Emface เทคโนโลยียกกระชับหน้า ไม่ต้องฉีด ไม่ต้องพักฟื้น
Emface คือหนึ่งในนวัตกรรมยกกระชับหน้าที่มาแรงที่สุดตอนนี้ เพราะสามารถ “ยกทั้งผิวและกล้ามเนื้อ” ได้ในครั้งเดียว โดยไม่ต้องใช้เข็ม ไม่ต้องผ่าตัด และไม่ต้องพักฟื้น
บทความนี้หมอจะอธิบายให้ชัดว่า Emface คืออะไร ? ใช้พลังงานอะไรในการยกกระชับ ? และต่างจากเครื่องมือยกหน้ารุ่นอื่นอย่าง HIFU Ulthera หรือ Thermage อย่างไรบ้าง ?
นอกจากนี้ยังรวมคำถามสำคัญที่หลายคนสงสัย เช่น Emface เหมาะกับใครบ้าง ? ทำตำแหน่งไหนได้บ้าง ? ราคาเท่าไหร่ ? คุ้มไหม ? เทียบกับ Ulthera/Thermage/Hifu ต่างกันยังไง ?
ใครที่อยากหน้าเด็กขึ้นโดยไม่ต้องเจ็บ ไม่ต้องฉีด และยังดูเป็นธรรมชาติ ต้องไม่พลาดอ่านบทความนี้เลยครับ
สารบัญ Emface
Emface คืออะไร ? ทำงานอย่างไร ?
Emface (เอ็มเฟซ) คือเทคโนโลยียกกระชับหน้าใหม่ล่าสุดจากสหรัฐอเมริกา ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการ “ยกกระชับ ย้อนวัยใบหน้า” โดยไม่ต้องใช้เข็ม ไม่ต้องผ่าตัด และไม่ต้องพักฟื้น ด้วยการผสานคลื่น RF และ HIFES™ เข้าด้วยกัน ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเอกสิทธิ์เฉพาะจาก BTL Aesthetics ผู้พัฒนาเครื่อง Emsculpt ที่ได้รับความนิยมทั่วโลกครับ
Emface ทำงานอย่างไร ?
Emface จะทำงานด้วยการใช้หัวเครื่องแปะลงบนบริเวณที่ต้องการยกกระชับ ได้แก่ หน้าผาก แก้ม และแนวกราม จากนั้นเครื่องจะส่งพลังงานลงไปใต้ผิวใน 2 รูปแบบหลัก ได้แก่
- RF (Radiofrequency) เป็นคลื่นวิทยุความถี่สูงที่ปล่อยพลังงานลงสู่ชั้นหนังแท้ ความร้อนจาก RF (ประมาณ 40-42°C) จะไปช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ใหม่ ทำให้ผิวแน่น เฟิร์ม และเรียบเนียนขึ้น ริ้วรอยดูจางลง
- HIFES™ (High-Intensity Facial Electrical Stimulation) เป็นคลื่นไฟฟ้าความเข้มข้นสูงที่กระตุ้นกล้ามเนื้อใบหน้าให้หดเกร็ง คล้ายการออกกำลังกายให้กล้ามเนื้อหน้าโดยไม่ต้องขยับเอง ช่วยให้กล้ามเนื้อบนใบหน้าที่เคยหย่อนคล้อยกลับมากระชับ
ทำไม Emface ถึงเรียกว่า Full-Face Lifting ?
เพราะ Emface ไม่ได้ทำแค่ยกผิว แต่ยังยก “โครงสร้างของกล้ามเนื้อใบหน้า” ด้วย
เมื่อเปรียบเทียบกับเทคโนโลยีเก่า ๆ ที่ยกผิวเฉพาะด้านบนอย่างเดียว Emface จึงให้ผลที่ยกจากภายในและคงผลลัพธ์ได้ยาวนานกว่า โดยไม่ทำให้หน้าดูตึงหรือแข็งเหมือนการดึงหน้าหรือฉีดสารเติมเต็มครับ
Emface เหมาะกับใคร ?
