อ่อนล้า อ่อนเพลีย เหนื่อยง่ายเกิดจากอะไร ? รวมวิธีบูสต์พลัง บำรุงสมอง

Reading Time: 3 minutes

อ่อนล้า อ่อนเพลีย เหนื่อยง่ายเกิดจากอะไร

อ่อนล้า อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย

อ่อนล้า อ่อนเพลีย เหนื่อยง่ายเกิดจากอะไร ? อาการเหล่านี้พบได้บ่อยในชีวิตประจำวัน แม้ว่าจะพักผ่อนเพียงพอ แต่บางคนก็ยังรู้สึกอ่อนล้า อ่อนเพลียอยู่ เพราะนอกจากเรื่องของการนอนหลับพักผ่อน ยังมีอีกหลายสาเหตุครับ ซึ่งไม่เพียงส่งผลต่อสุขภาพร่างกาย แต่ยังส่งผลกระทบโดยตรงต่อการทำงานของสมอง เช่น สมาธิ ความจำ และการตัดสินใจ

สารบัญ อ่อนล้า อ่อนเพลีย เหนื่อยง่ายเกิดจากอะไร


10 สาเหตุของอาการอ่อนล้า อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย

อาการอ่อนล้า อ่อนเพลีย เหนื่อยง่ายเกิดจากอะไร ? หมอรวบรวม 10 สาเหตุที่พบบ่อย มีดังนี้


1.ภาวะนอนหลับไม่ได้คุณภาพ

การนอนหลับที่มีคุณภาพและเพียงพอเป็นสิ่งสำคัญต่อสุขภาพสมองและร่างกาย เพราะในช่วงที่เราหลับสนิท ร่างกายจะปล่อยฮอร์โมนที่สำคัญต่อการซ่อมแซมเซลล์สมองและระบบต่าง ๆ ในร่างกาย โดยเฉพาะช่วงหลับตื้นไปจนถึงหลับลึก (NREM sleep) และช่วงที่หลับฝัน (REM sleep)

หากนอนน้อยกว่า 7 ชั่วโมงต่อวัน หรือมีปัจจัยรบกวน เช่น ความเครียด สภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม หรืออาการป่วย จะทำให้คุณภาพการนอนลดลง ตื่นมารู้สึกไม่สดชื่น อ่อนเพลียเรื้อรัง และส่งผลกระทบโดยตรงต่อสมาธิ ความจำ และการทำงานของสมองโดยรวม


2.ภาวะเครียดเรื้อรัง

ความเครียดที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องหรือเรื้อรัง ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการทำงานของสมองทั้งในเชิงโครงสร้างและระบบประสาท โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อร่างกายตอบสนองต่อความเครียดด้วยการปล่อยฮอร์โมนคอร์ติซอลในปริมาณสูงเป็นระยะเวลานาน ทำให้เซลล์สมองเกิดภาวะอักเสบ และการทำงานของสมองลดประสิทธิภาพลงอย่างชัดเจน

นอกจากนี้ ความเครียดที่สะสมอาจทำให้เกิดภาวะเหนื่อยล้าจากความเครียด (Stress-Related Exhaustion Disorder : ED) ส่งผลให้มีอาการเหนื่อยล้าทั้งทางกายและทางใจ

เครียดสะสม
อ่อนล้า อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย จากปัญหาเครียดสะสม

3.โรคเรื้อรังที่มีผลต่อสมองและระบบประสาท

อาการอ่อนล้าเรื้อรังอาจเกี่ยวข้องกับโรคต่าง ๆ ที่มีผลกระทบต่อการทำงานของสมองและระบบประสาท เช่น ภาวะโลหิตจาง โรคเบาหวาน โรคหัวใจ ปอด ตับ ไต ภาวะซึมเศร้า โรคมะเร็ง และภาวะปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง (Fibromyalgia)

โรคเหล่านี้จะลดประสิทธิภาพในการทำงานของสมอง ส่งผลให้รู้สึกอ่อนล้าเหนื่อยง่าย เมื่อได้รับการรักษาที่เหมาะสม อาการดังกล่าวจะค่อย ๆ ดีขึ้น


