หน้าเนียนใส ดูสุขภาพดี
หน้าเนียนเป็นสิ่งที่หลายคนต้องการ เพราะช่วยให้ผิวดูสุขภาพดี แต่งหน้าติดง่าย และดูอ่อนเยาว์ครับ แต่ปัญหาที่พบบ่อยคือผิวไม่เรียบ รูขุมขนกว้าง เป็นสิว มีแผลเป็นจากสิว หรือผิวหมองคล้ำ
ในบทความนี้หมอสรุปให้ว่า อยากหน้าเนียนต้องทำอย่างไร ? ตั้งแต่การดูแลผิวด้วยตัวเองที่ทำได้ทุกวัน ไปจนถึงหัตถการทางการแพทย์ที่ช่วยให้เห็นผลไวและปลอดภัย
สารบัญ หน้าเนียน
เปิดสาเหตุ ผิวหน้าไม่เรียบเนียน รูขุมขนกว้าง สีผิวไม่สม่ำเสมอ
ปัญหาผิวหน้าไม่เรียบเนียน รูขุมขนกว้าง เป็นสิว หรือสีผิวไม่สม่ำเสมอ มักมีสาเหตุมาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตของเรา ที่ทำให้ผิวเสื่อมสภาพก่อนวัย แต่ในบางรายก็อาจเกิดจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น และโรคประจำตัว เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น หมอสรุปสาเหตุที่ทำให้ผิวหน้าไม่เรียบเนียนไว้ ดังนี้
- ผิวขาดน้ำ : หากในชั้นผิวมีความชุ่มชื้นไม่เพียงพอ จะทำให้ผิวแห้ง ลอกเป็นขุย หรือในบางรายผิวผลิตน้ำมันเพิ่มมากขึ้น จนรูขุมขนกว้างขึ้น
- ผิวแห้งลอก : ในคนไข้ที่มีผิวหน้าแห้งเป็นทุนเดิม หากขาดการดูแลผิวที่เหมาะสม ก็อาจทำให้เกิดปัญหาผิวลอก ผิวแห้งแตกเป็นร่อง
- ผิวมัน-รูขุมขนกว้าง : เมื่อผิวผลิตน้ำมันส่วนเกินมาก จะทำให้รูขุมขนขยายกว้างขึ้นครับ รวมถึงยังเสี่ยงเกิดสิวอุดตันได้ง่าย
- รอยสิว รอยแดง รอยดำ : ทำให้สีผิวดูไม่สม่ำเสมอ สังเกตเห็นได้ชัดเจน ผิวดูไม่เนียนละเอียด
- รอยแผลเป็นและรอยหลุมสิว : เมื่อผิวถูกทำลายจากสิวอักเสบ หรืออุบัติเหตุ จะเกิดทั้งรอยบุ๋มและรอยนูน
- เซลล์ผิวตายสะสม : เมื่ออายุเพิ่มขึ้น ผิวผลัดตัวช้าลง เซลล์ผิวที่ตายแล้วจะทำให้ผิวดูหมองคล้ำ หยาบกร้าน และผิวหน้าดูไม่เรียบเนียน
- ล้างหน้าไม่เหมาะสม : เช่น ใช้สารเคมีแรงเกินไป หรืออุณหภูมิน้ำร้อน-เย็นเกินไป อาจทำให้ผิวเกิดการระคายเคือง
- ไม่บำรุงผิวสม่ำเสมอ : ไม่ทามอยส์เจอไรเซอร์หรือครีมกันแดด ทำให้ผิวเสื่อมสภาพเร็ว
- แสงแดด-รังสี UV : ทำลายคอลลาเจนในชั้นผิว ทำให้ผิวเสื่อมสภาพ ผิวหมองคล้ำ ผิวไหม้แดด
- อายุเพิ่มขึ้น : คอลลาเจนในชั้นผิวลดลง ผิวหย่อนคล้อย และไม่เรียบเนียนเท่าเดิม Collagen สำคัญกับผิวอย่างไร ? อ่านเพิ่มเติมได้ครับ
- ฮอร์โมน / โรคประจำตัวบางชนิด : เช่น ไทรอยด์ ภูมิแพ้ผิวหนัง PCOS ทำให้ผิวมันง่าย สิวเห่อ ผิวไม่เรียบ
- พฤติกรรมการใช้ชีวิต : ความเครียด พักผ่อนน้อย ดื่มน้ำน้อย หรือกินหวานจัด ล้วนทำให้ผิวหมอง สิวขึ้นง่าย และผิวไม่เรียบเนียน
เจาะลึกปัญหาผิวแต่ละประเภท
อยากหน้าเนียน ดูแลผิวด้วยตัวเองอย่างไรดี ?
