สิวที่หน้าผาก เกิดจากอะไร ? รักษาและป้องกันอย่างไรได้บ้าง ?

Reading Time: 3 minutes
สิวที่หน้าผาก

สิวที่หน้าผาก หายได้ ถ้ารักษาถูกวิธี

สิวที่หน้าผาก มักพบได้บ่อย เพราะหน้าผากอยู่ในบริเวณ T-Zone ซึ่งมีต่อมไขมันจำนวนมาก จึงมีการผลิตน้ำมันออกมาที่ผิวมากกว่าบริเวณอื่น เช่นเดียวกับสิวที่คาง และสิวที่รอบปาก นอกจากจะมองเห็นได้ชัดจนสร้างความรำคาญใจแล้ว หากปล่อยไว้นานหรือรักษาไม่ถูกวิธีก็อาจทิ้งรอยสิวไว้ได้ด้วยครับ

สำหรับใครที่มีปัญหาสิวที่หน้าผากไม่หายสักที ในบทความนี้ หมอจะแนะนำวิธีการรักษาและป้องกันสิวที่หน้าผากอย่างไร ไม่ให้กลับมาเป็นซ้ำ พร้อมเจาะลึกถึงสาเหตุว่า สิวที่หน้าผาก เกิดจากอะไร ? มีกี่ประเภท ? เพื่อแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุดครับ

สารบัญ สิวที่หน้าผาก


สิวที่หน้าผาก สาเหตุเกิดจากอะไร ?

สิวที่หน้าผากเกิดจากอะไร

สาเหตุหลักของสิวขึ้นหน้าผากเกิดจากร่างกายผลิตน้ำมัน (Sebum) ที่ชั้นผิวหนังมากเกินไป เมื่อรวมกับเซลล์ผิวที่ตายแล้วและสิ่งสกปรก จะทำให้รูขุมขนอุดตัน กระตุ้นให้เชื้อแบคทีเรียเจริญเติบโต นำไปสู่การอักเสบและก่อให้เกิดสิว

นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดสิวที่หน้าผาก เช่น

  • กรรมพันธุ์ : หากพ่อแม่หรือบุคคลในครอบครัวเป็นสิว ลูกก็จะมีโอกาสเป็นสิวด้วยเช่นกัน
  • ฮอร์โมน : ปริมาณฮอร์โมนเพศที่ไม่สมดุลในร่างกาย จะกระตุ้นให้ต่อมไขมันผลิตไขมันส่วนเกินเพิ่มมากขึ้นจนรูขุมขนอุดตันและอักเสบ ทำให้เกิดสิวฮอร์โมน สามารถพบได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย
  • ความเครียด : เมื่อเกิดความเครียด ระดับฮอร์โมนในร่างกายเปลี่ยนแปลง จะเป็นสิวได้ง่ายขึ้น หน้าโทรม
  • การใช้ยา : ยาบางชนิดอาจส่งผลให้เกิดสิวได้ เช่น ยาที่มีคอร์ติโคสเตียรอยด์ เทสโทสเตอโรน และลิเธียม
  • เครื่องสำอาง : การใช้เครื่องสำอางแล้วล้างหน้าไม่สะอาด มีสิ่งสกปรกตกค้าง ทำให้เกิดสิว
  • ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม : ผลิตภัณฑ์บางอย่างมีส่วนผสมของน้ำมัน ทำให้เส้นผมมีความมัน เป็นสาเหตุให้สิวอุดตันขึ้นหน้าผากและไรผม
  • เหงื่อและสิ่งสกปรก : ความมันจากเหงื่อ ความอับชื้น และสิ่งสกปรกต่าง ๆ หากไม่รักษาความสะอาด ปล่อยทิ้งไว้อาจสะสมกลายเป็นสิวเสี้ยนในรูขุมขน
  • แสงแดดและมลภาวะ : รังสียูวีในแสงแดดและมลพิษทางอากาศ เป็นตัวทำลายเกราะป้องกันผิว กระตุ้นให้ผิวผลิตน้ำมันมากขึ้น ส่งผลต่อการอุดตันและเกิดผิวอักเสบ

​​ประเภทของสิวที่หน้าผาก

ประเภทของสิวหน้าผาก

สิวที่พบบ่อยบริเวณหน้าผาก สามารถแบ่งประเภทได้ตามขนาดของตุ่มและระดับความรุนแรง ดังนี้

