ชานม น้ำหวาน น้ำอัดลม เพราะสามารถกระตุ้นกระบวนการอักเสบได้
- ควรงดสูบบุหรี่ ในบุหรี่มีสารหลายชนิดที่ขยายหลอดเลือด จะทำให้ยุบบวมช้า และผลการรักษาอยู่ได้สั้นลง
อ่านบทความเพิ่มเติม : หลังฉีดฟิลเลอร์ ห้ามกินอะไรบ้าง เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
หลังฉีดฟิลเลอร์กี่วันเข้าที่ คงผลลัพธ์อยู่ได้นานแค่ไหน ?
- ฉีดฟิลเลอร์กี่วันเข้าที่ >> หลังฉีดฟิลเลอร์จะเห็นผลทันที แต่จะเริ่มยุบบวมและเข้าที่ชัดเจนภายใน 2-3 สัปดาห์
- คงผลลัพธ์ได้นานแค่ไหน >> การฉีดฟิลเลอร์ ประเภทไฮยาลูรอนิกแอซิด หลังฉีดฟิลเลอร์สามารถคงผลลัพธ์อยู่ได้ประมาณ 6-12 เดือน โดยขึ้นอยู่กับยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ฉีด และวิธีการดูแลตัวเองของแต่ละบุคคลครับ
อ่านบทความเพิ่มเติม : ฉีดฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน ? แต่ละยี่ห้อต่างกันอย่างไร
หลังฉีดฟิลเลอร์ครั้งแรกกับครั้งถัดไปใช้ต่างยี่ห้อกันได้ไหม ?
สามารถใช้ฟิลเลอร์ต่างยี่ห้อได้ครับ ส่วนจะฉีดฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี แนะนำปรึกษาแพทย์ผู้ฉีดแนะนำยี่ห้อ/รุ่น ที่เหมาะกับจุดที่ฉีด และแจ้งแพทย์ให้ทราบว่าก่อนหน้านี้ใช้ฟิลเลอร์รุ่นใด ยี่ห้อใดมาครับ
สรุปหลังฉีดฟิลเลอร์ดูแลตัวเองดี ผลลัพธ์มีประสิทธิภาพมากขึ้น
วิธีการดูแลหรือข้อปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ ที่หมอแนะนำไปก็ไม่ยุ่งยาก สามารถทำตามได้ง่าย ๆ ครับ เชื่อว่าคนไข้สามารถทำตามได้ เพื่อลดโอกาสเกิดผลข้างเคียง และคงผลลัพธ์อยู่ได้นานยิ่งขึ้นครับ
การฉีดฟิลเลอร์เป็นหัตถการที่เห็นผลเร็ว สามารถทำให้ใบหน้าอ่อนเยาว์ขึ้น การใช้เวลาไม่นาน แต่ก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ ต้องมั่นใจว่าฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ในคลินิกที่ได้มาตรฐาน ใช้ฟิลเลอร์แท้ เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์เป็นไปในแบบที่คาดหวังครับ