การทำให้หน้าเนียนเริ่มได้จากการดูแลผิวประจำวันครับ เพราะการใช้สกินแคร์อย่างเหมาะสมและลดพฤติกรรมที่ทำร้ายผิว สามารถช่วยให้ผิวเรียบเนียนขึ้นได้ชัดเจน โดยเฉพาะในคนที่ผิวยังไม่มีปัญหารุนแรงมาก
ดูแลผิวให้ถูกวิธี หน้าเนียนใส ไร้สิว สุขภาพดี
การเลี่ยงปัจจัยที่ทำให้ผิวเสื่อมสภาพ เช่น ของมัน-ทอด น้ำตาลสูง การนอนดึก ความเครียด หรือการโดนแดดจัดเป็นประจำ ถือเป็นพื้นฐานของการมีใบหน้าเนียนใสครับ
แต่สิ่งที่หลายคนมองข้ามคือการดูแลผิวให้ถูกวิธีในชีวิตประจำวัน ซึ่งส่งผลกับความเรียบเนียนของผิวโดยตรง บางพฤติกรรมสามารถช่วยลดการอุดตัน และช่วยให้ผิวฟื้นตัวได้ดีขึ้น หมอแนะนำให้ดูแลผิวตามแนวทาง ดังนี้
- ล้างหน้าด้วยน้ำอุณหภูมิห้อง : ลดการระคายเคือง ไม่ทำให้ผิวแห้งตึงจนเสียสมดุล
- เลือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดหน้าที่อ่อนโยน : หลีกเลี่ยงสารเคมีรุนแรง ที่อาจทำให้ผิวระคายเคือง เช่น แอลกอฮอล์ น้ำหอม
- ล้างเครื่องสำอางทุกครั้งแม้ไม่ได้แต่งหน้าหนัก : ช่วยลดสิ่งตกค้าง และคราบอุดตัน ที่เป็นสาเหตุให้เกิดสิว ผิวไม่เรียบเนียนได้
- เปลี่ยนปลอกหมอนและผ้าเช็ดหน้าเป็นประจำ : ลดการสะสมของเหงื่อ น้ำมัน และแบคทีเรีย
- ใช้มอยส์เจอไรเซอร์หลังล้างหน้าไม่เกิน 3 นาที : ช่วยล็อกความชุ่มชื้น ทำให้ผิวหน้าเนียนนุ่ม และลดปัญหาผิวลอก
- วอร์มครีมก่อนทา : การวอร์มสกินแคร์บริเวณหลังมือก่อนทา ช่วยให้เนื้อครีมซึมเข้าสู่ผิวได้ดียิ่งขึ้น ลดโอกาสเกิดคราบ และการอุดตันบนผิว
- เติมน้ำให้ผิวจากภายใน : การดื่มน้ำให้เพียงพอประมาณ 1.5-2 ลิตร/วัน ช่วยคงความชุ่มชื้นให้ผิว ลดปัญหาผิวแห้ง ผิวขาดน้ำได้
ปรับสกินแคร์ให้เหมาะกับสภาพผิว
การเลือกสกินแคร์ให้เหมาะกับสภาพผิวจะช่วยให้ผิวเรียบเนียน สุขภาพดีได้เร็วขึ้นครับ ซึ่งสภาพผิวแต่รูปแบบ มีแนวทางการเลือกสกินแคร์ ดังนี้
- ผิวมัน-มีสิวง่าย : เลือกเนื้อบางเบา Oil-free, Non-comedogenic ลดการอุดตัน ช่วยให้ผิวเรียบขึ้นโดยไม่ทิ้งความมันส่วนเกิน
- ผิวแห้ง-ผิวลอก : ใช้มอยส์เจอไรเซอร์ที่มี Ceramide, Hyaluronic Acid ช่วยฟื้นฟูเกราะผิวและเพิ่มความชุ่มชื้น ทำให้ผิวเนียนขึ้น
- ผิวผสม : แยกการบำรุงเป็นโซน T-zone และ U-zone เพื่อควบคุมมันเฉพาะจุด และเพิ่มความชุ่มชื้นในจุดที่แห้ง
- ผิวแพ้ง่าย : เลือกสกินแคร์สำหรับผิวบอบบางแพ้ง่าย หลีกเลี่ยงสารที่อาจทำให้ผิวระคายเคือง เช่น แอลกอฮอล์ น้ำหอม หรือกรดเข้มข้น
- ผิวหมอง-สีผิวไม่สม่ำเสมอ : ใช้วิตามินซี, Niacinamide หรือ AHA/BHA อ่อน ๆ ช่วยผลัดเซลล์ผิว ให้ผิวกระจ่างใสและเรียบเนียนขึ้น
