วี สแควร์

สิวหิน สิวข้าวสาร คืออะไร ? มีวิธีรักษาและป้องกันอย่างไร ?

Reading Time: 3 minutes

สิวหิน สิวข้าวสาร

สิวหิน

สิวหิน สิวข้าวสาร คืออะไร ? รวมวิธีรักษาและป้องกัน

สิวหิน และสิวข้าวสาร สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศ ทุกวัย ถือเป็นปัญหากวนใจใครหลายคนเลยครับ เพราะนอกจากจะส่งผลต่อความสวยงามแล้ว หากปล่อยไว้นานยังอาจทำให้รักษาได้ยากขึ้นด้วย

ในบทความนี้หมอจะมาแนะนำวิธีรักษาสิวหิน สิวข้าวสารที่เห็นผลดี และตอบทุกข้อสงสัย สิวหิน สิวข้าวสาร คืออะไร มีลักษณะอย่างไร ? เป็นบริเวณไหน ? กดออกได้ไหม ? พร้อมแนะนำวิธีการป้องกันอย่างไร ไม่ให้กลับมาเป็นซ้ำ

สารบัญ สิวหิน


สิวหิน สิวข้าวสาร คืออะไร ลักษณะเป็นอย่างไร ?

สิวหินสิวข้าวสาร

สิวหิน (Syringoma) ความจริงแล้วไม่ใช่สิว แต่เป็นเนื้องอกต่อมท่อเหงื่อ ชนิดที่ไม่อันตราย เกิดจากการเจริญเติบโตของต่อมเหงื่อผิดปกติ มีลักษณะเป็นตุ่มสีขาวขุ่นหรือสีเหลืองคล้ายสิวผด ไม่มีอาการเจ็บปวดหรือคันร่วมด้วย

สิวข้าวสาร (Milia) จัดอยู่ในกลุ่มของซีสต์ไขมันใต้ผิวหนัง (Subaceous Cyst) สิวหัวข้าวสารเกิดจากการอุดตันของเซลล์ผิวหนังที่เสื่อมสภาพ มีลักษณะเป็นตุ่มนูนเล็ก ๆ และแข็ง สีขาวคล้ายเม็ดข้าวสาร อาจมีอาการคันร่วมด้วย


สิวหินกับสิวข้าวสารเหมือนกันไหม ?

สิวหินกับสิวข้าวสาร ไม่เหมือนกันครับ แม้จะมีลักษณะคล้ายกัน แต่ในทางการแพทย์ สิวทั้ง 2 ชนิดนี้มีความแตกต่างกันทั้งแหล่งกำเนิด อายุที่พบ และระยะเวลาที่เป็นครับ 

สิวหิน จะเริ่มพบได้ในช่วงวัยรุ่น และมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นเมื่ออายุมากขึ้น หากปล่อยให้หายเองตามธรรมชาติต้องอาศัยระยะเวลานาน ส่วนสิวเม็ดข้าวสาร สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งในทารกแรกเกิด วัยรุ่น และวัยผู้ใหญ่ สามารถหายได้เองภายใน 2-3 สัปดาห์ 


สิวหิน สิวข้าวสาร เกิดจากอะไร ?

