ฉีดโบท็อกไมเกรน ลดอาการปวดหัวเรื้อรัง
วิธีการรักษาไมเกรน อาการปวดศีรษะเรื้อรัง (Chronic Migraine) นอกจากกินยา นวดกดจุด หรือฝังเข็มแล้ว การฉีดโบท็อกไมเกรน ยังเป็นอีกวิธีการรักษาที่ได้รับความสนใจ เพราะมีงานวิจัยยืนยันถึงผลลัพธ์หลังฉีดครับ
ฉีดโบท็อกไมเกรน ช่วยได้อย่างไร ? เหมาะกับใคร ? ต้องฉีดกี่ครั้ง ? หรือมีขั้นตอนการเตรียมตัวอย่างไรบ้าง ? หมอมีข้อมูลมาแนะนำสำหรับคนที่มองหาทางเลือกรักษาอาการปวดศีรษะไมเกรน
สารบัญ โบท็อกไมเกรน
ไมเกรนคืออะไร ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันอย่างไร ?
ไมเกรนเป็นอาการปวดหัวรุนแรงชนิดหนึ่งที่มีลักษณะเฉพาะ มักเกิดเป็นอาการปวดข้างเดียวของศีรษะ มาพร้อมกับอาการคลื่นไส้ อาเจียน และไวต่อแสงสว่างหรือเสียง อาการปวดอาจกินเวลานานตั้งแต่ 4-72 ชั่วโมง ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต การทำงาน และกิจกรรมประจำวัน
สำหรับผู้ที่มีอาการไมเกรนเรื้อรัง (Chronic Migraine) หมายถึงผู้ที่มีอาการปวดหัวมากกว่า 15 วันต่อเดือน โดยมีอาการไมเกรนอย่างน้อย 8 วันต่อเดือน ซึ่งทำให้การใช้ยาแก้ปวดทั่วไปอาจไม่เพียงพอ จึงต้องหาทางเลือกในการรักษาที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นอย่างการฉีดโบท็อกรักษาไมเกรน
ฉีดโบท็อกไมเกรน คืออะไร ?
โบท็อกไมเกรน คือการฉีดสาร Botulinum toxin ชนิด A หรือโบท็อก ฉีดเข้าไปบริเวณระหว่างคิ้ว หน้าผาก ท้ายทอย ต้นคอ และบ่าเพื่อบรรเทาอาการปวดหัวไมเกรน
สำหรับการฉีดโบท็อกก่อนหน้านี้หลายคนอาจรู้จักหรือคุ้นเคยกับตัวยาโบท็อกกันมาบ้าง ในการนำมาใช้ฉีดโบลดริ้วรอย ฉีดปรับรูปหน้า ฉีดโบท็อกลดกราม หรือโบท็อกหน้าเรียว ซึ่งเป็นหัตถการในกลุ่มเสริมความสวยงาม
ปัจจุบันตัวยาโบท็อกสามารถนำมาใช้เพื่อช่วยบรรเทาอาการปวดศีรษะไมเกรน และโรคอื่นทางระบบประสาทและสมองได้ด้วยครับ ไม่ว่าจะเป็นอาการเคลื่อนไหวผิดปกติ กล้ามเนื้อแข็งเกร็งผิดปกติ การฉีดโบท็อกออฟฟิศซินโดรม เพื่อช่วยบำบัดอาการจากโรคออฟฟิศซินโดรม เป็นต้น
บทความแนะนำ
โบท็อกกับการรักษาไมเกรน
การฉีดโบท็อกไมเกรนเป็นหนึ่งในวิธีที่หมอนำมาใช้ในการรักษาอาการปวดศีรษะแบบไมเกรน (Migraine) ปวดศีรษะจากความเครียด (Tension Headache) หรือคนไข้ที่ปวดศีรษะอย่างน้อย 14 วันต่อเดือนขึ้นไปครับ
การฉีดโบท็อกไมเกรนได้รับการรับรอง US.FDA องค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่ปี 2010 ว่าสามารถช่วยลดอาการปวดศีรษะได้จริง และใช้กันอย่างแพร่หลายทั่วโลก สำหรับประเทศไทยการรักษาไมเกรนด้วยโบท็อกได้รับการรับรองผลรักษาจากองค์การอาหารและยาของไทย
โดยมีงานวิจัยระบุว่าสามารถลดอาการปวดลงได้ 60-70% ซึ่งแม้จะรักษาไม่หายขาด แต่ก็สามารถบรรเทาและลดความถี่ของอาการไมเกรนลงได้ครับ
กลไกการทำงานโบท็อกไมเกรน
โบท็อกทำงานโดยการเข้าไปยับยั้งสารสื่อประสาท Acetyl Choline ตัวกลางในการส่งสัญญาณความเจ็บเจ็บปวดไปยังสมองกับกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อที่หดเกร็งอยู่คลายตัวลง จึงช่วยลดการหดตัวของกล้ามเนื้อบริเวณศีรษะและคอ และยับยั้งการปล่อยสารเคมีที่เกี่ยวข้องกับอาการอักเสบและความเจ็บปวดของไมเกรน ทำให้ลดความถี่และความรุนแรงของอาการปวดหัวได้
จุดฉีดโบท็อกสำหรับรักษาไมเกรน
การฉีดโบท็อกไมเกรนหมอจะฉีดโบท็อกไปที่บริเวณใบหน้าระหว่างคิ้ว หน้าผาก ท้ายทอย ต้นคอ และบ่า เพื่อช่วยลดอาการปวดศีรษะ โดยปริมาณการใช้โบท็อกจะอยู่ที่ประมาณ 100 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 7,500 บาทขึ้นไป ขึ้นยี่ห้อที่เลือกใช้ครับ
ฉีดโบท็อกไมเกรนเหมาะกับใคร ?