Emface เหมาะกับผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้ดูยกกระชับ สดใส และอ่อนเยาว์ขึ้นแบบเป็นธรรมชาติ โดยเฉพาะ…
- ผู้ที่ต้องการกระชับกล้ามเนื้อใบหน้าให้แข็งแรงขึ้น
- ผู้ที่กลัวการผ่าตัด กลัวเข็ม ไม่อยากฉีดสารเติมเต็ม
- ผู้เริ่มมีปัญหาผิวหน้าเล็กน้อย มีริ้วรอย แก้มห้อย กรอบหน้าไม่ชัด
- ผู้ที่ต้องการลดเลือนริ้วรอยบนใบหน้า ชะลอการเกิดริ้วรอยก่อนวัย
- ผู้ที่อยู่ระหว่างการพักหน้าจากการฉีดโบท็อกซ์ หรือมีอาการดื้อโบท็อกซ์
Emface ช่วยอะไรบ้าง ?
การทำ Emface สามารถช่วยแก้ไขปัญหาบนใบหน้าได้หลากหลาย ทั้งในชั้นผิวและกล้ามเนื้อ ดังนี้ครับ
- ยกกระชับผิวหน้า ลดความหย่อนคล้อยให้หน้าดูเต่งตึง
- ยกแนวคิ้ว ยกหนังตา ทำให้ตาโตขึ้น แก้ปัญหาหนังตาตก
- เพิ่มกรอบหน้าชัด ลดความหย่อนของแนวขากรรไกร ทำให้ V-shape ชัดเจนขึ้น
- กระตุ้นคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้ผิวแน่นขึ้น รูขุมขนกระชับ ผิวเรียบเนียน
- กล้ามเนื้อบนใบหน้าแข็งแรงขึ้น ทำให้เห็นรูปหน้าชัดเจน ดูสดใส ไม่เหนื่อยล้า
- ริ้วรอยเล็ก ๆ ที่หน้าผาก หางตา และร่องมุมปาก โดยไม่ต้องพึ่งโบท็อกซ์
- ฟื้นฟูโครงสร้างใบหน้า ทั้งผลลัพธ์ของผิวดี + กล้ามเนื้อแข็งแรง จึงช่วยให้ใบหน้าโดยรวมดูเด็กลง
จุดเด่นของ Emface ที่แตกต่างจากเทคโนโลยีอื่น
จุดเด่นของ Emface ที่แตกต่างจากเทคโนโลยีอื่นเลยคือ สามารถยกกระชับทั้งผิวและกล้ามเนื้อได้พร้อมกัน ซึ่งถือเป็นจุดเปลี่ยนของการดูแลผิวหน้าแบบไม่ใช้เข็ม และไม่ต้องพักฟื้นครับ
- ยกได้ทั้งผิว + กล้ามเนื้อพร้อมกัน ด้วยพลังงาน RF กระชับผิว และ HIFES™ กระตุ้นกล้ามเนื้อ → จึงยกได้ลึก ยกได้จริง และส่งผลต่อโครงสร้างใบหน้าโดยตรง
- เป็นหัตถการ Non-invasive ไม่ต้องฉีด ไม่ต้องผ่า เจ็บน้อย ไม่มีรอยแดง ไม่ต้องพักฟื้น
- เหมาะกับคนกลัวเข็ม หรือเคยฉีดแล้วไม่ชอบผลลัพธ์ หน้าตึงเกินไป หรือดูไม่เป็นธรรมชาติ เพราะ Emface ให้ผลลัพธ์แบบ Soft Lifting
- ผลลัพธ์ชัดเจนตั้งแต่ครั้งแรก รู้สึกว่าหน้าตึงขึ้นทันที 10–20% และเห็นผลเต็มที่ใน 1-2 เดือน
- ใช้เวลาไม่นาน เพียง 20 นาทีต่อครั้ง สามารถแวะมาทำช่วงพักเที่ยงแล้วกลับไปทำงานต่อได้ทันที
