ไฮยาลูรอน คืออะไร ? มีประโยชน์อย่างไร ทำไมต้องใช้ฟิลเลอร์ประเภทไฮยาลูรอนิค

Reading Time: 5 minutes

ไฮยาลูรอน Hyaluronic Acid

ไฮยาลูรอน-Hyaluronic-Acid

ประโยชน์จากกรดไฮยาลูรอนิค (Hyaluronic acid) ช่วยอะไร ? มีคุณสมบัติอย่างไร ?

ไฮยาลูรอน คืออะไร? คุณสมบัติของไฮยาลูรอนิค มีประโยชน์ต่อผิวพรรณมากแค่ไหน ฟิลเลอร์ประเภทไฮยาลูรอนิค ช่วยลดริ้วรอยได้อย่างไร? หมอมีคำตอบสำหรับข้อสงสัยที่หลายคนอยากรู้เกี่ยวกับ ไฮยาลูรอน ช่วยอะไรบ้าง ปลอดภัยแค่ไหน ในบทความนี้ครับ

ไฮยาลูรอน คืออะไร ?

กรดไฮยาลูรอนิค หรือ ไฮยาลูรอน (Hyaluronic Acid) คือ สารธรรมชาติชนิดหนึ่งที่มีอยู่ในร่างกาย เป็นโมเลกุลของน้ำตาลชนิดหนึ่ง ที่เรียกว่า polysaccharide มีอยู่ในเนื้อเยื่อของร่างกาย และร่างกายสามารถสร้างขึ้นได้เองตามธรรมชาติ

ไฮยาลูรอน เป็นสารสำคัญที่ร่างกายสามารถสร้างขึ้นเองได้ในชั้นผิวหนังแท้ แต่ร่างกายเราจะผลิตสาร Hyaluronic Acid รวมถึง Collagen และ Elastin ได้น้อยและช้าลงเมื่ออายุมากขึ้น ยิ่งอายุมาก ก็จะยิ่งผลิตน้อยลงเรื่อย ๆ ส่งผลให้เกิดริ้วรอยบนใบหน้าและความหย่อนคล้อยเพิ่มมากขึ้น โดยค่าเฉลี่ยสำหรับคนทั่วไป ผิวของคนเราจะเริ่มเสื่อมตามวัยเมื่ออายุเกิน 20 ปีครับ

Hyaluronic-Acid-ในชั้นผิว

จากภาพจะเห็นว่าผิวของคนที่มีอายุมากกว่า
Collagen, Elastin, Hyaluronic acid ลดลงอย่างเห็นได้ชัด

ดังนั้นในทางการแพทย์จึงได้ทำการคิดค้น ไฮยาลูรอนสังเคราะห์ขึ้นมา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อทดแทน ไฮยาลูโรนิค แอซิด ที่ร่างกายสร้างขึ้น


ไฮยาลูรอน ช่วยอะไร ?

ไฮยาลูรอน หรือกรดไฮยาลูโรนิก สรรพคุณมีหลายด้าน ทั้งเรื่องของความสวยความงาม และการรักษาป้องกันโรคครับ โดยมีจุดประสงค์หลักของไฮยาลูรอน คือ เพิ่มความชุ่มชื้น ช่วยเก็บกักความชื้นตามธรรมชาติ ใช้เป็นสารหล่อลื่นหรือช่วยลดแรงกระแทกระหว่างอวัยวะและข้อต่อต่าง ๆ ในร่างกาย สมานแผล รักษาโรคทางดวงตา และนิยมนำมาใช้ในวงการเสริมความงามเพื่อลดริ้วรอย เพิ่มความชุ่มชื้นในกับผิวครับ


นำ hyaluronic acid ไปใช้กับอะไรได้บ้าง

ในช่วงเริ่มแรกของการนำกรดไฮยาลูรอนิคมาใช้ประโยชน์ คือการนำมาใช้ในรูปของยาฉีดทางการแพทย์เพื่อรักษาโรคครับ เช่น โรคข้อเข่าเสื่อม (Osteoarthritis of the knee) และภาวะอักเสบรอบข้อไหล่ (Scapulohumeral periarthritis) ลดอาการปวดกล้ามเนื้อ ปวดบริเวณข้อ ใช้ในระหว่างการผ่าตัดดวงตา ซ่อมแซมจอประสาทตาถลอก