การฉีดโบท็อกไมเกรนเหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการปวดศีรษะไมเกรนรุนแรง ปวดบ่อย ปวดถี่ รับประทานยาแก้ปวดแล้วอาการไม่ทุเลาลง รวมถึงผู้ที่กังวลกับการรับประทานยา ซึ่งเสี่ยงต่อภาวะโรคกระเพาะอาหารอักเสบ แผลในกระเพาะอาหาร และความผิดปกติของค่าตับและไตครับ
ฉีดโบท็อกไมเกรนกี่วันเห็นผล ?
หลังฉีดโบท็อกไมเกรนตัวยาจะไม่ออกฤทธิ์ทันที ต้องใช้ระยะเวลาประมาณ 3-4 วัน และจะออกฤทธิ์สูงสุดในสัปดาห์ที่ 2 หวังผลลัพธ์อยู่ได้ประมาณ 3-4 เดือน จากนั้นโบท็อกจะค่อย ๆ หมดฤทธิ์ลงครับ สามารถกลับมาฉีดซ้ำได้ตามที่หมอแนะนำ
ฉีดโบท็อกไมเกรน อันตรายไหม ?
การฉีดโบท็อกไมเกรนเป็นวิธีการรักษาและบรรเทาอาการปวดศีรษะไมเกรน ที่มีความปลอดภัย และให้ผลลัพธ์ที่ดีครับ สำหรับข้อกังวลฉีดโบท็อก อันตรายไหม ? ตรงนี้ขึ้นอยู่ว่าฉีดกับใคร ใช้โบท็อกแท้หรือไม่
หากฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ ผ่านการอบรมการฉีดเพื่อลดอาการไมเกรนโดยเฉพาะ ฉีดถูกตำแหน่ง ใช้ผลิตภัณฑ์โบท็อกแท้ ก็จะทำให้การรักษาด้วยโบท็อกเป็นวิธีที่ปลอดภัยครับ ช่วยลดอาการปวดศีรษะลงได้ และยังมีผลพลอยได้ คือริ้วรอยที่บริเวณหน้าผากลดน้อยลงอีกด้วยครับ
อย่างไรก็ตาม การฉีดโบท็อกไมเกรนก็ยังมีข้อควรระวังอยู่บ้าง คือไม่ควรฉีดถี่เกินไป อย่างต่ำควรเว้น 3 เดือน เพราะหากใช้โบท็อกติดต่อกันเป็นเวลานานและบ่อยเกินไป อาจทำให้เกิดอาการดื้อโบท็อกได้ครับ
อ่านบทความเพิ่มเติม : ข้อควรระวัง! ในการฉีดโบท็อกปลอม และวิธีสังเกตโบท็อกแท้ 100%
การดูแลหลังฉีดโบท็อกรักษาไมเกรน
หลังฉีดโบท็อกไมเกรน ควรดูแลตัวเองร่วมด้วยครับ เพื่อช่วยให้ประสิทธิภาพหลังการรักษาดียิ่งขึ้น โดยวิธีการดูแล ไม่แตกต่างไปจากการฉีดโบท็อกเพื่อความงามมากนัก โดยหมอเคยเขียนบทความวิธีการดูแลตัวเองหลังฉีดโบท็อกไว้แล้ว สามารถติดตามอ่านได้ที่นี่ ข้อห้าม-ข้อปฏิบัติหลังฉีดโบท็อก
แต่ในส่วนของการฉีดโบท็อกไมเกรน ยังมีข้อปฏิบัติที่ควรระมัดระวังมากขึ้นดังนี้
- เลี่ยงพฤติกรรมที่กระตุ้นให้เกิดอาการปวดศีรษะ เช่น อยู่ในที่ที่มีเสียงดัง มีแสงที่สว่างจ้าเกินไป สภาพแวดล้อมที่แออัด มีกลิ่นควันบุหรี่เป็นต้น
- เลี่ยงอาหารที่กระตุ้นให้เกิดอาการปวดศีรษะได้ง่าย ๆ เช่น ชา กาแฟ (ผลการวิจัยของ American Migraine Foundation ระบุว่าคนที่เป็นไมเกรนไม่ควรรับคาเฟอีนเข้าร่างกายเกิน 200 มิลลิกรัมต่อวัน เพราะอาจจะกระตุ้นทำให้เกิดอาการไมเกรนรุนแรงขึ้น)
- พยายามพักผ่อนให้เพียงพอ ลดความเครียดลง
- รับประทานอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ (มีงานวิจัยยืนยันว่าการออกกำลังอย่างสม่ำเสมอช่วย ลดอาการปวดศีรษะไมเกรนให้ลดน้อยลงได้ครับ)
อ่านบทความเพิ่มเติม :
ฉีดโบท็อกไมเกรนที่ไหนดี ?
