วี สแควร์

ไหมโครงตาข่าย (Tesslift) คืออะไร ราคาเท่าไหร่ ต่างจากไหมก้างปลาแบบอื่นอย่างไร ?

Reading Time: 3 minutes

ไหมโครงตาข่าย คืออะไร

ไหมโครงตาข่าย คืออะไร

ไหมโครงตาข่าย (Tesslift) คืออะไร ? ต่างจากไหมแบบอื่นอย่างไร ?

ร้อยไหม เป็นหัตถการที่เราเคยได้ยินกันมานานและเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับคนที่ต้องการยกกระชับ ปรับรูปหน้าเรียวโดยไม่อยากผ่าตัดศัลยกรรม ในปัจจุบันมีการผลิตและพัฒนาไหมออกมาหลากหลายชนิด หลากหลายแบบ และแต่ละคลินิกก็มีการตั้งชื่อที่แตกต่างกันออกไป เช่น ไหมล็อค ไหมก้างปลา ไหมเรียบ ไหมทอร์นาโด ไหมมิ้นท์ ไหมกุหลาบ ฯลฯ และ “ไหมโครงตาข่าย” ก็เป็นนวัตกรรมการร้อยไหมที่กำลังได้รับความนิยมในขณะนี้ครับ

ไหมโครงตาข่าย เป็นไหมละลายวัสดุ PDO (Polydioxanone) ที่มีเงี่ยงลักษณะคล้ายก้างปลา แบบ 3D เป็นแกนหลักด้านในและโครงตาข่ายล้อมรอบเส้นไหมทั้ง 360 องศาอีกชั้นหนึ่ง ทำให้เส้นไหมมีความแข็งแรง เกาะเนื้อเยื่อผิวได้ดีขึ้นเมื่อเทียบกับไหมชนิดอื่น นอกจากนี้ยังเพิ่มประสิทธิภาพในการกระตุ้นให้ผิวสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวดูอิ่มฟู ยกกระชับได้ดี และคงผลลัพธ์ได้นานขึ้นครับ

tesslift soft v-derm

บทความนี้ หมอจะอธิบายโดยละเอียดว่า ไหมโครงตาข่ายดีอย่างไร ต่างจากไหมแบบอื่นอย่างไรอยู่ได้นานไหม ราคาเท่าไหร่ รวมถึงแนะนำวิธีดูแลตัวเองหลังร้อยไหม เพื่อให้คงผลลัพธ์ได้นานขึ้น หากใครที่กำลังตัดสินใจร้อยไหมโครงตาข่ายอยู่ ห้ามพลาดบทความนี้ครับ


ลักษณะของไหมโครงตาข่าย

ไหมโครงตาข่าย  (Mesh Scaffold Thread Lift) หรือเรียกอีกชื่อว่า ไหม Tesslift soft ถูกผลิตและพัฒนาโดยบริษัท Tesslift ประเทศเกาหลีใต้ เป็นไหมชนิดแรกของโลกที่ใช้หลัก Biomedical engineering สร้างไหมเป็นรูปแบบโครงตาข่าย (Mesh treads)

ลักษณะของไหมโครงตาข่ายจะเป็นเส้นไหมวัสดุ PDO เส้นสีน้ำเงินที่มีเงี่ยงรอบเส้นไหม และถูกคลุมด้วยไหมเส้นใยตาข่ายรอบด้าน ทำให้ไหมมีความแข็งแรงมากกว่าไหมเงี่ยงทั่วไปถึง 80 เท่า และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้มากขึ้น ส่งผลให้แก้มที่หย่อนคล้อยเกิดการยกกระชับได้ดีขึ้น ช่วยในการปรับรูปหน้าเรียว และยังสามารถร้อยบริเวณหางตา หนังตา เพื่อแก้ปัญหาหางตาตก หนังตาตก ได้อีกด้วยครับ

