ฉีดโบท็อกลดกรามหน้าเรียว ควรรู้อะไรบ้าง Botox แท้ดูอย่างไร หมอตอบเองครับ

Reading Time: 6 minutes วันที่อัพเดตล่าสุด : 4 November 2025

ฉีดโบท็อกลดกรามหน้าเรียว

สำหรับคนที่ต้องการปรับรูปหน้าให้เรียวกระชับ โบท็อกลดกราม มักจะเป็นหัตถการแรกที่หมอแนะนำให้คนไข้ทำ เนื่องจากเห็นผลชัดเจนในคนที่กล้ามเนื้อกรามใหญ่ ราคาไม่แพง และโครงหน้าของคนไทยส่วนมากมักจะใช้วิธีการปรับรูปหน้าด้วยโบท็อกลดกรามได้ โดยที่ไม่จำเป็นต้องผ่าตัด

แต่หลาย ๆ คนอาจจะผิดหวังจากการฉีดโบลดกราม ฉีดโบท็อกหน้าเรียว เพราะถ้าเจอหมอที่ไม่ชำนาญหรือเจอโบท็อกปลอม ก็อาจเกิดผลข้างเคียงตามมาได้ เช่น ยิ้มไม่สุด แก้มตอบ แก้มห้อยกว่าเดิม ดื้อโบท็อก เพราะเจอยาปลอม

หมอจึงได้เขียนบทความนี้ขึ้นมา สำหรับคนที่กำลังหาข้อมูลก่อนตัดสินใจทำโบท็อกลดกรามว่า ฉีดหน้าเรียว ลดกราม ได้ผลจริงไหม ? ฉีดโบท็อกหน้าเรียวที่ไหนดี ? โบท็อกยี่ห้อไหนดี มีข้อควรระวังอะไรบ้าง ? มีข้อมูลที่ควรศึกษาก่อนทำดังนี้

สารบัญ ฉีดโบท็อกลดกรามหน้าเรียว

• โบท็อกกราม ช่วยอะไร ?
• การฉีดโบท็อกลดกราม หน้าเรียวจริงไหม ?
• อยากหน้าเรียว ต้องทำโบท็อกลดกราม เท่านั้นจริงไหม ?
• ร้อยไหมหน้าเรียว vs โบท็อกลดกราม หัตถการไหนเห็นผลกว่า
• ฉีดโบลดกราม เหมาะกับใคร ?
• ฉีดโบท็อกกราม เจ็บไหม ขณะทำรู้สึกอย่างไร ?
• โบท็อกลดกราม ทำให้ยิ้มแข็ง ๆ ยิ้มไม่สุด จริงไหม ?
• ทำไมฉีดโบท็อกลดกราม แล้วมีเหนียงเยอะขึ้น ?
• ฉีด Botox กราม กับบุคคลที่ไม่ใช่แพทย์ อาจเกิดอันตรายอะไรบ้าง ?
• ฉีดโบท็อกลดกรามแล้วปากเบี้ยว เกิดจากอะไร ?
• ฉีดโบท็อกกรามแล้วหน้าจะตอบ จริงหรือไม่ ?
• โบท็อกลดกราม ยี่ห้อไหนดีที่สุด อเมริกา หรือ เกาหลี ?
• กลัวเจอโบท็อกปลอม ต้องตรวจเช็กด้วยตัวเองอย่างไร ?
  • วิธีดูโบท็อกแท้แต่ละยี่ห้อ ต้องเช็กอะไรบ้าง ?
• ฉีดโบลดกราม กี่วันเห็นผล ?
• โบท็อกลดกราม ที่ไหนดี ? ปรับหน้าเรียว เห็นผล ไม่มีปัญหาตามมา
• เปรียบเทียบก่อน-หลัง ฉีดโบลดกราม รีวิวจากหมอเก่ง ๆ ที่ V Square Clininc
• ราคา ฉีดโบท็อกลดกราม เท่าไหร่ ?
• คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการฉีดโบท็อกลดราม
  • การฉีดโบท็อกลดกราม อยู่ได้นานแค่ไหน ?
  • อีก 2 อาทิตย์ จะรับปริญญา ฉีดโบท็อกลดกราม จะทันไหม ?
  • โบท็อกซ์กราม ควรฉีดกี่ยูนิต ?
  • ฉีดโบลดกราม ห้ามกินอะไร ?
• สรุปโบท็อกลดกราม หน้าเรียวสวย ต้องเริ่มต้นอย่างถูกวิธี

---

โบท็อกกราม ช่วยอะไร ?