1.สิวหัวดำ (Blackhead)

สิวหัวดำ หรือสิวอุดตันหัวเปิด มีลักษณะเป็นตุ่มนูนขนาดเล็กมีสีดำอยู่ตรงกลาง หัวสิวจะเป็นก้อนแข็ง เกิดจากการสะสมของเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วจนทำให้เกิดการอุดตันในรูขุมขน โดยสิวหัวดำที่หน้าผาก มักพบมากในคนที่มีผิวมันหรือผิวผสม ใส่หมวกหรือผ้าโพกหัวแล้วเกิดการอับชื้น สามารถกดหรือบีบออกได้แต่อาจเกิดการอักเสบและเป็นรอยสิว

2.สิวหัวขาว (Whitehead)

สิวหัวขาว หรือสิวอุดตันหัวปิด จะมีลักษณะคล้ายสิวหัวดำ แต่มีสีขาว เกิดจากการอุดตันของรูขุมขนที่ปิด ทำให้ไขมันไม่ได้สัมผัสกับอากาศ ไม่เกิดปฏิกิริยากับออกซิเจนจึงไม่ได้กลายเป็นสีดำ หากเป็นสิวหัวขาวที่หน้าผากแล้วจะบีบออกได้ยากครับ เพราะรากสิวอยู่ลึก มีโอกาสติดเชื้อและพัฒนากลายเป็นสิวอักเสบได้

3.สิวตุ่มนูนแดง (Papule)

สิวตุ่มนูนแดง หรือสิวตุ่มแดง คือสิวอักเสบระยะเริ่มต้นที่พัฒนามาจากสิวอุดตัน พบได้มากบริเวณที่หน้าผากและคาง มีลักษณะเป็นตุ่มสีแดงขนาดเล็กอยู่ภายในผิว ขนาดไม่เกิน 0.5 cm เป็นสิวไม่มีหัว สัมผัสแล้วจะรู้สึกนูน ๆ กดไม่เจ็บ มีความรุนแรงน้อยกว่าและรักษาได้ง่ายกว่าสิวอักเสบประเภทอื่น ๆ

4.สิวหัวหนอง (Pustule)

สิวหัวหนอง หรือสิวหนอง มีลักษณะคล้ายสิวแบบตุ่มนูนแดง แต่มีหนองสีขาวให้เห็นอยู่ตรงกลางและมีการอักเสบมากกว่า ซึ่งอาจเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียที่รุนแรงขึ้นทำให้กลายเป็นตุ่มหนอง เมื่อสัมผัสจะรู้สึกเจ็บเล็กน้อย มักพบในบริเวณที่มีต่อมไขมันจำนวนมาก เช่น หน้าผาก ไรผม แก้ม และสิวที่หลัง

5.สิวซีสต์ (Cyst)

สิวซีสต์ มีความคล้ายกับสิวหัวช้าง เป็นสิวที่เกิดการอักเสบรุนแรงมาก ลักษณะเป็นก้อนนูนแข็ง คล้ายถุงน้ำใต้ผิวหนัง อาจมีหนองและปนเลือดในบางราย ทำให้บวมแดงและเจ็บปวด หากเป็นสิวซีสต์ที่หน้าผากแม้จะรักษาหายแล้วก็มีโอกาสสูงที่จะเป็นรอยแผลเป็นนูนหรือเป็นหลุมสิวขนาดใหญ่ได้ครับ

6.สิวอักเสบแดงเป็นก้อนลึก (Nodule)

สิวอักเสบแดงเป็นก้อนลึก หรือสิวอักเสบลึก ลักษณะเป็นตุ่มแดงใต้ผิวหนัง ขนาดใหญ่มากกว่า 8 mm ไม่มีหัวหรือหนอง อาจพบเป็นหลายหัวสิวที่อยู่ติดกัน มีการอักเสบรุนแรงมาก และรู้สึกเจ็บปวดแม้ไม่ได้สัมผัส มักเกิดจากการบีบหรือกดสิว ทำให้แบคทีเรียและน้ำมันในสิวแตกกระจายอยู่ใต้ผิวหนัง จึงทำให้สิวยิ่งอักเสบบวมแดงมากขึ้น

7.สิวผด (Acne Aestivalis)