หลังจากนั้น ได้มีการนำกรดไฮยาลูรอนิคมาใช้ในวงการเสริมความงามและชะลอวัย โดยมีทั้งในรูปแบบครีม เซรั่ม เอสเซนส์ วิตามินสำหรับรับประทาน และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในรูปแบบของสารเติมเต็ม ฟิลเลอร์ (Filler) ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากครับ

ไฮยาลูรอน ช่วยจัดการริ้วรอย

ไฮยาลูรอน เป็นหนึ่งในวิธีลดริ้วรอยที่เห็นผล เพราะสามารถช่วยเก็บกักความชุ่มชื้นให้แก่ผิวตามธรรมชาติ ไม่ก่อให้เกิดการต่อต้านของร่างกาย มีผลทำให้ผิวมีความยืดหยุ่นมากขึ้น จึงถูกนำมาใช้ในวงการความงามเพื่อการชะลอวัยอย่างแพร่หลาย

ฟิลเลอร์-ประเภท-Hyaluronic-Acid

ตัวอย่างเนื้อฟิลเลอร์ ประเภท Hyaluronic Acid

ในทางการแพทย์สามารถฉีดสารเติมเต็ม Hyaluronic Acid หรือ HA (Filler) ช่วยแก้ปัญหาร่องลึกต่าง ๆ บนใบหน้า ที่เกิดจากอายุที่เพิ่มขึ้น ได้ทั้งบริเวณ

  • ร่องแก้ม แก้ปัญหาร่องแก้มลึก ต้นเหตุของใบหน้าหย่อนคล้อย ดูโทรม
  • ขมับ แก้ปัญหาขมับตอบ ขมับลึก หน้าดูดุ เพิ่มความละมุนให้ใบหน้า
  • ใต้ตา แก้ปัญหาร่องใต้ตา ถุงใต้ตา ลดรอยคล้ำใต้ตา ช่วยให้ใบหน้าดูสดชื่นขึ้น
  • หน้าผาก แก้ปัญหาหน้าผากยุบ หน้าผากแบน ริ้วรอยหน้าผาก เสริมโหงวเฮ้ง
  • คาง แก้ปัญหาคางสั้น คางหลุบ คางเบี้ยว เพิ่มความเรียวยาวให้ใบหน้า
  • ริมฝีปาก แก้ปัญหาปากบาง ไม่ชุ่มชื้น ปากเป็นร่อง ให้ปากดูอวบอิ่ม ชุ่มชื้น

สาร Hyaluronic Acid ไม่เพียงแต่แค่เติมเต็มร่องลึกได้เท่านั้น แต่ยังสามารถนำมาใช้ในการ เพิ่มชุ่มชื้นถึงผิวชั้นใน ผิวหน้าจึงดูอ่อนเยาว์ ตึงกระชับ ดูเนียนเรียบขึ้น ริ้วรอยลดลง และมีความยืดหยุ่นมากขึ้นได้ เหมาะกับผู้ที่ต้องการแก้ไขปัญหาผิวแห้ง หยาบกร้าน หน้าเหี่ยวย่น ต้องการผิวโกล์วใส ฉ่ำวาว ผิว glass skin และยังสามารถใช้ร่วมกับการตัดพังผืด (Subcision) การทำเลเซอร์ ในกระบวนการรักษาหลุมสิวได้ครับ

นอกจากนี้ไฮยาลูรอนยังถูกนำมาใช้ปรับแก้ไขรูปหน้าให้สมส่วน ช่วยยกกระชับใบหน้าในผู้ที่มีความหย่อนคล้อยเพียงเล็กน้อยได้ โดยคงผลลัพธ์อยู่ในร่างกายได้นาน 6-18 เดือน ไม่ต้องเสี่ยงเจ็บตัวจากการผ่าตัด สามารถเห็นผลการรักษาได้ชัดเจนและรวดเร็ว