- ปลอดภัยสูง ผ่านการรับรองจาก US FDA ได้รับการวิจัยและทดสอบในระดับสากลว่ามีความปลอดภัยต่อผิวหน้า
เปรียบเทียบ Emface กับ Ulthera/Thermage/Hifu
ในปัจจุบันมีหลายเทคโนโลยียกกระชับใบหน้าให้เลือก ไม่ว่าจะเป็น Ulthera, Thermage, Hifu หรือเทคโนโลยีล่าสุดอย่าง Emface ซึ่งแต่ละเครื่องก็มีจุดเด่นและกลุ่มเป้าหมายต่างกัน
แล้ว Emface แตกต่างจากเทคโนโลยีอื่นอย่างไร ? อันไหนเหมาะกับใคร ? เพื่อให้คนไข้เข้าใจง่ายขึ้น หมอจะมาเทียบแบบละเอียดให้เห็นภาพกันครับ
Emface
- พลังงาน : RF + HIFES™ (ผสานคลื่นวิทยุกับการกระตุ้นกล้ามเนื้อ)
- จุดเด่น : ยกทั้งผิว + กล้ามเนื้อ ไม่ต้องใช้เข็ม ไม่เจ็บ ไม่บวม ไม่ต้องพักฟื้น
- เหมาะกับ : คนที่เริ่มมีปัญหาผิวหย่อนคล้อยเล็กน้อย-ปานกลาง ริ้วรอยไม่ลึกมาก
- ผลลัพธ์ : ผิวแน่นขึ้น + กล้ามเนื้อยกขึ้น → หน้าดูเด็กลง
- ความรู้สึกขณะทำ : อุ่น + กล้ามเนื้อกระตุกเบา ๆ (เหมือนออกกำลังกายกล้ามเนื้อหน้า)
Ulthera/Ulthera Prime
- พลังงาน : คลื่นเสียงอัลตราซาวด์ (Microfocused Ultrasound with Visualization – MFU-V)
- จุดเด่น : ยิงพลังงานลึกถึงชั้น SMAS เหมาะกับคนที่มีความหย่อนคล้อยระดับกลางถึงมาก
- เหมาะกับ : คนที่มีอายุ 25 ปีขึ้นไป มีแก้มห้อย เหนียงเยอะ
- ผลลัพธ์ : ยกกระชับเฉพาะชั้น SMAS → หน้าเข้ารูป กรอบหน้าชัด
- ความรู้สึกขณะทำ : เจ็บลึก ร้อนจี๊ด ๆ ขึ้นกับระดับพลังงาน
Thermage
- พลังงาน : คลื่นวิทยุ (Monopolar RF)
- จุดเด่น : เน้นกระตุ้นคอลลาเจน สลายไขมันบริเวณใบหน้า เหนียง
- เหมาะกับ : คนที่มีผิวหย่อนคล้อย ผิวหลวม มีไขมันหน้า แก้มห้อย ผิวไม่เรียบ รูขุมขนกว้าง
- ผลลัพธ์ : ผิวแน่น ผิวยืดหยุ่นขึ้น รูขุมขนเล็กลง
- ความรู้สึกขณะทำ : ร้อน ๆ บางจุดรู้สึกจี๊ดบ้าง
Hifu
- พลังงาน : คลื่นเสียงอัลตราซาวด์ (High Intensity Focused Ultrasound)
- จุดเด่น : ยกกระชับผิว ลดเหนียง ลดริ้วรอยเล็ก ๆ เช่น ร่องแก้ม หางตา ร่องใต้ตา
- เหมาะกับ : คนอายุ 25-35 ปี ที่เริ่มมีปัญหาผิวไม่กระชับ มีเหนียงหรือแนวกรามไม่คมชัด
- ผลลัพธ์ : หน้ายกกระชับ กรอบหน้าชัด ผิวแน่น ฟู
- ความรู้สึกขณะทำ : ร้อนเล็กน้อย เจ็บแบบทนได้
สรุปสั้น ๆ Emface แตกต่างจากเทคโนโลยีอื่นอย่างไร ? อันไหนเหมาะกับใคร ?
