รู้จัก Sylfirm เครื่องเลเซอร์ผิว ที่ให้ผลลัพธ์ All in One
ฝ้าเลือด รอยแดง หลุมสิว รูขุมขนกว้าง คือปัญหาผิวเรื้อรังที่หลายคนรักษามาหลายวิธีแล้วก็ยังไม่เห็นผล
แต่ล่าสุด หมอมีทางเลือกใหม่ที่น่าจับตามองมาแนะนำครับ นั่นก็คือ Sylfirm X Plus เครื่องเลเซอร์ Microneedling RF ตัวใหม่ล่าสุดที่ช่วยฟื้นฟูผิวถึงระดับชั้น Basement Membrane ที่เป็นต้นตอของฝ้า เส้นเลือด และหลุมสิวที่รักษาได้ยาก
Sylfirm คืออะไร ? เหมาะกับใคร ? มีข้อดีอะไรบ้าง ? ต่างจาก Pico Laser / Potenza / Morpheus8 ยังไง ? ในบทความนี้หมอจะมาเปรียบเทียบแบบละเอียด ว่าทำไม Sylfirm ถึงกำลังเป็นที่พูดถึงครับ
สารบัญ Sylfirm
Sylfirm คืออะไร ?
Sylfirm X Plus คือเทคโนโลยีความงามล่าสุดในกลุ่ม Fractional Microneedling RF ที่ผสาน คลื่นวิทยุ 2 โหมด (Dual Wave) เข้ากับเข็มขนาดจิ๋วระดับ 300 ไมครอน เพื่อส่งพลังงานลงสู่ผิวได้อย่างแม่นยำ โดยไม่ทำร้ายผิวด้านบน
นวัตกรรมนี้ถูกพัฒนาขึ้นโดย Dr. Na จาก Silicon Valley ผู้คิดค้นเทคโนโลยี “Na Effect™” ซึ่งช่วยกระจายพลังงานอย่างสม่ำเสมอ ช่วยรักษาฝ้า รอยแดง รูขุมขนกว้าง หลุมสิว และริ้วรอยได้อย่างเห็นผล เจ็บน้อย ฟื้นตัวไว ไม่ต้องพักหน้าครับ
หลักการทำงานของ Sylfirm
Sylfirm X Plus ทำงานด้วยเทคโนโลยี RF Microneedling แบบ Dual Wave ผ่านหัวเข็มขนาด 300 ไมโครลงลึกสู่ผิว โดยแบ่งออกเป็น 3 ขั้นตอนหลักดังนี้ครับ
- หัวเข็มขนาด 300 ไมครอน ส่งพลังงานเข้าสู่ชั้นผิว ความลึกสามารถปรับได้ตั้งแต่ 0.3-4.0 mm เพื่อให้เหมาะกับแต่ละบริเวณ เช่น ใต้ตา หน้าผาก หรือแผ่นหลัง
- คลื่น RF ถูกส่งผ่านเข็มแบบ Non-Insulated โดยพลังงานจะกระจายทั่วแนวเข็ม ทำให้ได้ผลลัพธ์เต็มชั้นผิว
- พลังงาน RF จะก่อตัวเป็นจุดความร้อนเล็ก ๆ ภายในชั้นผิว เพื่อกระตุ้นกระบวนการสร้างคอลลาเจนใหม่ ซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่เสื่อมสภาพ และฟื้นฟูผิวให้แน่น เรียบ และแข็งแรงขึ้นอย่างยั่งยืน
พลังงานที่ปล่อยออกมานั้นจะมีอยู่ 2 โหมดด้วยกัน คือ Continuous Wave (CW) และ Pulsed Wave (PW) ซึ่งจะมีความต่างกันดังนี้ครับ
Continuous Wave (CW)
- ปล่อยพลังงาน RF แบบต่อเนื่อง
- สร้างความร้อนเฉลี่ยประมาณ 55-60°C
- ช่วยกระตุ้นการสร้าง คอลลาเจน Type III
- เหมาะกับการฟื้นฟูหลุมสิว, ผิวหย่อนคล้อย, ริ้วรอย และรอยแตกลาย
Pulsed Wave (PW)
- ปล่อยพลังงานแบบพัลส์ไม่ต่อเนื่อง เป็นคลื่นที่ถูกพัฒนาเป็นครั้งแรกของโลก
- ควบคุมความร้อนให้ไม่สูงเกินไป (42-45°C) จึงปลอดภัยกับผิวที่บอบบาง
- เน้นฟื้นฟูผิวที่มีปัญหาเม็ดสีผิดปกติ เช่น ฝ้าเลือด PIH (รอยแดง รอยดำหลังการอักเสบ)
- ช่วยฟื้นฟู Basement Membrane ป้องกันการเกิดฝ้าใหม่ในระยะยาว
เมื่อใช้ทั้ง 2 โหมดร่วมกัน แพทย์สามารถวางแผนการรักษาได้แม่นยำขึ้น สามารถดูแลได้ทั้งปัญหาริ้วรอยและเม็ดสีผิดปกติในครั้งเดียว ส่งผลให้ผิวดูฟู เรียบ แน่นเนียนขึ้นจากภายในโดยไม่ต้องพึ่งการศัลยกรรมเลยครับ
หัวยิง Sylfirm มีกี่หัว ?