- รูขุมขนกว้าง-ผิวไม่ละเอียด : ใช้เรตินอล ช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวและคอลลาเจน ทำให้ผิวเนียนขึ้นเมื่อใช้ต่อเนื่อง
วิธีทำให้ใบหน้าเนียนใสแบบเร่งด่วนด้วยหัตถการทางการแพทย์
การทำให้หน้าเนียนใสแบบเร่งด่วนด้วยหัตถการทางการแพทย์มีตัวเลือกหลากหลายครับ เช่น กลุ่มเลเซอร์หน้าใส เครื่องยกกระชับ และหัตถการแบบฉีด ซึ่งสามารถช่วยฟื้นฟูผิวได้อย่างครอบคลุมทั้งชั้นตื้น และชั้นลึก
อยากผิวหน้าเนียนใส ต้องฉีดอะไร ใช้เครื่องไหนดี ? จำเป็นต้องให้แพทย์ประเมินสภาพผิวของคนไข้ร่วมด้วย เพราะแต่ละวิธีมีกลไกการทำงาน และระยะเวลาเห็นผลแตกต่างกัน เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น หมอสรุปจุดเด่นแต่ละหัตถการให้ครับ
อ่านบทความเพิ่มเติม : รู้จักระบบผิวหนัง พร้อมวิธีฟื้นฟูและเสริมโครงสร้างให้แข็งแรง
ประเมินใบหน้ากับแพทย์ที่ V Square Clinic
1. เลเซอร์หน้าเนียนใส กระชับรูขุมขน ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ
เลเซอร์หน้าใสเป็นหัตถการยอดนิยมสำหรับการปรับ Texture ผิว ให้เนียนละเอียด รักษาหลุมสิว รูขุมขนกว้าง และปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ ลดฝ้า กระ จุดด่างดำ รอยแดงจากสิว รวมถึงเส้นเลือดฝอยบนใบหน้าได้ หลักการทำงานจะแตกต่างกันตามเครื่องเลเซอร์ที่คนไข้ใช้ครับ
ที่ V Square Clinic ใช้เครื่องเลเซอร์ผิวที่ได้มาตรฐานหลายตัว เช่น Picosure Pro, PicoPlus, Discovery Pico, Fotona Dynamis, Bellalux Lite และ Sylfirm X Plus เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาผิวที่คนไข้กังวลใจได้อย่างครอบคลุมครับ
2. Hifu Ultraformer ยกกระชับ ปรับผิวหน้าเนียนละเอียด ในราคาย่อมเยา
Ultraformer เป็นยี่ห้อเครื่อง Hifu (High-Intensity Focused Ultrasound) สัญชาติเกาหลี รุ่นที่นิยม คือ Ultraformer III และ Ultraformer MPT ใช้ในโปรแกรมยกกระชับผิวหน้า ราคาย่อมเยา เพราะมีจุดเด่นที่ส่งพลังงานลงลึกถึงชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นผิวที่ใช้ในการผ่าตัดดึงหน้า
แต่ทั้ง Ultraformer III และ Ultraformer MPT ก็มีหัวยิงสำหรับกระตุ้นคอลลาเจนในผิวชั้นตื้นครับ จึงสามารถนำมาใช้ปรับผิวหน้าให้เนียนละเอียด ลดริ้วรอยตื้น ๆ ได้
3. Ulthera Prime ยกผิวตึง ฟื้นฟูผิวหน้าเนียนละเอียด รูขุมขนเล็ก