ปัจจัยที่ทำให้เกิดสิวหิน สิวข้าวสาร ได้แก่

  • ความผิดปกติทางพันธุกรรม ทำให้เกิดสิวหินและสิวข้าวสารได้เมื่อเป็นทารกแรกเกิดหรือในช่วงวัยอื่น ๆ
  • ความผิดปกติทางผิวหนัง เกิดจากเส้นใยเคราตินที่อยู่ใต้ผิวหนังสะสมจนเกิดเป็นตุ่มนูนในบริเวณต่าง ๆ เช่น สิวข้าวสารที่เปลือกตา สิวที่คาง สิวข้าวสารที่แก้ม   
  • กลุ่มอาการต่าง ๆ เช่น กลุ่มอาการการ์ดเนอร์ (Gardner Syndrome) และผู้ที่เป็นมะเร็งผิวหนังบางชนิด มีโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นสิวหินหรือสิวข้าวสาร 
  • การใช้ยาบางชนิด อาจทำให้เกิดสิวข้าวสารได้ เช่น ยาไฮโดรควิโนน ยาฟลูออโรยูราซิล หรือสเตียรอยด์ เป็นต้น
  • การบาดเจ็บบริเวณผิวหนัง เช่น ผิวอักเสบ พุพอง แผลไหม้ รวมทั้งการสครับผิวแรง ๆ ถูกเสียดสีบ่อยจนรบกวนรูขุมขนและต่อมไขมัน ทำให้เกิดการอุดตันและสะสมเป็นสิวข้าวสาร 
  • การติดเชื้อ ลุกลามจนเป็นปื้นบริเวณผิวกว้างหลายเซนติเมตร และอาจเกี่ยวข้องกับโรคผิวหนังบางชนิด แต่ยังไม่สามารถระบุสาเหตุการเกิดได้อย่างแน่ชัด

สิวหิน สิวข้าวสาร เป็นบริเวณไหนได้บ้าง ?

สิวหิน สิวข้าวสาร สามารถเป็นได้ทุกส่วนของร่างกายครับ มักพบบ่อยที่บริเวณรอบดวงตา จมูก แก้ม คาง หน้าผาก หน้าอก หน้าท้อง รักแร้ สะดือ และบริเวณหัวหน่าว รวมไปถึงบริเวณผิวที่มีการเสียดสีบ่อย ถูกแดดเผาไหม้ หรือมีบาดแผล 


วิธีการรักษาสิวหิน สิวข้าวสาร

วิธีรักษาสิวหิน สิวข้าวสาร สามารถทำได้หลายวิธี ก่อนทำคนไข้ควรปรึกษาแพทย์เพื่อให้ประเมินผิวและวางแผนการรักษาอย่างเหมาะสม หมอรวบรวม 5 วิธีที่เห็นผลดีมาแนะนำดังนี้ครับ 

  1. เลเซอร์คาร์บอนไดออกไซด์ (CO2 Laser)
เลเซอร์สิวหิน

การเลเซอร์สิวเม็ดข้าวสารหรือสิวหินด้วยคาร์บอนไดออกไซด์ หรือ CO2 Laser เป็นวิธีแรก ๆ ที่หมอแนะนำครับ เพราะ สามารถตัดและทำลายเนื้อเยื่อจุดที่มีปัญหาได้โดยไม่ทำให้เลือดออก หลังทำจะมีอาการบวมแดง เป็นแผลตกสะเก็ด ต้องพักฟื้นและหลีกเลี่ยงแสงแดดอย่างน้อย 1 สัปดาห์ครับ 

  1. จี้สิวหินด้วยไฟฟ้า (Electrosurgery)

การจี้สิวหินด้วยไฟฟ้า จะคล้าย ๆ กับการทำเลเซอร์ครับ หมอจะใช้ความร้อนจากเครื่องไฟฟ้าทำลายเนื้อเยื่อและทำลายเส้นเลือดในก้อนเนื้องอกให้ฝ่อลง ถือเป็นวิธีที่มีความปลอดภัยหากอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ 

  1. จี้สิวหินด้วยไอเย็น (Cryotherapy)

การจี้สิวหินด้วยไอเย็น คือการใช้ความเย็นจากไนโตรเจนเหลวกำจัดเนื้อเยื่อที่ผิดปกติ ก่อนทำต้องเตรียมความพร้อม ตรวจประเมินและทำหัตถการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการอบรม 

  1. ผ่าตัดสิวหิน (Surgical Excision)
ผ่าตัดสิวหิน

การรักษาสิวหินด้วยการผ่าตัด สามารถทำได้ครับ แต่ใช้ได้เฉพาะกับเนื้องอกสิวหินที่มีขนาดใหญ่หรือไม่สามารถใช้วิธีอื่น ๆ รักษาได้แล้วเท่านั้น ซึ่งแม้จะผ่าตัดนำสิวหินออกมาจากผิวหนังได้ทั้งหมด แต่ก็ต้องแลกมาด้วยความเสี่ยงต่อการติดเชื้อและอาจมีแผลเป็นหลังทำ