โครงสร้างไหมโครงตาข่าย

โครงตาข่ายที่หุ้มรอบเส้นไหม เป็นการผลิตจากการสังเคราะห์เส้นใยพอลิเมอร์เส้นเดี่ยว แล้วนำมาทอแบบพิเศษให้เป็นโครงตาข่าย เมื่อร้อยเข้าชั้นผิวหนัง ไหมจะกระตุ้นการสร้างเซลล์ใหม่ได้รอบทิศทาง และเนื้อเยื่อ คอลลาเจน อิลาสตินที่ร่างกายสร้างขึ้นมาใหม่สามารถแทรกเข้าช่องว่างของตาข่ายได้ ส่งผลทำให้เกิดการประสานเนื้อเยื่อและเกิดแรงยึดเกาะของผิวกับเส้นไหมได้มากขึ้น จะเห็นว่าผิวจะถูกดึงกระชับได้เร็ว ผิวเฟิร์มขึ้น และอยู่ได้นานมากขึ้นเมื่อเทียบกับไหม PDO ชนิดอื่น ๆ ครับ

เนื้อเยื่อหลังร้อยไหมตาข่าย

หลังร้อยไหมประมาณ 1-2 เดือน เนื้อเยื่อผิวที่สร้างขึ้นมาใหม่เจริญเต็มที่ และแทรกตัวเข้าไปตามรูของไหมตาข่าย ส่งผลให้ผิวแน่น กระชับ เกิดแรงยกของผิวได้ดีมากขึ้น


ไหมโครงตาข่าย ปลอดภัยไหม

ไหมโครงตาข่าย เป็นไหมละลายวัสดุ PDO ที่เป็นวัสดุที่ใช้ในวงการแพทย์มาย่างยาวนาน นำเข้าโดยบริษัท Edencolors Thailand Co.,LTD ผ่านการรับรองโดยสำนักงานอาหารและยาประเทศเกาหลี (Korean FDA) และ สำนักงานอาหารและยาประเทศไทย (Thai FDA) หากเลือกทำกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ในการร้อยไหม และทำในคลินิกที่ได้มาตรฐาน ก็สามารถมั่นใจได้ในความปลอดภัยครับ


ไหมโครงตาข่าย แตกต่างกับไหมชนิดอื่นอย่างไร ?

จุดหลัก ๆ ที่ทำให้ไหมโครงตาข่ายต่างจากไหมชนิดอื่น คือ การมีตาข่ายล้อมรอบเส้นไหมครับ ไหมที่มีเงี่ยงแบบอื่น เช่น ไหมล็อค (barbed thread) ไหมก้างปลา จะเป็นเส้นไหมที่มีเงี่ยงเหมือนแกนกลางของไหมโครงตาข่าย แต่ไม่มีตาข่ายปกคลุมรอบเส้นไหม ส่วนไหมมิ้นท์ (MINT LIFT) หรือ ไหมกุหลาบ เป็นไหมที่ผลิตเงี่ยงมาพร้อมกับการขึ้นรูปเส้นไหมและไม่มีตาข่ายคลุมรอบเส้นไหมเช่นเดียวกันครับ

นอกจากนี้ ไหมโครงตาข่าย ก็แตกต่างจากการร้อยไหมคอลลาเจน ไหมเกลียว ไหมเรียบ ที่เป็นไหมเส้นตรงยาว ไม่มีเงี่ยงหรือส่วนที่แยกออกมาจากแกนกลางไหม มักใช้กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในจุดเล็ก ๆ เพื่อเติมเต็มร่องริ้วรอยต่าง ๆ ครับ

ไหมละลายแต่ละประเภท

เทคนิคการร้อยไหมโครงตาข่าย

นอกจากลักษณะของเส้นไหมโครงตาข่ายที่ช่วยเพิ่มการยึดเกาะผิวแล้ว ส่วนสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่ส่งผลให้การร้อยไหมโครงตาข่ายมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น คือเทคนิคที่ใช้ในการร้อยไหมโครงตาข่ายครับ โดยขึ้นตอนหลัก ๆ ที่ใช้มีดังนี้