การฉีดโบท็อกกราม จะช่วยเรื่องลดกราม กระชับกรอบหน้า ปรับรูปหน้าเรียว โดยโบท็อกจะออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท (Neurotoxin) มีผลให้กล้ามเนื้อทำงานได้ลดลง และมีขนาดเล็กลง ใบหน้าเรียวขึ้นอย่างชัดเจน แนะนำให้ทำโบลดกรามควบคู่กับโบท็อกลิฟต์กรอบหน้า จะได้ผลลัพธ์ใบหน้าเรียวสวยเข้ารูปที่สุดครับ

บทความแนะนำ

---

การฉีดโบท็อกลดกราม หน้าเรียวจริงไหม ?

ฉีดโบท็อก ช่วยให้หน้าเรียวได้จริงครับ แต่ก็ขึ้นอยู่กับปัญหาของคนไข้ด้วย เพราะโบท็อกจะใช้ได้ผลกับกล้ามเนื้อเท่านั้น หมอจะต้องประเมินว่าคนไข้ที่อยากหน้าเรียว มีปัญหาจากจุดไหน จากกระดูก กล้ามเนื้อหรือว่าไขมัน เพื่อแนะนำหัตถการที่เหมาะสมให้ครับ

ตัวอย่างผลลัพธ์หลังฉีดโบท็อกลดกรามปรับหน้าเรียว

---

อยากหน้าเรียว ต้องทำโบท็อกลดกราม เท่านั้นจริงไหม ?

การฉีดโบท็อกหน้าเรียวไม่ได้เป็นหัตถการเดียวที่ช่วยปรับรูปหน้าครับ แล้วแต่ปัญหาและจุดที่อยากแก้ไขของคนไข้ หลัก ๆ มีดังนี้

• โบท็อกลดกราม ถ้ากัดกรามแล้วจับแก้มมีกล้ามเนื้อเด้งเยอะ
• ฟิลเลอร์คาง ถ้าคางสั้น คางตัด เมื่อเทียบกับสัดส่วนใบหน้า (จะเห็นผลทันที)
• ร้อยไหมดึงแก้ม ถ้าแก้มแถว ๆ มุมปากหย่อนเยอะ (ถ้าหย่อนไม่มากทำ HIFU)
• ฟิลเลอร์ใต้ตา, ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ถ้าร่องลึกจะทำให้หน้าดูสั้น แก้มตก โหนกแก้มเด่น ไม่กระชับ

---

ร้อยไหมหน้าเรียว vs โบท็อกลดกราม หัตถการไหนเห็นผลกว่า

ทั้งการร้อยไหมหน้าเรียว และโบท็อกลดกราม สามารถช่วยให้หน้าเรียวได้ทั้งสองหัตถการครับ ขึ้นอยู่กับว่าคนไข้มีปัญหาแบบไหน

อย่างที่บอกไปแล้วว่าโบท็อกจะช่วยลดขนาดกล้ามเนื้อให้เล็กลง ส่วนการร้อยไหมจะมีจุดเด่นในการยกกระชับ แก้ไขความหย่อนคล้อย ถ้าคนไข้มีผิวหย่อนคล้อย ดูตกลงตามแรงโน้มถ่วง ทำให้หน้าเหมือนเป็นสี่เหลี่ยม ก็สามารถร้อยไหมกระชับขึ้นได้ครับ

แต่ก็ไม่จำเป็นต้องเลือกทำอย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้นครับ การฉีดโบท็อกและร้อยไหม สามารถทำควบคู่กันได้ เพื่อผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น

---

ฉีดโบลดกราม เหมาะกับใคร ?