  1. ใช้ยารักษาสิวหิน

ยารักษาสิวหิน สิวเม็ดข้าวสาร มักมีส่วนผสมของกรดไตรคลอโรอะเซติก (Trichloroacetic acid) ไอโซเทรติโนอิน (Isotretinoin) หรืออาซิเทรติน (Acitretin) มีฤทธิ์ในการผลัดเซลล์ผิว ใช้รักษาสิวที่รุนแรงและโรคผิวหนัง จัดเป็นกลุ่มยาที่อันตรายและต้องอยู่ในความควบคุมของแพทย์ครับ  

นอกจาก 5 วิธีกำจัดสิวหินที่หมอได้บอกไป ยังมีอีกหลายวิธีทำให้หน้าใส เช่น การใช้เซรั่มรักษาสิวหิน การใช้สารเคมีลอกผิว (Chemical peeling) การใช้ปูนแดงสิวเม็ดข้าวสาร แต่ไม่ค่อยได้รับความนิยมมากนัก เพราะเป็นวิธีที่ออกฤทธิ์แค่ผิวชั้นบน นอกจากจะไม่เห็นผลแล้ว ยังเสี่ยงหน้าพัง เป็นแผลได้ครับ


วิธีการป้องกันสิวหิน สิวข้าวสาร

การรักษาสิวหิน สิวข้าวสาร ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม สามารถกลับมาเป็นได้อีกครับ ดังนั้นเพื่อชะลอและลดโอกาสการเกิดซ้ำ คนไข้ควรดูแลผิวให้มีความแข็งแรงอยู่เสมอ หมอแนะนำวิธีการป้องกันสิวหินสิวข้าวสารด้วยการทำหัตถการดังต่อไปนี้ครับ

  1. ฉีดเมโสหน้าใส 
เมโสหน้าใส

การฉีดเมโสหน้าใส เป็นวิธีป้องกันสิวหินด้วยการฉีดตัวยาที่มีประโยชน์เข้าสู่ผิวโดยตรง เพื่อบำรุง ฟื้นฟูผิวที่เสื่อมสภาพ และทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น โดยเมโสแต่ละยี่ห้อจะมีคุณสมบัติแตกต่างกัน ก่อนฉีดควรให้หมอประเมินสภาพผิว เพื่อเลือกสูตรเมโสที่เหมาะสมกับแต่ละเคส ช่วยแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด

  1. ฉีดมาเด้คอลลาเจน 
ฉีดมาเด้ โดยหมอเอก

มาเด้คอลลาเจน เป็นชื่อยี่ห้อยาฉีดเมโสหน้าใสที่มีจุดเด่นในการช่วยขับสารพิษที่ตกค้างอยู่ในผิว โดยอาศัยหลักการโฮมีโอพาธีย์ (Homeopathy) ฉีดด้วยเทคนิค 16 จุดทั่วใบหน้า กระตุ้นให้เซลล์ผิวขับล้างสารพิษออกทางระบบน้ำเหลืองและกระจายตัวยาอย่างทั่วถึง ช่วยขจัดสิ่งสกปรกที่ตกค้างอันเป็นสาเหตุก่อให้เกิดสิวและรูขุมขนอุดตัน หลังฉีดมาเด้ จะเห็นว่าผิวหน้าค่อย ๆ ดีขึ้น เห็นผลชัดเจนใน 1-2 สัปดาห์ 

  1. ฉีด Rejuran
ฉีดรีจูรัน โดยหมอเบิร์ด

การฉีด Rejuran เป็นการนำสารสกัด Polyneucleotide หรือ PN ที่มีความเข้มข้น 2% ซึ่งสกัดมาจาก DNA ของปลาแซลมอน มาฉีดเพื่อฟื้นฟูผิวหน้าในระดับชั้นผิวหนังแท้ ตัวยาจะเข้าไปแทนเซลล์ที่เสื่อมสภาพ และทำการซ่อมแซมผิวจากภายใน ช่วยเสริมเกราะป้องกันผิว ต้านการอักเสบ ลดรอยสิว กระชับรูขุมขนให้เล็กลง และช่วยรักษาหลุมสิวให้ตื้นขึ้นครับ 