เทคนิคการร้อยไหมโครงตาข่าย
  1. แพทย์จะประเมินปัญหาของแต่ละเคสและวางแนวทางการร้อยไหมก่อน จากนั้นจะทำการสอดเข็มที่มีไหมโครงตาข่ายเข้าไปยังชั้นใต้ผิว (Subcutaneous layers)
  2. ดึงเข็มกลับทิศทางเดิมและวางแนวไหมจนถึงตำแหน่งที่ต้องการ จะเกิดตำแหน่งขนานกันของเส้นไหม เรียกว่า Double Parallel positioning of 3D mesh ในบริเวณที่ขนานกันนี้จะเกิดการสร้างเนื้อเยื่อผิวขึ้นมาใหม่รอบทิศทาง ทำให้เส้นไหมยึดเกาะกับผิวได้ดียิ่งขึ้น 
  3. ดึงเข็มออกจนพ้นชั้นบนของผิว เพื่อเตรียมการร้อยในแนวที่ 2
  4. สอดเข็มกลับเพื่อนำเส้นไหมส่วนที่เหลือเข้าชั้นผิว จะทำให้เกิดแนวไหมอีกแนวหนึ่ง
  5. ดึงเข็มออกจนพ้นชั้นบนของผิวอีกครั้ง จะทำให้เกิดจุดที่เส้นไหมขนานกัน 3 เส้น เรียกว่า Triple Parallel positioning of 3D mesh เพื่อเพิ่มความแข็งแรงในการตรึง และการวางไหมลักษณะนี้มีส่วนสำคัญทำให้เกิดการกระจายแรงของเส้นไหมทั้งเส้น ส่งผลให้คนไข้รู้สึกตึงหรือเจ็บน้อยลง เบาสบายผิวมากขึ้น

ไหมโครงตาข่าย ใช้กับตำแหน่งไหนได้บ้าง ?

  • แก้ม กรอบหน้า
  • แก้มตอบ
  • ผิวที่ไม่กระชับ หย่อนคล้อย
  • หางตา Foxy eyes
  • หนังตา เปลือกตา
  • จมูก ปีกจมูก สันจมูก

ไหมโครงตาข่าย เหมาะกับใคร ?

  • เหมาะกับผู้ที่มีแก้มหย่อนคล้อยตามวัย แก้มไม่กระชับ ต้องการปรับรูปหน้าเรียว ไหมโครงตาข่ายจะช่วยให้แก้มที่หย่อน ยกกระชับขึ้น หน้ารูป V shape มากขึ้น
  • เหมาะกับผู้ที่มีแก้มตอบจากความหย่อนคล้อย ผิวขาดคอลลาเจน ไขมันเนื้อแก้มน้อย ไหมโครงตาข่ายจะช่วยสร้างคอลลาเจนได้ดี แก้มตอบเต็มขึ้น ใบหน้าดูเรียวขึ้น
  • เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวที่ไม่กระชับ หย่อนคล้อยในบางบริเวณ เช่น หน้าผาก ร่องแก้ม ร่องมุมปาก สามารถร้อยไหมโครงตาข่ายเสริมกับการฉีดฟิลเลอร์เพื่อเติมเต็มร่องลึก หรือเพิ่มความแน่นกระชับให้ผิว
  • เหมาะกับผู้ที่มีตาตก หางตาตก ต้องการยกหางตา ทำ Foxy eyes เพิ่มความสดใสให้ใบหน้า
  • เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาหนังตาตก เปลือกตาตก หย่อนคล้อย ใบหน้าดูเศร้า สามารถใช้การร้อยไหมโครงตาข่ายเพื่อยกหนังตา ดวงตากลมโต ดูสดใสขึ้น
  • เหมาะกับผู้ที่ต้องการเพิ่มความคมชัดของสันจมูก ลดปีกจมูก โดยต้องใช้ไหม Tesslift soft สำหรับจมูกโดยเฉพาะ

ผลลัพธ์หลังร้อยไหมโครงตาข่ายเห็นผลกี่วัน ?