โบท็อกลดกราม ได้รับความนิยมจากทั้งผู้ชายและผู้หญิงครับ เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาหรือความคาดหวังเหล่านี้

• ผู้ที่มีกรามใหญ่ ไม่ได้สัดส่วน จากขนาดของกล้ามเนื้อ (ถ้ากรามใหญ่จากกระดูก โบท็อกจะไม่สามารถช่วยได้ครับ)
• ผู้ที่อยากปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น โดยไม่ต้องผ่าตัด
• ผู้ที่มีพฤติกรรมนอนขบฟัน หรือมักเคี้ยวของแข็งบ่อย ๆ
• ผู้ที่อยากเห็นผลเร็ว ๆ ไม่ต้องการพักฟื้น

---

ฉีดโบท็อกกราม เจ็บไหม ขณะทำรู้สึกอย่างไร ?

ฉีดโบท็อกลดกราม ไม่เจ็บครับ ก่อนและระหว่างฉีดจะมีการประคบเย็น เพื่อลดความเจ็บจากเข็มฉีดยา อาจรู้สึกตึง ๆ เล็กน้อยตอนกำลังเดินยา แต่ถ้ากลัวเข็มมาก ๆ ก็สามารถให้คลินิกแปะยาชาให้ก่อนฉีดได้ครับ

---

โบท็อกลดกราม ทำให้ยิ้มแข็ง ๆ ยิ้มไม่สุด จริงไหม ?

อาการยิ้มแข็ง ๆ ยิ้มไม่สุดจะเกิดขึ้นได้ในกรณีที่โบท็อกแพร่ไปโดนกล้ามเนื้อที่ชื่อ Risorius (รูปที่1) ครับ ซึ่งทำหน้าที่ดึงมุมปากเวลายิ้ม โดยมีปัจจัยที่ทำให้เกิดได้ดังนี้

• ฉีดผิดตำแหน่ง ในการฉีดโบท็อกที่กล้ามเนื้อกรามจะมีจุดที่จำเป็นต้องฉีดใกล้กับกล้ามเนื้อ Risorius ซึ่งหมอที่มีประสบการณ์ทุกคนจะพยายามระวังในจุดนี้
• ใช้โบท็อกปลอม ยาจึงกระจายตัวไม่สม่ำเสมอ หมอจึงไม่สามารถคาดคะเนระยะการแพร่ของยาได้ถูกต้อง
• กล้ามเนื้อ Risorius ของคนไข้เกาะต่ำกว่าปกติ ไม่เหมือนคนทั่วไป พบได้ 1-2% (ตามรูปที่ 1)
• กล้ามเนื้อกรามของคนไข้ใหญ่มาก ใช้ยูนิตเยอะ ยาจึงแพร่กระจายกว้าง สามารถป้องกันได้ด้วยการทยอยฉีดโบท็อก ถ้ากล้ามเนื้อกรามใหญ่มากไม่ควรฉีดให้ยุบหมดในครั้งเดียวควรแบ่งฉีด 2 ครั้งห่างกัน 2-3 เดือน

เมื่อเกิดแล้ว จะเป็นแค่ชั่วคราว จะหายได้เองในระยะเวลา 1-2 เดือน การประคบร้อนบริเวณแก้มการนวด RF (Radio Frequency) จะช่วยให้หายไวขึ้นครับ

ซึ่งหากเกิดจากสาเหตุข้อ 3, 4 ซึ่งเป็นเหตุสุดวิสัย มักจะเกิดขึ้นเฉพาะการฉีดในครั้งแรก ๆ แพทย์จะบันทึกประวัติของคนไข้ไว้และระมัดระวังในการฉีดครั้งต่อ ๆ ไปครับ

รูปที่ 1) กล้ามเนื้อในรูปที่ชื่อ Risorius เป็นกล้ามเนื้อมัดสำคัญที่ทำให้เกิดอาการยิ้มไม่สุดได้ในคนที่ ฉีดโบท็อกลดกราม ซึ่งแพทย์ที่ชำนาญจะพยายามหลีกเลี่ยงการฉีดโดนกล้ามเนื้อมัดนี้ แต่ในคนไข้แต่ละคนมีตำแหน่งของกล้ามเนื้อมัดนี้ไม่เหมือนกัน บางคนที่ Risorius อยู่ต่ำกว่าปกติ หรือบางคน 2 ข้างอยู่สูงต่ำไม่เท่ากัน ถึงแม้หมอจะพยายามระมัดระวังอย่างมากแล้วก็อาจจะฉีดโดนได้ ทำให้มีอาการปากเบี้ยวหรือยิ้มไม่สุดครับ

---

ทำไมฉีดโบท็อกลดกราม แล้วมีเหนียงเยอะขึ้น ?