4.รับประทานอาหารไม่ถูกหลักโภชนาการ

การรับประทานอาหารที่ไม่ครบถ้วนตามหลักโภชนาการ ไม่เพียงส่งผลให้ร่างกายขาดพลังงานที่จำเป็นในการทำงาน แต่ยังส่งผลโดยตรงต่อสมองด้วย ทำให้ประสิทธิภาพในการคิด วิเคราะห์ และจดจำลดลง นอกจากนี้ร่างกายจะเริ่มดึงไขมันและโปรตีนจากกล้ามเนื้อมาเปลี่ยนเป็นพลังงาน ส่งผลให้สูญเสียมวลกล้ามเนื้อและรู้สึกอ่อนล้า อ่อนเพลียได้


5.ภาวะขาดสารอาหารและวิตามินที่จำเป็น

การขาดวิตามิน เช่น วิตามินบี 1 วิตามินบีรวม และวิตามินบี 12 มีผลอย่างมากต่อสมอง เนื่องจากวิตามินบีเหล่านี้มีหน้าที่ช่วยในการสร้างสารสื่อประสาท ช่วยควบคุมสมาธิและความจำ หากขาดวิตามินบีเป็นเวลานานจะทำให้เกิดอาการอ่อนล้า เหนื่อยง่าย สมองล้า คิดช้าลง และมีปัญหาด้านความจำ

อ่านบทความเพิ่มเติม : วิตามินบี สำคัญอย่างไร ? ต่อการฟื้นฟูร่างกาย สมอง จิตใจ

สมองล้า
เหนื่อยง่าย สมองล้า ถึงเวลา IV Drip

6.บริโภคอาหารที่มีน้ำตาลสูง

การบริโภคอาหารที่มีน้ำตาลในปริมาณสูงหรือบ่อยเกินไป ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดผันผวนอย่างรุนแรง โดยเฉพาะเมื่อบริโภคน้ำตาลจำนวนมากในช่วงเย็นหรือก่อนเข้านอน จะกระตุ้นให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และลดลงอย่างฉับพลันในช่วงกลางคืน ส่งผลให้ระบบประสาทตื่นตัว รบกวนการนอนหลับ ทำให้นอนหลับไม่สนิทและรู้สึกไม่สดชื่นในตอนเช้า

น้ำตาลที่สูงเกินไปยังส่งผลเสียต่อการทำงานของสมองในระยะยาว ทำให้สมองล้า ความสามารถในการคิดและสมาธิลดลง และมีผลต่อความจำและอารมณ์อีกด้วย


7.ภาวะน้ำหนักเกินและโรคอ้วน

น้ำหนักตัวที่มากเกินไปส่งผลให้หัวใจต้องทำงานหนักในการสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงอวัยวะต่าง ๆ รวมถึงสมอง ส่งผลให้ร่างกายและสมองได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ ทำให้เกิดอาการอ่อนล้า เหนื่อยง่าย สมองอาจทำงานได้ช้าลง มีผลต่อสมาธิและการจดจำ


8.บริโภคคาเฟอีนมากเกินความจำเป็น

การบริโภคคาเฟอีนในปริมาณมากหรือถี่เกินไปจะส่งผลกระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง ทำให้สมองตื่นตัวมากเกินไปและเกิดความเครียด เมื่อผลของคาเฟอีนหมดฤทธิ์จะส่งผลให้เกิดอาการเหนื่อยล้าเรื้อรัง สมองล้าจากการถูกกระตุ้นซ้ำ ๆ และมีผลกระทบต่อการนอนหลับ คุณภาพของการพักผ่อนลดลง ส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของสมองและสมาธิในระยะยาว

คาเฟอีน
ร่างกายได้รับคาเฟอีนมากเกินไป

9.ออกกำลังกายไม่เหมาะสม

การออกกำลังกายที่หนักเกินไปหรือไม่เหมาะสมกับสภาพร่างกาย อาจนำไปสู่อาการอ่อนล้า เหนื่อยง่าย และส่งผลกระทบต่อสมองได้ เนื่องจากร่างกายอาจเกิดภาวะการอักเสบ (Inflammation) และมีการสะสมของกรดแลคติกในกล้ามเนื้อมากเกินไป ซึ่งส่งผลให้ร่างกายต้องใช้พลังงานมากกว่าปกติในการซ่อมแซมเซลล์และฟื้นฟูตัวเอง

เมื่อร่างกายต้องใช้พลังงานส่วนใหญ่ในการฟื้นฟูจากการออกกำลังกายที่หนักเกินไป จะทำให้สมองไม่ได้รับสารอาหารและพลังงานที่เพียงพอ ส่งผลให้เกิดอาการสมองล้า ขาดสมาธิ ประสิทธิภาพในการคิดและจดจำลดลง