หัวยิง Sylfirm X Plus มีเพียง 1 หัว แต่สามารถแก้ปัญหาผิวได้ครอบคลุมเลยครับ ไม่ต้องเสียเวลาเปลี่ยนหัวให้วุ่นวาย เพราะเครื่องจะปล่อยพลังงานแบบ PW ที่เครื่องอื่นทำไม่ได้
โดยใน 1 หัวจะมีหัวเข็ม 4 แบบ ที่สามารถปรับความลึกได้ตั้งแต่ 0.3-4.0 mm ทำให้ใช้ได้ตั้งแต่ใบหน้า รอบดวงตา คอ หลังมือ ไปจนถึงแผ่นหลังหรือสะโพก
- X-25 Tip (Full Face) เหมาะกับบริเวณเล็ก/ บอบบางมาก เช่น ใต้ตา หัวคิ้ว ข้างจมูก
- 10 Pin เหมาะกับจุดที่ต้องการฟื้นฟูเฉพาะจุด เช่น ร่องแก้ม รอยดำเฉพาะจุด
- 25 Pin เหมาะกับบริเวณขนาดกลาง เช่น แก้ม หน้าผาก คาง คอ
- 64 Pin เหมาะกับตำแหน่งกว้าง เช่น แผ่นหลัง ต้นแขน สะโพก หรือหลุมสิวทั่วหน้า
สรุป Sylfirm X Plus ใช้หัวเดียวจบ ปรับลึก-ตื้นได้อิสระ ทำงาน 2 โหมดในตัวเดียว ดูแลได้ทั้งโครงสร้างผิวและเม็ดสีอย่างอ่อนโยนครับ
จุดเด่นของ Sylfirm ที่ต่างจากเครื่องเลเซอร์อื่น ๆ
สิ่งที่ทำให้ Sylfirm แตกต่างจากเครื่องเลเซอร์ทั่วไป คือสามารถฟื้นฟูผิวลึกถึงระดับโครงสร้าง โดยเน้นไปที่การฟื้นฟู Basement Membrane ซึ่งเป็นชั้นผิวบาง ๆ ที่เชื่อมระหว่างหนังกำพร้าและหนังแท้ ทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น ฝ้าจางลง แถมยังช่วยป้องกันไม่ให้ฝ้าใหม่เกิดซ้ำได้ง่ายด้วยครับ
หมอจะสรุปจุดเด่นของ Sylfirm เป็นข้อ ๆ ดังนี้ครับ
- เป็นเครื่องเดียวที่ปล่อยได้ทั้งคลื่น CW และ PW ในเครื่องเดียว
- ตัวเครื่องมีหัวเดียว ไม่ต้องเปลี่ยนหัวหลายแบบ ทำให้ผลการรักษาสม่ำเสมอทุกครั้ง
- เน้นฟื้นฟูโครงสร้างผิวชั้นลึก (Basement Membrane) ซึ่งมีผลโดยตรงต่อฝ้า ผิวอ่อนแอ และริ้วรอย
- เข็มไม่เคลือบฉนวน (Non-insulated Gold Needles) ทำให้ พลังงานกระจายเสถียรและทั่วถึง
- ปรับความลึกของเข็มได้ตั้งแต่ 0.3-4.0 mm เหมาะกับทุกตำแหน่งผิว ตั้งแต่รอบดวงตาไปจนถึงแผ่นหลัง
- ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในระดับลึก โดยไม่ทำลายผิวชั้นนอก
- ใช้ได้กับทุกสีผิว เพราะเม็ดสีไม่ดูดซับคลื่นวิทยุเหมือนกับพวกเลเซอร์
- ลดการอักเสบในผิว เหมาะกับคนที่มีผิวบอบบาง แพ้ง่าย
- แก้ปัญหาผิวแบบครอบคลุม ทั้งฝ้าเลือด, รอยแดง, รูขุมขนกว้าง, หลุมสิวดีขึ้น เห็นผลตั้งแต่ครั้งแรก 30%
- เจ็บน้อย แทบไม่มี Downtime ไม่ช้ำ ไม่เกิดสะเก็ดแผล ไม่มีเลือดออก
Sylfirm ทำตำแหน่งไหนได้บ้าง ?