ถ้าฉีดโบท็อกลดกรามเพียงอย่างเดียว กรามยุบจะทำให้หนังหย่อนลง จึงทำให้หนังตรงคอเยอะขึ้น ดูหน้าห้อย แนะนำให้ทำโบท็อกลดกราม ควบคู่กับ โบท็อกลิฟต์กรอบหน้า จะเข้ารูปสวยไม่หย่อนครับ

ถ้าฉีดด้วยเทคนิค Botox Nefertiti Lift จะช่วยลดเหนียงได้ด้วยครับ บางคนมีเหนียงด้านข้างเยอะถ้าหมอตรวจดูแล้วเจอว่าเป็นต่อมน้ำลายก็สามารถใช้โบท็อกลดได้ แต่ข้อเสียคือทำให้คอแห้ง

---

ฉีด Botox กราม กับบุคคลที่ไม่ใช่แพทย์ อาจเกิดอันตรายอะไรบ้าง ?

การฉีดโบท็อกลดกราม หรือ ฉีดโบท็อกหน้าเรียว กับบุคคลที่ไม่ใช่แพทย์ เสี่ยงต่อผลข้างเคียงหลายอย่างครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้เทคนิคผิด หรือใช้ยาโบท็อกปลอมที่ไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งผลข้างเคียงที่พบบ่อยและควรระวัง มีดังนี้

• กรามลดแต่แก้มตอบ ใบหน้าหย่อนคล้อย : การฉีดผิดตำแหน่งอาจทำให้กล้ามเนื้อกรามฝ่อลงมากเกินไป ส่งผลให้ใบหน้าดูตอบ โทรม และแก้มส่วนหน้าห้อยลง ไม่กระชับ
• ยิ้มแข็ง ปากเบี้ยว กล้ามเนื้อใบหน้าทำงานผิดปกติ : เกิดจากการฉีดโดนกล้ามเนื้อที่ควบคุมการแสดงสีหน้า เช่น Zygomaticus หรือ Risorius ทำให้รอยยิ้มไม่เป็นธรรมชาติ หรือยิ้มไม่สุดได้
• ดื้อโบท็อกจากยาเสื่อมสภาพ : ยาหิ้วหรือยาลักลอบเข้ามา มักไม่ได้ควบคุมอุณหภูมิที่เหมาะสมครับ จึงอาจเสื่อมสภาพก่อนถึงมือผู้ใช้ ฉีดแล้วผลลัพธ์อยู่ไม่นาน ต้องฉีดบ่อยขึ้น ส่งผลให้ร่างกายสร้างภูมิต้านทานจนดื้อโบท็อก และอาจฉีดไม่เห็นผลอีกเลยในอนาคต
• โบท็อกปลอม ไม่มีผล หรือเกิดอาการแพ้ : โบท็อกที่ไม่มีคุณภาพ อาจมีส่วนผสมอันตราย หรือตัวยาไม่บริสุทธิ์พอ หลังฉีดอาจไม่ออกฤทธิ์ หรือทำให้เกิดอาการแพ้ บวมแดงได้

หมออธิบายแบบนี้ครับ โบท็อกของแท้ที่ผ่าน อย. ไทย จะมีบริษัทนำเข้าอย่างถูกต้อง ขายให้เฉพาะคลินิกและแพทย์ที่มีใบอนุญาตเท่านั้น รวมถึงมีการขนส่ง-เก็บรักษาตัวยาตามมาตรฐานควบคุมอุณหภูมิ

ในทางกลับกันหมอกระเป๋าหรือผู้ที่ไม่มีใบอนุญาตจึงไม่สามารถซื้อของแท้ได้ ทำให้มักใช้ยาหิ้วหรือยาปลอม ซึ่งเสี่ยงเกิดผลข้างเคียงอันตรายตามมา

---

ฉีดโบท็อกลดกรามแล้วปากเบี้ยว เกิดจากอะไร ?