Ulthera Prime คือเจเนอเรชันล่าสุดของโปรแกรม Ultherapy ที่พัฒนาต่อยอดจากเครื่อง Ulthera SPT ให้มีระบบประมวลผลเร็วขึ้น ใช้เวลาทำหัตถการน้อยลง จุดเด่นของโปรแกรมนี้อยู่ที่หน้าจอแสดงชั้นผิวแบบเรียลไทม์ ช่วยให้แพทย์สามารถส่งพลังงานได้แม่นยำถึงผิวชั้น SMAS และออกแบบการรักษาให้เหมาะกับสภาพผิวของคนไข้แต่ละคนได้
การทำ Ulthera สามารถให้ผลลัพธ์ทั้งในเรื่องการยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อย และการกระตุ้นคอลลาเจน ฟื้นฟูผิวตื้น ๆ ให้ใบหน้าเนียนละเอียด รูขุมขนเล็กลงได้ครับ
4. Thermage FLX ฟื้นฟูผิวหน้าให้เนียนละเอียด สลายไขมันส่วนเกินใต้ผิว
Thermage FLX เป็นเทคโนโลยียกกระชับ Original ที่ใช้คลื่น Monopolar RF ส่งพลังงานความร้อนตั้งแต่ผิวชั้นตื้นไปจนถึงชั้นไขมันใน 1 Shot สามารถช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้ผิวหน้าเรียบเนียนขึ้น รูขุมขนกระชับ และลดริ้วรอยตื้น ๆ
นอกจากนี้ Thermage FLX ยังเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับงานยกกระชับ โดยเฉพาะในผู้ที่มีไขมันใต้ผิวเยอะ ผิวหนา หรือใบหน้าดูหย่อนคล้อย ช่วยลดเหนียง ยกแก้มห้อย สลายไขมันส่วนเกินได้โดยไม่ต้องผ่าตัด
5. Volnewmer ตัวช่วยยกกระชับ ปรับผิวหน้าเนียน เด้ง เจ็บน้อย
Volnewmer ใช้ Monopolar RF ในการยกกระชับ และปรับคุณภาพผิว ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ให้ผิวหน้าเนียนเด้ง และผิวละเอียดมากขึ้น มาพร้อมระบบ Hydro Continuous Cooling ที่ช่วยลดความเจ็บทั้งก่อน ระหว่าง และหลังยิงพลังงาน รวมถึงยังช่วยลดโอกาสผิวเบิร์น เหมาะกับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิว พร้อมยกกระชับ แต่กังวลเรื่องความเจ็บ
6. ฉีดฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว เติมน้ำ แก้ริ้วรอย หลุมสิว ให้ผิวหน้าเนียน ชุ่มชื้น
ฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว (Skin Booster Filler) เป็นการฉีดไฮยาลูโรนิก แอซิดเนื้อละเอียดลงในผิวชั้นตื้น เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น เติมน้ำให้ผิว เติมหลุมสิว และริ้วรอยตื้น ๆ ทำให้ผิวหน้าเนียนละเอียดขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
เหมาะกับผู้ที่ผิวแห้งกร้าน แต่งหน้าไม่ติด รูขุมขนกว้าง หรือผิวดูโทรมจากการพักผ่อนน้อย รวมถึงผู้ที่ต้องการผิวอิ่มน้ำ ฉ่ำวาว แบบ Glass Skin
7. ฉีดเมโสหน้าใส เติมวิตามินผิว ลดสิว เพิ่มความกระจ่างใสให้ใบหน้า
เมโสหน้าใส (Mesotherapy) เป็นการฉีดวิตามินและสารบำรุงเข้าสู่ผิวหน้าโดยตรง ช่วยฟื้นฟูผิวหมองคล้ำ ผิวแห้งลอก หรือผิวแพ้ง่าย ให้ผิวขาวกระจ่างใส เรียบเนียนมากขึ้น ซึ่งส่วนผสมจะแตกต่างกันออกไปตามยี่ห้อที่ใช้ครับ