ตัวอย่างรีวิว ผลการรักษาด้วยฟิลเลอร์

รีวิว-ฟิลเลอร์ยกหน้า-ร่องแก้ม-มุมปาก-ด้วยไฮยาลูรอน

รีวิว ฟิลเลอร์ยกหน้า ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ฟิลเลอร์มุมปาก

รีวิว-ฟิลเลอร์ใต้ตา-ฟิลเลอร์ร่องแก้ม-ด้วยไฮยาลูรอน

รีวิว ฟิลเลอร์ใต้ตา ฟิลเลอร์ร่องแก้ม

โปรแกรม ฟิลเลอร์

ไฮยาลูรอน ช่วยรักษาโรค

สารไฮยาลูรอน ยังถูกนำมาใช้ในการรักษาโรค เป็นยาประเภทฉีดบำบัดรักษาโรค โดยเฉพาะ

  • โรคข้อเข่าเสื่อม (Osteoarthritis of the knee)
  • ภาวะอักเสบรอบข้อไหล่ (Scapulohumeral periarthritis)
  • การป้องกันการสูญเสียมวลกระดูก
  • ลดอาการปวดกล้ามเนื้อ ปวดบริเวณข้อ

ทาง FDA หรือองค์การอาหารและยาสหรัฐ ยังได้อนุมัติให้มีการใช้ Hyaluronic Acid ระหว่างการผ่าตัดดวงตา ซ่อมแซมจอประสาทตาถลอก นอกจากนี้ ประโยชน์ของไฮยาลูรอน ไม่มีเพียงแค่ที่กล่าวมาแล้วเท่านั้น ยังมีคุณประโยชน์อื่น ๆ ด้วยอาทิ

  • รักษาตาต้อกระจก โดยจักษุแพทย์จะฉีด Hyaluronic Acid เข้าที่ตาเพื่อรักษาโรคต้อกระจก
  • รักษาแผลในปาก โดย ไฮยาลูรอน จะมาในรูปแบบการทาเจล มาใช้ในการรักษาแผลในปาก ซึ่งค่อนข้างมีประสิทธิภาพในการรักษา
  • ช่วยสมานแผลและบรรเทาอาการแผลไฟไหม้ ไฮยาลูรอนสามารถช่วยควบคุมความรุนแรงของการอักเสบที่เกิดขึ้น
  • หากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญใช้สารนี้ทาลงไปบริเวณที่เกิดแผลก็อาจช่วยลดขนาดของบาดแผล ลดความเสี่ยงของการติดเชื้อ และช่วยเร่งให้บาดแผลหายเร็วขึ้น บรรเทาอาการปวด และอาจช่วยบรรเทาอาการของแผลไฟไหม้ได้
  • บรรเทาอาการตาแห้ง สาร ไฮยาลูรอน ช่วยบรรเทาอาการตาแห้ง ที่มีสาเหตุมาจากที่ร่างกายผลิตน้ำตาได้น้อยลง แพทย์อาจวินิจฉัยและให้ใช้ยาหยอดตาที่มีส่วนผสมของ ไฮยาลูรอนช่วยลดอาการตาแห้งและช่วยให้สุขภาพดวงตาดีขึ้นมาได้
hyaluronic-acid-บรรเทาอาการตาแห้ง

ไฮยาลูรอน ช่วยบรรเทาอาการตาแห้ง
สาเหตุมาจากที่ร่างกายผลิตน้ำตาได้น้อยลง


Hyaluronic acid ห้ามใช้กับอะไรบ้าง

Hyaluronic acid เป็นสารที่มีความปลอดภัยสูง สามารถพบได้ในชั้นผิวของมนุษย์ จึงไม่มีข้อห้ามในการใช้ร่วมกับสกินแคร์ประเภทอื่น ๆ ครับ และหากใช้ร่วมกับสารบำรุงผิวบางชนิด จะยิ่งช่วยเสริมกันให้ผิวแข็งแรง ผิวเนียนใสขึ้นได้ เช่น การใช้ Hyaluronic acid ร่วมกับ Vitamin C จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการลดเลือนริ้วรอย ชะลอวัย หรือการใช้Hyaluronic acid ร่วมกับ Retinol จะช่วยให้ผิวมีความชุ่มชื้น ลดอาการระคายเคืองจากการทาสารผลัดเซลล์ผิวอย่างเรตินอลได้