สิวผด มีลักษณะเป็นผื่นเล็ก ๆ ไม่มีหัว สิวผดที่หน้าผากมักพบในผู้ที่ไว้ผมหน้าม้าหรือผมปรกหน้า มีสาเหตุเกิดจากการเจริญเติบโตผิดปกติของเชื้อราประเภทยีสต์ในกลุ่ม มาลาสซีเซีย (Malassezia) และความร้อน ความมัน คราบเหงื่อ ฝุ่นละออง กระตุ้นให้เกิดอาการแพ้ คัน เป็นเม็ดผื่น ไม่สามารถบีบออกได้

VSqare Tips (VSQ Tips)

ข้อควรรู้ : เป็นสิวที่หน้าผากไม่หายสักที สิวขึ้นบ่อยซ้ำ ๆ ตรงจุดเดิม อาจเป็นสัญญาณของ “สิวเรื้อรัง (Chronic Acne)” หรือภาวะที่มีอาการสิวขึ้นในที่เดิม ๆ ไม่หายขาด หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่รักษา จะทำให้เกิดแผลเป็นและรักษาได้ยากขึ้นครับ


7 ​​วิธีรักษาสิวที่หน้าผาก

วิธีรักษาสิวที่หน้าผาก สามารถทำได้หลายวิธีครับ ขึ้นอยู่กับสภาพผิว และระดับความรุนแรงของสิว ก่อนทำคนไข้ควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินปัญหาและวางแผนการรักษาอย่างเหมาะสม

หมอรวบรวม 7 วิธีรักษาสิวหน้าผากที่เห็นผลดีมาแนะนำดังนี้

1. แปะแผ่นดูดสิว

แผ่นดูดสิวหน้าผาก

การแปะแผ่นดูดสิว สามารถใช้รักษาสิวอักเสบหัวหนองได้ โดยแผ่นดูดจะช่วยดูดเอาหนอง ของเหลว หรือไขมันส่วนเกินออกมาจากผิวหนัง ทำให้สิวแห้งไวขึ้น ลดการติดเชื้อ ถือเป็นวิธีที่ง่ายและสะดวก แต่จะใช้ได้กับสิวที่หัวสิวอยู่ไม่ลึกมาก หากเป็นสิวที่หัวสิวอยู่ลึกลงไปในผิวหนังหรือสิวอุดตันจะไม่ได้ผล

2. กดสิว

กดสิวหน้าผาก

การกดสิว จะช่วยให้หัวสิวหลุดออกจากชั้นผิวหนังได้ง่ายและเร็วมากขึ้น โดยการใช้เครื่องมือแพทย์กดให้สิวอุดตันหัวเปิดหรือสิวหัวดำหลุดออกมา ช่วยลดการสะสมของไขมันในรูขุมขน

แต่ข้อจำกัดคือไม่เหมาะกับการกดสิวอักเสบ และควรทำโดยผู้เชี่ยวชาญเท่านั้นครับ เพราะหากกดไม่ถูกวิธีหรือความสะอาดไม่เพียงพอ อาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อ ทิ้งรอยดำ เป็นหลุมสิวถาวรได้

3. ฉีดสิว

ฉีดสิวหน้าผาก

การฉีดสิว คือการฉีดสเตียรอยด์เข้าไปใต้หัวสิวเพื่อลดการอักเสบ เหมาะสำหรับสิวอักเสบแบบตุ่ม, สิวหนอง, สิวอักเสบลึก, สิวที่หน้าผากไม่มีหัว หรือสิวซีสต์ เป็นไตแข็งนูน จับแล้วรู้สึกเจ็บ

หลังฉีดสิว 2-3 วัน จะรู้สึกเจ็บน้อยลงและสิวยุบลงได้จริง แต่หัวสิวนั้นจะยังคงอยู่ใต้ผิวเหมือนเดิม ดังนั้นวิธีนี้จะไม่ทำให้สิวหายขาด มีโอกาสที่จะเป็นซ้ำได้และอาจก่อให้เกิดการอุดตันหากฉีดบ่อยเกินไปครับ

4.ทายารักษาสิวเฉพาะที่

ยาทาสิวที่ใช้บ่อย เช่น Benzoyl Peroxide, Salicylic Acid, Retinoids ช่วยลดเชื้อสิว ควบคุมความมัน และลดการอุดตันของรูขุมขน เหมาะกับสิวระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง

ทั้งนี้ควรใช้ยาอย่างระวัง เพราะอาจเกิดการระคายเคือง แดง หรือแห้งลอกได้ โดยเฉพาะในช่วงแรกของการใช้ จึงควรเริ่มจากความเข้มข้นต่ำ ๆ และใช้ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ผิวหนัง เพื่อปรับสูตรและปริมาณที่เหมาะสมกับผิวแต่ละคนครับ

5. ใช้ยารับประทาน (ในรายที่สิวรุนแรง)

ยารักษาสิวหน้าผาก

การใช้ยารักษาสิว มีจุดประสงค์เพื่อกำจัดสิว ลดการผลิตไขมันจากต่อมไขมัน เร่งให้การอักเสบหายเร็วขึ้น มีทั้งประเภทยาทาและยารับประทาน จำเป็นต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผิวหนังหรือเภสัชกรเท่านั้นครับ เพราะยาบางชนิดอาจมีผลข้างเคียงได้

6.Peeling (ผลัดเซลล์ผิวด้วยสารเคมี)

Peeling หรือการผลัดเซลล์ผิวด้วยสารเคมี เป็นการใช้กรดผลไม้ (AHA), กรดซาลิไซลิก (BHA) หรือสารเคมีเข้มข้นอื่น ๆ มาทำให้ชั้นเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพหลุดออกไปอย่างอ่อนโยน ช่วยปรับรูขุมขนกว้างให้เรียบเนียน กระจ่างใสขึ้น ลดการสะสมของสิ่งสกปรกและความมันส่วนเกินบนผิวหน้า ทำให้ผิวหน้าผากที่มีสิวอุดตันกลับมาเรียบเนียนได้เร็วขึ้น

ข้อควรระวังคือ หลังทำผิวอาจไวต่อแสงแดดมากขึ้น จึงควรทาครีมกันแดดอย่างเคร่งครัด และควรทำโดยแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญเพื่อป้องกันการระคายเคืองหรือผลข้างเคียงครับ

7. ฉีดเมโสสิว

เมโสหน้าใส ยี่ห้อไหนดี

การฉีดเมโสสิว (Meso Acne) หรือฉีดเมโสหน้าใส เป็นการฉีดตัวยาเข้าสู่ผิวหนังชั้นตื้น โดยมักมีส่วนผสมของวิตามิน สารต้านการอักเสบ และยาที่ช่วยลดการทำงานของต่อมไขมัน จุดเด่นคือช่วยลดการอักเสบของสิว ทำให้สิวที่หน้าผากยุบไวขึ้น ลดโอกาสเกิดสิวซ้ำ และยังช่วยให้ผิวบริเวณนั้นแข็งแรงขึ้นด้วยครับ

ยี่ห้อเมโสหน้าใสที่นิยม เช่น

สำหรับการตัดสินใจว่าจะเลือกฉีดเมโสยี่ห้อไหนดี หมอจะเป็นผู้ประเมินและเลือกสูตรที่เหมาะสมให้กับคนไข้ ส่วนผลลัพธ์หลังฉีดเมโสหน้าใส อยู่ได้นานแค่ไหน ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองของแต่ละบุคคลครับ

8. เลเซอร์สิวและเลเซอร์รอยสิว

เลเซอร์สิวหน้าผาก

สำหรับคนที่มีปัญหาสิวที่หน้าผากหรือสิวอักเสบเรื้อรัง การทำเลเซอร์สิวเป็นวิธีทำให้หน้าใส ลดการอักเสบ ฆ่าเชื้อสิว (C. acnes bacteria) และควบคุมการทำงานของต่อมไขมันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้สิวใหม่ขึ้นน้อยลง พร้อมช่วยให้รอยแดงจากสิวจางลงเร็วขึ้น

นอกจากนี้ยังสามารถใช้เลเซอร์รอยสิว เพื่อลดรอยสิว รอยดำ-รอยแดง กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวเรียบเนียนและรอยสิวดูจางลงอย่างเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการให้ผิวหน้ากลับมาใสขึ้นโดยไม่ต้องรอนาน


​​วิธีการป้องกันสิวที่หน้าผาก

สิวที่หน้าผากมักเกิดจากความมันสะสม สิ่งสกปรกอุดตัน รวมถึงพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน การป้องกันสิวที่หน้าผากสามารถทำได้ด้วยวิธีง่าย ๆ ดังนี้