8. ฉีด Rejuran เร่งฟื้นฟูผิว ให้เรียบเนียน กระจ่างใส อิ่มน้ำ
Rejuran เป็น Skin Booster ที่ใช้สารสกัด Polynucleotide (PN) เพื่อเร่งกระบวนการซ่อมแซมและฟื้นฟูเซลล์ผิว เหมาะกับผู้ที่ต้องการให้ใบหน้าเนียนใส กระชับรูขุมขน ลดรอยสิว รวมถึงยังช่วยเสริมเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรงขึ้น แก้ปัญหาสิว ผิวแพ้ง่าย
9. ฉีด Collagen Biostimulator กระตุ้นคอลลาเจน ฟื้นฟูผิวหน้าเนียน เสริมโครงสร้างจากภายใน
Collagen Biostimulator คือการฉีดสารกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เช่น PLLA, CaHA, PDLLA หรือ PDO เพื่อกระตุ้นการทำงานของเซลล์ไฟโบรบลาสต์ (Fibroblast) ที่ทำหน้าที่ผลิตเส้นใยคอลลาเจน ทำให้ผิวเนียนละเอียด แน่นกระชับ ริ้วรอยจางลง และยังช่วยฟื้นฟูโครงสร้างผิวจากภายในให้แข็งแรงขึ้น
ในปัจจุบันมีหลายสูตรและหลายยี่ห้อให้เลือก ซึ่งแต่ละตัวจะมีส่วนผสมและกลไกการกระตุ้นคอลลาเจนแตกต่างกัน สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ครับ
10. ฉีดโบท็อกกระชับรูขุมขน แก้ปัญหาความมันส่วนเกินบนผิว
โบท็อกกระชับรูขุมขน ช่วยลดการทำงานของต่อมไขมัน ทำให้ความมันส่วนเกินบนผิวลดลง และรูขุมขนเล็กลงครับ รวมถึงยังช่วยลดโอกาสเกิดสิวอุดตันอีกด้วย เหมาะกับคนไข้ที่มีปัญหาผิวหน้ามันเยิ้ม รูขุมขนกว้าง แต่งหน้าไม่ติด
ส่วนจะเลือกใช้โบท็อกยี่ห้อไหนดี ? จำเป็นต้องให้แพทย์ประเมินร่วมด้วยครับ โดยโบท็อกซ์ยี่ห้อที่ผ่านการรับรองจากอย.ไทยมีด้วยกันหลายตัว แต่ละตัวมีจุดเด่นอย่างไร ? อ่านเพิ่มเติมได้ครับ
11. ฉีดวิตามินผิวขาว (IV Drip) ฟื้นฟูผิวให้เนียน กระจ่างใส พร้อมเสริมภูมิคุ้มกัน
IV Drip เป็นการนำวิตามิน และสารอาหารที่จำเป็นเข้าสู่ร่างกาย ผ่านทางหลอดเลือดโดยตรง ทำให้ร่างกายดูดซึมได้เต็มประสิทธิภาพ เหมาะกับผู้ที่ต้องการฟื้นฟูผิวและสุขภาพแบบองค์รวม ช่วยให้ผิวหน้าและผิวกายสุขภาพดีขึ้น
สูตรที่ใช้ในการฉีดผิวขาว หรือบำรุงผิวพรรณมักประกอบด้วยวิตามินซี, วิตามินบีรวม, และสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidants) ที่ช่วยลดความหมองคล้ำ ฟื้นฟูผิวขาดน้ำ และเสริมเกราะให้ผิวแข็งแรง ช่วยให้ผิวเนียนนุ่ม เหมาะกับผู้ที่พักผ่อนน้อย เจอมลภาวะ หรืออยากให้ผิวกลับมาดูสุขภาพดีแบบรวดเร็วครับ
อ่านบทความเพิ่มเติม : ฉีดวิตามินผิว กี่ครั้งเห็นผล ? ควรทำบ่อยแค่ไหน ?
อยากหน้าเนียน ใช้เวลานานแค่ไหน ? ต้องทำบ่อยไหม ?