การทำหัตถการทางการแพทย์ ทั้งการฉีดเมโสหน้าใส ฉีดมาเด้คอลลาเจน และการฉีดรีจูรัน เป็นวิธีบำรุงฟื้นฟูผิวชั้นลึกให้แข็งแรง แนะนำให้ทำร่วมกับการดูแลผิวหน้าอย่างถูกวิธี จะช่วยลดโอกาสการเกิดสิวหินหรือสิวข้าวสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยคนไข้สามารถปฏิบัติตามได้ดังนี้ 

  • ไม่ควรขัด ถู หรือสครับหน้าแรง ๆ เพราะจะไปรบกวนผิวทำให้เกิดการอักเสบและสิวอุดตัน 
  • ล้างหน้าให้สะอาด เพื่อขจัดความมัน คราบเครื่องสำอางและคราบสิ่งสกปรกออกให้หมดจด 
  • เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าที่เหมาะสมกับสภาพผิว ไม่ก่อให้เกิดการอุดตันเพิ่ม
  • ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงรอบดวงตาที่ไม่มีสารระคายเคือง เพื่อป้องกันการเกิดสิวหินใต้ตา
  • นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อปรับสมดุลของฮอร์โมน ช่วยป้องกันการเกิดสิว 

สิวหิน สิวข้าวสาร กดออกได้ไหม ?

สิวหิน สามารถกดออกได้ แต่ไม่ควรกดออกเองครับ เพราะ สิวหินและสิวเม็ดข้าวสารเกิดในบริเวณผิวชั้นลึก ค่อนข้างแข็ง หากกดไม่ถูกวิธีหรือขั้นตอนการกดสิวไม่สะอาดเพียงพอ อาจส่งผลให้เกิดการติดเชื้อ ลุกลามจนเกิดสิวอักเสบได้ ดังนั้นควรกดสิวหินหรือสิวข้าวสารโดยผู้เชี่ยวชาญ หรือใช้เลเซอร์รักษาจะเห็นผลดีกว่าครับ

Vsquare tips

ข้อควรรู้ : หลังกดหรือจี้สิวหิน อาจเกิดแผลเป็นจากหลุมสิว ทำให้ใบหน้าดูขรุขระ ไม่เรียบเนียน สามารถแก้ไขได้ด้วยการฉีดฟิลเลอร์หลุมสิว เพื่อช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้หลุมสิวดูตื้นขึ้น พร้อมทั้งช่วยปรับสภาพผิวให้รูขุมขนเล็กลง ผิวมีความยืดหยุ่น ดูสุขภาพดีขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติครับ


สรุป

สิวหิน หรือสิวข้าวสาร แม้จะไม่ใช่สิว ไม่เป็นอันตราย แต่ก็ส่งผลต่อความมั่นใจและความสวยงาม ดังนั้นทางที่ดีที่สุดคือการป้องกันและรักษาอย่างถูกวิธี โดยปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินสาเหตุและเลือกวิธีที่เหมาะสมกับปัญหา ได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัยครับ 


อ้างอิง


สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

สามารถ comment สอบถามเข้ามาด้านล่างได้เลยนะครับ หมอตอบเองครับ

บทความแนะนำ

ฟิลเลอร์ (Filler) กับโบท็อกซ์ (Botox) ต่างกันอย่างไร ? ทำพร้อมกันได้ไหม ?

Reading Time: 4 minutes - ฟิลเลอร์ คืออะไร ? - โบท็อกซ์ คืออะไร ? - ฟิลเลอร์ (Filler) กับ โบท็อกซ์ (Botox) ต่างกันอย่างไร ? - เปรียบเทียบข้อดี ข้อจำกัดของฟิลเลอร์ กับโบท็อกซ์ - เลือกฉีดฟิลเลอร์หรือโบท็อกซ์ดี แบบไหนเหมาะกับใครบ้าง ?