Sylfirm สามารถใช้ได้หลากหลายตำแหน่งทั้งบนใบหน้าและร่างกายครับ เช่น
- ทั่วใบหน้า แก้ปัญหาริ้วรอย รูขุมขนกว้าง ฝ้า จุดด่างดำ ผิวไม่เรียบ
- รอบดวงตา ลดริ้วรอยเล็ก ๆ กระชับผิวรอบตาอย่างอ่อนโยน
- ร่องแก้ม/มุมปาก/คาง ช่วยยกกระชับ ฟื้นฟูผิวหย่อนคล้อย
- ลำคอ/ใต้คาง กระชับผิว ลดความหย่อน และเสริมความเรียบเนียน
- หลังมือ/ท้องแขน/หน้าท้อง/เนินอก ใช้ฟื้นฟูผิวบาง รอยเหี่ยวย่น หรือจุดด่างดำ
- สะโพก/ต้นขา/หน้าท้อง/แผ่นหลัง (รอยแตกลาย) ช่วยกระตุ้นคอลลาเจน ลดความลึกของรอยแตก
Sylfirm ช่วยเรื่องอะไรบ้าง ?
Sylfirm ถูกออกแบบมาเพื่อดูแลผิวแบบครอบคลุม ทั้งปัญหาผิวชั้นลึกและปัญหาเม็ดสีที่แก้ยาก โดยสามารถช่วยได้ทั้ง
- ช่วยลดฝ้าเลือด ฝ้าเรื้อรัง ลดการไหลเวียนของเส้นเลือดผิดปกติใต้ผิว
- ช่วยลดรอยแดงสิว ลดอาการอักเสบ ฟื้นฟูผิวที่ระคายเคืองง่าย
- ช่วยลดการทำงานของต่อมน้ำมัน หน้ามันน้อยลง ป้องกันการเกิดสิวใหม่
- ช่วยกระชับรูขุมขนกว้าง ผิวเนียนละเอียดขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
- ช่วยลดริ้วรอยเล็ก ๆ ยกกระชับผิวหย่อนคล้อย
- ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ให้ผิวตึงกระชับขึ้น
- ช่วยแก้ปัญหาหลุมสิว ลดรอยแตกลาย
- ช่วยเสริมความแข็งแรงของผิว
Sylfirm เหมาะกับใคร ?
Sylfirm X Plus เหมาะสำหรับคนที่ต้องการดูแลผิวแบบลึกถึงโครงสร้าง โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาผิวเรื้อรังหรือแพ้ง่าย โดยสามารถใช้ได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ทุกสีผิว และทุกช่วงวัย
- ผู้ที่มีฝ้าเลือด/ฝ้าเรื้อรัง ที่รักษาด้วยเลเซอร์ทั่วไปแล้วไม่จางลง
- ผู้ที่มีรอยแดง รอยดำ (PIH) หลังสิว หรือจากการอักเสบ
- ผู้ที่มีผิวบาง แพ้ง่าย ไม่เหมาะกับเลเซอร์ความร้อนสูง
- ผู้ที่มีรูขุมขนกว้าง ผิวไม่เรียบ มีหลุมสิวตื้นถึงลึก
- ผู้ที่เริ่มมีริ้วรอย ผิวหย่อนคล้อยเล็กน้อย
- ผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวให้ดูแข็งแรง ทนต่อมลภาวะ
เปรียบเทียบ Sylfirm กับเครื่องยกกระชับและเลเซอร์อื่น ๆ
แม้ว่าเครื่องยกกระชับในกลุ่ม RF, HIFU หรือเลเซอร์จะมีหลายแบรนด์ในตลาด แต่ละเครื่องก็มีจุดเด่นต่างกันไปตามเทคโนโลยีนั้น ๆ
มาดูกันครับว่า Sylfirm แตกต่างจากเครื่องอื่นอย่างไร และเหมาะกับเคสแบบไหนมากที่สุด หมอสรุปเป็นตารางเปรียบเทียบข้อแตกต่าง มาให้แล้วครับ
เครื่อง | เทคโนโลยี | จุดเด่น/จุดด้อย | เหมาะกับใคร |
---|---|---|---|
Sylfirm X Plus | RF Microneedling + Dual Wave | ดูแลผิวได้ทั้งยกกระชับ ฝ้า รูขุมขน ใช้หัวเดียวจบ ได้ทั้งหน้าและตัว แต่ไม่เน้นยกกระชับเหมือน Thermage | ผู้ที่มีฝ้า รอยแดง รูขุมขนกว้าง มีหลุมสิว ต้องการฟื้นฟูโครงสร้างผิว |