หลังฉีดโบท็อกลดกรามแล้วปากเบี้ยว เกิดจากฉีดโบท็อกไปโดนกล้ามเนื้อบริเวณมุมปาก Risorius หรือ Zygomatic ซึ่งทำหน้าที่ในการขยับมุมปาก เมื่อโบท็อกออกฤทธิ์จะทำให้ลดการทำงานของกล้ามเนื้อบริเวณนี้ ทำให้ปากสองข้างเบี้ยวและไม่สมมาตรกันครับ

---

ฉีดโบท็อกกรามแล้วหน้าจะตอบ จริงหรือไม่ ?

การฉีดโบท็อกกรามแล้วหน้าตอบอาจเกิดขึ้นได้ ถ้าแพทย์ไม่ระวังหรือมีความชำนาญไม่มากพอครับ

ถ้าแพทย์ฉีดโบท็อกมากเกินไป หรือฉีดผิดตำแหน่ง อาจทำให้กล้ามเนื้อด้านบนยุบจนเห็นหน้าตอบ และทำให้กระดูกโหนกแก้มดูนูนเด่นขึ้นมาได้

---

โบท็อกลดกราม ยี่ห้อไหนดีที่สุด อเมริกา หรือ เกาหลี ?

โบท็อกลดกราม ปรับหน้าเรียว สามารถใช้ Botox ได้หลายยี่ห้อครับ ทั้งของอเมริกา เกาหลี อังกฤษ หรือเยอรมัน ซึ่งแต่ละยี่ห้อจะมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับกรรมวิธีการทำตัวยาให้บริสุทธิ์, ชนิด Protein Complex, ขนาดของ Molecule Complex, ความคงทนในการเก็บรักษา และขนาดของ Molecule Complex Size หมอจะประเมินปัญหาและความต้องการของแต่ละเคส และแนะนำยี่ห้อที่เหมาะสมให้

สำหรับใครที่สงสัยว่า แต่ละยี่ห้อมีจุดเด่นอย่างไร หมอสรุปสั้น ๆ แบบนี้ครับ

• Botox Allergan (อเมริกา) : บริสุทธิ์สูง 99.5 % โอกาสดื้อโบท็อกน้อย ตัวยากระจายตัวแคบ ให้ผลการรักษาที่แม่นยำ และอยู่ได้นานกว่า ตึงกว่าโบท็อกเกาหลี 20% อยู่ได้นาน 5-6 เดือน
• Botox Dysport (อังกฤษ) : ตัวยากระจายตัวกว้าง ออกฤทธิ์เร็ว ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ เหมาะกับการฉีดกล้ามเนื้อมัดใหญ่ และฉีดลิฟต์หน้าเทคนิค Dermolift อยู่ได้นาน 4-6 เดือน
• Botox Xeomin (เยอรมัน) : พัฒนาโดยการนำข้อดีของ Allergan กับ Dysport มารวมกัน ตัวยามีความบริสุทธิ์สูงและตัวยาไม่กระจุกตัวแคบเกินไป เหมาะกับเคสที่มีประวัติดื้อโบท็อก อยู่ได้นาน 4-6 เดือน
• Botox Nabota (เกาหลี) : ออกฤทธิ์ไว เห็นผลเร็วที่สุด เป็นโบท็อกเกาหลียี่ห้อเดียวที่ผ่านการรับรองจากอเมริกา (U.S. FDA) อยู่ได้นาน 4-6 เดือน
• Botox Aestox (เกาหลี) : มีการพัฒนาโครงสร้างโมเลกุลให้เหมือนโบท็อก Allergan แต่ผลลัพธ์อยู่ได้สั้นกว่า ข้อดีคือเห็นผลไว มีความอ่อนโยน ให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ หน้าไม่ตึง ไม่แข็ง อยู่ได้นาน 4-6 เดือน
• Botox Neuronox (เกาหลี) : ใช้ Botulinum Toxin A สายพันธุ์ออริจินัล Hall A-Hyper (สายพันธุ์เดียวกับ Allergan) ตัวยามีการกระจายตัวแคบ ผลการรักษาแม่นยำ ลดโอกาสของการดื้อยา อยู่ได้นาน 4-6 เดือน

อ่านบทความเพิ่มเติม : เจาะลึก! ฉีดโบท็อกยี่ห้อไหนดีที่สุด แต่ละยี่ห้อต่างกันอย่างไร ?