ส่วนในด้านการฉีด Hyaluronic acid เพื่อช่วยเติมเต็มจุดต่าง ๆ บนใบหน้า หรือการฉีดฟิลเลอร์ skin booster ก็สามารถทำร่วมกับหัตถการอื่น ๆ ได้ครับ เช่น

  • การใช้ Hyaluronic acid ร่วมกับ Botulinum toxin (โบท็อกซ์) สามารถฉีดร่วมกันได้ เพื่อช่วยลดริ้วรอยบนใบหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยโบท็อกซ์มีจุดเด่นในการช่วยลดริ้วรอยจากการแสดงสีหน้า (Dynamic line) Hyaluronic acid เน้นการเติมเต็มในริ้วรอยร่องลึก (Wrinkle fold) และสามารถใช้ร่วมกันเพื่อรักษาริ้วรอยชนิด Static line ที่เกิดจากผิวขาดคอลลาเจนได้ครับ
  • การใช้ Hyaluronic acid ร่วมกับ สารกระตุ้นคอลลาเจน (Collagen biostimulator) เช่น Sculptra, Gouri, Exosome หรือ Radiesse สามารถใช้ร่วมกันได้ครับ จะช่วยทั้งในเรื่องการยกพยุงผิวและการเสริมคอลลาเจนให้ผิวแน่นกระชับมากขึ้น แต่อย่างไรก็ดี ไม่แนะนำให้ทำพร้อมกันในวันเดียวครับ ควรเว้นช่วงกันอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ครับ
  • การใช้ Hyaluronic acid ร่วมกับเครื่องยกกระชับผิว เช่น HIFU Ultraformer III, HIFU Ultraformer MPT, Ulthera หรือ Thermage สามารถทำร่วมกันได้เช่นเดียวกัน แต่แนะนำให้ใช้เครื่องยกกระชับในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้ผิวก่อน จากนั้นจึงใช้ Hyaluronic acid เติมเต็มร่องลึกเพิ่มเติมได้ จะช่วยให้เห็นผลชัดเจนยิ่งขึ้นและยังช่วยให้ใช้ Hyaluronic acid น้อยลงอีกด้วย ทั้งนี้มีข้อควรระวังกรณีทำเครื่องยกกระชับหลังทำฟิลเลอร์ครับ เพราะความร้อนอาจทำให้ฟิลเลอร์สลายได้ไวขึ้นได้ แนะนำให้เว้นช่วงอย่างน้อย 2-4 สัปดาห์ครับ

ถ้าใบหน้าขาดกรดไฮยาลูรอน จะเป็นอย่างไร ?

ถ้าใบหน้าขาดกรดไฮยาลูรอน จะส่งผลให้ผิวหมองคล้ำ แห้งกร้าน ขาดน้ำ สูญเสียความชุ่มชื้น เมื่อทาครีมหรือบำรุงผิว จะรู้สึกว่าตัวครีมไม่ซึมลงสู่ผิว ทาครีมแล้วไม่ค่อยได้ผล ซึ่งหากไม่แก้ไข ปล่อยให้ผิวขาดไฮยาลูรอนมาก ๆ จะส่งผลให้เกิดริ้วรอย ร่องลึก และทำให้ผิวแก่เร็วขึ้น


ไฮยาลูโรนิคใช้อย่างไร ?

ปัจจุบัน Hyaluronic Acid ถูกนำมาใช้หลากหลายรูปแบบทั้งแบบ เช่น

  • ใช้เป็นส่วนผสมหลักของ ครีม เซรั่ม เอสเซนส์ แม้กระทั่งเครื่องสำอาง
  • วิตามินสำหรับรับประทาน
  • รูปแบบของสารเติมเต็ม (Filler) ที่นิยมในคลินิกความงามครับ
ไฮยาลูรอน หHyaluronic Acid

การฉีดสารเติมเต็มประเภทไฮยาลูรอน มีผลข้างเคียงไหม ?