10.ภาวะฮอร์โมนไม่สมดุล

ภาวะฮอร์โมนไม่สมดุลสามารถเกิดจากความเครียดเรื้อรัง การพักผ่อนไม่เพียงพอ หรือโรคบางชนิด เช่น ภาวะพร่องไทรอยด์ ซึ่งฮอร์โมนมีบทบาทสำคัญในการควบคุมกระบวนการต่าง ๆ ในร่างกาย รวมทั้งการทำงานของสมอง หากฮอร์โมนเสียสมดุล จะทำให้เกิดอาการเหนื่อยล้าเรื้อรัง สมองล้า สมาธิสั้น ความสามารถในการคิดและตัดสินใจลดลง ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน


ดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ที่ V Square Wellness

ใครที่กำลังมีปัญหาอ่อนล้า อ่อนเพลีย เหนื่อยง่ายเกิดจากอะไร ? จะเห็นว่ามีหลายสาเหตุมากครับ ตามที่หมอได้อธิบายไปข้างต้น ซึ่งแต่ละคนนั้นไม่จำเป็นว่าต้องเกิดจากสาเหตุเดียวกัน แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้วไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ เพราะอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพและการใช้ชีวิตประจำวัน

V Square Wellness Center
บริการที่ V Square Wellness Center

การดูแลสุขภาพแบบองค์รวม (Wellness) มีบทบาทสำคัญครับ มุ่งเน้นการแก้ไขสาเหตุเชิงลึก เพื่อการแก้ปัญหาที่ตรงจุด ป้องกันไม่ให้เกิดโรค หรือลดความเสี่ยงของการเกิดโรคต่าง ๆ ในอนาคต เป้าหมายเพื่อให้คนไข้มีสุขภาพดีขึ้น และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นครับ

ที่ V Square Wellness Center ให้บริการครอบคลุม เริ่มตั้งแต่การซักประวัติ ให้คำปรึกษา ตรวจสุขภาพเบื้องต้น วางแผนการรักษา เสริมด้วยวิตามินหรือ IV Drip


บูสต์พลัง บำรุงสมอง เสริมความจำ ด้วย Vitamin IV Drip

Vitamin IV Drip หรือการฉีดวิตามินเข้าเส้นเลือดโดยตรง เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมในการช่วยฟื้นฟูร่างกายและสมองได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีอาการอ่อนล้า เหนื่อยง่าย และสมองล้า

IV Drip จะช่วยให้ร่างกายสามารถดูดซึมสารอาหารเข้าสู่กระแสเลือดได้ทันที ทำให้สมองและระบบประสาทได้รับสารอาหารอย่างรวดเร็ว ฟื้นฟูความสดชื่น ลดอาการเหนื่อยล้า ช่วยเพิ่มสมาธิและเสริมประสิทธิภาพในการทำงานของสมองได้อย่างรวดเร็ว เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการการฟื้นฟูแบบเร่งด่วน


IV Drip สูตร Brain V Booster

สำหรับสูตร Brain V Booster เป็นการฉีดสารเปปไทด์ที่เกี่ยวข้องกับระบบประสาท ช่วยเพิ่มความสามารถของสมองในการซ่อมแซมตัวเองโดยการกระตุ้นการฟื้นฟูของระบบประสาท รวมถึงวิตามินต่าง ๆ ที่ช่วยลดความเหนื่อยล้า เพิ่มความสดชื่น สมองปลอดโปร่งพร้อมทำงาน

Brain V Booster เหมาะกับใคร
ผู้ที่เหมาะกับ Brain V Booster

เปปไทด์ และวิตามินบี สำคัญต่อร่างกายอย่างไร ?