Morpheus8 | RF + Microneedling | ลดไขมันสะสม ปรับหน้าเรียว ลดรอยสิว ทำให้หลุมสิวตื้นขึ้น แต่ไม่เน้นฟื้นฟูเม็ดสี + อาจต้องพักฟื้น | ผู้ที่ต้องการยกกระชับชัดเจน / ลดเหนียง / ฟื้นฟูผิวระดับลึก |
Pico Laser | พลังงานแสงระดับ Picosecond | เน้นทำลายเม็ดสี ลดรอยดำ กระ ฝ้าแดด เห็นผลไว เหมาะกับทุกสีผิว แต่ไม่เด่นยกกระชับ | ผู้ที่มีปัญหาผิวเกี่ยวกับเม็ดสี มีฝ้า กระ จุดด่างดำจากแดด รอยแดง รอยดำสิว ผิวไม่สม่ำเสมอ |
Potenza | RF Microneedling (Mono/Bi) | เน้นยกกระชับ ปรับรูปหน้า กระชับรูขุมขน ใช้ได้หลายหัว แต่ใช้งานซับซ้อน ไม่มีโหมด PW ไม่เด่นเรื่องฝ้า | ผู้ที่ต้องการยกกระชับทั่วใบหน้าแบบปรับจุดเฉพาะได้ |
Ulthera/Hifu/Thermage | Ultrasound/RF | ยกกระชับถึงชั้น SMAS/ไขมัน เห็นผลเร็ว เน้นโครงหน้าชัด กระตุ้นคอลลาเจน แต่ไม่เด่นลดเม็ดสี | ผู้ที่ต้องการยกกระชับแนวกรอบหน้า ใต้คาง แก้มตก มีปัญหาผิวหลวม ผิวไม่กระชับ |
ตารางเปรียบเทียบ Sylfirm กับเครื่องอื่น ๆ Morpheus8, Pico Laser, Potenza, Ulthera, Thermage, Hifu
สรุปเปรียบเทียบแบบภาพรวม
- ถ้ามีปัญหาฝ้าเลือด รูขุมขนกว้าง เสริมความแข็งแรงของผิว → Sylfirm
- ถ้ามีปัญหาริ้วรอยลึก ผิวหย่อนคล้อย มีรอยแผลเป็น หลุมสิว → Morpheus8
- ถ้ามีปัญหาผิวหมองคล้ำสะสม มีรอยดำสิว กระ ฝ้าแดด รอยสัก → Pico Laser
- ต้องการยกกระชับเฉพาะจุด ปรับรูปหน้า → Potenza
- ต้องการยกกระชับผิวแบบเห็นผลชัด กระตุ้นคอลลาเจน → Ulthera/Hifu/Thermage
หากไม่แน่ใจว่าเครื่องไหนเหมาะกับคนคนไข้ แนะนำให้แพทย์ช่วยประเมินแบบรายบุคคลจะดีที่สุดครับ โดยเฉพาะในเคสที่เคยมีการฉีดฟิลเลอร์ โบท็อกมาก่อน หรือมีผิวบอบบาง แพ้ง่าย
Sylfirm อันตรายไหม ? หลังทำมีผลข้างเคียงอะไรบ้าง ?
Sylfirm เป็นเครื่องเลเซอร์ที่มีความปลอดภัยครับ ใช้ได้กับทุกสีผิว แม้ผิวแพ้ง่าย ฟื้นตัวไว เจ็บน้อย ผลข้างเคียงต่ำ ผ่านการรับรองทั้งจาก US FDA, CE ยุโรป และ อย.ไทย นำเข้าโดยบริษัท Viol Medical จากเกาหลีใต้
นอกจากนี้ Sylfirm ยังมีระบบ AI ช่วยประเมินและควบคุมพลังงาน ทำให้ยิงได้แม่นยำ ลดอาการเจ็บ และปลอดภัยกว่าระบบ RF รุ่นเก่าครับ
ผลข้างเคียงที่อาจพบหลังทำ Sylfirm
- อาจมี รอยแดงเล็กน้อย ช่วง 4-6 ชั่วโมงแรก แล้วจางลงได้เอง
- คนที่มีผิวแห้งอยู่แล้ว ผิวอาจแห้งลอกเล็กน้อย ในช่วง 2-3 วัน
- รู้สึกอุ่น ๆ เล็กน้อยหลังทำ ขึ้นอยู่กับระดับพลังงานที่ใช้
- ไม่ควรขัดผิวหรือแต่งหน้าหนักใน 24 ชั่วโมงแรก เพื่อให้ผิวฟื้นตัวได้ดี
หลังทำ Sylfirm กี่วันเห็นผล ?