จุดเด่นของโบท็อกแต่ละยี่ห้อ

---

กลัวเจอโบท็อกปลอม ต้องตรวจเช็กด้วยตัวเองอย่างไร ?

การฉีดโบท็อกหน้าเรียว ไม่ว่าจะราคาถูกหรือแพง สิ่งสำคัญที่สุดคือความปลอดภัยครับ ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าตัวยาที่ใช้เป็นของแท้ โดยทำตามขั้นตอนเหล่านี้ได้เลย

• ให้หมอแกะกล่อง-เปิดขวดใหม่ต่อหน้า : โบท็อกแท้ทุกยี่ห้อมาในรูปแบบผงแห้ง ต้องให้หมอผสมยาต่อหน้าเพื่อความมั่นใจ หากใช้ไม่ถึง 100 ยูนิต ควรชวนเพื่อนหาร เพื่อเปิดขวดใหม่
  
• ระวังข้ออ้างเรื่อง “สูตรลับ” หรือ “กลัวปนเปื้อน” : บางคลินิกอาจปิดบังขั้นตอนการผสม ซึ่งเสี่ยงต่อการถูกสอดไส้ยาปลอม
  
• หลังฉีด ขอถ่ายรูปหรือเก็บกล่อง-ขวดกลับบ้าน : เก็บไว้เป็นหลักฐาน และสามารถตรวจสอบย้อนหลังได้กับบริษัทผู้นำเข้า
  
• ศึกษาจุดสังเกตของโบท็อกแท้แต่ละยี่ห้อ : เช่น ลายน้ำบนขวด, ฉลากภาษาอังกฤษ/ไทย, หมายเลขล็อต, QR code หรือ Hologram บางยี่ห้อสามารถตรวจสอบผ่านเว็บไซต์ผู้นำเข้าได้โดยตรง ขั้นตอนการตรวจสอบยาแท้ สามารถดูได้ที่ link นี้ครับ มีอธิบายครบถ้วน วิธีดูโบท็อกแท้และฟิลเลอร์ยี่ห้อต่าง ๆ

ก่อนฉีดโบท็อก คนไข้สามารถขอตรวจสอบตัวยาได้ครับ หากเป็นคลินิกที่ใช้โบท็อกของแท้ มีความโปร่งใส มักยินดีให้คนไข้ตรวจสอบตัวยาอยู่แล้วครับ เพราะไม่มีอะไรที่ต้องปิดบัง

วิธีดูโบท็อกแท้แต่ละยี่ห้อ ต้องเช็กอะไรบ้าง ?

วิธีดูโบท็อกของแท้ และนำเข้ามาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย มีจุดสังเกต ดังนี้

• มีซีลใสป้องกันการเปิดที่บริเวณฝากล่อง
• มีเลขทะเบียนอย.ไทย และเอกสารกำกับการใช้ยาภาษาไทย
• เลข Lot. ในทุกตำแหน่งต้องตรงกัน เช่น กล่อง ขวดยา และฝาขวด
• ตัวยามาในรูปแบบผลึกแข็งที่ก้นขวด ไม่มีของเหลวผสม
• มี QR Code ข้างกล่อง สำหรับสแกนตรวจสอบข้อมูลตัวยา (บางยี่ห้อ)

สำหรับรายละเอียดการตรวจสอบแต่ละยี่ห้อจะแตกต่างกันออกไปครับ หมอขอยกตัวอย่างเป็นยี่ห้อที่นิยมใช้ในประเทศไทย เช่น Allergan, Dysport, Xeomin, Nabota, Aestox และ Neuronox คนไข้สามารถดูรายละเอียดวิธีเช็กยาของแท้ได้ตามภาพด้านล่างครับ

---

ฉีดโบลดกราม กี่วันเห็นผล ?