Emface คือเทคโนโลยีเดียวที่ยกกระชับได้ทั้งผิวและกล้ามเนื้อพร้อมกัน โดยไม่ต้องฉีด ไม่ต้องใช้เข็ม ไม่เจ็บ ไม่บวม และไม่ต้องพักฟื้น
- ถ้าอยากกระชับได้ทั้งผิวและกล้ามเนื้อ → เลือก Emface
- ถ้าหน้าหย่อน แก้มห้อย อยากยกผิวให้ตึง กระชับ → เลือก Ulthera
- ถ้ามีไขมันหน้า มีเหนียง ผิวหย่อน ผิวหลวม อยากผิวแน่น → เลือก Thermage
- ถ้าผิวหย่อนน้อย ๆ งบเบา ๆ อยากยกเฉพาะจุด → เลือก Hifu
Emface ทำตำแหน่งไหนได้บ้าง ?
Emface สามารถช่วยยกกระชับได้ครอบคลุมหลายบริเวณบนใบหน้าครับ โดยเน้นทั้งชั้นผิวและชั้นกล้ามเนื้อพร้อมกันในแต่ละตำแหน่ง เช่น
- หน้าผากและแนวคิ้ว
- หน้าแก้ม
- ร่องแก้ม ร่องมุมปาก
- กรอบหน้าและแนวขากรรไกร (Jawline)
ทั้งนี้ Emface ยังอยู่ในกลุ่มหัตถการที่ใช้สำหรับยกกระชับเฉพาะส่วนบนของใบหน้าเท่านั้น ไม่สามารถใช้กับลำคอ หรือส่วนอื่น ๆ ได้
หากต้องการยกกระชับคอ เหนียง หรือแก้มล่างร่วมด้วย แพทย์อาจแนะนำให้เสริมด้วยหัตถการอื่นร่วม เช่น Ulthera Hifu หรือ Thermage ในจุดที่ Emface ยังไม่ครอบคลุมครับ
ทำ Emface กี่ครั้งเห็นผล ? อยู่ได้นานแค่ไหน ?
โดยทั่วไปแล้ว Emface จะแนะนำให้ทำ 4 ครั้ง ต่อเนื่องสัปดาห์ละ 1 ครั้งครับ เพื่อผลลัพธ์ที่เห็นชัดเจนและยาวนาน
- หลังทำครั้งแรก : ผิวรู้สึกกระชับทันทีประมาณ 10-20%
- หลังครบ 4 ครั้ง : เห็นผลเต็มที่ในช่วง 2-3 เดือน
- อยู่ได้นาน : ประมาณ 6-12 เดือน แล้วแต่การดูแลผิวของแต่ละคน
หากคนไข้ดูแลผิวดี พักผ่อนเพียงพอ ไม่สูบบุหรี่ ไม่ดื่มแอลกอฮอล์จัด ผลลัพธ์ก็จะอยู่ได้นานและดูเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้นครับ
Emface มีผลข้างเคียงไหม ? ปลอดภัยจริงหรือเปล่า ?
Emface เป็นหัตถการที่ได้รับการรับรองจาก US FDA และมีการวิจัยรองรับด้านความปลอดภัยครับ
ผลข้างเคียงที่อาจพบ (เล็กน้อยและชั่วคราว)
- รู้สึกอุ่น ๆ ขณะทำ
- กล้ามเนื้อใบหน้าตึงเล็กน้อย เหมือนออกกำลังกายเบา ๆ
- ผิวแดงเล็กน้อยหลังทำ (หายภายใน 15–30 นาที)
อย่างไรก็ตาม การทำEmface ไม่เหมาะกับผู้ที่ฝังอุปกรณ์ไฟฟ้าในร่างกาย เช่น pacemaker, หรืออยู่ในระหว่างตั้งครรภ์/ให้นมบุตร ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำครับ
ผลลัพธ์หลังทำ Emface เป็นอย่างไร ?