สำหรับคนที่สงสัยว่า ร้อยไหม กี่วันเห็นผล ? คำตอบคือการร้อยไหม Tesslift จะเห็นการเปลี่ยนแปลงทันที เช่นเดียวกับไหมก้างปลาแบบทั่วไป แก้มที่มีความหย่อนคล้อยจะดูยกขึ้น ร่องแก้ม ร่องมุมปาก จะดูตื้นขึ้นเพราะแรงดึงของเส้นไหม แต่หลังจากร้อยไหม 3-4 ชั่วโมง อาจมีอาการบวมเพิ่มมากขึ้น ต้องรอประมาณ 7-14 วันเพื่อให้ยุบบวมเต็มที่จึงจะเห็นผลชัดขึ้นครับ

หลังร้อยไหมตาข่าย เส้นไหมจะกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว ผิวจะค่อย ๆ เฟิร์มกระชับขึ้น ผลการร้อยไหมตาข่าย จะเห็นได้ชัดเจนที่สุดประมาณ 1 เดือนครับ ทั้งนี้ควรปฏิบัติตามคำแนะนำหลังร้อยไหม เพื่อให้การบวมช้ำลดลงเร็วขึ้นและคงผลลัพธ์ได้นานขึ้นครับ

อ่านเพิ่มเติม : หลังร้อยไหม กี่วันเห็นผล? บวมกี่วัน? อยู่ได้กี่ปี? มีข้อปฏิบัติตัวหลังทำอย่างไรบ้าง?


ขั้นตอนการร้อยไหมโครงตาข่าย

การร้อยไหมมีขั้นตอนในการทำคล้ายกับการร้อยไหมแบบอื่น ๆ โดยมีขั้นตอนดังนี้

  • แพทย์จะทำการซักประวัติ ประเมินรูปหน้า และสอบถามความต้องการของคนไข้ เพื่อวางแผนการรักษา และให้คำปรึกษาและแนะนำวิธีแก้ไขปัญหาจุดที่คนไข้มีความกังวล 
  • เมื่อปรึกษาแพทย์เรียบร้อยแล้ว ถ้าพร้อมและตัดสินใจร้อยไหมโครงตาข่าย ก็สามารถร้อยไหมได้เลยครับ ควรแจ้งประวัติการแพ้ยา วิตามินและยาที่ทานประจำ (ก่อนร้อยไหมควรงดยาและวิตามิน เช่น แอสไพริน, NSAIDs, ginseng และ Vitamin E)
  • 24 ชั่วโมงก่อนร้อยไหม ควรงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด
  • หากกลัวเจ็บ สามารถใช้ยาทาทาบริเวณผิวเพื่อลดความเจ็บก่อนได้
  • แพทย์จะทำการฉีดยาชาและร้อยไหมตามแนวที่ได้วางแผนไว้
  • ใช้เวลาร้อยไหมโครงตาข่ายทั้งหมดรวมประมาณ 45-60 นาที

รีวิวหลังร้อยไหมโครงตาข่าย

รีวิวร้อยไหมตาข่าย 1
รีวิวร้อยไหมตาข่าย 2

หลังร้อยไหมยกหางตา Foxy yes ด้วยไหมโครงตาข่าย เห็นผลว่าหางตา หนังตา ยกขึ้นหลังทำทันที

รีวิวร้อยไหมก้างปลาแบบอื่น ๆ : https://www.vsquareclinic.com/review/thread-lifting-cheeks-khun-por/


ไหมโครงตาข่าย ราคาเท่าไหร่

ราคาโปรโมชั่น ไหมโครงตาข่าย Tesslift soft

  • 4 เส้น 20,000.-
  • 6 เส้น 28,000.-
  • 8 เส้น 35,000.-

ราคาโปรโมชั่น ไหมโครงตาข่าย Tesslift soft Foxy eyes

  • 2 เส้น 25,000.-
  • 4 เส้น 40,000.- 

อ่านเพิ่มเติม : ร้อยไหม ราคาโปรโมชั่น ที่ V square clinic


การดูแลหลังไหมโครงตาข่าย

การปฏิบัติตัวหลังร้อยไหมโครงตาข่ายอย่างถูกวิธี จะช่วยให้คงผลลัพธ์ได้อยู่นานขึ้นและยังลดอาการบวมช้ำได้อีกด้วยครับ โดยข้อปฏิบัติหลังทำก็ปฏิบัติตามได้ไม่ยาก ดังนี้ครับ