Peptide

  • เพิ่มความสามารถของสมองในการซ่อมแซมตัวเองโดยการกระตุ้นการฟื้นฟูของระบบประสาท
  • กระตุ้นการสร้างและซ่อมแซมเซลล์สมอง (Neuroregeneration) โดยช่วยเพิ่มการสร้างเซลล์ประสาทและการงอกใหม่ของเส้นใยประสาท
  • ฟื้นฟูเนื้อเยื่อสมองที่เสียหายจากการบาดเจ็บ โรคหลอดเลือดสมอง หรือภาวะสมองเสื่อม
  • ปรับปรุงการทำงานของสมองในด้านการเรียนรู้ ความจำ และสมาธิ

Vitamin B12

  • สร้างเซลล์เม็ดเลือดแดงที่แข็งแรง ช่วยป้องกันภาวะโลหิตจาง (Anemia) ที่ทำให้ร่างกายอ่อนเพลียและเหนื่อยง่าย
  • ช่วยในการบำรุงการทำงานของสมอง ความจำ และซ่อมแซมเส้นประสาท
  • ช่วยลดระดับโฮโมซิสเตอีน (Homocysteine) ซึ่งเป็นสารที่มีความเกี่ยวข้องกับการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด
  • ช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งและลดความเสี่ยงของผมร่วงหรือเล็บเปราะ

Vitamin B complex

  • B1 : ช่วยระบบประสาทและเผาผลาญพลังงาน
  • B2 : ต้านอนุมูลอิสระและสนับสนุนการผลิตพลังงาน
  • B3 : ส่งเสริมสุขภาพหัวใจและการไหลเวียนเลือด
  • B5 : ช่วยสร้างฮอร์โมนและเผาผลาญไขมัน
  • B6 : สนับสนุนระบบประสาทและภูมิคุ้มกัน
  • B7 : เสริมสร้างเส้นผม ผิวหนัง และเล็บ
  • B9 : สำคัญต่อการพัฒนาของเซลล์
  • B12 : บำรุงระบบประสาทและสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง
โปรแกรมดริปวิตามิน

รวมวิธีบรรเทาอาการอ่อนล้า อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย

  • ปรับปรุงคุณภาพการนอนหลับ เช่น กำหนดเวลาเข้านอนให้สม่ำเสมอ และสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการนอน
  • ลดความเครียด ด้วยเทคนิคต่าง ๆ เช่น การนั่งสมาธิ การทำกิจกรรมผ่อนคลาย
  • ดูแลและรักษาโรคเรื้อรังอย่างสม่ำเสมอ ปรึกษาแพทย์เพื่อควบคุมอาการให้ดีขึ้น
  • ควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม ด้วยการออกกำลังกายสม่ำเสมอและรับประทานอาหารที่เหมาะสม
  • รับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วน โดยเน้นอาหารที่มีประโยชน์ต่อสมอง เช่น โปรตีน ไขมันดี และผักผลไม้สด
  • ลดการบริโภคน้ำตาลและคาเฟอีน ช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่และลดภาวะสมองล้า
  • รักษาสมดุลของฮอร์โมน ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เช่น พักผ่อนให้เพียงพอ ลดความเครียด และหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่รบกวนการผลิตฮอร์โมน
  • เติมวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็น เช่น วิตามินบี เปปไทด์ และเพื่อช่วยฟื้นฟูร่างกายและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมอง

สรุป อ่อนล้า อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย สัญญาณเตือนจากร่างกายที่ไม่ควรมองข้าม

อ่อนล้า อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย เป็นสัญญาณเตือนจากร่างกายที่ต้องให้ความสำคัญครับ เพราะหากปล่อยทิ้งไว้ ไม่เพียงส่งผลต่อสุขภาพกาย ยังกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะการทำงานที่ต้องใช้ทั้งร่างกายและสมอง

ด้วยไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่เร่งรีบของคนในยุคนี้ การจะดูแลสุขภาพทุกด้านอย่างครอบคลุม อาจเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายนัก หนึ่งในตัวช่วยของการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม หรือ Wellness อย่างเรื่องของอาหารเสริม หรือการดริปวิตามิน จึงเป็นเรื่องที่หลายคนให้ความสนใจมากขึ้นในการฟื้นฟูสุขภาพเร่งด่วน ซึ่งควรทำควบคู่กับการปรับพฤติกรรมตามคำแนะนำ จะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีในระยะยาวครับ


อ้างอิง


สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ
ปรึกษาหมอ
บทความแนะนำ

ข้อปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ ที่ควรรู้ เพื่อคงผลลัพธ์ให้อยู่นานขึ้น แต่ละจุดดูแลอย่างไร ?