ผลลัพธ์หลังทำ Sylfirm X Plus จะค่อย ๆ ชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ ตามกระบวนการสร้างคอลลาเจนใหม่ครับ โดยแต่ละช่วงเวลาหลังทำจะมีการเปลี่ยนแปลงที่แตกต่างกัน ดังนี้
- 1-2 สัปดาห์แรก : ผิวดูเรียบเนียนขึ้น รูขุมขนกระชับ แต่งหน้าติดง่ายขึ้น
- 1 เดือนหลังทำ : ฝ้า กระ จุดด่างดำจางลง ผิวดูสม่ำเสมอขึ้น
- 3 เดือนหลังทำ : คอลลาเจนใหม่เริ่มสร้างเต็มที่ ริ้วรอยตื้น หลุมสิวดูตื้นขึ้น ผิวแน่นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ต้องทำ Sylfirm กี่ครั้งถึงจะเห็นผล? ทำบ่อยแค่ไหน ?
โดยทั่วไปจะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ครั้งที่ 1-2 ครับ โดยผลลัพธ์จะค่อย ๆ ชัดขึ้นในช่วง 1-3 เดือนหลังทำอย่างต่อเนื่อง
สำหรับความถี่ในการทำ แนะนำให้ทำเป็นคอร์ส 3-6 ครั้งขึ้นไป ขึ้นอยู่กับปัญหาผิวและเป้าหมายของแต่ละคน โดยเว้นช่วงตามโหมดการรักษา
- โหมด CW ทำได้ทุก 4 สัปดาห์
- โหมด PW ทำได้ ทุก 2 สัปดาห์
หลังทำ Sylfirm ครบคอร์สแล้ว ควรทำซ้ำอีกไหม ?
หลังทำ Sylfirm ครบคอร์สแล้ว แนะนำให้ทำซ้ำทุก 4-6 เดือน เพื่อรักษาความแข็งแรงของ Basement Membrane เสริมผลลัพธ์ให้ยาวนาน และลดโอกาสที่ปัญหาผิวจะกลับมาอีกครั้งครับ
Sylfirm อยู่ได้นานแค่ไหน ? ผลลัพธ์ถาวรไหม ?
หลังทำ Sylfirm ผลลัพธ์อยู่ได้นาน 6 เดือน หรือมากกว่านั้น เนื่องจาก Sylfirm ทำงานลึกถึงชั้น Basement Membrane และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ แม้จะไม่ถาวร 100% แต่ก็ถือว่าคุ้มค่า เมื่อเทียบกับหัตถการที่ไม่ต้องผ่าตัดอื่น ๆ ครับ
ปัจจัยที่ส่งผลต่อระยะเวลาของผลลัพธ์
- สภาพผิวและอายุ : ผิวที่มีคอลลาเจนเหลือมากจะฟื้นฟูได้ดีและอยู่นานกว่า
- ความต่อเนื่องของการทำ : หากทำเป็นคอร์สต่อเนื่อง 3-6 ครั้ง ผลลัพธ์จะอยู่ได้นานกว่าทำเพียง 1-2 ครั้ง
- พฤติกรรมการดูแลตัวเอง : การทากันแดดสม่ำเสมอ นอนเพียงพอ และเลี่ยงแอลกอฮอล์ / บุหรี่ ช่วยคงผลลัพธ์ได้ดีกว่า
สามารถทำ Sylfirm ร่วมกับหัตถการอะไรได้บ้าง ?