การฉีดโบท็อกเพื่อรักษาอาการปวดไมเกรน จำเป็นต้องฉีดโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ และรู้กายวิภาคเป็นอย่างดี เพื่อทำการฉีดโบท็อกได้อย่างตรงจุด
เนื่องจากการฉีดโบท็อกไมเกรนมีขั้นตอนและวิธีการฉีดต่างไปจากการฉีดโบท็อกความงามทั่วไปครับ ทั้งเรื่องของปริมาณโบท็อกที่ใช้ การผสมตัวยา และเทคนิคการฉีด เพื่อความปลอดภัย และผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ โดยควรเลือกฉีดโบท็อกไมเกรนกับ
- คลินิกที่ได้มาตรฐาน
- แพทย์มีประสบการณ์
- ใช้ผลิตภัณฑ์โบท็อกแท้เท่านั้น
อ่านบทความเพิ่มเติม : ฉีดโบท็อกที่ไหนดี ? ก่อนฉีดควรพิจารณาอะไรบ้าง ? ถ้าไม่อยากดื้อโบท็อกต้องอ่าน !
คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับการฉีดโบท็อกไมเกรน
ฉีดโบท็อกไมเกรนต้องฉีดตลอดชีวิตหรือไม่ ?
ขึ้นอยู่กับอาการของแต่ละคน บางคนฉีดต่อเนื่อง 1-2 ปี อาการดีขึ้นจนสามารถหยุดได้ บางคนต้องรักษาต่อเนื่องระยะยาว
ฉีดโบท็อกไมเกรน ใช้โบท็อกยี่ห้ออะไร ?
ฉีดโบท็อกไมเกรน ใช้โบท็อกยี่ห้อไหนดี ? ในเบื้องต้นควรใช้โบท็อกแท้ ที่ผ่านการรับรองและนำเข้าอย่างถูกต้องเท่านั้น โดยใช้ได้ทั้งโบท็อกอเมริกา (Allergan) และ โบท็อกเกาหลี ( Aestox, Neuronox, Nabota)
นอกจากนี้ยังมีโบท็อก Dysport จากอังกฤษ และโบท็อก Xeomin จากเยอรมัน คนไข้สามารถปรึกษาแพทย์เพื่อแนะนำยี่ห้อที่เหมาะสม ตามงบประมาณของแต่ละบุคคลได้ครับ
อ่านบทความเพิ่มเติม : ความแตกต่างโบท็อกเกาหลีอเมริกา เลือกยี่ห้อไหนดี ฉีดตัวไหนคุ้มค่า
หลังฉีดโบท็อกไมเกรนสามารถทำงานได้ปกติไหม ?
หลังฉีดคนไข้สามารถกลับไปทำงานได้ตามปกติทันทีครับ ไม่ต้องหยุดงาน แต่หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักหรือก้มศีรษะนาน 24 ชั่วโมงแรก
ฉีดโบท็อกรักษาไมเกรนแล้วหน้าจะเปลี่ยนไหม ?
จุดฉีดเพื่อรักษาไมเกรนต่างจากจุดฉีดเพื่อความงาม หน้าจะไม่เปลี่ยนแปลงครับ
สรุปฉีดโบท็อกไมเกรน รักษาไมเกรนเห็นผล
สำหรับใครที่มีปัญหาเกี่ยวกับอาการปวดศีรษะเรื้อรัง การฉีดโบท็อกไมเกรนสามารถช่วยลดความถี่และความรุนแรงของอาการปวดได้ดีครับ และอาจช่วยลดความจำเป็นในการใช้ยาแก้ปวดได้ด้วย
หากสนใจการฉีดโบท็อกไมเกรน ที่ V Square Clinic สามารถเข้ามาปรึกษาแพทย์ได้โดยตรง เพื่อประเมินอาการ และแนะนำวิธีรักษาอย่างเหมาะสมโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ทีมแพทย์มีประสบการณ์ในการฉีดโบท็อกรักษาไมเกรน ลดอาการปวดศีรษะเรื้อรัง รวมถึงอาการจากออฟฟิศซินโดรมครับ
อ้างอิง
- Critical analysis of the use of onabotulinumtoxinA (botulinum toxin type A) in migraine
- https://pdfs.semanticscholar.org/68b1/131fec0dfc227ddf5a291384059b7e517502.pdf?_ga=2.221469912.1910126796.1615368643-1089673905.1608626583
- Caffeine and Migraine https://americanmigrainefoundation.org/resource-library/caffeine-and-migraine/
สามารถ comment สอบถามเข้ามาด้านล่างได้เลยนะครับ หมอตอบเองครับ