ระยะเวลาในการทำให้หน้าเนียนขึ้นขึ้นอยู่กับสภาพผิวเดิมและประเภทหัตถการที่เลือกครับ หากดูแลเฉพาะสกินแคร์อาจใช้เวลาหลายสัปดาห์-หลายเดือน แต่ถ้าหัตถการทางการแพทย์จะเห็นผลไวกว่า ส่วนใหญ่เริ่มเห็นใน 1-2 สัปดาห์ และให้ผลลัพธ์เต็มที่ใน 1-3 เดือน เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น หมอสรุปเป็นตาราง ดังนี้
| ประเภทหัตถการ | ความถี่ที่แนะนำ | ระยะเวลาเห็นผล | ผลลัพธ์อยู่ได้นาน |
|---|---|---|---|
| เลเซอร์หน้าใส | ทุก 2-4 สัปดาห์ ทำต่อเนื่องอย่างน้อย 3-5 ครั้ง | 1-2 สัปดาห์ | ขึ้นอยู่ปัญหาและการดูแลผิว |
| Hifu Ultraformer | ปีละ 1-2 ครั้ง | หลังทำ 20% ชัดเจน 2-3 เดือน | 5-6 เดือน |
| Ulthera Prime | ปีละ 1 ครั้ง | หลังทำ 20-30% ชัดเจน 2-3 เดือน | 1 ปี |
| Thermage FLX | ปีละ 1 ครั้ง | หลังทำ 20% ชัดเจน 2-3 เดือน | 1-2 ปี |
| Volnewmer | ปีละ 1-2 ครั้ง | หลังทำ 20% ชัดเจน 2-3 เดือน | 6-8 เดือน |
| ฟิลเลอร์ปรับสภาพผิว | ปีละ 1 ครั้ง | หลังทำ 70-80% ชัดเจน 14 วัน | 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ/รุ่น |
| เมโสหน้าใส | สัปดาห์ละ 1 ครั้งในเดือนแรก หลังจากนั้น 1 ครั้งทุก 2-3 สัปดาห์ | เริ่มเห็นผล 3 วัน ชัดเจน 1-2 สัปดาห์ | 1-2 เดือน |
| Rejuran | ทุก 2-4 สัปดาห์ ฉีดต่อเนื่อง 4 ครั้ง | เริ่มเห็นผล 3-5 วัน ชัดเจน 4 สัปดาห์ | 6-8 เดือน |
| Collagen Biostimulator | ทุก 4-8 สัปดาห์ ฉีดต่อเนื่อง 2-3 ครั้ง ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ | เริ่มเห็นผล 1-2 สัปดาห์ ชัดเจน 6-8 สัปดาห์ | 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ |
| โบท็อกกระชับรูขุมขน | ทุก 3-5 เดือน | เริ่มเห็นผล 2-3 วัน ชัดเจน 1 สัปดาห์ | 3-4 เดือน |
| ฉีดวิตามินผิว (IV Drip) | สัปดาห์ละ 1 ครั้ง ฉีดต่อเนื่อง 4-6 ครั้ง | เริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ครั้งที่ 2 | 1 เดือน |
สนใจทำหัตถการให้ผิวหน้าเนียนใส ที่ V Square Clinic
คลิกอัปเดตโปรโมชันล่าสุด
วิธีป้องกันปัญหา ผิวหน้าไม่เรียบเนียน เป็นสิว
วิธีรักษาให้หน้าเนียนใส ผิวแข็งแรง ไม่มีปัญหาผิวต่าง ๆ เช่น ผิวไม่เรียบ เป็นสิว หรือผิวหมองคล้ำ มีดังนี้
- ดูแลผิวพื้นฐานให้ถูกต้อง : เลือกคลีนเซอร์เหมาะกับสภาพผิว ไม่ล้างหน้าบ่อยเกินไป หลีกเลี่ยงการสครับแรง ๆ และใช้สกินแคร์ที่ไม่อุดตัน (Non-comedogenic)
- หลีกเลี่ยงปัจจัยทำร้ายผิว : ลดอาหารมัน-ทอด นอนให้พอ ลดความเครียด และหลีกเลี่ยงมลภาวะ/ฝุ่น PM2.5 ที่ทำให้เกิดการอักเสบและสิว
- ป้องกันแสงแดดและ UV : ทาครีมกันแดดทุกวัน แม้อยู่ในอาคาร พกหมวกหรือร่มเมื่อเจอแดดจัด เพราะ UV ทำให้ผิวหยาบกร้านและรูขุมขนเด่นชัด
- ดูแลผิวให้แข็งแรงในระยะยาว : เติมความชุ่มชื้นให้ผิวสม่ำเสมอ ใช้สกินแคร์ที่ช่วยเสริมเกราะผิว เช่น เซราไมด์ หรือเลือกการผลัดเซลล์ผิวอ่อนโยน เพื่อให้ผิวเรียบเนียนต่อเนื่องครับ
นอกจากนี้ ในกรณีที่คนไข้มีปัญหาแต่งหน้าไม่ติด ต้องการกำจัดขนอ่อนบนใบหน้า หนวด หรือเครา หมอแนะนำให้โกนขนหน้าให้ถูกวิธี หรือเลือกกำจัดขนด้วยเลเซอร์ขนหน้า เพื่อช่วยลดโอกาสเกิดการระคายเคือง ขนคุด ที่ทำให้ผิวหน้าไม่เรียบเนียนครับ
อ่านบทความเพิ่มเติม
FAQ หน้าเนียน
ใช้ครีมอย่างเดียวเพียงพอให้หน้าเนียนได้ไหม ?