Reading Time: 5 minutesเพื่อให้ผลลัพธ์หลังฉีดฟิลเลอร์มีประสิทธิภาพ เห็นผลได้อย่างเต็มที่ การดูแลตัวเองหลังฉีด Filler นับว่ามีส่วนสำคัญมาก ๆ ครับ อะไรที่ต้องระวัง ? หลังฉีดฟิลเลอร์มีข้อปฏิบัติอะไรบ้าง ? หลังฉีดฟิลเลอร์ห้ามกินอะไร ? หลังฉีดเสร็จทันทีเป็นอย่างไร ? ใน 1 สัปดาห์ หรือ 1 เดือน หลังฉีดฟิลเลอร์ ควรดูแลตัวเองอย่างไร ?

December 12, 2025 อ่านต่อ

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อไหนดี ? สวีเดน อเมริกา ต่างกันอย่าง...

Reading Time: 4 minutesปัญหาใต้ตาหลาย ๆ แบบสามารถแก้ไขได้ด้วยการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาครับ เช่น ร่องน้ำตา ตาลึก ตาโหล ใต้ตาคล้ำ มีถุงใต้ตา แต่จะเลือกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อไหนดี ? ที่จะแก้ปัญหาใต้ตาได้ตรงจุด หมอมีแนวทางการเลือกยี่ห้อฟิลเลอร์ที่เหมาะกับบริเวณใต้ตามาแนะนำครับ

โบท็อก BOTULAX สัญชาติเกาหลี ดีอย่างไร ราคาแพงแค่ไหน ?

Reading Time: 5 minutesโบท็อกในปัจจุบันมีอยู่หลายยี่ห้อครับ แต่ละยี่ห้อมีคุณสมบัติเด่นที่แตกต่างกัน Botox Botulax เป็นอีกหนึ่งยี่ห้อที่ได้รับความสนใจ และนิยมนำมาใช้เป็นอันดับต้น ๆ ในบทความนี้หมอจะอธิบายว่า Botulax ดีไหม ดีอย่างไร? ทำไม Botox Botulax ถึงได้รับความนิยม Botulax 100 U, Botulax 200 U แตกต่างกันอย่างไร?

Botox Allergan คืออะไร ? ดีอย่างไร ? allergan botox 50 – ...

Reading Time: 6 minutes Allergan คืออะไร ? ราคาเท่าไร ? ต่างจากยี่ห้ออื่นอย่างไร ? เนื้อหาในบทความนี้ หมอมีข้อมูลเกี่ยวกับ โบท็อกยี่ห้อ Allergan มาแนะนำครับ พร้อมบอกข้อดี ข้อเสีย เปรียบเทียบแบบต่าง ๆ ที่ควรรู้ และโบท็อก Allergan ของแท้ดูอย่างไร ? สามารถติดตามอ่านได้ในบทความนี้ครับ

ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม บวมกี่วัน ? หลังฉีดมีข้อปฏิบัติตัวอย่...

Reading Time: 5 minutesหลายคนที่มีร่องแก้มลึก มักเลือกแก้ปัญหาด้วยการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม แต่สิ่งที่คนส่วนใหญ่กังวลคือ หลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม บวมกี่วัน ? เพราะกลัวว่าฉีดแล้วจะบวมเกินจนกลายเป็นก้อน ทำให้ต้องพักหน้าหลายวัน ใครที่กังวล หมอจะอธิบายให้เข้าใจง่ายที่สุดในบทความนี้ครับ ตั้งแต่ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม บวมกี่วัน ?

ก่อนฉีดโบท็อก ต้องอ่าน! 5 สิ่งที่หมออยากให้รู้ เพื่อผลลัพ...

Reading Time: 3 minutesก่อนฉีดโบท็อก สิ่งที่หมออยากให้รู้คือ “การเตรียมตัวก่อนฉีด” ส่งผลอย่างมากต่อผลลัพธ์ครับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความเป็นธรรมชาติ ความปลอดภัย หรือความคงทนของตัวยา บทความนี้เป็นสรุป 5 สิ่งสำคัญที่ควรรู้ก่อนฉีดโบท็อก แบบเข้าใจง่ายที่หมอรวบรวมมาแชร์ เพื่อใช้เป็นคู่มือในการฉีดโบท็อก และรวบรวมคำถามหรือข้อสงสัยต่าง ๆ ของคนไข้ มาตอบให้ครับ

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ สามารถศึกษานโยบายความเป็นส่วนตัวและจัดการความเป็นส่วนตัว ได้ที่ปุ่มตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ

บันทึกการตั้งค่า