หลังฉีดโบท็อกกรามประมาณ 14 วัน จะเริ่มเห็นผลครับ ว่ากล้ามเนื้อนิ่มลง กัดฟันแล้วกล้ามเนื้อกรามไม่เด้งและเห็นผลชัดเจนใช้เวลา 2-3 เดือนครับ

ส่วนใครที่สงสัยโบท็อกอยู่ได้กี่เดือน โดยทั่วไปจะอยู่ได้นาน ประมาณ 5-6 เดือน แล้วแต่การดูแลตัวเองของคนไข้และยี่ห้อโบท็อกที่เลือกใช้ครับ

---

โบท็อกลดกราม ที่ไหนดี ? ปรับหน้าเรียว เห็นผล ไม่มีปัญหาตามมา

ก่อนจะตัดสินใจฉีดโบท็อกลดกรามที่ไหน หมอเน้นย้ำเสมอครับ ว่าคนไข้ควรคำนึงถึงความปลอดภัยของตัวเองเป็นที่ตั้ง โดยควรพิจารณาปัจจัยเหล่านี้ให้ถี่ถ้วน

• ควรเลือกคลินิกที่เปิดให้บริการอย่างถูกต้อง มีเลขที่ใบอนุญาต 11 หลัก
• ฉีดโบท็อกกับแพทย์จริง ๆ ที่มีใบรับรอง และมีประสบการณ์ในการฉีดโบท็อกลดกราม ปรับรูปหน้า
• ตรวจสอบว่าโบท็อกว่าเป็นของแท้ แพทย์แกะกล่อง ผสมน้ำเกลือ ดูดยาให้ดูต่อหน้า ขอกล่องมาตรวจสอบกับบริษัทนำเข้าได้
• มีการติดตามผลหลังทำ และแนะนำวิธีดูแลตัวเองหลังฉีดโบท็อกอย่างละเอียด
• มีรีวิวจริง จากผู้ใช้บริการจริง ในแหล่งที่เป็นกลางและน่าเชื่อถือ ควรดูรูปภาพประกอบกับคลิปวิดีโอ (คลิปวิดีโอตัดแต่งได้ยากกว่า)

อ่านบทความเพิ่มเติม : ฉีดโบท็อกที่ไหนดี ! ก่อนฉีดควรพิจารณาอะไรบ้าง

---

เปรียบเทียบก่อน-หลัง ฉีดโบลดกราม รีวิวจากหมอเก่ง ๆ ที่ V Square Clininc

รีวิวฉีดโบท็อกกราม+ลิฟต์กรอบหน้า โดยทีมแพทย์ V Square Clinic

รีวิวฉีดโบท็อกกราม ร่วมกับหัตถการอื่น ๆ ปรับรูปหน้าให้เรียวสวย
โดยทีมแพทย์ V Square Clinic

*ผลจากการเข้ารักษาพยาบาลสำหรับผู้ป่วยเฉพาะราย

---

ราคา ฉีดโบท็อกลดกราม เท่าไหร่ ?

ราคาฉีดโบท็อกลดกราม อยู่ที่ประมาณ 7,000-16,000.-/100 U ขึ้นอยู่กับยี่ห้อที่ใช้ครับ

โปรโมชันโบท็อกลดกราม + หน้าเรียว ที่ V Square Clinic
แยกตามยี่ห้อ

• โบท็อกเกาหลี Nabota 100 unit 8,700.-
• โบท็อกเกาหลี Aestox / Neuronox 100 unit 7,500.-
• โบท็อกอเมริกา Allergan 100 unit 17,999.-
• โบท็อกอังกฤษ Dysport 300 unit 15,900.-
• โบท็อกเยอรมัน Xeomin 100 unit 13,900.-
• โบท็อกเกาหลี INBO 100 unit 11,000.-

หมายเหตุ : ราคาฉีดโบท็อกลดกราม ปรับรูปหน้าเรียว อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามโปรโมชันส่งเสริมการตลาด แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ และอัปเดตราคาล่าสุดกับทางคลินิก

---

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการฉีดโบท็อกลดราม

การฉีดโบท็อกลดกราม อยู่ได้นานแค่ไหน ?

โบท็อกลดกราม ปรับหน้าเรียวอยู่ได้นานประมาณ 5-6 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อที่ใช้ และการดูแลตัวเองของคนไข้ร่วมด้วยครับ

อีก 2 อาทิตย์ จะรับปริญญา ฉีดโบท็อกลดกราม จะทันไหม ?