หากพูดถึงการฉีดสารเติมเต็มไฮยาลูรอนหรือฟิลเลอร์ ในคลินิกที่ได้มาตรฐาน ตรวจสอบได้ว่าเป็นฟิลเลอร์แท้ และฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ เป็นวิธีที่มีความปลอดภัยครับ และอาจมีผลข้างเคียงเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น รอยเข็ม อาการบวมหลังฉีด รอยแดง ซึ่งสามารถหายไปได้เองโดยไม่เป็นอันตรายครับ

อาการแพ้ไฮยาลูรอน

การแพ้ไฮยาลูรอน หรือการแพ้ฟิลเลอร์ หากมั่นใจว่าใช้ฟิลเลอร์ที่ เป็น Hyaluronic acid ของแท้ ก็มีโอกาสเกิดขึ้นได้ แต่พบได้น้อยมากครับ และอาการแพ้มักจะไม่รุนแรง โดยจะเกิดเป็นก้อนนูน บวมแดง ได้ในระยะแรก ๆ หลังฉีดหรือทา แต่ในบางรายอาจพบอาการแพ้ได้ภายหลังการฉีดไฮยาลูรอนผ่านพ้นไปแล้วเป็นเวลาหลาย ๆ เดือนหรือเป็นปี ขึ้นกับอายุใช้งานของฟิลเลอร์ชนิดนั้น ๆ และภูมิคุ้มกันของผู้ที่รับการฉีดครับ

ส่วนอาการแพ้แบบรุนแรงพบได้น้อยมาก โดยผู้ที่แพ้รุนแรงจะแสดงอาการผื่นขึ้น บวมแดงมาก มีอาการของลมพิษแบบรุนแรง (angioedema) ควรรีบเข้าพบแพทย์อย่างเร่งด่วนครับ

ไฮยาลูรอนกินได้ไหม ?

ในของส่วนของ Hyaluronic Acid ในรูปแบบการรับประทานเป็นอาหารเสริม ในปัจจุบันก็มีอยู่บ้างครับ แต่ไม่ค่อยแพร่หลาย เพราะใช้ในคนบางกลุ่มเท่านั้น

เช่น ผู้ป่วยโรคข้อกระดูกอักเสบที่รับประทานอาหารเสริม Hyaluronic Acid วันละ 80-200 มิลลิกรัม เป็นเวลาอย่างน้อย 2 เดือนเพื่อบรรเทาอาการปวดหัวเข่า ข้อติดได้ในระดับปานกลาง และจำเป็นต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ร่วมด้วย


ฉีดไฮยาลูรอนใต้ตา ดีไหม ?

การฉีดไฮยาลูรอนใต้ตา จะมี 2 รูปแบบ ครับ

  1. ฉีดไฮยาลูรอนในรูปแบบ “ฟิลเลอร์ใต้ตา” สามารถแก้ไขได้ในเคสที่มีปัญหาใต้ตาลึกคล้ำ ตาโหล เบ้าตาลึก ผิวเหี่ยวย่นจากริ้วรอยแห้งกร้านขาดน้ำ ปลอดภัยเพราะสามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ
  2. ฉีดไฮยาลูรอนในรูปแบบวิตามินแร่ธาตุ ประกอบไปด้วย โคเอมไซม์ สารต้านอนุมูนอิสระ และ hyaluronic acid (HA) ซึ่ง HA เป็นสารที่อยู่ใน filler เช่นกันครับ
hyaluronic-acid-ฟื้นฟูผิว

Hyaluronic acidช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ

หลายคนอาจจะเคยเห็นการโฆษณา Hya หรือ ไฮยา ใต้ตา หรือ Filorga ใต้ตา การฉีดไฮยาลู รอน ลักษณะนี้ช่วยฟื้นฟูผิว แก้ไขใต้ตาดำคล้ำ ผิวก็จะฟูอิ่มน้ำริ้วรอยลดน้อยลง แต่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาใต้ตาลึก เบ้าตาโหลจากสาเหตุการทรุดตัวของกระดูกตามอายุได้ครับ


ไฮยาลูรอน อันตรายไหม ?