หลังทำ Emface ผลลัพธ์จะค่อย ๆ ดีขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่มีอาการบวม ไม่มีรอยแดง และไม่ต้องพักฟื้นครับ สำหรับผลลัพธ์หลังทำ Emface สิ่งที่เห็นได้ชัด ได้แก่
- ใบหน้าดูสดใสขึ้นแบบที่คนรอบข้างจะรู้สึกได้ แต่ไม่รู้ว่าไปทำอะไรมา
- กล้ามเนื้อใบหน้าแข็งแรงขึ้น หน้าไม่โทรม ไม่ล้า
- ผิวแน่นขึ้น กระชับขึ้นแบบนุ่มนวล
- ลดความหย่อนคล้อยบริเวณคิ้ว แก้ม กรอบหน้า
- ริ้วรอยเล็ก ๆ จางลง โดยเฉพาะบริเวณหางตา หน้าผาก
Emface มีข้อห้ามอะไรบ้าง ?
Emface ไม่ควรทำในผู้ที่
- กำลังตั้งครรภ์ หรือให้นมบุตร
- มีอุปกรณ์ไฟฟ้าฝังในร่างกาย (เช่น pacemaker)
- มีแผลเปิดหรือผิวหนังอักเสบบริเวณใบหน้า
- เป็นโรคทางระบบประสาทที่มีผลต่อกล้ามเนื้อ
รีวิวผลลัพธ์ก่อน-หลัง ทำ Emface
ผลลัพธ์หลังทำ Emface จะค่อย ๆ เปลี่ยนแปลงอย่างเป็นธรรมชาติ
หลังทำ Emface ทันที
- ผิวดูกระจ่างใสขึ้นทันที
- รู้สึกถึงความตึงกระชับบริเวณใบหน้าโดยเฉพาะกรอบหน้าและขากรรไกร
- ไม่มีรอยแดงหรือระคายเคืองหลังทำ สามารถแต่งหน้าต่อได้เลย
หลังทำ Emface ครบ 1-2 สัปดาห์
- รูปหน้าเริ่มเข้ารูปขึ้น กรอบหน้าคมชัดกว่าเดิม
- ผิวแน่นขึ้นโดยเฉพาะบริเวณแก้ม ร่องแก้มดูตื้นขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
- ผิวหน้าดูสดใส มีออร่าเหมือนคนพักผ่อนเพียงพอ แม้ไม่ได้แต่งหน้าเยอะ
ผลลัพธ์ระยะยาว (หลังทำครบคอร์ส 4 ครั้ง)
- ผิวแน่น ยกกระชับโดยไม่ต้องใช้เข็มหรือผ่าตัด
- กล้ามเนื้อบนใบหน้าถูกกระตุ้นให้กระชับขึ้นจริง โดยเฉพาะกล้ามเนื้อ levator ที่ใช้ในการยกหน้า
- เหมาะกับคนที่กลัวเข็ม ไม่อยากฉีด ไม่อยากพักฟื้น แต่อยากหน้าเด็กแบบเห็นผล
ผู้เข้ารับบริการ Emface ส่วนใหญ่มักรีวิวว่า “รู้สึกเหมือนได้ย้อนวัยโดยไม่ต้องเจ็บตัว” และหลายคนเลือกทำต่อเนื่องทุก 6 เดือน -1 ปี เพื่อคงผลลัพธ์ไว้
Emface ราคาเท่าไหร่ ?
Emface ราคาเริ่มต้น 15,000.-/ครั้งครับ หากทำเป็นคอร์สจะอยู่ที่ประมาณ 60,000-120,000.- จะแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ตำแหน่งที่ทำ โปรโมชันของแต่ละคลินิก และประสบการณ์ของแพทย์
Emface ราคาเทียบกับ Ulthera และ Thermage ต่างกันอย่างไร ?