  1. งดการอ้าปากกว้าง ๆ เช่น การแปรงฟันแรง ๆ หรือ การอ้าปากทำฟัน  ทั้งนี้ เพื่อลดความเสี่ยงการดึงรั้งของเส้นไหมในผิว ในช่วง1เดือนแรก
  2. งด หรือ หลีกเลี่ยง การสูบบุหรี่และแอลกอฮอล์ เพราะเป็นตัวการทำร้ายผิว ทำให้ผิวเสื่อมสภาพเร็วยิ่งขึ้น
  3. งดนวดหน้าหรือทำทรีทเม้นต์  ในระยะ 14 วันหลังร้อยไหม หรือ 48 ชั่วโมงเป็นอย่างน้อย
  4. แนะนำให้ดื่มน้ำปริมาณมากๆ ประมาณ 1.5 – 2 ลิตรต่อวัน เพื่อช่วยให้ผิวเต่งตึง สุขภาพดี และรักษาสภาพผิวให้มีความชุ่มชื้นอยู่เสมอ

ข้อดี ข้อเสีย ไหมโครงตาข่าย

ข้อดีของไหมโครงตาข่าย ข้อเสียของไหมโครงตาข่าย
เงี่ยงไหมที่มีลักษณะคล้ายก้างปลาจะเกี่ยวดึงผิวขึ้นได้ทันที เห็นการเปลี่ยนแปลงหลังทำทันที ถ้าร้อยไหมด้วยเทคนิคที่ไม่ถูกต้องหรือร้อยตื้นเกินไป จะเกิดรอยบุ๋มขึ้นตามแนวที่ร้อยไหมได้
เป็นไหมละลาย สามารถละลายได้หมด 100% ตามระยะเวลา ไม่มีส่วนผสมของโลหะ ไม่มีสารตกค้าง ไหมวัสดุ PDO ได้รับการรับรองจากอย.ทั้งไทยและต่างประเทศ ปลอดภัย ถ้าร้อยไหมซ้อนทับกันมากเกินไปและอยู่ในตำแหน่งที่ไม่ถูกต้อง อาจทำให้เกิด พังผืด (fibrosis) ได้ หรือถ้าร้อยผิวชั้นตื้นเกินไป ก็จะดึงรั้งผิวให้ผิดรูปได้
หลังไหมละลายหมด จะเหลือเส้นใย elastin ที่ร่างกายเราสร้างขึ้นมาซึ่งช่วยประคองผิวต่อได้ มีโอกาสเกิดไหมขาด ไหมหัก เกิดการเคลื่อนตัวและทะลุโผล่ออกมานอกผิวหนังได้ หากร้อยตึงเกินไปหรือร้อยไม่ถูกวิธี
ช่วยยกพยุงผิวได้คล้ายเส้นเอ็นที่อยู่บนใบหน้าตามธรรมชาติ ทำให้ดูยกกระชับขึ้น ในเคสที่โหนกแก้มเด่น และมีแก้มเยอะหากร้อยไหมจะยิ่งทำให้โหนกแก้มเด่นขึ้น และไม่สวย ควรทำการลดแก้มก่อน
ถ้าร้อยไหมโครงตาข่ายกับแพทย์ที่มีความชำนาญ และร้อยด้วยเทคนิคที่ถูกต้อง โอกาสเกิดการบวมช้ำน้อย มีความเสี่ยงที่จะเกิดการบวมช้ำหลังทำค่อนข้างสูง ทั้งจากการฉีดยาชา และเลือดที่ออกใต้ผิวหนัง ถึงแม้หลังทำทันทีจะบวมน้อย แต่ก็อาจจะบวมมากขึ้นในช่วง 3-4 วันแรก ซึ่งส่วนมากก็จะหายได้เองภายใน 7-14 วัน
สำหรับการร้อยยกแก้มอยู่ได้นาน 8-12 เดือน ส่วนยกหางตาจะอยู่ได้ 4-5 เดือน ซึ่งอยู่ได้นานกว่าไหมก้างปลา PDO แบบอื่น ๆ มีราคาสูงกว่าไหมก้างปลาแบบอื่น ๆ แต่ก็อยู่ได้นานกว่าและผิวยกกระชับได้นานกว่าจากคอลลาเจนที่สร้างรอบเส้นไหมตาข่าย