ไฮยาลูรอนจัดว่าค่อนข้างปลอดภัย เพราะถูกสร้างเลียนแบบสารที่มีอยู่ในร่างกายตามธรรมชาติ แต่ควรใช้ในปริมาณที่เหมาะสม ทั้งการทาบนผิวหนังหรือฉีดเข้าร่างกาย เพราะอาจยังมีผลข้างเคียงอยู่บ้าง เนื่องจาก Hyaluronic Acid สังเคราะห์ ได้มาจากการสกัดแบคทีเรียที่ชื่อว่า Bacillus subtilis

ซึ่งผู้ใช้บางรายจึงอาจเกิดอาการแพ้ยาจากโปรตีนของแบคทีเรียที่นำมาใช้สังเคราะห์ตัวสารนี้ได้ด้วย โดยเฉพาะหญิงตั้งครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร รวมถึงผู้ป่วยโรคมะเร็งหรือผู้ที่เคยเป็นโรคมะเร็ง เนื่องจากอาจทำให้เซลล์มะเร็งเจริญเติบโตขึ้นเร็วกว่าปกติ


สารเติมเต็มประเภท Hyaluronic acid ที่มีใช้ในประเทศไทย

สารเติมเต็มประเภท Hyaluronic acid หรือเรียกกันอย่างกว้างขวางในไทยว่า “ฟิลเลอร์” มีหลากหลายยี่ห้อให้เลือกใช้ครับ แต่ละยี่ห้อก็มีเทคโนโลยีการผลิตที่แตกต่างกัน ทำให้ได้เนื้อฟิลเลอร์ที่แตกต่างกัน หมอที่มีประสบการณ์สูงจะสามารถเลือกใช้ฟิลเลอร์รุ่นที่เหมาะสม แก้ไขได้ตรงจุด ฉีดแล้วเรียบเนียน ไม่เป็นก้อนครับ

ฟิลเลอร์ Restylane

ฟิลเลอร์ Restylane เป็นฟิลเลอร์จากสวีเดน เทคโนโลยีที่ใช้ผลิต ได้แก่ เทคโนโลยี NASHA เด่นในด้านความคงทนถาวร ไม่ไหลย้อย และแพ้น้อย และเทคโนโลยี OBT ที่มีจุดเด่นคือความยืดหยุ่นสูง สามารถปรับเปลี่ยนรูปทรงได้หลากหลาย

รุ่นฟิลเลอร์ Restylane ที่ผ่านการรับรองจากคณะกรรมการอาหารและยาประเทศไทย

  • Restylane Perlane lyft
  • Restylane Volyme
  • Restylane Defyne
  • Restylane Refyne
  • Restylane vital light
  • Restylane classic
  • Restylane kysse

ฟิลเลอร์ Juvederm

ฟิลเลอร์ Juvederm เป็นฟิลเลอร์จากสหรัฐอเมริกา เทคโนโลยีที่ใช้ผลิต ได้แก่ Hylacross Technology และ Vycross Technology ทำให้ฟิลเลอร์เด่นในเรื่องของการอุ้มน้ำได้ดี เนื้อเจลมีความยืดหยุ่นสูง ทนต่อการขยับ เรียบเนียน ไม่เป็นก้อน ฟิลเลอร์ Juvederm มีหลายรุ่นให้เลือกใช้งาน สามารถตอบโจทย์การแก้ปัญหาได้อย่างครอบคลุม ทั้งการปรับรูปหน้า ลดริ้วรอย และเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว

รุ่นฟิลเลอร์ Juvederm ที่ผ่านการรับรองจากคณะกรรมการอาหารและยาประเทศไทย

  • Juvederm Ultra Plus
  • Juvederm Voluma
  • Juvederm Volbella
  • Juvederm Volift
  • Juvederm Volite
  • Juvederm Volux

ฟิลเลอร์ Definisse

ฟิลเลอร์ Definisse เป็นฟิลเลอร์จากอิตาลี ใช้เทคโนโลยี XTR™ Technology ในการผลิต ทำให้ HA สานกันเป็นร่างแห สามารถยกพยุงและปรับรูปหน้าได้อย่างธรรมชาติ คงตัวได้ดี ปั้นง่าย และลดโอกาสที่ทำให้เกิดอาการแพ้ได้ครับ