Emface ราคาเมื่อเทียบกับเครื่องยกกระชับอื่น ๆ อย่าง Ulthera Thermage และ Hifu ราคาจะต่างกันชัดอยู่ครับ Emface ไม่ต้องนับช็อต ไม่ต้องนับไลน์ ราคาจะเหมาจ่ายตามครั้งหรือคอร์สที่ทำ
ส่วน Ulthera Thermage และ Hifu ทั้ง 3 แบบจะคิดราคาตามจำนวนช็อตหรือไลน์ที่ยิง ยิ่งต้องการผลลัพธ์ชัด ยกเยอะ ยกทั่วหน้า ราคาก็จะสูงขึ้นตามไปด้วยครับ
Ulthera ราคาโปรโมชันที่ V Square Clinic
คลิก! เพื่อดูโปรโมชั่นแนะนำเพิ่มเติม
Thermage ราคาโปรโมชันที่ V Square Clinic
คลิก! เพื่อดูโปรโมชั่นแนะนำเพิ่มเติม
Hifu Ultraformer III ราคาโปรโมชันที่ V Square Clinic
คลิก! เพื่อดูโปรโมชั่นแนะนำเพิ่มเติม
Emface ทำที่ไหนดี ? ให้คุ้มค่ากับราคาที่ต้องจ่าย
การทำ Emface ถือเป็นการลงทุนเพื่อดูแลผิวหน้าในระยะยาว เพราะฉะนั้นการเลือกคลินิกทำมีผลอย่างมากต่อทั้งความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ได้จริงครับ
แม้ Emface จะไม่ใช่การฉีดหรือผ่าตัด แต่ก็ต้องใช้เทคนิคของแพทย์ + เครื่องแท้และหัวทิปที่ใหม่และแม่นยำเท่านั้น จึงจะยกกระชับได้ถูกจุด เห็นผล และปลอดภัย
หลักการเลือกคลินิกทำ Emface ให้คุ้มค่า
- ใช้เครื่อง Emface แท้ 100% จากบริษัท BTL Aesthetics
- หัวทิปใหม่ทุกเคส ไม่ใช้ซ้ำ เพื่อประสิทธิภาพและความปลอดภัย
- มีแพทย์ประเมินและดูแลโดยตรง ไม่ให้พนักงานยิงแทน
- มีรีวิว Before–After จากคนไข้จริง ให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน
- มีประสบการณ์ในการใช้เทคโนโลยี lifting เช่น เคยทำ Ulthera, Hifu, Thermage มาก่อน
- ราคาสมเหตุสมผล ไม่ถูกผิดปกติจนน่าสงสัย
คำถามที่พบบ่อย
Emface เจ็บไหม ?
ไม่เจ็บเลยค่ะ รู้สึกอุ่น ๆ บนผิว และตึงกล้ามเนื้อใบหน้าเล็กน้อย เหมือนกำลังออกกำลังกายเบา ๆ
Emface เหมาะกับคนอายุเท่าไหร่ ?
เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 25 ปีขึ้นไป ที่เริ่มมีสัญญาณของความหย่อนคล้อย หรือริ้วรอยแรกเริ่ม ยิ่งทำเร็ว ยิ่งช่วยชะลอวัยได้ดีกว่า
Emface ต้องทำบ่อยไหม ?
แนะนำให้ทำ 1 คอร์ส 4 ครั้ง (สัปดาห์ละ 1 ครั้ง) และทำซ้ำทุก 6-12 เดือน เพื่อคงผลลัพธ์
Emface ลดแก้มได้ไหม?
Emface ไม่ได้สลายไขมันเฉพาะจุดได้ดีเหมือนการทำ Thermage หรือฉีดเมโสแฟต แต่ช่วยยกกระชับกล้ามเนื้อและผิว ทำให้ใบหน้าดูเรียวขึ้น โหนกแก้มยกขึ้น ส่งผลให้หน้าดูเล็กลงครับ
สรุป Emface เหมาะกับใคร ? คุ้มค่าหรือไม่ ?
Emface ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าสำหรับคนที่ต้องการหน้าเด็ก ยกกระชับ แต่ไม่อยากเจ็บ ไม่อยากฉีด และไม่มีเวลาพักฟื้น ต่างจากเทคโนโลยีอื่นตรงที่ยกได้ทั้งผิวและกล้ามเนื้อในคราวเดียว เห็นผลเร็ว แม้ราคาสูงกว่าบางหัตถการ แต่เมื่อเทียบกับความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ ก็ถือว่าคุ้มในระยะยาวครับ