ใช้ครีมสามารถช่วยให้ผิวดีขึ้นได้ครับ โดยเฉพาะกลุ่มที่เพิ่มความชุ่มชื้น เสริมเกราะผิว หรือช่วยผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน แต่ถ้าปัญหาผิวไม่เรียบเนียนมาจากคอลลาเจนลดลง รูขุมขนกว้าง หรือรอยสิวลึก การใช้ครีมอย่างเดียวอาจไม่พอ ต้องใช้หัตถการร่วมด้วยจึงจะเห็นผลหน้าเนียนที่ชัดเจนครับ
อยากหน้าเนียนใสไร้สิว รูขุมขนกระชับ แบบเร่งด่วนเลือกวิธีไหนดี ?
จำเป็นต้องให้แพทย์ประเมินจากสภาพผิวของคนไข้ครับ แต่ส่วนใหญ่หัตถการกลุ่มงานฉีด เช่น ฟิลเลอร์, เมโสหน้าใส, โบท็อก และ Rejuran รวมถึงเลเซอร์หน้าใส จะเห็นการเปลี่ยนแปลงเร็วที่สุด
อยากหน้าเนียนใส ใช้อะไรดี ?
เริ่มจากสกินแคร์พื้นฐาน เช่น มอยส์เจอไรเซอร์ กลุ่มไฮยา-เซราไมด์ และกันแดดทุกวันครับ จากนั้นหากต้องการผลชัดขึ้น ให้เพิ่มผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวอ่อนโยน (AHA / BHA / PHA) ร่วมกับทรีตเมนต์ที่ช่วยเรื่องความชุ่มชื้นหรือกระชับรูขุมขน ผิวจะเรียบเนียนสม่ำเสมอขึ้นเรื่อย ๆ ครับ
ผิวแพ้ง่าย ทำเลเซอร์ให้หน้าเนียนได้ไหม ?
ผู้ที่มีผิวบอบบาง แพ้ง่ายก็สามารถทำเลเซอร์ผิวหน้าได้ครับ โดยคนไข้สามารถแจ้งความกังวลใจกับแพทย์ตอนประเมินใบหน้าได้ แพทย์จะช่วยประเมินสภาพผิวและออกแบบการรักษาที่เหมาะสมที่สุด
สรุปเคล็ดลับหน้าเนียนใส ควรดูแลอย่างไรให้ได้ผลระยะยาว
อยากมีหน้าเนียนใสอย่างยั่งยืน คนไข้สามารถเริ่มจากการดูแลผิวด้วยสกินแคร์พื้นฐานควบคู่กับหัตถการทางการแพทย์ครับ สกินแคร์ช่วยเสริมเกราะผิวและเพิ่มความชุ่มชื้น ส่วนหัตถการจะช่วยแก้ปัญหาที่ลึกกว่า เช่น รูขุมขนกว้าง ผิวไม่เรียบ หรือคอลลาเจนลดลงจากอายุและการใช้ชีวิต
ปัจจุบันมีหลายตัวเลือกให้ฟื้นฟูผิวได้เร็วขึ้น ทั้งเลเซอร์ เครื่องยกกระชับ หรือการฉีด Skin Booster ซึ่งมีจุดเด่นแตกต่างกันออกไป หากต้องการผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและตอบโจทย์ที่สุด แนะนำให้ปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินและเลือกวิธีที่เหมาะกับผิวของตัวเองครับ
อ้างอิง
- Nguyen KH, Pham LD, Nguyen TTT, Chu H, Nguyen TD, Ngo DK, Nguyen QC, Le Thai Van T. Moisturizing effectiveness of immediate compared with delayed moisturization. J Cosmet Dermatol. 2022 Oct;21(10):5134-5140. doi: 10.1111/jocd.15003. Epub 2022 Jun 4. PMID: 35435321.