  • ล้างหน้าให้สะอาด วันละ 2 ครั้ง ด้วยคลีนเซอร์ที่อ่อนโยน เพื่อขจัดความมันและสิ่งสกปรกที่อุดตันรูขุมขน
  • หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ก่อให้เกิดการอุดตัน เช่น เจลแต่งผมหรือสเปรย์ฉีดผมที่สัมผัสผิวหน้าผาก
  • งดการสัมผัสหรือเกาหน้าผากบ่อย ๆ เพราะอาจนำเชื้อโรคและสิ่งสกปรกเข้าสู่ผิวได้
  • ควบคุมความมัน โดยใช้กระดาษซับมันหรือเลือกสกินแคร์ที่มีคุณสมบัติช่วยควบคุมความมัน
  • นอนพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงต่อวัน เพื่อลดโอกาสที่ฮอร์โมนจะทำงานผิดปกติ
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เลี่ยงของทอด มัน หวาน หรืออาหารที่มีไขมันสูง เพราะกระตุ้นการเกิดสิวได้
  • เปลี่ยนปลอกหมอนและผ้าขนหนูเป็นประจำ เพื่อหลีกเลี่ยงการสะสมของแบคทีเรียและสิ่งสกปรกที่สัมผัสผิวหน้า

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับสิวที่หน้าผาก

สิวที่หน้าผากเกิดจากความมันเท่านั้นจริงไหม ?

สิวที่หน้าผาก ไม่ได้เกิดจากความมันเท่านั้นเสมอไปครับ ยังอาจเกิดจากปัจจัยอื่น ๆ ที่เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดสิว เช่น ฮอร์โมน ความเครียด และกรรมพันธุ์ เป็นต้น

แสงแดดทำให้สิวบนหน้าผากเกิดง่ายขึ้นจริงไหม ?

แสงแดดถือเป็นตัวการทำลายผิวที่ทำให้เกิดสิวได้ง่ายครับ เพราะในแสงแดด ประกอบไปด้วยรังสียูวี เมื่อกระทบเข้าสู่ผิวหนังจะก่อให้เกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่น กระตุ้นให้รูขุมขนอักเสบและเกิดสิวอักเสบ รวมทั้งความร้อนจากแสงแดดยังทำให้ต่อมเหงื่อขับเหงื่อออกมามากขึ้น นำไปสู่การอุดตันจนเกิดสิวผด

รักษาสิวที่หน้าผากใช้เวลานานไหม ?

ระยะเวลาในการรักษาสิวที่หน้าผากขึ้นอยู่กับประเภทของสิว และวิธีการรักษาครับ หากรักษาด้วยตัวเองในกรณีที่สิวอักเสบไม่รุนแรง สามารถหายได้เองภายใน 4-6 สัปดาห์ สำหรับผู้ที่ต้องการรักษาสิวเร่งด่วน แนะนำให้รับการรักษาโดยแพทย์ จะเห็นผลลัพธ์รวดเร็วและได้ผลดีครับ


​​สรุป สิวที่หน้าผาก แก้ยังไงดีที่สุด

สิวที่หน้าผาก หากเป็นแล้วควรรีบรักษาครับ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อประเมินหาสาเหตุและทำการรักษาอย่างตรงจุด ช่วยให้สิวหายได้เร็วขึ้น ลดโอกาสติดเชื้อ ป้องกันการเกิดรอยสิวและหลุมสิว


อ้างอิง


สำหรับผู้อ่านทุกท่านที่มีข้อสงสัยเพิ่มเติม ทีมแพทย์ V Square Clinic ทุกคนยินดีให้คำปรึกษาฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือสามารถปรึกษาหมอทาง inbox facebook หรือ Line นี้ได้เลยครับ หมอตอบเองครับ
ปรึกษาหมอ
บทความแนะนำ

ปากลดน้ำหนัก คืออะไร ช่วยลดน้ำหนักได้อย่างไร เลือกใช้แบบไหนถึงเห็นผลชัวร์

Reading Time: 4 minutes - ปากกาลดน้ำหนักคืออะไร ? - GLP-1 และ GIP คืออะไร ? - ลักษณะของปากกาลดน้ำหนัก - วิธีการฉีดปากกาลดน้ำหนักทําอย่างไร ? - เจาะลึกกลไกการทำงานของปากกาลดน้ำหนัก

November 21, 2025 อ่านต่อ

ร้อยไหมคอลลาเจน คืออะไร ? ช่วยยกกระชับผิว ทำให้หน้าเด็กลง...

Reading Time: 3 minutesความนิยมในการร้อยไหมยังมีมากขึ้นเรื่อย ๆ ครับ หนึ่งในชนิดไหมที่คนให้ความสนใจ คือ การร้อยไหมคอลลาเจน สาเหตุที่ถูกถามถึงบ่อย ๆ นั้นมาจากมีการโฆษณาว่าร้อยไหมคอลลาเจนแล้วช่วยให้ผิวกระชับเต่งตึง หน้าเด็กลงได้ในทันที ร้อยไหมคอลลาเจนคืออะไร ? จะช่วยหน้าเด็กลงจริงไหม ? หมอรวบรวมข้อมูลอธิบายไว้ในบทความนี้ครับ

ร้อยไหมก้างปลาแบบไหนดีที่สุด ? ไหมแต่ละชนิดแตกต่างกันอย่า...

Reading Time: 5 minutesร้อยไหมก้างปลา คือ ชื่อที่หมอส่วนใหญ่ใช้เรียกการร้อยไหมเงี่ยง (ฺBarb) เพื่อดึงหน้า เป็นไหมละลายที่ใช้ในทางการแพทย์ครับ ไหมก้างปลาเป็นชื่อที่หมอไทยตั้งขึ้นมาเองเพื่อให้ง่ายต่อการอธิบายให้คนไข้เข้าใจลักษณะของเงี่ยงไหม เพราะมีลักษณะเงี่ยงคล้าย ๆ ก้างปลา

ร้อยไหมใต้ตา อันตรายไหม ? มีปัญหารอยคล้ำใต้ตา แก้ไขวิธีไหนดี

Reading Time: 3 minutesการร้อยไหมใต้ตา อันตรายไหม ? ใครที่กำลังมองหาวิธีแก้ไขปัญหาใต้ตาหมองคล้ำ ไม่สดใส และเจอข้อมูลการร้อยไหมใต้ตา แต่มีข้อสงสัย ทั้งด้านวิธีการทำ ผลลัพธ์และความปลอดภัย ในบทความนี้หมอจะมาคลายข้อสงสัยให้ทั้งหมดครับ ร้อยไหมใต้ตา ควรทำไหม ? มีปัญหาใต้ตาเลือกทำวิธีไหนดี ถึงแก้ปัญหาได้ตรงจุด

ร้อยไหมยกมุมปาก แก้ปัญหามุมปากตก หน้าบึ้ง ให้ดูสดใสขึ้นได...

Reading Time: 3 minutesร้อยไหมยกมุมปาก ช่วยได้จริงไหม? คำถามนี้มีคนไข้ถามเข้ามาเยอะครับ โดยเฉพาะคนที่เริ่มมีปัญหาความหย่อนคล้อย เนื้อแก้มเริ่มหย่อนมองเห็นเป็นริ้วรอย รวมถึงทำให้ดูหน้าบึ้ง มุมปากคว่ำ การร้อยไหมยกมุมปากช่วยได้หรือไม่ ต้องการยกมุมปากควรทำวิธีไหนดี? บทความนี้หมอมีข้อมูลมาแนะนำครับ

ปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำ สาเหตุ วิธีการป้องกันและการรักษา

Reading Time: 4 minutesปัญหา ฝ้า กระ จุดด่างดำ เป็นหนึ่งในปัญหาผิวหน้าที่กวนใจ และลดความมั่นใจให้กับหลายคนครับ สำหรับใครที่กำลังเจอปัญหาเหล่านี้ และกำลังมองหาแนวทางรักษา หรือใครที่ยังแยกไม่ออกว่ารอยด่างดำบนใบหน้าคือ ฝ้า หรือ กระ กันแน่ ในบทความนี้ หมอจะอธิบายข้อแตกต่างกันระหว่างฝ้าและกระ จุดด่างดำ ว่าต่างกันอย่างไร

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ สามารถศึกษานโยบายความเป็นส่วนตัวและจัดการความเป็นส่วนตัว ได้ที่ปุ่มตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    คุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ

บันทึกการตั้งค่า