Sylfirm สามารถใช้ร่วมกับหัตถการทั้งสายผิวใส เติมเต็ม ยกกระชับครับ ซึ่งการจัดลำดับการทำแต่ละหัตถการ แพทย์จะเป็นผู้ประเมินเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด โดยหัตถการที่สามารถทำร่วมกันได้ มีดังนี้ครับ
- Skin Booster / Meso หน้าใส เพื่อฟื้นฟูผิวจากภายใน เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว
- Collagen Biostimulator เพื่อเพิ่มปริมาณคอลลาเจนตามธรรมชาติ เสริมโครงสร้างผิวให้แน่นขึ้น
- โบท็อกซ์ เพื่อลดริ้วรอยแห่งวัย เพิ่มความคมชัดให้กรอบหน้า
- ฟิลเลอร์ เพื่อเติมเต็มร่องลึก ปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วน อิ่มฟูขึ้น
- เครื่องยกกระชับ Ulthera / HIFU Ultraformer III / Thermage FLX / Volnewmer เพื่อยกกระชับผิวจากฐานโครงสร้าง
หากคนไข้ต้องการวางแผนแบบ Full Face Program ที่ออกแบบเฉพาะบุคคล สามารถเข้ารับคำปรึกษาฟรี ไม่มีค่าใช้ได้ ที่ V Square Clinic ทุกสาขาได้เลยครับ
การเตรียมตัวก่อนทำ Sylfirm
การเตรียมตัวก่อนทำ Sylfirm X Plus จะช่วยให้ผิวตอบสนองต่อการรักษาดีขึ้น และลดโอกาสเกิดผลข้างเคียง หมอแนะนำดังนี้ครับ
- งดใช้ผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิว เช่น AHA, BHA, Retinol ประมาณ 3-5 วัน
- งดเลเซอร์หรือหัตถการอื่น ๆ ที่รบกวนผิวชั้นบน เช่น IPL, Toning อย่างน้อย 7 วัน
- พักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อให้เซลล์ผิวแข็งแรง
- แจ้งประวัติโรคประจำตัวหรือยาที่ใช้อยู่ เช่น ยากลุ่มลูปไดยูเรติก ยากดภูมิ หรือโรคผิวหนังบางชนิด
- หลีกเลี่ยงแสงแดดจัด อย่างน้อย 3 วันก่อนทำ เพื่อให้ผิวไม่ไวต่อแสง
วิธีดูแลตัวเองหลังทำ Sylfirm เพื่อให้เห็นผลดีที่สุด
หลังทำ Sylfirm ผิวจะเริ่มฟื้นฟูตัวเองทันที และจะค่อย ๆ ดีขึ้นเรื่อย ๆ หากดูแลอย่างถูกวิธีครับ
- ใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์เป็นประจำ เพื่อคงความชุ่มชื้นของผิว
- ทากันแดด SPF50+ ทุกวัน โดยเฉพาะช่วง 7 วันแรก
- ดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
- สามารถใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวเนื้อเบา ที่ไม่มีสารระคายเคืองได้
- งดแต่งหน้า / ขัดหน้า / ใช้ AHA / BHA / Retinol ภายใน 3-5 วัน
- หลีกเลี่ยง แสงแดดจัด, การซาวน่า, หรืออบไอน้ำ ในช่วง 2-3 วันแรก
- หลีกเลี่ยงการนวดแรง ๆ หรือทำทรีตเมนต์อื่น ๆ ในบริเวณเดียวกันช่วงแรก
รีวิว Sylfirm X Plus ก่อน-หลังทำ
สำหรับใครที่สนใจทำ Sylfirm X Plus แล้วอยากรู้ว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นยังไง ? หรือหลังทำต้องเจอกับอะไรบ้าง ?
ในหัวข้อนี้หมอจะมาแชร์ Timeline รีวิว Sylfirm X Plus ตั้งแต่ก่อนทำไปจนถึงผลลัพธ์หลังทำ เพื่อให้เห็นภาพชัดเจน และช่วยให้คนไข้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นครับ
รีวิวก่อนทำ Sylfirm X Plus
- คนไข้ส่วนใหญ่จะมีปัญหาผิว เช่น ฝ้าเลือด รอยแดง รูขุมขนกว้าง ผิวหมองคล้ำ หรือหลุมสิว
- ผิวบางคนไวต่อแสง หรือใช้เลเซอร์ทั่วไปแล้วไม่ได้ผล จึงมองหาเทคโนโลยีที่แม่นยำและไม่ทำร้ายผิว
- ก่อนทำจะมีการประเมินใบหน้าโดยแพทย์ วางแผนเลือกโหมดพลังงาน CW / PW ให้เหมาะกับปัญหาเฉพาะของแต่ละคน
รีวิวขั้นตอนการทำ Sylfirm X Plus
- ทำความสะอาดผิวหน้า เช็ดเครื่องสำอาง สิ่งสกปรก
- ทายาชาทิ้งไว้ประมาณ 30-45 นาที เพื่อให้รู้สึกสบายระหว่างทำ
- แพทย์เริ่มยิงโดยจะปรับพลังงานและโหมด (CW / PW) ให้เหมาะกับปัญหา ใช้เวลาประมาณ 45-60 นาที
- ขณะทำจะรู้สึกอุ่น ๆ ที่ผิว ไม่เจ็บ ไม่แสบ และไม่มีเลือดออก
- ทาเซรั่มเพื่อเสริมการซ่อมแซมผิวและลดระคายเคือง
รีวิวผลลัพธ์หลังทำ Sylfirm X Plus ทันที
- ผิวอาจมีรอยแดงจาง ๆ คล้ายโดนแดด ไม่มีแผลเปิด ไม่มีเลือด
- แพทย์จะแนะนำการประคบเย็นและทามอยส์เจอไรเซอร์ทันทีหลังทำ
รีวิวผลลัพธ์หลังทำ Sylfirm X Plus วันที่ 1-3
- อาการแดงจะค่อย ๆ จางลงใน 1-2 วัน
- ผิวจะเริ่มรู้สึกกระชับขึ้น รูขุมขนแลดูกระชับ ผิวดูละเอียดขึ้น
- สามารถแต่งหน้าได้ตามปกติในวันถัดไป
รีวิวผลลัพธ์หลังทำ Sylfirm X Plus สัปดาห์ที่ 1-4
- ผิวดูสว่าง กระจ่างใสขึ้น รอยแดงฝ้าดูลดลง
- ผู้ที่มีหลุมสิวหรือริ้วรอย จะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงว่าผิวเรียบเนียนขึ้น
รีวิวผลลัพธ์หลังทำ Sylfirm X Plus 3 เดือน
- ผิวโดยรวมแข็งแรงขึ้น สีผิวสม่ำเสมอขึ้น
- รอยฝ้าลึกดูจางลง รูขุมขนและหลุมสิวตื้นขึ้น
- คอลลาเจนใหม่เริ่มสร้างเต็มที่ ผิวแน่นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
- หากทำ 3-6 ครั้งขึ้นไปอย่างต่อเนื่อง ผลลัพธ์จะยิ่งชัดขึ้นครับ
Sylfirm ราคาเท่าไหร่ ?