เลเซอร์ปากคล้ำ คืออะไร ? ช่วยให้ปากชมพูขึ้นจริงไหม ? กี่วันเห็นผล ? อยู่ได้ถาวรไหม ? ราคาเท่าไหร่ ?
Reading Time: 4 minutesเลเซอร์ปากคล้ำ เป็นวิธีแก้ปัญหาปากคล้ำ ปากดำด้วยการลดเม็ดสีเมลานินที่สะสมอยู่บริเวณริมฝีปาก หลังทำจะช่วยให้สีปากค่อย ๆ สว่างขึ้น ดูอมชมพูเป็นธรรมชาติ โดยไม่ต้องสัก ไม่ต้องใช้สีสังเคราะห์ ไม่ต้องพักฟื้น และไม่เจ็บตัวมากครับ ในบทความนี้หมอจะสรุปข้อควรรู้ก่อนทำเลเซอร์ เปรียบเทียบกับการสักปาก พร้อมตอบคำถามที่หลายคนสงสัย
Thermage FLX ราคาเท่าไร เช็กราคาแต่ละตำแหน่ง พร้อมอัปเดตโ...
Reading Time: 3 minutesThermage FLX ราคาขึ้นอยู่กับจำนวน Shot ที่ใช้ครับ ซึ่งหมอจะประเมินจากบริเวณที่ทำและระดับปัญหาผิวของแต่ละคน เช่น ทำ Thermage FLX 900 Shot ราคาประมาณ 60,000 บาท สามารถยกได้ทั่วใบหน้า แต่ถ้าเป็นพื้นที่กว้าง หรือหลายตำแหน่ง ราคาก็จะเพิ่มขึ้นตามจำนวนช็อตที่ใช้ครับ
รู้จักเทคนิค Bio Aesthetic Points (BAP) คืออะไร ? ฉีดจุดไ...
Reading Time: 6 minutesBio Aesthetic Points (BAP) เป็นเทคนิคฉีดผิวฟูแบบใหม่ที่ฉีดเพียง 5 จุด/ข้าง แต่ยาสามารภกระจายตัวกว้างทั่วใบหน้า ทำให้ได้ผลลัพธ์สม่ำเสมอ ไม่กระจุกตัวเป็นก้อน ที่สำคัญคือเจ็บน้อย เหมาะสำหรับคนที่ทนเจ็บได้น้อย มีผิวบาง ช้ำหรือระคายเคืองง่ายครับ บทความนี้หมอจะพาเจาะลึกว่าเทคนิค Bio Aesthetic Points คืออะไร ?
YAG Laser ราคาเท่าไหร่ ? แชร์ทริคเลือกคอร์สอย่างไร ? ให้ค...
Reading Time: 5 minutesYAG Laser ราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 500.-/ครั้งครับ แต่บางคลินิกก็มีราคาที่ถูกกว่านี้หรือสูงกว่านี้ ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งชนิดเครื่อง คุณภาพการยิง และผู้เชี่ยวชาญที่ดูแล โปรแกรมนี้ถือเป็นหนึ่งในหัตถการกำจัดขนที่ได้รับความนิยมมาก เพราะทำได้หลายตำแหน่งตั้งแต่หัวจรดเท้า ไม่ว่าจะเป็น รักแร้ หนวด เครา แขน ขา หรือจุดซ่อนเร้น
Gentle YAG Laser คืออะไร ? ทำงานอย่างไร ? เหมาะกับใครบ้าง ?
Reading Time: 4 minutesGentle YAG คือเลเซอร์ Nd:YAG 1064 nm ที่ถูกออกแบบมาเพื่อกำจัดขนอย่างอ่อนโยน โดยเฉพาะผิวแทน-ผิวคล้ำ เพราะมีระบบทำความเย็น Dynamic Cooling Device (DCD) ที่ช่วยลดการระคายเคืองและลดความเสี่ยงผิวไหม้ บทความนี้หมอจะอธิบายข้อดี ข้อจำกัด กลไกทางการแพทย์ และเปรียบเทียบกับ Nd:YAG รุ่นใหม่ ๆ