รุ่นฟิลเลอร์ Definisse ที่ผ่านการรับรองจากคณะกรรมการอาหารและยาประเทศไทย

  • Definisse Restore
  • Definisse Core
  • Definisse Touch

ฟิลเลอร์ Belotero

ฟิลเลอร์ Belotero เป็นฟิลเลอร์จากสวิตเซอร์แลนด์ ผลิตด้วยเทคโนโลยี CPM (Cohesive Polydensified Matrix) ซึ่งทำให้ได้เนื้อฟิลเลอร์ที่เกาะยึดกันได้ดี มีความยืดหยุ่น คืนตัวได้ดี ฉีดแล้วเรียบเนียน และปรับแต่งรูปทรงได้ง่าย

รุ่นฟิลเลอร์ Belotero ที่ผ่านการรับรองจากคณะกรรมการอาหารและยาประเทศไทย

ฟิลเลอร์ Neuramis

ฟิลเลอร์ Neuramis เป็นฟิลเลอร์จากเกาหลี ใช้เทคโนโลยี The SHAPE ในการผลิต ซึ่งเป็นกระบวนการ Cross-linked แบบ 2 ระดับ ช่วยให้ได้เนื้อฟิลเลอร์ที่ปั้นง่าย คงรูปดี และอยู่ได้นาน นอกจากนี้มีการกำจัดสาร BDDE ออกจนเหลือน้อยมาก ลดโอกาสการแพ้และปลอดภัยต่อผู้ฉีด

รุ่นฟิลเลอร์ Neuramis ที่ผ่านการรับรองจากคณะกรรมการอาหารและยาประเทศไทย

  • Neuramis Deep Lidocaine
  • Neuramis Volume Lidocaine

ฟิลเลอร์ Flore

ฟิลเลอร์ Flore เป็นฟิลเลอร์จากเกาหลี ผลิตโดยใช้เทคโนโลยี HCCL (Highly Completed Cross-Linking) เชื่อม HA แต่ละโมเลกุลในรูปแบบ 3 มิติ ทำให้ได้ฟิลเลอร์ชนิด Biphasic ที่ประกอบด้วย Cross-linked HA และ Non Cross-linked HA เนื้อฟิลเลอร์มีความอ่อนและแข็งผสมกัน ฟิลเลอร์มีความคงรูป ไม่ไหล และสลายตัวช้า ปั้นทรงได้ง่าย คงรูปร่างได้ดี

รุ่นฟิลเลอร์ Flore ที่ผ่านการรับรองจากคณะกรรมการอาหารและยาประเทศไทย

  • Flore max
  • Flore max 1400
  • Flore Aqua-S
  • Flore S
  • Flore N

นอกจากฟิลเลอร์รุ่นและยี่ห้อดังที่กล่าวเบื้องต้น ยังมีฟิลเลอร์อีกหลายยี่ห้อ เช่น yvoire, e.p.t.q., biohyalux, revolax และ Perfectha ที่มีให้เลือกใช้ตามคลินิกความงาม ก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ทุกครั้ง ควรศึกษาข้อมูลรายละเอียดของฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อ ข้อดี-ข้อเสีย และควรเข้ารับการตรวจประเมินกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามที่คาดหวังและปลอดภัยครับ


สรุป

ไฮยาลูรอนมีประโยชน์มากมาย อาทิ ต่อต้านริ้วรอย เพิ่มความชุ่มชื้น การรักษาบาดแผล เพิ่มความยืดหยุ่นของผิว การวิจัยล่าสุดพบว่ากรดไฮยาลูโรนิคมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระซึ่งหมายความว่า สามารถทำหน้าที่เหมือนเกราะป้องกันอนุมูลอิสระที่เราไม่สามารถควบคุมได้ เช่น มลภาวะได้อีกด้วย

ไฮยาลูรอน Hyaluronic Acid โดยหมอโต้ง

นอกจากนี้การใช้ " ไฮยาลูรอน " ก็ควรอยู่ภายใต้การใช้ในปริมาณที่เหมาะสมครับ เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองด้วย เพื่อช่วยลดอัตราความเสี่ยงของอาการแพ้ในผู้ที่มีผิวบอบบาง ส่วนไฮยาลูรอน รูปแบบของสารเติมเต็ม (Filler) จำเป็นต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ที่มีประสบการณ์ ใช้ฟิลเลอร์แท้ ที่ได้มาตรฐาน เพื่อความปลอดภัยครับ


สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ
Banner_Web_หมอให้คำปรึกษา_หมอ40คน

สามารถ comment สอบถามเข้ามาด้านล่างได้เลยนะครับ หมอตอบเองครับ

บทความแนะนำ

YAG Laser คืออะไร ทำอะไรได้บ้าง ต่างกับเลเซอร์แบบอื่น ๆ อย่างไร ?

Reading Time: 4 minutes - YAG Laser คืออะไร เป็นอย่างไร ? - เครื่องเลเซอร์กำจัดขนบนโลกนี้ มีกี่ประเภท อะไรบ้าง ? - YAG Laser คืออะไร มีกี่แบบ ช่วยเรื่องอะไรบ้าง ? - YAG Laser เหมาะกับใคร ทำตำแหน่งไหนได้บ้าง ? - รวมทุกเรื่องที่ควรรู้ ก่อนตัดสินใจทำ YAG Laser

เลเซอร์ขนที่ไหนดี ? 9 วิธีเลือกคลินิกเลเซอร์ขนที่ใช่ ปลอด...

Reading Time: 2 minutes - 9 วิธีเลือกคลินิกเลเซอร์ขน - เลเซอร์ขนที่ V Square Clinic ดีอย่างไร ? - แชร์พิกัด เลเซอร์ขนที่จริงใจ

เหงื่อออกเยอะ เกิดจากอะไร ? อันตรายไหม ? แก้ยังไงได้บ้าง ?

Reading Time: 2 minutes - เหงื่อออกเยอะ เกิดขึ้นได้อย่างไร ? - สาเหตุเหงื่อออกเยอะ - เหงื่อออกเยอะจากตำแหน่งไหนได้บ้าง ? - เหงื่อออกเยอะผิดปกติไหม ? - เหงื่อออกเยอะ อันตรายไหม ?

โกนขนแล้วคัน เกิดจากอะไร ? กี่วันหาย ? มีวิธีป้องกันอย่าง...

Reading Time: 3 minutes - โกนขนแล้วคัน สาเหตุเกิดจากอะไร ? - โกนขนแล้วคันมีวิธีแก้ และบรรเทาอาการคันไหม ? - โกนขนแล้วคัน มีวิธีป้องกันอย่างไร ไม่ให้เกิดปัญหานี้ ? - โกนขนแล้วคันกี่วันหาย ? - โกนขนแล้วคันแสบอันตรายไหม ?

คอเหี่ยว คอย่น คอหย่อนยาน มีริ้วรอย เกิดจากสาเหตุใด รักษา...

Reading Time: 4 minutes - ลักษณะ คอเหี่ยว คอย่น คอหย่อนยาน - สาเหตุคอเหี่ยว คอย่น คอหย่อนยาน - 10 สาเหตุหลัก ที่ทำให้เกิดปัญหาคอเหี่ยว คอย่น และคอหย่อนยาน - คอเหี่ยว คอย่น คอหย่อนยาน เกิดช่วงอายุเท่าไหร่ ? - วิธีการรักษาคอเหี่ยว คอย่น คอหย่อนยาน - รักษาคอเหี่ยว คอย่น คอหย่อนยานแบบเร่งด่วน

เลเซอร์ขนกี่ครั้งเห็นผล ? ต้องทำกี่ครั้ง ? ทำแล้วขนหายถาว...

Reading Time: 2 minutes - เลเซอร์ขนกี่ครั้งเห็นผล ? - เลเซอร์ขนทำแล้วขนหายถาวรไหม ? - เลเซอร์ขนต้องทำกี่ครั้ง ? - เลเซอร์ขนแล้วขนไม่หลุดเกิดจากอะไร ?

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ สามารถศึกษานโยบายความเป็นส่วนตัวและจัดการความเป็นส่วนตัว ได้ที่ปุ่มตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ

บันทึกการตั้งค่า