สรุป ร้อยไหมโครงตาข่ายดีไหม

การร้อยไหมโครงตาข่าย ไหมตาข่าย หรือไหม Tesslift soft เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการยกกระชับความหย่อนคล้อยของรูปหน้า ยกแก้ม ปรับหน้าเรียว หรือต้องการยกกระชับหางตา หนังตา เพราะโครงสร้างของเส้นไหมมีความแข็งแรง และช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวได้ดี โดยจะคงผลลัพธ์ได้นานเมื่อเทียบกับไหมก้างปลา PDO แบบอื่น

แต่การร้อยไหมตาข่ายให้ปลอดภัยต้องร้อยโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์สูงเท่านั้น ควรศึกษาข้อดี ข้อเสียของไหมแต่ละชนิด เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน ปลอดภัย และปรึกษาแพทย์ก่อนตัดสินใจทำทุกครั้ง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงใจและลดโอกาสเกิดผลข้างเคียงระยะยาวครับ


สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ

สามารถ comment สอบถามเข้ามาด้านล่างได้เลยนะครับ หมอตอบเองครับ

บทความแนะนำ

เลเซอร์ขนขาครั้งแรกควรรู้อะไรบ้าง ข้อดี-ข้อควรระวัง เครื่องไหนดีที่สุด ต่างจากวิธีอื่นอย่างไร ?

Reading Time: 4 minutes - วิธีการกำจัดขนขา - หลักการทำงานของ Laser ขนขา - ข้อดี - ข้อควรระวังของการ Laser ขนขา - เลเซอร์ขนขาครั้งแรกควรเตรียมตัวอย่างไร ? - ข้อควรรู้ก่อนเลเซอร์ขนขา

เลเซอร์บิกินี่ คืออะไร ? มีกี่แบบ ? ทำกี่ครั้งถึงจะเห็นผล...

Reading Time: 4 minutes - เลเซอร์บิกินี่ คืออะไร ? - เลเซอร์บิกินี่ กับ บราซิลเลี่ยน ต่างกันยังไง ? - เลเซอร์บิกินี่อันตรายไหม ? - ความเสี่ยง และผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น- หลังทำเลเซอร์บิกินี่

เลเซอร์ขนจิมิ กำจัดขนน้องสาวครั้งแรก เตรียมตัวอย่างไร ? เ...

Reading Time: 3 minutes - เลเซอร์ขนจิมิ คืออะไร ? - เลเซอร์ขนจิมิมีกี่แบบ ? แบบไหนเหมาะกับเรา ? - เลเซอร์ขนจิมิอันตรายไหม ? - เลเซอร์ขนจิมิช่วยอะไรได้บ้าง ? - ข้อดี ข้อเสียเลเซอร์ขนจิมิ มีอะไรบ้าง ?

collagen คืออะไร ? มีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างไร ?

Reading Time: 4 minutes - collagen คือ - คุณสมบัติของ collagen - ประโยชน์ของ collagen ช่วยอะไรได้บ้าง ? - collagen นำไปใช้ทำอะไรบ้าง ? - collagen มีกี่ประเภท ?

Skin Booster คืออะไร ? ดีอย่างไร ? ช่วยเรื่องอะไรบ้าง ? เ...

Reading Time: 5 minutes Skin Booster คืออะไร มีความอันตรายหรือไม่ และเหมาะสำหรับใครบ้าง ? บทความนี้หมอจะพาไปค้นหาคำตอบของคำถามเหล่านี้ ว่าสกินบูสเตอร์แต่ละตัวช่วยอะไรได้บ้าง สามารถฉีดได้ที่ตำแหน่งใดบ้าง ราคาเท่าไหร่ ฉีดอย่างไรให้คุ้มค่า ?

เลเซอร์ขนกี่ครั้งเห็นผล ? ต้องทำกี่ครั้ง ? ทำแล้วขนหายถาว...

Reading Time: 2 minutes - เลเซอร์ขนกี่ครั้งเห็นผล ? - เลเซอร์ขนทำแล้วขนหายถาวรไหม ? - เลเซอร์ขนต้องทำกี่ครั้ง ? - เลเซอร์ขนแล้วขนไม่หลุดเกิดจากอะไร ?

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ สามารถศึกษานโยบายความเป็นส่วนตัวและจัดการความเป็นส่วนตัว ได้ที่ปุ่มตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ

บันทึกการตั้งค่า