Sylfirm ราคาจะเริ่มที่หลักพันปลาย ๆ ไปจนถึงหลักหมื่น/ครั้งครับ ขึ้นอยู่กับบริเวณและโหมดที่ใช้ หากซื้อเป็นคอร์สจะได้ราคาที่คุ้มค่ากว่าการทำครั้งเดียว
แต่ถ้าคนไข้พบราคาที่ถูกเกินไป เช่น 3,000 ทั่วหน้า แนะนำให้ตรวจสอบก่อนทำครับ เพราะอาจเป็นเครื่องเลียนแบบที่ไม่ผ่านมาตรฐานได้
ทำ Sylfirm ที่ไหนดี ? เลือกคลินิกยังไงให้ปลอดภัย เห็นผลจริง
การทำ Sylfirm X Plus ให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัย ไม่ได้ขึ้นอยู่แค่ที่ตัวเครื่องเท่านั้นครับ แต่ยังต้องพิจารณาจากปัจจัยอื่นร่วมด้วย เพราะแม้จะเป็นเครื่องแท้ แต่หากยิงผิดเทคนิค ก็อาจไม่ได้ผลหรือเกิดผลข้างเคียงได้
5 เช็กลิสต์ก่อนเลือกคลินิกทำ Sylfirm
- ใช้เครื่องแท้ Sylfirm X Plus เท่านั้น สามารถตรวจสอบ Serial Number และใบรับรองจากบริษัทผู้นำเข้า ได้ที่ Viol Medical
- แพทย์ต้องผ่านการอบรมเฉพาะจากบริษัทเท่านั้น มีความเข้าใจเรื่องโครงสร้างผิว และการเลือกโหมดให้เหมาะกับปัญหา
- ใช้หัวเข็มใหม่ทุกเคส ไม่ควรใช้หัวรีไซเคิล เพราะอาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
- มีการวิเคราะห์ผิวก่อนทำ เพื่อวางแผนว่าใช้โหมด PW หรือ CW แบบเฉพาะบุคคล ไม่ใช่ยิงเหมือนกันทุกคน
- ติดตามผลหลังทำทุกเคส เพื่อดูผลลัพธ์และปรับพลังงานในครั้งถัดไปหากจำเป็น
ทำ Sylfirm ที่ V Square Clinic ดีอย่างไร ?