15 วิธี กำจัดไขมันส่วนเกิน ดูแลตัวเองเพื่อสุขภาพและรูปร่า...

Reading Time: 4 minutes - ไขมันส่วนเกิน คืออะไร? - สาเหตุการเกิดไขมันส่วนเกิน - ไขมันส่วนเกิน อันตรายไหม? - 15 วิธีกำจัดไขมันส่วนเกินแบบต่าง ๆ

โบท็อกเยอรมัน Xeomin ช่วยปรับหน้าเรียวดีไหม? มีข้อดีต่างจ...

Reading Time: 3 minutes - โบท็อกเยอรมัน Xeomin คืออะไร? - ฉีดโบท็อกเยอรมัน Xeomin ตำแหน่งไหนได้บ้าง? - ข้อดีของโบท็อกเยอรมัน Xeomin - โบท็อกเยอรมัน Xeomin แตกต่างจากยี่ห้ออื่นอย่างไร? - ขั้นตอนการฉีดโบท็อกเยอรมัน Xeomin

รีวิว CoolSculpting วิธีการสลายไขมันด้วยความเย็นเพื่อหุ่น...

Reading Time: 4 minutes มีคนอ่านบทความนี้แล้ว : 1,587 วันที่อัพเดตล่าสุด : 26 April 2024 CoolSculpting รีวิว รีวิว CoolSclupting วิธีการสลายไขมันด้วยความเย็นด้วยเครื่อง Coolsclupting เพื่อหุ่นสวย หุ่นเฟิร์ม กระชับเข้ารูป สำหรับใครที่ต้องการปรับรูปร่างและลดสัดส่วนเฉพาะจุด แบบไม่อยากผ่าตัด ไม่อยากดูดไขมัน Coolsculpting ช่วยได้ครับ แม้ไม่มีเวลาออกกำลังกาย ก็สามารถสลายไขมันสะสมได้โดยไม่ต้องเจ็บตัว Coolsculpting ช่วยลดและกระชับสัดส่วน ได้ทั้งหน้าท้องและไขมันส่วนเกินตามจุดต่างๆ เช่น ต้นแขน,ต้นขา, สะโพก,น่อง,ปีกหลังใต้วงแขน ,เหนียง รวมถึงคุณแม่หลังคลอดที่ต้องการลดและกระชับสัดส่วนก็ทำได้เช่นกันครับ สารบัญ CoolSculpting ทำไมต้องต้องเลือก Coolsculpting? Coolsculpting ทำตรงไหนได้บ้าง ผลลัพธ์หลังจากทำ Coolsculpting รีวิว Coolsculpting ลดไขมันต้นแขน | นิโคล เทริโอ รีวิว Coolsculpting ลดไขมันหน้าท้อง | แอนดี้ เขมพิมุก รีวิว Coolsculpting | […]

รวมวิธีลดแก้ม ลดเหนียง ปรับหน้าเรียวแบบเร่งด่วน แต่ละวิธี...

Reading Time: 6 minutes - วิธีลดแก้ม แบบเร่งด่วน เห็นผลตั้งแต่สัปดาห์แรก มีอะไรบ้าง? - วิธีลดแก้มแบบ ธรรมชาติ

รวมข้อมูลก่อนตัดสินใจทำ Thermage FLX คืออะไร ราคาเท่าไหร่...

Reading Time: 7 minutes - Thermage คืออะไร? - การทำงานของ Thermage - Thermage ทำตำแหน่งไหนได้บ้าง? - ความแตกต่างระหว่าง Thermage กับ RF ทั่วไป - เครื่อง Thermage มีกี่รุ่น?

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ สามารถศึกษานโยบายความเป็นส่วนตัวและจัดการความเป็นส่วนตัว ได้ที่ปุ่มตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ

บันทึกการตั้งค่า