ใครที่อยากฉีดโบท็อกหน้าเรียว โบท็อกลดกราม แล้วต้องรีบใช้หน้าก็ไม่ต้องกังวลครับ เพราะอย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น จะเริ่มเห็นผลใน 2 อาทิตย์ กรามจะนิ่ม ไม่เด้งและยุบได้ประมาณ 10% ครับ

จะยุบเต็มที่ใช้เวลา 2 เดือน แต่ 2 อาทิตย์ ก็จะเห็นผลการเปลี่ยนแปลงแล้วและสามารถทำโบท็อกลิฟกรอบหน้า (Nefertiti Lift) ช่วยให้แนวกรามคมขึ้นได้ด้วยครับ

โบท็อกซ์กราม ควรฉีดกี่ยูนิต ?

โบท็อกซ์ลดกรามจะใช้อยู่ที่ 50-100 U/ครั้งครับ ซึ่งหมอจะประเมินให้จากขนาดกล้ามเนื้อของคนไข้ร่วมด้วย ในรายที่ต้องการฉีดโบกรามควบคู่กับโบท็อกลิฟต์กรอบหน้า ก็อาจจะใช้เพิ่มอีก 30-50 U

ฉีดโบลดกราม ห้ามกินอะไร ?

หลังฉีดโบลดกราม หมอแนะนำให้หลีกเลี่ยงอาหารเหล่านี้ เพราะอาจส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของโบท็อกได้

• เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด : ทั้งแอลกอฮอล์และบุหรี่ มักทำให้หลอดเลือดขยายตัว กระ ทำให้โบท็อกกระจายผิดตำแหน่ง หรือสลายเร็วได้ ควรงดอย่างน้อย 48 ชั่วโมง
• อาหารที่ต้องนั่งหน้าเตาร้อน : เช่น ชาบู และหมูกระทะ ความร้อนอาจเร่งการเผาผลาญของโบท็อกเร็วขึ้น แนะนำให้เลี่ยงไอร้อนโดยตรง และลดอุณหภูมิอาการก่อนกิน ใน 48 ชั่วโมงแรก
• อาหารแข็ง ๆ เหนียว ๆ ที่เคี้ยวยาก : เช่น หมากฝรั่ง หรือเนื้อเหนียว ๆ จะทำให้กล้ามเนื้อบริเวณกรามกลับมาแข็งแรงเร็วขึ้น โบท็อกจะหมดฤทธิ์ไวครับ แนะนำให้หลีกเลี่ยงอย่างน้อย 1 เดือน
• อาหารรสจัด หมักดอง หรือโซเดียมสูง : เช่น หวานจัด เค็มจัด หรือเผ็ดจัด อาจทำให้ร่างกายบวมน้ำ และโบท็อกออกฤทธิ์ได้ไม่ดี แนะนำให้หลีกเลี่ยงอย่างน้อย 7-14 วัน
• อาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ : อาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อ และทำให้เกิดผลข้างเคียงได้ง่าย ควรหลีกเลี่ยงอย่างน้อย 7-14 วัน

นอกจากนี้ แนะนำให้ดูแลตัวเองตามแนวทางด้านล่าง เพื่อให้โบท็อกออกฤทธิ์ได้ดี และผลลัพธ์อยู่ได้นานครับ

---

สรุปโบท็อกลดกราม หน้าเรียวสวย ต้องเริ่มต้นอย่างถูกวิธี

ฉีดโบท็อกลดกราม โบลดกรามหน้าเรียว ให้ได้ผลดีและปลอดภัย ต้องคำนึงถึงปัจจัยต่าง ๆ ทั้งคลินิก แพทย์ที่ฉีด และต้องใช้โบท็อกแท้เท่านั้น สำหรับใครที่สนใจการฉีดโบท็อกหรือมีข้อสงสัยอื่น ๆ สามารถปรึกษาหมอก่อนได้ครับ หมอตอบเองครับ

---

อ้างอิง

• Jabbari, D.B. (2018). Botulinum Toxin Treatment. Cambridge International Law Journal.

---