หากคนไข้กำลังมองหาคลินิกที่ใช้เครื่อง Sylfirm X Plus แท้ พร้อมดูแลอย่างถูกต้อง ปลอดภัย และเห็นผลจริง ที่ V Square Clinic เราให้ความสำคัญกับรายละเอียดที่ส่งผลต่อผลลัพธ์ทุกจุดครับ
- ใช้เครื่องแท้ รุ่นล่าสุด นำเข้าโดยตรงจาก Viol Medical มี Serial Number ชัดเจน ตรวจสอบได้ทุกเคส
- ใช้หัวเข็มใหม่ทุกครั้ง ไม่รีไซเคิล เพื่อความปลอดภัยสูงสุด และส่งพลังงานได้แม่นยำเต็มประสิทธิภาพ
- แพทย์ประสบการณ์สูง ผ่านการอบรมเทคนิค Sylfirm โดยตรงจากผู้ผลิต พร้อมวิเคราะห์ผิวอย่างละเอียด เพื่อเลือกโหมดและความลึกของพลังงานให้ตรงกับปัญหาเฉพาะของแต่ละคน
- ประเมินผิวฟรีแบบรายบุคคล ไม่มีค่าใช้จ่าย พร้อมแผนการรักษาที่เน้นผลลัพธ์จริง ไม่เน้นจำนวนช็อต
- ราคาสมเหตุสมผล มีหลายแพ็กเกจให้เลือกตามปัญหาและงบประมาณ โดยไม่บังคับขายคอร์ส
- มีรีวิวจริงจากผู้ใช้บริการ หลายเคสเห็นผลตั้งแต่ครั้งแรก ทั้งในเรื่องฝ้า รอยแดง และหลุมสิว
หากคนไข้กำลังหาลังเลว่าควรทำ Sylfirm X Plus หรือไม่ ? สามารถเข้ามาปรึกษา พร้อมประเมินปัญหาผิวฟรีได้ที่ V Square Clinic ทุกสาขา ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายครับ
คำถามที่พบบ่อยเรื่อง Sylfirm
Sylfirm เหมาะกับปัญหาผิวแบบไหน ?
Sylfirm เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาฝ้า ฝ้าเลือด รอยแดง รูขุมขนกว้าง หลุมสิว ริ้วรอยเล็ก ๆ ผิวอ่อนแอจากการทำเลเซอร์หรือทรีตเมนต์บ่อย
ทำ Sylfirm เจ็บไหม ?
แทบไม่เจ็บครับ เพราะมีการทายาชาและใช้เข็มขนาดเล็กมาก (300 ไมครอน) พลังงานถูกควบคุมอย่างแม่นยำ ไม่ทำร้ายผิวชั้นบน
Sylfirm ช่วยรักษาฝ้าได้จริงไหม ?
Sylfirm ช่วยรักษาฝ้าได้จริงครับ โดยเฉพาะฝ้าเลือด (Vascular Melasma) ซึ่งเป็นชนิดที่รักษายาก จะเป็นการใช้พลังงาน Pulsed Wave RF ไปทำลายเส้นเลือดผิดปกติที่กระตุ้นการเกิดฝ้า พร้อมฟื้นฟูโครงสร้างผิว ป้องกันการเกิดซ้ำในระยะยาว
Sylfirm กับ Pico Laser แบบไหนดีกว่ากัน ?
ขึ้นอยู่กับปัญหาผิวครับ แพทย์มักแนะนำให้ทำควบคู่กันเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
- Pico Laser เหมาะกับเม็ดสีลึก เช่น กระลึก รอยดำสิว จุดด่างดำ
- Sylfirm เหมาะกับปัญหาที่เกี่ยวกับฝ้าเลือด เส้นเลือดใต้ผิว รูขุมขนกว้าง และหลุมสิว
Sylfirm ช่วยเรื่องหลุมสิวได้ไหม ?
Sylfirm ช่วยเรื่องหลุมสิวได้ครับ โดยเฉพาะหลุมสิวชนิด Ice Pick หรือ Boxcar ที่ไม่ลึกมาก เพราะ Sylfirm ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนในชั้นหนังแท้ได้ตรงจุด ช่วยให้หลุมสิวตื้นขึ้นและผิวเรียบเนียนขึ้นชัดเจน
Sylfirm เหมาะกับคนอายุเท่าไหร่ ?
เหมาะกับผู้ที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไปที่เริ่มมีปัญหาผิว เช่น รูขุมขน ฝ้า รอยแดง หลุมสิว ผิวไม่เรียบเนียน หรือคนที่ต้องการฟื้นฟูผิวให้แข็งแรงก่อนเกิดริ้วรอยลึกในอนาคต
สรุป Sylfirm ดียังไง ? ทำไมต้องเลือกทำ
Sylfirm X Plus ไม่ได้แค่ยกกระชับผิว แต่ฟื้นฟูผิวลึกถึงต้นเหตุ ตั้งแต่ฝ้าเลือด รอยแดง หลุมสิว ไปจนถึงริ้วรอยเรื้อรัง
ถ้าใครที่เคยรักษามาหลายวิธีแล้วไม่เห็นผล หรือผิวบอบบางจนไม่กล้าทำอะไรแรง ๆ Sylfirm X Plus คือทางเลือกใหม่ที่ปลอดภัย เห็นผล และทำได้หลายจุดในครั้งเดียวครับ
หากคนไข้ลังเลว่าควรทำ Sylfirm X Plus หรือไม่ ? สามารถเข้ามาปรึกษา พร้อมประเมินปัญหาผิวฟรีได้ที่ V Square Clinic ทุกสาขา ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายครับ